ตอนที่ 42 กลอุบาย
เสียงหัวเราะขี้เล่นดังขึ้นในความเงียบ
"ฉันเองเฟิงหลาง ไม่คิดว่าฉันจะมาใช่ไหมล่ะ"
"นายเองหรอ?" ใบหน้าของเฟิงหลินถูกความมืดปกคลุมอยู่ สีหน้าของเขาไม่เป็นธรรมชาติ
"บอกฉันมา ในฐานะสมาชิกระดับต่ำ นายควรจะพอใจกับสิ่งที่นายมีไม่ใช่หรอ? ทำไมนายต้องไปเผชิญหน้ากับหัวหน้าพ่อบ้านด้วย? นายอยากมีปัญหาอย่างงั้นหรอ? ... " เฟิงหลางงยืนอยู่นอกห้องขัง และจู้จี้ถามอย่างจริงจัง และต้องการฟังเหตุผลที่ฟังขึ้น
"ทำไม? มาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยฉัน?" เฟิงหลินขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"นายเข้าใจผิด" เฟิงหลางสงบมาก "ฉันไม่ได้ตั้งใจมาเยาะเย้ยนาย ฉันประทับใจนายจริงๆต่างหาก!"
"ฮิ ฮิ" เฟิงหลินหัวเราะ คำพูดของเฟิงหลางเป็นสิ่งที่ปลอมมากที่สุด เขาไม่เชื่อคนคนนี้เลย เขาตอบอย่างใจเย็น "ประทับใจฉัน? นายล้อเล่นใช่ไหม? ในฐานะหลานชายของปรมาจารย์ นายเป็นสมาชิกระดับสูงของตระกูล นายจะมาประทับใจอะไรกับฉันที่เป็นแค่สมาชิกระดับต่ำ?"
"มันคือเรื่องจริง." เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่เชื่อ เฟิงหลางก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงใจขึ้น "นายไม่รู้เลยหรอว่าตอนนี้นายโด่งดังมากในตระกูลของเรา? มันนานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าต่อต้านหัวหน้าพ่อบ้าน อย่าพูดถึงการกล้าเสนอข้อเดิมพันกับเขาเลย มีพี่น้องมากมายในตระกูลของเราที่อยากจะทำความรู้จักกับนาย... "
คำพูดของเขาเต็มไปด้วยการสรรเสริญ แต่เหมือนเป็นการเติมเชื้อเพลิง เป็นไปได้มากว่าเก้าในสิบประโยคที่เขาพูดเป็นเป็นเรื่องโกหก!
แม้ว่าเขาจะอยู่ในห้องขัง แต่เฟิงหลินก็สามารถมองเห็นรอยยิ้มหน้าซื่อใจคดบนใบหน้าของเฟิงหลางได้
"ไม่จำเป็น." เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็น ปฏิเสธความปรารถนาดีจากเฟิงหลางอย่างสุภาพ เขาขัดสมาธิบนพื้นเย็นเฉียบ และปิดปากไม่พูดอะไรอีก
นี้คือเฟิงหลาง ชนชั้นสูงของตระกูลเฟิง เขาเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่กลับโง่เขลาและไร้ความสามารถ เพื่อนที่อยู่กับเขาก็เช่นกัน คนเหมือนๆกันก็จะอยู่ด้วยกัน
เฟิงหลินไม่สนใจ ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องของพวกชั้นสูงในตระกูล
ความจริงเพียงอย่างเดียวคือเฟิงหลางไม่ใช่เพื่อนของเขา
ตอนแรกเฟิงหลางและเขามีปัญหาขัดแย้งกัน แต่ตอนนี้เขามาที่นี่อย่างไม่มีเหตุผล แม้ว่าเขาจะคิดหนักแค่ไหน มันก็แปลกอยู่ดี
เฟิงหลินไม่ใช่คนโง่ที่จะไว้ใจคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าไม่งั้น เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำเมื่อมีคนทรยศเขา
เมื่อเห็นว่าคำพูดแสนหวานนั้นไร้ประโยชน์ และเฟิงหลินก็ไม่สนใจเขา ท่าทีของเฟิงหลางก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที สีหน้าของพวกเอาแต่ใจตามแบบคนชั้นสูงปรากฏบนหน้าของเฟิงหลาง
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินซึ่งถูกขังอยู่ไม่สามารถมองเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเฟิงหลางได้ เฟิงหลางเองก็สงบลงและไม่มีใครสามารถรู้สิ่งที่เขาคิดได้
"เฟิงหลิน เราอาจจะมีปัญหาส่วนตัวกันเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็จะไม่มีความปรองดอง! เมื่อฉันเห็นความกล้าหาญของนายตอนที่นายโต้แย้งกับหัวหน้าพ่อบ้าน ฉันก็รู้เลยว่าฉันอยากรู้จักนาย " เขาพูด รอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้าของเฟิงหลินในความมืด คิดเอาแผนโง่ๆนี้มาหลอกล่อฉัน? ฉันดูเป็นคนหลอกง่ายหรือไง?
เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินยังไม่สนใจเขาอีก เฟิงหลางก็กัดฟันแน่น เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้ใจสู้ มันคงไม่ง่ายที่จะหลอกเขา
เขาโกรธมาก!
ในตระกูล เพราะว่าเขาเป็นผู้สืบสายเลือดโดยตรง เขาจึงสามารถเผด็จการกับทุกอย่างได้เสมอโดยไม่มีใครกล้าที่จะไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย เขาเดินมาถึงที่นี่เพื่อประจบประแจงกับสมาชิกระดับต่ำ แต่เขากับไม่สนใจ!
หากเขายอมแพ้ เขาจะต้องโมโหไปอีกนาน
แต่เนื่องจากจุดประสงค์ของเขา เขาจึงทำได้เพียงแค่บอกกับตัวเองให้อดทนกับเรื่องนี้ เขาอาจจะโกรธ แต่เขาต้องอดทน!
เฟิงหลาง นายเป็นคนอารมณ์ร้อน.. ไม่สิ นายใจร้อนที่สุดเลยต่างหาก!
อดทน ฉันจะอดทน ฉันจะอดทนอีกครั้ง!
ในที่สุดหลังจากต่อสู้กับอารมณ์ตัวเองอย่างยากลำบาก เฟิงหลางก็ควบคุมความโกรธได้
“ เฟิงหลิน ระหว่างเราอาจมีเรื่องไม่พอใจกัน แต่เราจะไปสนใจมันทำไมกัน? เรายังเด็กและหุนหันพลันแล่นไปบ้าง แต่เรายังสามารถเป็นเพื่อนกันได้!
"อย่ามายุ่งกับฉัน แค่หัวหน้าพ่อบ้านก็มากพอแล้ว เขาเผด็จการและไร้ความปราณี!
"เราอยู่ข้างเดียวกัน"
...
เฟิงหลางยังคงพูดต่อ ต้องการลดช่องว่างทางอารมณ์ระหว่างเขาและเฟิงหลิน
ไม่สำคัญว่าคำพูดจะสวยหรูแค่ไหน มันจะไม่มีผลอะไรถ้ามันไม่เข้าหูฉัน!
คำพูดเหล่านี้เข้าหูซ้ายและทะลุออกหูขวาของเฟิงหลิน เขาไม่สนใจสิ่งที่เฟิงหลางพูด
คนที่มาเสนอสิ่งที่เราต้องการ เขาต้องซ่อนเจตนาชั่วร้ายไว้อย่างไม่ต้องสงสัย
เฟิงหลินจะเชื่อแน่ ถ้าเขาเป็นคนโง่ละนะ
เมื่อดูว่าเขาอธิบายตัวเองอย่างน่าสมเพช คนที่ไม่รู้อะไรคงคิดว่าเฟิงหลางนั้นมีชีวิตไม่สวยหรูนัก
แต่ความจริง เฟิงหลางคือหลานชายของปรมาจารย์ เงินเดือนที่เขาได้ทุกเดือนจากตระกูลสูงถึง 10,000 เหรียญ
เห็นได้ชัดว่าเขามาที่นี่ด้วยความตั้งใจแปลก ๆ
คนคนนี้พยายามอย่างมากเพื่อตีสนิทกับคนระดับต่ำอย่างเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีแผนอยู่ในใจ
เฟิงหลินต้องการรู้ว่าเขาจะเล่นอะไร แต่เขาก็ทำเป็นไม่เคลิ้มตาม
นี่คือแผน หากเขาสามารถเอาชนะเฟิงหลางในเกมของเขาเองได้ เขาอาจสามารถใช้ประโยชน์จากคนคนนี้ในการออกไปจากที่นี่
ดังนั้นไม่ว่าเฟิงหลางจะพูดอะไร ถึงแม้ว่าน้ำลายของเขาจะสาดไปทุกที่เพราะพูดมากเกินไปเฟิงหลินก็ยังคงไม่สนใจ
จนกว่าเฟิงหลางจะหมดแรงพูด
เฟิงหลางยืนอยู่นอกห้องขังและพูดพล่ามไม่หยุด เขามีสีหน้าน่าเกลียด เขาต้องการจะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเท้าของเขายังยืนอยู่ที่เดิมเหมือนมีกาวติดไว้ เขาต้องการไปจริงๆ แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น
ความขุ่นแค้นที่เขารู้สึกนั้นเรื่องเล็ก แต่จุดประสงค์ของเขาสำคัญกว่า!
จนกว่าเขาจะได้สิ่งที่ต้องการ เขาจะไม่ออกไปจากที่นี่แน่นอน
แต่เฟิงหลินก็ทำตัวเหมือนหินที่กลิ่นเหม็น และไม่ยอมสนใจเขาเลย ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง
พวกเขาสองคนคิดในใจกันอย่างเงียบๆ มันก็มีเพียงเสียงหายใจของกันและกันที่ทำให้รู้ว่าอีกคนยังอยู่
เมื่อเฟิงหลางทนไม่ไหวแล้วหันหลังกลับ เฟิงหลินก็หัวเราะเบาๆ ทำลายความเงียบ เขาพูดอย่างเย้ยหยัน "เพียงแค่บอกฉันมาตรงๆว่านายต้องการอะไร เลิกทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าฉัน"
เฟิงหลางหยุด และรู้สึกอับอาย
เฮ้ นายตั้งใจทำแบบนี้ใช่ไหม? นายไม่สนใจตั้งนานและมาสนใจพูดกับฉันเมื่อฉันกำลังจะออกไป!
เฟิงหลินทำเหมือนเขาเป็นคนโง่?
เขาตั้งใจทำแบบนี้!
นี่คือการพนัน ใครคือผู้ล่า ใครเป็นเหยื่อ?``
ใครก็ตามที่อดทนได้มากสุดย่อมเป็นผู้ชนะ
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเฟิงหลินชนะ
ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะควบคุมเฟิงหลิน
เฟิงหลางถอนหายใจเงียบๆและรู้สึกขอโทษเฟิงหลิน คนอย่างเขาไม่น่าเป็นสมาชิกระดับต่ำ ภูมิหลังของเขาติดลบเกินไป ช่างน่าเสียดายจริงๆ!
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี เฉพาะผู้ที่สามารถวางแผนอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาทำสิ่งที่ต้องการได้ นอกจากนี้เฉพาะผู้ที่เกิดในระดับต่ำเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ง่ายกว่า
เขาเห็นข้อดีทั้งหมดเหล่านี้ในตัวเฟิงหลิน และมาที่นี่โดยไม่สนใจเรื่องทิฐิ
เมื่อเขาได้ยินเฟิงหลินพูดอย่างนี้ เฟิงหลางก็รู้ว่าเจตนาเขาถูกมองออกหมดแล้ว
การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "นายรู้หรือไม่ว่าตอนสิ้นปีนี้ตระกูลจะจัดงานให้สมาชิกทำการเสียสละเพื่อบรรพบุรุษ ในเวลานั้น มันจะมีการแข่งขันในตระกูลเรา และคนตระกูลเฟิงทุกคนที่มีสิทธิ์สอบเข้าวิทยาลัยปีหน้าก็สามารถเข้าร่วมได้ สำหรับใครที่ได้อันดับสูง พวกเขาจะยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูล ซึ่งสามารถใช้เป็นรากฐานในการสอบเข้าวิทยาลัยได้!”
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน" เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็น
เขาทราบดีว่าพิธีนี้ไม่ได้มีแค่ในตระกูลเฟิงเท่านั้น ตระกูลเล็กๆทั้งหมดของมนุษยชาติในยุคระหว่างดวงดาวจะจัดพิธีเช่นนี้เพื่อสังเวยบรรพบุรุษที่สืบสายเลือดกลับมากำเนิดเป็นยีนของพวกเขาและเพิ่มความเหนียวแน่นของตระกูล
แต่ทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับเขาในฐานะสมาชิกระดับต่ำ
เขาไม่เชื่อว่าคนระดับสูงเหล่านั้นจะปฏิบัติต่อเขาอย่างเท่าเทียม!
"ลืมไปแล้วหรือไง?" เฟิงหลางยิ้มพึงพอใจ "หัวหน้าพ่อบ้านพูดถึงกฎของตระกูล เชื่อว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์กฎของตระกูลใช่มั้ย ในกรณีนั้นกฎของตระกูลระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสมาชิกของตระกูลเฟิงทุกคนต้องได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันในการเลือก ถ้าพวกเขาต้องการมีส่วนร่วม ไม่มีใครขวางพวกเขาได้ แม้แต่หัวหน้าพ่อบ้าน! ด้วยเหตุนี้ ตามทฤษฎีแล้วทุกคนในตระกูลเฟิงสามารถเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับนี้ได้ตราบเท่าที่มีคุณสมบัติตรงตามนั้น”
เฟิงหลินขมวดคิ้ว ในที่สุดเขาก็ถูกกวนใจจนได้
"นายกำลังจะบอกว่า ... ?"