Chapter 56 - Tahrakhan Plateau (1)
Chapter 56 - Tahrakhan Plateau (1)”
แสงแดดส่งลงมาจากเบื้องบนท้องฟ้าโดดที่ไร้ซึ่งหมู่เมฆบดบัง แต่หากเมื่อมองไปรอบๆก็จะพบว่าเมฆเหล่านั้นต่างก็ล่องลอยลงมาอยู่ต่ำใกล้กับพื้นดิน ซังจินในตอนนี้ได้ยืนอยู่ในพื้นที่ราบสูง
[ยินดีต้อนรับสู่ที่ราบสูงทาราฮาน]
[มันมีระดับความสูงอยู่ที่หลายพันเมตรเหลือระดับน้ำทะเล]
[โปรดจำไว้ด้วยว่าด้วยสภาพภูมิอากาศของสภาพแวดล้อมเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตในสถานที่แห่งนี้จึงได้วิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดขอมัน]
[และกลายเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง]
ซังจินได้ยืนตัวสั่น แม้ว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าที่หนาอบอุ่นแล้ว แต่เขาก็ยังคงรู้สึกหนาวเป็นอย่างมาก
'มันควรจะอบอุ่นขึ้นเมื่อฉันเหวี่ยงดาบไปรอบๆ'
[ทำการจัดทีมนักล่า]
นักล่าได้ปรากฏตัวออกมาทีละคนหลังจากคำประกาศของโอเปอเรเตอร์ ซังจินมองไปที่พวกเขาโดยที่ไม่คิดอะไรมากมาย
'ฉันไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องน่าประหลาดใจใดๆ...'
แต่การคาดการณ์ของเขานั้นผิด
'ผู้สอบสวน' 'โจรสลัด' 'นักสู้' 'นักล่าสมบัติ'
'นักล่าสมบัติ?'
ซังจินได้มองลงไปที่เจ้าของฉายานี้ เขาเป็นชาวอาหรับที่ถือมีดคู่อยู่ เขามีหนวดที่ยาส และตัวไม่สูงนัก เขาดูเหมือนกับว่าจะไม่เด่นอะไรเลย แต่ดวงตาของเขานั้นส่องประกายอย่างเห็นได้ชัด
'ว๊าว...การที่เขามีฉายานักล่าสมบัตินั้นหมายความว่า...ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขานั้นเคยได้หาองค์ประกอบลับต่างๆ'
การาี่เขาได้รับฉายานี้มามันไม่น่าแปลกใจมากนัก เพราะว่าในตอนนี้มันได้ถึงการจู่โจมที่ 7 แล้วมันก็ควรจะมีคนที่ได้พบกับชิ้นส่วนลับต่างๆแล้วเช่นกัน
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือทำไมเขาถึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ฉายานี้
อย่างแรกเลยฉายาอื่นๆของเขาก็จะมีผลเพียงแค่ 50% เท่านั้น
สองแม้ว่าเขาจะเจอกับบอสลับเขาก็จะต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างมากในการเอาชนะมัน บางทีเขาอาจจะล้มเหลวแล้วตายลงเลยก็เป็นได้
แม้กระทั่งซังจินเองที่ได้มีประสบการณ์มากมายจากชีวิตก่อน เขาก็ยังคงรอจนผ่านไปจนถึงบทที่ 6 ถึงจะมีความมั่นใจและรู้สึกปลอดภัยพอที่จะเปลื่ยนฉายาไปใช้นักล่าสมบัติ
มันมีเพียงแค่สองสิ่งเท่านั้นที่จะเป็นไปได้
'คือเขามีความกล้าหาญหรือไม่ก็โง่เง่านั้นเอง'
แน่นอนว่าเขาก็อาจจะมีมันทั้งสองอย่าง ซังจินได้ระงับความประหลาดใจเอาไว้และหันไปตรวจสอบนักล่าคนอื่นๆต่อ นักล่าคนอื่นๆที่เหลือดูจะเป็นปกติ
'ผู้สอบสวน' เป็นชาวตะวันตกที่ตัวใหญ่
'โจรสลัด' เป็นชาวอาหรับที่ดูสูงเล็กน้อย
'นักสู้' เป็นชาวเอเชีย
ผู้สอบสวนได้มองออกไปรอบๆและแสดงความคิดเห็นออกมา
"พวกเราในรอบนี้มีแต่คนที่มีฉายาแปลกๆ"
ซังจินเห็นด้วยกับเขาและนึกถึง 'นักล่าสมบัติ' แต่แล้วจากนั้นเขาก็พูดออกมา
"ตั้งสองคน"
ซังจินหันหน้าไปมองที่ผู้สอบสวนและเขาก็ได้สบตากัน ผู้สอบสวนนั้นก็ได้มองมาที่ซังจินเช่นกัน
"นักล่าสมบัติ และ ผู้พิพากษา..."
จากนั้นนักสู้ก็ได้กล่าวออกมาในขณะดัดคอตัวเองเล่น
"ใช่แล้ว ฉันไม่เคยเห็นฉายาเช่นนี้มาก่อน นักล่าสมบัติ...นายได้รับโดยการแจกรางวัลใหม่ๆหรืออะไรบางอย่างงั้นหรอ แล้วผู้พิพากษานี่มันเกี่ยวกับอะไร"
ซังจินได้เงียบอยู่ครู่หนึ่งและจากนั้นโจรสลัดก็กล่าวออกมา
"ชาวตะวันตกหนึ่งคน ชาวตะวันออกกลางสองคนและชาวเอเชียสองคน ฉันหวังว่าจะได้รอดกลับไปพร้อมกันทุกๆคนนะ อย่าได้ไปแทงหลังกันเองหละ"
ซังจินหันไปมองที่เขา
'อย่าได้ไปแทงหลังกันเองหละ'
บุคคลที่ได้พูดเช่นนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะทำในสิ่งที่เขาสัญญาว่าจะไม่ทำ คนที่ไร้เดียงสาที่ไม่ได้วางแผนที่จะทำเช่นนี้เขาก็จะไม่คิด ไม่พุดถึงในเรื่องแบบนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้ถึงมัน
ซังจินนั้นได้เคยอาศัยอยู่ในก้นบึ้งความมืดของสังคมมาก่อน ก่อนที่การจู่โจมจะเริ่มขึ้นซะอีก และเขาก็ได้เห็นเหล่าคนนับไม่ถ้วนทำในสิ่งเดียวกัน
'ฉันจะไม่หลอกลวงคุณ'
เขาอาจจะเป็นคนที่มุ่งมั่นจะหบอกลวงก็ได้ เพราะคำๆนี้มันอยู่ในใจเขาเสมอ
'ฉันจะไม่โกงคุณ'
เขาก็อาจจะโกงก็เป็นได้เพราะเขาได้ตระหนักถึงสิ่งนี้เป็นอย่างแรก
'อย่าไปแทงหลังคนอื่นๆหละ'
เขาอาจจะเป็นคนที่คิดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมากซึ่งหมายความว่าเขาก็อาจจะทำมัน และในความจริงที่ว่าฉายา 'โจรสลัด' ของเขามันน่าสงสัย โจรสลัดโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกที่ชอบปล้นผู้อื่น
ในขณะที่ซังจินกำลังคิดเช่นนั้น ในที่สุดนักล่าสมบัติก็เปิดปากออกมา
"ได้โปรดตั้งใจฟังให้ดี ฉันจะบอกบางสิ่งบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ให้พวกนายฟัง"
ซังจินมองผ่านออกไปที่เขา
'ไม่มีทาง...'
โชคร้ายที่เขาพูดออกมา
"มันได้มีองค์ประกอบลับที่ได้ซ่อนอยู่ในการจู่โจมนี้ ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มันมีถึงสอง"
นักล่าคนอื่นๆทั้งสามคนก็ตื่นตัวสนใจในทันที ความสุขได้แสดงออกมาจากคำพูดของเขา เขาได้ยิ้มออกมาและพูดต่อ
"หนึ่งคือสถานที่ลับที่อยู่ในพื้นที่นี้หรือไม่ก็เป็นไอเทมลับ และอีกอย่างก็คือบอสลับ"
เมื่อข้อมูลนี้ถูกปล่อยออกมา คนอื่นๆก็แสดงความสนใจที่มากขึ้นไปอีกในทันที แต่แน่นอนว่ามันยกเว้นซังจินคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ฝุ้สืบสวนได้กล่าวออกมาในทันที
"ไอเทมลับ? บอสลับ? นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับมัน"
นักล่าสมบัติได้แสดงทางราวกับว่าเขากำลังเปิดเผยความลับของจักรวาล
"ใช่แล้ว มันมีอยู่ในแต่ละบทเหล่านั้น และฉันก็รู้ว่าจะหามันได้จากที่ไหน สิ่งนี้คงต้องขอบคุณฉายา 'นักล่าสมบัติ' ของฉัน"
โจรสลัดก็ได้ถามออกมา
"ถ้าหากมันเป็นไอเทมลับแล้วมันมีค่ามากไหม"
นักล่าสมบัติได้หยักหน้ารับ เขาไม่ได้ปิดบังอะไรเลยเมื่อเขาเริ่มให้ข้อมูล เขาเพียงแค่หยุดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"แน่นอน"
ความจริงแล้วเพียงแค่บางสถานที่เท่านั้นที่จะมีประโยชน์
ตัวอย่างเช่นในการจู่โจมล่าสุด นักล่าคนอื่นๆนั้นจะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนักในจัดการเบสโกโร่ แต่การที่พวกเขาได้พบกับรัฟฟ์ ฮานนั้นเป็นผลดีกับทุกคน
นักสู้ได้ถามออกมา
"ดังนั้นถ้าหากฆ่าบอสลับ เราก็จะได้รับไอเทมและเหรียญที่เพิ่มขึ้นงั้นหรอ"
นักล่าสมบัติได้ตอบออกมาอย่างลังเล
"ใช่แล้ว..มันน่าจะ...."
จากพฤติกรรมนี้มันได้ทำให้ซังจินได้รู้
'หมายความว่าเขาอาจจะยังไม่สามารถที่จะจัดการกับบอสลับได้'
การค้นหาและการฆ่าบอสทั้งสองสิ่งนี้เป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างมาก มันจะไม่ได้รับอะไรเลยถ้าหากว่าคุณไม่สามารถที่จะจัดการบอสลับได้ แม้ว่าคุณจะหามันจนพบก็ตาม
ถึงแม้ว่าทั้งนักล่าห้าคนจะร่วมมือกันและไปเผชิญกับบอสลับในระดับเดียวกับซาดาเมียร์และเบสโกโร่ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะเอาชนะมาได้
โดยเฉลียแล้วพวกเขานั้นจะต้องเตรียมตัวที่สูญเสียสมาชิกไม่หนึ่งก็สองคนไว้ได้เลย
ดังนั้นซังจินจึงได้ลังเลที่จะบอกคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในกรณีที่พบกับมันโดยบังเอิญก็อาจจะหมายถึงความตาย
ในจุดที่ซังจินอยากรู้ก็คือในตอนที่เขาได้รับฉายามายังไง นักล่าสมบัติยังคงยุ่งกับการตอบคำถามคนอื่นๆ
"ดังนั้นเมื่อพวกเราสามารถหาสิ่งเหล่านั้น?"
"ฮ่าๆๆ ไปเคลียการจู่โจมก่อนเป็นอย่างแรก พวกเราไม่ควรที่จะมีระเบิดเวลานับถอยหลังในระหว่างที่เรากำลังหาสิ่งที่พิเศาอยู่ได้หรอก จริงไหม"
ดูเหมือนกับว่าเขาจะชอบกับการตอบคำถามและเป็นศูนย์กลางความสนใจ ซังจินได้รออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกไป
"แล้วในตอนที่นายได้รับฉายานี้ นายได้รับมายังไง"
"มันคือ..."
ถึงแม้ว่าในก่อนหน้านี้เขาจะตอบคำถามออกเรื่อยๆแค่ในจุดนี้เขาก็ได้หยุดลง ซังจินจึงตัดสินใจที่จะเล่นจิตวิทยากับเขา
"ฉันต้องการที่จะลองและได้รับฉายานี้บ้าง นายควรจะบอกให้คนอื่นได้รู้วิธีที่จะได้รับฉายาที่น่าอัศจรรย์เช่นแบบของนายบ้าง นายไม่คิดอย่างงั้นหรอ"
ด้วยคำพูดนี้ ชายคนนั้นก็เริ่มที่จะยิ้ม
"จำในตอนทะเลทรายได้ไหม?"
ซังจินได้หยักหน้ารับและทำท่าทางตั้งใจฟัง
"เมื่อพวกเราได้กำจัดบาซิลิส พวกเราได้ตระเวนไปรอบๆทะเลทรายและพบกับสฟิงค์"
นักล่าคนอื่นๆได้จดจ่อไปที่เรื่องราวของเขา และเขาก็ได้เล่าต่ออย่างร่าเริงเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปริศนาและเข้าไปในโอเอซิส
ในช่วงท้ายเขาก็ได้เล่าถึงในตอนที่เขาได้รับตะเกียงและหยุดลง นักสู้จึงได้ถามเขาออกไปต่อ
"แล้ว?"
เขาได้เรียกร้องให้นักล่าสมบัติเล่าต่อ แต่เรื่องราวมันได้จบลงแล้วเพียงแค่นั้น
"อา..ตะเกียงนั้น...มันได้ทำมาจากทองคำดังนั้น...ฉันจึงได้ขายมันไปในตลาดมืด"
ไม่เหมือนกับในช่วงที่เขาได้เล่าในก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาได้พูดติดอ่าง โจรสลัดจึงตัดสินใจที่จะถามออกมา
"แล้ว นายได้รับเงินมาเท่าไหร่"
"อา อืมม...2000"
"2000?"
ผู้สอบสวนได้เบิกตากว้างออกมา โจรสลัดได้เลียริมฝีปากของเขาและนักสู้ก็แสดงความคิดเห็นออกมา
"ว๊าว นั่นมันสุดยอด"
ซังจินจ้องมองออกไปที่เขาและคิดขึ้นมา
"โกหก เขาได้ถูมัน 100%"
โครมไฟของซาดาเมียร์นั้นได้ถูกค้นพบในสภาพที่เสี่ยมโทรม มันเป็นไอเทมปกติที่มีทักษะเพียงแค่ถูเท่านั้น
ใช่แล้วทันนั้นทำมาจากทองแต่มันก็สกปรกและเสื่อมโทรมมากๆ ไม่มีทางที่จะมีใครตัดสินใจที่จะขายมันแทนที่จะลองถูมันก่อนแน่นอน
เนื่องนี้มันน่าจะเป็นว่าซาดาเมียร์ได้โผล่ออกมาและเขาก็วิ่งหนีไปในระฟว่างที่พรรคพวกของเขาได้ถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์ ซังจินยังคงมองไปที่นักล่าสมบัติและคิดเกี่ยวกับเขา
'คนโกหก แต่ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์...'
ซังจินนั้นได้สวมใส่ฉายา 'ผู้พิพากษา' เพื่อที่จะลองทดสอง 'หินแสวงหาฆาตกร' ถ้าเขทสามารถที่จะค้นหานักล่าสมบัติคนอื่นๆมาใช้ทักษะค้นหาที่อยู่ของบอสลับแทนได้ มันก็จะช่วยเขาได้อย่างมาก
'และแน่นอน รางวัลก็เห็นได้ชัดว่าเป็นของฉัน'
[การจู่โจมจะเริ่มขึ้นในอีก 3 นาที]
เมื่อโอเปอเรเตอร์กล่าวออกมา ผู้สอบสวนก็ได้ปรบมือเรียกความสนใจขึ้นมา
"ฉันว่าเราเสียเวลากันไปมากพอแล้ว ค่อยคุยเรื่องนี้กันในภายหลังดีกว่า ในตอนนี้เราควรที่จะวางแผนการจู่โจมในรอบนี้ก่อน"
เขานั้นเป็นคนที่สวมใส่เกราะเต็มตัวและถือไม้กระบอง ลักษณะของเขาเป็นแท้งโดยพื้นฐาน
ผู้สอบสวนนั้นเป็นฉายาที่จะช่วยลดดาเมจเวทมนตร์ลง ฉายานี้สามารถจะได้รับหลังการการถูกโจมตีโดยเวทมนตร์ใดๆกตาม ทั้งจากในบทที่ 3 บอสลิช หรือบทที่ 4 โชวรอช หรือแม้แต่จากเคาท์เดมิทรีในบทก่อนหน้านี้
เนื่องจากมันยังช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ระยะประชิด มันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแท้งผู้ที่มีความมั่นใจในพลังป้องกันของตนเอง
"ชื่อของฉันคือ ไวเด็น เพลเลอร์ อย่างที่พวกนายเห็นฉันเป็นแท้ง"
เขาจะต้องเป็นคนเยอรมัน ด้วยดวงตาสีเขียวและไหล่ที่กว้าง ในตอนนี้ซังจินก็นึงถึง 'ฮิวดิแบรนท์' จากสมาชิก 10 คนสุดท้ายในชีวิตก่อนหน้านี้ แม้ว่าฮิวดิแบรนท์นั้นจะสูงกว่า
โจรสลัดก็พูดออกมา
"ฉันจามาร์ ฉันใช้ดาบโค้งคู่"
และอย่างที่เขาบอกมา ได้มีดาบโค้งสองเล่มห้อยอยู่ข้างๆเอวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกสัญชาติออกมาก็ไม่มีใครใส่ใจ คนต่อมาก็คือนักสู้ชาวเอเชีย
"ฉันชิเกะโทกิ อย่างที่พวกนายเห็นฉันเป็นผู้ฝึกคาราเต้"
เขาอาจจะเป็นคนญี่ปุ๋นและเช่นเดียวกับที่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ฝึกคาราเต้ เขาแทบจะไม่มีไอเทมใดเลยที่สวมใส่อยู่ และแน่นอนว่าเขานั้นมีร่างกายที่มีกล้ามเนื้อมหาศาล
คนต่อมาก็คือนักล่าสมบัติ
"ฉันมัสตาฟา ฉันใช้มีดสั้น"
เขานั้นมีชื่อเดียวกันกับสิบคนสุดท้าย 'มัสตาฟา' แต่ว่ารูปลักษณ์และบุคคลิกของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชียง ในชีวิตก่อนหน้านี้มัสตาฟาเป็นคนที่เงียบขรึมและจริงจัง จากนั้นก็มาถึงตาของซังจิน เขาจึงได้ให้คำตอบที่เตรียมเอาไว้ออกไป
"เค อย่างที่เห็นฉันเป็นนักดาบ"
ไม่ได้มีใครที่จะสนใจเขาเป็นพิเศษแม้ว่าผู้สอบส่วนที่ถามเขาเกี่ยวกับฉายาในก่อนหน้านี้ก็ลืมไปแล้ว
"มีใครที่สามารถจะใช้เวทมนตร์ได้ไหม?"
ในขณะที่ทั้งสี่คนกำลังรวบตัวกันและปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผน ซังจินก็หาวออกมาและบิดตัว
"ฮ้าวว~"
เพื่อที่จะต้องไปที่มืดมิดยิ่งกว่าความมืด เขาจะต้องตื่นนอนเร็วกว่าปกติมากดังนั้นเขาจึงหาวออกมา ซังจินได้เช็ดน้ำตาออกไปในขณะที่คิดขึ้น
'ฉันจะต้องจบการจู่โจมอย่างรวดเร็วและทดลองใช้ 'หินแสวงหาฆาตกร' '
เขานั้นไม่รู้ว่ามันจะวาปเขาไปที่ไหนแต่ว่าเขาจะต้องทดลองใช้มันดู แบะในขณะนั้นเองโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศออกมา
[การจู่โจมจะเริ่มขึ้นในอีก 1 นาที]
เรื่องนี้แปลจนจบแล้วนะครับ สามารถติดต่ออ่านก่อนใครได้ที่เพจนี้เลยครับ > จิ้มเลย <