บทที่ 13 พี่น้องต่างสายเลือด
บทที่ 13 พี่น้องต่างสายเลือด
หลังจากที่ยวี่ชิวไป๋ออกมาจากออฟฟิศแล้ว โจวเหวินก็พยายามที่จะติดต่อพ่อของเขา โหวหลิงเฟิงผ่านทางโทรศัพท์ เขาคิดว่าตัวเขาเองคงไม่มีทางไปหาเรื่องคนอย่างอันเทียนโจได้แน่ๆ
อันเทียนโจนั้นจู่ๆก็รู้จักนักเรียนม.ปลายในเมืองเล็กๆได้ แถมยังพูดถึงในทางที่ทำให้เขาลำบากอีกด้วย มองยังไงมันก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
พ่อของเขารับโทรศัพท์ก่อนที่จะพูดขึ้น “ว่าไงลูก จู่ๆก็คิดถึงพ่อขึ้นมาเหรอ”
โจวเหวินชินกับนิสัยแบบนี้ของพ่อตัวเองแล้ว เขาเลยพูดตรงๆ “พ่อ รู้จักคนที่ชื่ออันเทียนโจไหม?”
“ลูกพูดว่าอันเทียนโจงั้นเหรอ แน่นอนซิ พ่อรู้จักอยู่แล้ว”พ่อของเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “จะว่ายังไงดีละ อันเทียนโจเขาเป็น...พี่ชายของลูกละมั้ง พ่อเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“พี่ชายผมเนี่ยนะ”โจวเหวินตกใจขึ้นมาทันที
“ใช่ เทียนอันโจ ลูกของอันหลานหยางที่พ่อกำลังจะแต่งงานด้วยไง ก็ถ้าจะให้บอกง่ายๆคือ เขาเป็นพี่ชายต่างแม่ของนาย ใช่ แล้วนายก็มีน้องสาวอีกคนที่ชื่ออันจิ้งด้วย...”
“อย่าบอกนะว่าอันจิ้งที่ว่านั้นเป็นผู้หญิงเงียบๆด้วยหน่ะ”
“อ้าวรู้ได้ไงเนี่ย”
ที่พ่อของเขาพูดเมื่อกี้นี้นั้น โจวเหวินได้ยินไม่ชัดเท่าที่ควร เพราะเขาอ้าปากค้างอยู่ เรื่องราวมันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เยอะมาก กลายเป็นว่าจู่ๆพ่อของเขาก็กำลังจะแต่งงานกับแม่ม่ายลูกติดซะงั้น
“พ่อ แล้วพ่อกับอันเทียนโจมีความสัมพันธ์กันแบบไหนละ?”โจวเหวินถาม
“ก็ดีนะ ทั้งอันเทียนโจกับอันจิ้งต่างก็เคารพฉันดีนี้”พ่อของเขาตอบโดยแทบจะไม่คิด
โจวเหวินรู้จักพ่อของเขาดี เพราะงั้นเขาเลยรู้ดีว่าพ่อไม่โกหกแน่ เขาแค่สงสัย “ถ้าอันเทียนโจ กับ อันอันจิ้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อจริงๆ แล้วทำไมเขาถึงได้ทำเรื่องแบบนี้กับฉันละ หรือว่าพวกนั้นยังไม่ยอมรับเรื่องที่พ่อของเขากับอันหลานหยางจะแต่งงานกันละ?”
โจวเหวินรู้สึกได้ว่าพ่อของเขาวันนี้อารมณ์ดีมาก เหมือนกับว่าอารมณ์ดีที่ตัวเองจะได้แต่งงาน เขาเองก็ไม่อยากไปขัดอารมณ์พ่อเพราะเรื่องส่วนตัวของเขาเอง แล้วเขาก็ไม่อยากที่จะทำให้พ่อหนักใจด้วย
ถ้าอันเทียนโจกับอันจิ้งไม่อยากให้พ่อของเขา กับอันหลานหยางแต่งงานกันจริงๆ แล้วพวกนั้นอาจจะมาหาเรื่องโจวเหวินเพื่อที่จะให้เขาไปกระทบกับพ่อ แล้วล้มงานแต่งก็ได้ ถ้าเขาบอกให้พ่อรู้ มันก็จะเข้าทางพวกนั้นพอดี
ถึงโจวเหวินจะไม่เคยเจอหน้าอันอันเทียนโจเลยก็จริง แล้วก็ไม่รู้เหตุผลที่อันเทียนโจทำแบบนั้นลงไปด้วย แต่ตอนนี้ ทัศนคตีของโจวเหวินที่มีแต่อันเทียนโจมันแย่มากๆ
“เอาละไงละ มันกลายเป็นเรื่องภายในครอบครัวซะได้ ทำอะไรไม่ได้แล้วด้วย”โจวเหวินตอนนี้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาอยู่ดี
เขาบอกคนอื่นไม่ได้ เพราะพ่อของเขากำลังจะแต่งงานกับแม่ของเทียนอันโจ นั้นทำให้เทียนอันโจโมโหจนกระทั้งต้องมาลงกับลูกของอีกฝ่ายแทน
“อันจิ้งก็ตบฉันร่วงได้ง่ายๆ อันเทียนโจก็เกือบทำให้ฉันไม่มีสิทธิ์สอบเข้ามหาลัยแล้วด้วย ถ้ามองดูดีๆ ฉันมันกากสุดเลยนี้หว่า ไร้พลัง โดนกลั่นแกล้งรังแก ถ้าฉันแกร่งกว่านี้พวกเขายังจะมาลงกับฉันแบบนี้อยู่ไหมนะ”โจวเหวินไม่ใช่คนที่จะโทษฟ้าดินอย่างเดียว เขาถอนหายใจก่อนจะปล่อยวางเรื่องทั้งหมด แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเริ่มฟาร์มอย่างตั้งหน้าตั้งตา
อาจารย์ใหญ่คนเก่าของโรงเรียน เคยกล่าวถึงโจวเหวินไว้ว่า เขาไม่เคยเจอใครที่ตั้งใจกับอะไรบางอย่างได้เท่ากับโจวเหวิน
ถ้ามองปรกติมันอาจจะเป็นแค่คำชมที่แสนธรรมดาแต่ถ้ามองดูดีๆแล้วมันมีอะไรมากกว่าที่คิด
โดยปรกติคนที่ไม่ใช่พระอรหันต์นั้นจะตัดกิเลศไม่ได้ จะมี7อารมณ์6ตัณหา คนเหล่านั้นมักจะโดนยั่วยุจากสิ่งรอบตัวและอารมณ์ของตัวเองได้ง่ายๆแม้แต่พระเจ้าบนชั้นฟ้ายังเปลี่ยนใจได้ พระพุทธเจ้ายังเคยโดนหลอกล่อโดยมาร แล้วมนุษย์ธรรมดาจะไปเหลืออะไร
หลายๆคนมักจะบอกว่าการเรียนรู้นั้นยากลำบาก เพราะว่าพวกเขานั้นไม่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับการเรียน ถ้าไม่ทุ่มเททุกอย่างให้กับมันละก็ จะไม่มีวันเข้าถึงสมาธิของการเรียนได้
แต่ถึงอย่างนั้น โจวเหวินนั้นต่างออกไม่ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมแบบไหน เขาก็สามารถเข้าสู่สภาวะสมาธิขั้นสูงได้ทันที เขาสามารถทุ่มเทสมาธิ แรงกายแรงใจให้กับสิ่งๆนึง โดยไม่หันเหเอนเอียงจากปัจจัยภายนอกเลยซักนิด
ในเกมส์นั้นเอง โจวเหวินอัญเชิญมดกลายพันธ์ออกมา ถึงแม้ว่าความสามารถของเขากับมันนั้นจะใกล้เคียงกัน แต่เปลือกของมดนั้นมันแข็งกว่าตัวเขามาก
เขาบังคับตัวละครให้ขึ้นขี่มด ก่อนจะบุกตะลุยเข้าไปในรังมด ตอนนี้การโดนฝูงมดรุมก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไปแล้ว
2ขาหน้าของมดกลายพันธ์นั้นเหมือนเครื่องจักรสังหาร มดดำธรรมดานั้นแค่โดนหวดทีเดียวก็ตายแล้ว และด้วยเกราะเปลือกที่หนาทำให้มันแข็งแกร่งมากในหมู่มดด้วยกัน
“ถ้ามีปืนซักหน่อยละดีเลย”โจวเหวินพบว่าหลังจากที่ขึ้นขี่มดกลายพันธ์แล้ว การจะโจมตีมดด้วยตัวเองนั้นทำได้ยากขึ้นเพราะระยะห่างระหว่างเขาที่อยู่บนหลังมดแดงกับฝูงมดที่อยู่เลียดพื้นนั้นมันห่างกันเกินไป ถ้าจะโจมตี เขาต้องโดดออกจากหลังมดแล้วสู้เคียงข้างกัน
ตั้งแต่ที่เขาได้โทรศัพท์เครื่องนี้มา เขาไม่เคยรู้สึกว่าการฟาร์มเป็นอะไรที่เท่เลย แต่ตอนนี้แค่มีมดตัวนึงกับคนๆนึงก็ไม่มีอะไรหยุดพวกเขาได้แล้ว ตอนนี้พวกเขาพุ่งทะลวงทุกอย่างเข้าไปในรังมดได้อย่างไม่มีหยุดยั้ง
ก่อนหน้านี้โจวเหวินนั้นได้แค่ฟาร์มมดในบริเวณปากรัง เพราะด้านในนั้นมีมดเยอะเกินไป เขาจะโดนทับตายได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เขาสามารถขี่มดแล้วบุกเข้าไปในพื้นที่ที่เขาไม่เคยสำรวจได้แล้ว
เขาฆ่ามดดำไปเรื่อยๆจนมีผลึกดรอปออกมา2อัน แต่ระดับของผลึกนั้นต่ำเกินไป โจวเหวินเลยใช้มันเพื่อเพิ่มพลังงานเท่านั้น แต่แล้ว...
ติ้ง!!
หลังจากฆ่ามดแดงไปได้ตัวนึง โจวเหวินก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขามองดูอย่างรอบคอบแล้วเขาก็เห็น ผลึกมดยักระดับ9ที่ดีดออกมาจากตัวมดกลายพันธ์ตัวนั้น
โจวเหวินควบคุมตัวละคร ไปหยิบผลึกนั้นขึ้นมา แล้วเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าพลังมันกำลังล้นเอ่อออกมาทั่วร่างกาย
หมัดเฮอคิวลิสของเขาที่เดิมที่แค่ระดับ7 ตอนนี้มันอัพเกรดเป็นระดับ9เรียบร้อยแล้ว
พลังของหมัดเฮอคิวลิสเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ระดับพลังงานที่ใช้ก็เพิ่มขึ้นด้วย มันเพิ่มขึ้นจาก 4แต้มพลังงานเป็น5แต้มต่อครั้งนึงแล้ว เอาง่ายๆว่าตอนนี้โจวเหวินไม่สามารถใช้ท่านี้ติดต่อกันได้2ครั้งแล้วเพราะเขามีค่าพลังงานอยู่แค่ 9เท่านั้น
หลังจากที่ได้ผลึกมา โจวเหวินก็ฝ่าทะเลมดออกมาพร้อมกับมดกลายพันธ์คู่ใจของเขา แล้วมุ่งหน้าต่อเข้าไปยังรังมดส่วนลึก
รังมดนั้นเหมือนกับเขาวงกดใต้ดินขนาดยัก โจวเหวินสำรวจรังมดมาเป็นเวลา2ชั่วโมงแล้วแต่เขาก็ยังไม่เคยเจอทางตันเลย ขนาดของถ้ำก็ใหญ่ขึ้นและกว้างขึ้นด้วย ตอนนี้แค่ทางเดินของถ้ำมันก็กว้างเกือบเท่าโกดังทั้งโกดังแล้ว
เขาบุกตะลุยเข้าไปในรังมดเรื่อย แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็เห็นเงาแสงสีเงินตวัดไปมาบนอากาศ โจวเหวินเห็นเพียงแค่มดประหลาดที่มีปีกสีเงินเงางาม บินโฉบผ่านหัวของตัวละครของเขา วินาทีต่อมาคือเขาเห็นหัวของตัวละครของเขา หลุดออกจากบ่าและหน้าจอก็มืดดับลงอย่างรวดเร็ว