ตอนที่ 3 หมัดเฮอคิวลิส
ตอนที่ 3 หมัดเฮอคิวลิส
พลังงานอันล้นเหลือพุ่งพล่านไปทั่วร่างกายของโจวเหวิน ความรู้สึกนี้เอาเข้าจริงมันก็คือความรู้สึกเดียวกันกับที่ซึมซับผลึกแห่งพลังงานเข้าไปนั้นละ แต่รอบนี้มันรุนแรงกว่าเดิม แรงกว่าทุกครั้งที่เจอมา แรงกว่าผลึกพลังงานระดับ5อีกหลายเท่า
“นี้มันรุนแรงกว่าหลายเท่าเลยนะเนี่ย นี้มันอะไรกัน”โจวเหวิน รู้สึกว่าพลังงานอีกระรอกพุ่งเข้าใส่ร่างกายเขาอีกครั้ง
รอบนี้มันเป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป พลังที่เข้ามารอบ2นี้มันเหมือนเป็นปลาไหลไฟฟ้า พุ่งเข้ามากระแทกตัว แล้วทำลายขีดจำกัดทางร่างกายเก่า เปิดเส้นทางพลังใหม่
“น.. นี้มัน... พลังของผลึกมดยัก ผลึกพิเศษในตำนานซินะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะรู้สึกแบบนี้”โจวเหวินเริ่มคาดหวัง
ในตอนที่พลังงานที่เหมือนปลาไหลไฟฟ้านั้น หมุนเวียนไปทั่วร่างนั้นเอง พลังงานในตัวของโจวเหวินก็เริ่มไหลเวียนไปตามเส้นทางต่างๆที่ปลาไหลไฟฟ้านั้นทำไว้
กระแสพลังในร่างกายของเขานั้นมันไหลเวียนแรงมากจนมือเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานเหมือนเลืด เขารู้สึกแปลกๆเหมือนมือเขากำลังบวมขึ้นมา แต่มือเขาไม่ได้บวมขึ้นมาจริงๆ มันเป็นแค่ความรู้สึกเหมือนมือจะระเบิดออกมาพร้อมกับพลังงานมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ข้างในยังไงอย่างงั้น
ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้โจวเหวินอยากจะลองต่อยดูซักทีให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่เขาก็หักห้ามใจเอาไว้ เพราะตอนนี้เขายังอยู่ในโรงเรียนอยู่ เขาทำอะไรรุนแรงมากไม่ได้ เดี๋ยวทรัพย์สินโรงเรียนเสียหายแล้วจะเป็นเรื่อง
หลังจากผ่านไป10นาที อาการบวมแดงก็หายไป มือของเขากลับมาเป็นแบบเดิม พลังงานในตัวเขาเริ่มนิ่งและหยุดไหลอย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้โจวเหวินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า สกิลปลดปล่อยพลังที่มือนั้นถูกจารึกไว้ในร่างกายและจิตวิญญาณของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาสามารถใช้มันได้ตามใจนึกเลย
โจวเหวินอดใจรอที่จะเปิดโทรศัพท์มือถือไม่ไหว พอกดเข้าเกมส์ไปแล้ว หน้าจอเกมส์ก็ยังมืดอยู่ เขาเลยตัดสินใจ รีสตาร์ทด้วยการเจาะเลือดแล้วหยดลงไปบนหน้าจอ หลังจากที่ตัวละครปรากฏออกมาแล้ว เขาก็ได้เห็นค่าความสามารถของตัวละครที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
โจวเหวิน อายุ16ปี
ระดับชีวิต ต่ำที่สุด
พลัง 9
ความเร็ว 5
ร่างกาย 8
พลังงาน,ลมปราณ 9
วิชาลมปราณ “ลมปราณเซียนวิบาก”
สกิล หมัดเฮอคิวลิส ระดับ7
สัตว์อสูร ไม่มี
โจวเหวินดีใจมาก ค่าพลังงานของเขาเพิ่มขึ้นเป็นระดับ9 มันเป็นสิ่งที่บอกว่าผลึกที่เขาพึ่งได้มานั้น เป็นผลึกระดับ9 แล้วสกิลหมัดเฮอคิวลิสระดับ7นั้นก็เป็นระดับที่สูงมากด้วย เขาไม่จำเป็นต้องฝึกสกิลเพิ่มแล้ว เพราะสกิลที่เขามีตอนนี้มันดีมากอยู่แล้ว
โดยปรกติผลึกสกิลนั้นหายากมากอยู่แล้ว ราคาของมันก็สูงมากด้วย แต่สกิลนั้นสามารถเพิ่มความสามารถในการสู้ได้อย่างมาก ทำให้กำจัดศัตรูเร็วขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้โจวเหวินไม่ได้มีเงินทุนถุงถังจะไปซื้อผลึกสกิลมาใช้อยู่แล้ว แถมเขายังมุ่งมั่นฝึกแต่“ลมปราณเซียนวิบาก”อีกด้วย ทำให้เขาไม่มีเวลาและแรงมากพอจะไปฝึกสกิลอื่นๆ นี้เป็นสกิลต่อสู้แรกของเขา
“แหงละ รังมดในเกมส์นี้มันก็เหมือนกับพื้นที่ต่างมิติในชีวิตจริงแหล่ะ เดี๋ยวนะ ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง งั้นหมายความว่าในเกมส์นี้เราก็หาสัตว์อสูรได้เหมือนกันหน่ะซิ”โจวเหวินตื่นเต้นขึ้นมา
เขากลับเข้าเกมส์ไปฟาร์มอีกครั้งนึง ตัวละครของเขาตอนนี้มีสกิลมวยเทพแล้วด้วย โจวเหวินอดใจรอที่จะลองสกิลใหม่ไม่ไหว เขาอยากจะเห็นว่ามันทรงพลังแค่ไหนใจจะขาดแล้ว
ตู้ม!!
ตัวละครของเขาซัดหมัดตรงเข้ามดยักทันที เหมือนกับการยัดหัวของมดยักกกลับเข้าไปในตัวของมัน แล้วทั้งร่างกายของมดยักนั้นก็ระเบิดออกด้วยแรงอัดที่มหาศาล ทำให้เลือดกับเศษเนื้อกระเด็นกระดอนไปทั่ว
โจวเหวินทั้งตกใจในพลังของมัน และดีใจไปด้วยในตัว ตัวละครในเกมส์ของเขานั้นเป็นตัวแทนของตัวเขาในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวละครในเกมส์ มีพลังมากแค่ไหน เขาก็สามารถนำพลังนั้นมาใช้ในความเป็นจริงได้มากเท่านั้น
ก่อนหน้าเขาต้องต่อยหลายหมัดหน่อยถึงจะฆ่ามดดำได้ แถมเขายังต้องต่อยเข้าจุดสำคัญอย่างเช่นตาหรือข้อต่อ แต่หมัดเฮอคิวลิสนั้นเป็นการต่อยโดยไม่สนเกราะหรืออะไรทั้งนั้น มันพุ่งตรงไปทำลายด้วยพลังที่รุนแรง
แต่มันค่อนข้างกินแต้มพลังงานเยอะเหมือนกัน เดิมทีนั้นเขามีแต้มพลังงานอยู่แค่9 แล้วสกิลนี้มันใช้พลังงานที่4แต้มต่อครั้ง หมายครั้งว่ามากสุดเขาสามารถใช้ติดต่อกันได้มากสุดแค่2ครั้ง แล้วพลังงานก็แทบจะหมดแล้ว
ถึงแม้ว่าหลอดพลังงานจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เอง แต่มันก็ฟื้นฟูกลับมาได้ในอัตราที่ช้า โจวเหวินสามารถฟื้นฟูพลังงานได้มากสุดแค่ ชั่วโมงละแต้ม เรียกได้ว่าฟื้นมาไม่พอการใช้งานจริงๆ
แต่ก็แน่นอนว่าเราสามารถใช้ผลึกที่ได้มาจากการฆ่ามอนสเตอร์ นำมาฟื้นฟูพลังงานของตัวเองได้ คนปรกติก็มักจะใช้วิธีนี้ในการเติมพลังงาน ดีกว่าให้นั่งรอ9ชั่วโมงเพื่อให้พลังงานเต็ม
ถึงฉันจะได้สกิลมาแล้วก็เหอะ แต่มันก็ใช้ได้แค่ไม่กี่ครั้ง เพราะงั้นควรจะเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นดีกว่า เขาฟาร์มต่อไปโดยที่หวังว่าจะเจออะไรที่ดีมากกว่านี้
เอาเข้าจริง การฟาร์มมอนสเตอร์ตัวเดิมๆ ในดันเจี้ยนเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเกมส์หรือโลกความจริงนั้น ยังไงมันก็น่าเบื่อโคตรๆอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ผ่านการฝึก “ลมปราณเซียนวิบาก”มาตั้งแต่ก่อนอายุ16 การฟาร์มมอนแบบนี้มันกระจอกไปเลย
ในตอนที่โจวเหวินถือโทรศัพท์แล้วเดินผ่านฝูงชนคนไม่รู้จักนั้นเอง จู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขา เขามองไปทางนั้น แล้วพบหญิงสาวตัวสูง ใส่ชุดนักเรียนม.ปลายกำลังเดินตรงมาทางที่เขาอยู่
โจวเหวินมองไปรอบๆตัวเขา แล้วพบว่า รอบๆตัวเขาไม่มีใครอยู่เลย ...ก็แหงอยู่แล้วแหล่ะ ปรกติที่เขาจะเลือกเล่นเกมส์ตรงนี้ ก็เพราะว่าไม่มีใครอยู่เลยในระยะ10เมตรยังไงละ คนไม่พลุพล่านเนี่ยละดีที่สุดแล้ว
“นั้นฟางหลัวซีเหรอ เธอมาหาฉันทำไมกันเนี่ย?”โจวเหวินมองดูหญิงสาวที่กำลังเดินตรงมาหาเขา ก่อนที่เขาจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเป็นอย่างแรก เขาไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโทรศัพท์ของเขาเป็นอันขาด ไม่งั้นเรื่องใหญ่อาจจะตามมาได้
ร่างสูงโปร่งของฟางหลัวซีนั้นสูงประมาณ175เซนติเมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของผู้ชายในวัย16ปีซะอีก เพราะงั้น เธอจึงค่อนข้างโดดเด่นขึ้นมาในหมู่สาวๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะสูงก็จริงแต่ร่างกายของเธอนั้นสมสัตส่วนไปทุกๆอย่าง ตัวที่ยาว ขาที่เพรียว ต้นขากระชับ เอวคอด ทรงนาฬิกาทราย ดูนุ่มนวลแต่ก็มีแรงปะทะ มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
และสมชื่อฟ้างหลัวซี เธอเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากๆ ก่อนที่นักเรียนใหม่ที่จู่ก็มาซัดโจวเหวินจนหมอบนั้นจะย้ายเข้ามา ทั้งฟ้างหลัวซีและโจวเหวินนั้นเคยเป็น2อัจฉริยะที่โด่งดังที่สุดในโรงเรียนมาก่อน
เพียงแค่ว่าทั้ง2คนอยู่คนละห้องคนละแผนกัน แถมทั้งคู่ยังเข้าสังคมโคตรไม่เก่ง โจวเหวินเองก่อนหน้านี้ก็เอาแต่ฝึกลมปราณเซียนวิบาก เลยไม่มีเวลาจะไปพบปะกับใครมากนัก เพราะงั้น นอกจากการทักทายกันตามมารยาทแบบพอจำเป็นแล้ว ทั้ง2คนก็แทบจะไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้ฟางหลัวซีคนนั้นกำลังเดินตรงมาหาโจวเหวิน เขาเลยได้แต่เดาเอาไว้ก่อน ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เธอถึงได้มาตามหาเขาถึงที่ขนาดนี้
“โจวเหวิน เข้าเรื่องเลยละกันนะ การสอบภาพปฏิบัติกำลังใกล้เข้ามา แล้วฉันก็อยากได้นายมาร่วมทีมด้วย สนใจไหม”ฟางหลัวซีตรงมาหาโจวเหวินแล้วเข้าเรื่องเร็วจนโจวเหวินผงะ