ตอนที่ 6 หมัด 1 นิ้ว
ตอนที่ 6 หมัด 1 นิ้ว
ที๋เฉียงตงทำคะแนนได้7แต้มนั้นแอบๆทำให้โจวเหวินตกใจได้นิดหน่อยเหมือนกัน
ค่าของเครื่องวัดพลังกับค่าพลังในเกมส์นั้นออกจะต่างกันเล็กน้อย แต่มันก็ต่างกันไม่มาก ตามปรกติแล้ว มันถือว่าเป็นหน่วยวัดเดียวกัน
ก่อนที่โจวเหวินจะได้โทรศัพท์เครื่องนี้มา เขาเองก็ทำค่าพลังได้ที่7แต้มเหมือนกัน
“เอ้า ตานายแล้ว”ที๋เฉียงตงพูดก่อนจะหลบทางให้
โจวเหวินเดินตรงไปที่เครื่อง ที๋เฉียงตงจ้องตาไม่กระพริบ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้โจวเหวินนั้นมีพลังแค่ไหนกันเชียว
ยวี่ชิวไป๋เองก็อยากรู้ว่าตอนนี้โจวเหวินนั้นมีพลังขนาดไหนแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ฝึกซ้อมนับเดือน
เคยมีคำกล่าวที่ว่าเรื่องของพละกำลังนั้นจะไม่หดหายไปเร็วเหมือนกับการรับรู้และการตอบสนอง พอมีพลังเท่าไรแล้ว ส่วนมากมันจะไม่ลด มันจะมีแต่เพิ่ม ค่าพลังนั้นเป็นค่าความสามารถที่ต้องใช้เวลาฝึกนานกว่าจะเห็นผลออกมา การต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายตัวเองนั้นเดิมทีมันก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว
โจวเหวินยืนอยู่หน้าเครื่องวัดพลัง ตั้งท่าหมัด1นิ้ว 1นิ้วที่ว่านั้นมันไม่ใช่คำเปรียบเปรน แต่มันเป็นท่าการต่อสู้จริงๆ เป็น1ในท่าที่ถูกเปิดสอนให้เรียนในโรงเรียนด้วย
แต่แม้มันจะเป็นท่าที่เรียนง่ายก็จริง แต่ก็เป็นท่าที่ชำนาญยากมาก มันเป็นท่าที่ส่งแรงทำลายมหาศาลในระยะการโจมตีที่สั้นๆ การจะออกท่าโจมตีในระยะแค่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ระยะห่างระหว่างหมัดกับเป้ามันน้อยมาก ทำให้ท่านั้นไม่ได้ดูเท่เลยแม้แต่น้อย โดยรวมแล้วนักเรียนมักจะหักฝึกวิชามวยอย่างอื่นมากกว่า
และแน่นอนว่าเหนือกว่าวิชามวย นักเรียนจำนวนมากก็เลือกที่จะไปฝึกวิชาดาบมากกว่า เพราะยังไงซะในการต่อสู้จริงๆ ดาบนั้นก็มีอานุภาพในการฆ่ามากกว่าหมัดอยู่แล้ว
พอเห็นหมัดของโจวเหวินอยู่ใกล้แท่นรับแรงขนาดนั้น ฟางหลัวซีก็รู้ทันทีว่าโจวเหวินกำลังจะใช้ท่าหมัด1นิ้ว
ที๋เฉียงตงพูดพร้อมรอยยิ้มแสยะ “แรงของหมัด1นิ้วมันรุนแรงมากก็จริง แต่มันเป็นท่าที่ฝึกยากมาก การจะชำนาญมันได้นั้นต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหลายปี ฉันเองก็หวังว่าโจวเหวินมันจะไม่หาเรื่องทำตัวเองแพ้หรอกนะ”
ถึงแม้ว่าที๋เฉียงตงจะพูดไม่ดี แต่ยวี่ชิวไป๋ก็เห็นด้วยนิดหน่อยกับที่ที๋เฉียงตงพูดมา หมัด1นิ้วนั้นมันเป็นท่าที่ฝึกให้ชำนาญยากมาก เขาเองก็ไม่เห็นจะเคยฝึกท่านั้นมาก่อนเลยแม้แต่น้อย วันๆเขาเอาแต่เล่นเกมส์ การใช้หมัด1นิ้วในการทดสอบพลังโดยที่ขาดการฝึกนั้น อาจจะทำให้ผลคะแนนออกมาแย่ก็ได้
ตู้ม!!!
ตอนที่ทั้ง4คนกำลังคิดอยู่นั้นเอง พวกเขาก็เห็นหมัดของโจวเหวินกระแทกหมัดของเขาเข้าสู่แท่นรับแรงกระแทกอย่างรุนแรง หมัดนั้นมันเร็วมากจนถ้าพวกเขาไม่เห็นว่าแท่นรับแรงมันยุบลงไปละก็ พวกเขาคงคิดว่าตาฝาดแน่ๆ มันเหมือนกับว่าหมัดของโจวเหวินนั้นไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
ทั้ง4คนนั้นหันไปมองหน้าจอทันที พวกเขาอยากรู้ว่าโจวเหวินนั้นจะต่อยหนักแค่ไหน
“ระยะหมัดมันสั้นเกินไปแล้ว!”ทั้ง3คนคิดแบบเดียวกัน
“ระยะของหมัดมันสั้นเกินไปจริงๆนั้นละ ถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่าแรงที่มหาศาลที่สุดนั้น จะเกิดมาจากระยะทางที่สั้นที่สุด ถ้าระยะห่างระหว่างหมัดกับเป้ามันสั้นเกินไป มันจะทำให้การส่งแรงนั้นไปได้ไม่สุด มันก็เหมือนกับเวลาคนที่กระโดดโดยไม่ย่อเข่านั้นละ ข้อดีอีกอย่างของท่านี้คือด้วยความที่ระยะของหมัดมันสั้น ทำให้สามารถตั้งท่าได้ใหม่ได้อย่างรวดเร็วและไม่มีจังหวะเปิดให้โดนสวน มีเพียงที่นักมวยที่ชำนาญท่านี้จริงๆเท่านั้นถึงจะสามารถส่งแรงทั้งหมดออกไปในระยะหมัดสั้นๆแบบนั้นได้...”ยวี่ชิวไป๋คิดถึงสถานการณ์ตอนนี้
แต่พอพวกเขาได้เห็นตัวเลขบนหน้าจอ พวกเขาก็เบิกตากว้างขึ้นมาในทันที
ตัวเลขนั้นค่อยๆเรียงตัวกันไปเรื่อยๆ และในพริบตานั้นเอง ตัวเลข10ก็ปรากฏขึ้น หมัด1นิ้วของโจวเหวินนั้นทำคะแนนพลังได้10แต้มจริงๆ
“10คะแนนเลยงั้นเหรอ เป็นไปได้ไงกัน”ยวี่ชิวไป๋ตกใจมาก แต่ก็ดีใจด้วย
ยวี่ชิวไป๋สอนอยู่ที่โรงเรียนนี้มาหลายปี เขารู้ดีว่าเด็กนักเรียนม.ปลายนั้นทำคะแนน10คะแนนได้ยากมากหากไม่ใช้สกิลพิเศษ
ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะใช้ผลึกแห่งพลังก็ตาม แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่10คะแนนนี้จะเกิดขึ้นอยู่ดี เพราะเดิมทีนั้นการส่งพลังของผลึกนั้นมันมีข้อจำกัดของพลังที่ส่งออกไป หลังจากที่ค่าพลังเกิน7แล้วพลังของผลึกปรกติก็แทบไม่มีผลแล้ว
ยกเว้นแต่ว่าจะใช้ผลึกพลังคุณภาพสูงจริงๆซึ่งราคาแพงหูฉีก ถึงจะทำค่าพลังสูงขนาดนั้นได้ ไม่งั้นก็ต้องฝึกให้หนักจนตายไปข้างเป็นเวลาหลายปีเลยละ
แต่มันก็ยังยากอยู่ดี มันเป็นเรื่องยากที่มนุษย์จะทำค่าพลังถึง10แต้มได้ ก่อนจะเลื่อนระดับของชีวิตไปเป็นระดับตำนาน ก่อนที่มนุษย์จะเลื่อนขั้นไปเป็นระดับตำนานได้นั้น พวกเขามักจะมีพลังอยู่แค่7-8แต้มเท่านั้น
โจวเหวินเองยังเป็นแค่ระดับตัวอ่อนอยู่เลย แต่เขากลับมีพลัง10แต้ม ถือว่าเป็นเรื่องที่ยายากมากในโรงเรียนม.ปลาย จะบอกว่าเป็น1ในล้านก็ไม่ได้พูดเกินไปเลย
จริงเหรอเนี่ยที่จริงๆแล้วโจวเหวินไม่ได้ทำตัวเหลวแหลก เหตุผลที่เขาหลับในคาบเรียนนั้น เป็นเพราะเขาฝึกหนักเกินไปหรอเนี่ย“ยวี่ชิวไป๋คิดแล้วคิดอีก เขามองโจวเหวินด้วยสายตาที่ชื่นชม”ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ อาจารย์ใหญ่คนก่อนมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมาก ฉันเลยยังไม่เห็นด้านที่ดีของเขา การทำแต้มพลัง10แต้มทั้งๆที่ยังเป็นแค่ระดับตัวอ่อนนั้น จะบอกว่าในบรรดาโรงเรียนทั้งหมดในสหพันธ์แห่งโลก เขาเป็นอันดับต้นๆได้เลย แถมเขายังมุมานะอุสาหะเป็นเลิศด้วย”
ยวี่ชิวไป๋มองดูโจวเหวินด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ เขารู้สึกว่าโจวเหวินนั้นไม่ได้มีดีแค่พรสวรรค์จริงๆ แต่เขายังเป็นคนที่มุ่งมั่นอีกด้วย ตั้งแต่ที่เขาแพ้ผู้หญิงคนนั้นไป เขาก็ไม่ได้โมโหที่ตัวเองแพ้เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่เขากดดันตัวเองอย่างหนักแล้วฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตายจนแกร่งขึ้นด้วยเวลาอันสั้น ด้วยพรสวรรค์และพรแสวงที่เขามีนั้นถือว่าหาได้ยากในหมู่นักเรียน.ปลายทั่วไป
“จริงเหรอเนี่ย ไม่ได้ใช้สกิลแต่ทำได้ตั้ง10คะแนนเลยเหรอ ไอ้หมอนี้ไม่ใช่ว่ามันเอาแต่หมกตัวเล่นเกมส์อยู่ในบ้านทั้งวันเหรอ”ที๋เฉียงตงอดกลืนน้ำลายไม่ได้ คนที่สามารถต่อยด้วยหมัดรุ่นๆแต่พลังทำลายถึงระดับ10ได้ ถือว่าน่ากลัวมาก ถ้านับแค่ในเมืองเล็กๆอย่างนี้
หลี่ฉีกับฟางหลัวซีเองก็มองไปที่โจวเหวินด้วยสายตาไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าฟางเองจะคิดอยู่แล้วว่าโจวเหวินนั้นไม่ใช่คนที่เหลวแหลก เธอคิดว่าเขาต้องแอบไปฝึกมาแบบลับๆแน่ๆ แต่เธอไม่คิดว่าโจวเหวินจะทำได้ถึงขนาดนี้
“ดูเหมือนว่าหน่วยวัดพลังในเกมส์กับความเป็นจริงจะต่างกันจริงๆด้วยแหะ เพราะในเกมส์ฉันมีแค่พลังแค่9เอง แต่พอต่อยออกมาจริง ออกมาเป็น10ซะงั้นเลย”โจวเหวินคิดในใจ
“พลังถึงระดับ10นี้ ถือว่าคู่ควรแล้วละกับการถูกยกย่องว่าเป็นที่1ของโรงเรียน แต่ถ้านายคิดว่าจะชนะฉันได้ละก็ บอกเลยว่าคิดผิด”ที๋เฉียงตงมองหน้าโจวเหวินแล้วพูด
พอเห็นคะแนนของโจวเหวินแล้ว เอาเข้าจริงที๋เฉียงตงก็ยอมให้โจวเหวินเข้าทีมแล้วละ
เพราะถึงแม้ว่าท่าหมัดกระเบนอสนีบาตของเขาจะมีพลังทำลายมากกว่า10แต้มก็จริง แต่มันก็กินพลังงานเยอะมาก แล้วถ้าเทียบกับระดับพลังงานตอนนี้แล้ว เขาสามารถใช้ท่านั้นได้แค่ไม่กี่ครั้งก่อนจะต้องพักนานเลยถึงจะสู้ต่อไป
ค่าพลัง10แต้มล้วนๆของโจวเหวินสามารถสู้ได้นานกว่า มีประโยชน์กับทีมมากกว่าหมัดกระเบนอีก
อีกทั้งท่าโจมตีของโจวเหวินนั้นยังเป็นหมัด1นิ้วที่ยากต่อการชำนาญอีกด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าโจวเหวินไม่ได้ฝีมือตกลงเลย เขาไปซ้อมมาอย่างลับๆ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องของความสามารถเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้นที๋เฉียงตงเองก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง เขาตั้งใจจะชนะโจวเหวินให้ได้ก่อน แล้วค่อยรับเขาเข้าทีม
**ปล.ท่าหมัด1นิ้วนั้นเป็นท่าหมัดที่โด่งดังของบรูซลีโดยตัวเป้าหมายกับหมัดนั้นอยู่ห่างกันไม่ถึง1นิ้ว