Chapter 55 - Black Market Sixth Shopping (2)
Chapter 55 - Black Market Sixth Shopping (2)
(ของแก้ไอเทมหนังสือของพระเอกจาก 'เรื่องราวของสามก๊ก' เป็น 'พงศาวดารสามก๊ก' แทนนะครับ)
เมื่อซังจินได้แตะไปที่ดาวนั้น โอเปอเรเตอร์ก็ได้เปิดหน้าต่างข้อมูลออกมา
พาราโนว่า - ดาวของผู้ไร้ชื่อ
เครื่องรางระดับตำนาน
ใช้งาน
รีเนม(I) - เปลื่ยนฉายา
คูลดาว 10 นาที
สำหรับบางคนชื่อก็คือทุกสิ่ง แต่สำหรับบางคนชื่อก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
"อันนี้ราคาเท่าไหร่"
ชายคนนั้นได้ชูนิ้วออกมาสองนิ้วพร้อมกับกล่าวออกมา
"20000"
ซังจินได้มองไปที่ดาวอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่ามันจะถูกวางไว้บนมือของเขา แต่การออกแบบภายในของมันดูวกวนจนทำให้ซังจินรู้สึกเหมือนกับถูกสะกดจิต
'20000...'
พิจารณาจากไอเทมที่เขาได้ซื้อในก่อนหน้านี้มาในราคา 10000 ก็มีค่ามากแล้ว แม้ว่าไอเทมที่ซังจินมีอยู่ในราคาที่แพงมากที่สุดตอนนี้ก็คือ 'พงศาวดารสามก๊ก' แต่ไอเทมชิ้นนี้ที่มีราคาถึง 20000 ก็มีความสามารถที่มากและสูงเช่นเดียวกัน
'ในทุกๆสิบนาทีฉันจะสามารถเปลื่ยนฉายาของฉันเพื่อที่จะใช้มันอย่าง100% ได้..ถ้าหากว่าฉันเปลื่ยนฉายาของฉันไปตามสถานการณ์....'
ซังจินได้เก็บความคิดนี้ลงไป แม้ว่าในแต่ละการโจมตีเขาจะได้รับผลงานและรางวัลมาเป็นจำนวนมาก แต่มันก็จะต้องผ่านไปอีกสองบทเพื่อที่จะเก็บสะสมเงินให้เพียงพอที่จะซื้อไอเทมนี้ ชายคนนั้นก็คงจะรู้เช่นกัน
"เยี่ยม แม้ว่าในตอนนี้นายจะไม่สามารถซื้อมันออกไปได้...แต่ว่านายก็รู้แล้วว่าของสิ่งนี้มันมีอยู่"
ชายคนนั้นได้เก็บดาวกลับเข้าไปในชุดคลุมของเขา ซังจินได้มองไปที่ชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง เขานั้นเป็นคนที่แตกต่างไปจากพ่อค้าคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง ในขณะนั้นเองซังจินก็นึกบางอย่างขึ้นได้
"เยี่ยม แล้ว...พอจะมีวิธีใดบ้างที่ฉันจะสามารถติดต่อกับนักล่าคนอื่นๆได้"
ชายคนนั้นได้เงียบลงไปครู่หนึ่งเพื่อที่จะพิจารณาคำพูดของซังจิน จากนั้นเขาก็ตอบกลับมา
"บอกฉันเกี่ยวกับสิ่งที่นายต้องการจะทำ"
"ตัวอย่างเช่น...ฉันได้พบกับใครบางคนในก่อนหน้านี้และกลายเป็นเพื่อนมี่ดีกับพวกเขา ฉันจึงต้องการที่จะพบกับพวกเขาอีกครั้งหรืออย่างน้อยก็สามารถที่จะส่งข้อความหากันได้"
"หืม...มันยากที่จะทำสำเร็จ โดยเฉพาะใน 'โลกนี้'...นายก็อาจจะพอรู้แล้ว.."
ชายคนนั้นหันหน้ามามองที่ลูกบาศก์ด้านหลังของซังจินและพูดออกมาราวกับจะคุยกับโอเปอเรเตอร์
"การติดต่อสื่อสารกันระหว่างนักล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกห้ามอย่างเคร่งครัด เว้นแต่ว่าคุณจะไปพบกันในระหว่างการจู่โจม..."
"งั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้หรอ"
ชายคนนั้นได้ชูนิ้วชี้ขึ้นมาและส่ายหัว
"ไม่ มันไม่ได้เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เพียงแค่...ในการที่จะเอาชนะโครงสร้างของโลกใบนี้ นายจะต้องมี 'พลังของพระเจ้า' "
"พลังของพระเจ้า?"
"ใช่แล้ว พลังของพระเจ้า"
ซังจินไอเอียงหัวอย่างสงสัยในคำพูดของชายคนนั้น แต่ชายคนนั้นก็ยังคงอธิบายต่อไป
"พลังของพระเจ้านั้นมันเป็นไม่ได้เป็นสิ่งที่นายเคยได้ยินหรือจินตนาการมา พลังของพระเจ้านั้นหมายถึงทักษะศักดิ์สิทธิ์ในการสร้างบางสิ่งบางอย่างจากความว่างเปล่า พลังแห่งการสรรค์สร้าง"
เขายังคงพูดอธิบายต่อไป แล้วก็
"ตัวอย่างเช่น..."
เขาได้เอาบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเขา
"บางอย่างเช่นสิ่งนี้"
มันเป็นขวดแก้ว มันได้ถูกตัดอย่างแม่นยำและมีรูปทรงสวยงาม พร้อมทั้งมีน้ำอยู่ภายใน
"มันคืออะไร"
ซังจินได้ถามออกมา และเขาก็ตอบกลับ
"สัมผัสมัน นายรู้อยู่แล้วว่าสามารถสัมผัสสิ่งของได้อย่างอิสระในตลาดมืด"
ซังจินได้วางมือของไปบนขวดแก้วนั้น
เจสส์ปิท - น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งบัพติศมา
สิ่งของในตำนาน
ทักษะใช้งาน
บัพติมา(I)
สร้างฉายา 'ผู้ถูกเลือก' ให้แก่เป้าหมาย
ฉันคือองุ่น นายคือบรั่น
'ตำนานโบราณ..'
แม้ว่าในชีวิตก่อนซังจินจะอยู่รอดไปจนถึงในช่วงท้าย แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสิ่งของในตำนานและทักษะที่น่าตกใจเช่นนี้
'มอบฉายา 'ผู้ถูกเลือก' ให้แก่เป้าหมาย..'
มันเป็นทักษะที่ดูแปลกๆประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา มันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะสัมผัสมันดูอีกครั้ง ภายนอกมันดูเหมือนกับขวดธรรมดาแต่เมื่อเขาลองสัมผัสมัน มันก็ให้ความรู้สึกแปลกๆ
"สิ่งนี้มันราคาเท่าไหร่"
ด้วยคำถามนี้พ่อค้าก็ถามกลับมาแทนที่จะตอบ
"นายคิดว่าสิ่งนี้มันราคาเท่าไหร่"
เมื่อซังจินไม่สามารถจะตอบได้ เขาก็หัวเราะออกมาและพดขึ้น
"เพียงแค่หนึ่ง"
****
"เพิ่มค่าความแข็งแกร่ง 2000 ความคล่องแคล่ว 2000 ความอดทน 1000 พลังเวท 500 และที่เหลือนำไปเพิ่มกับพลังจิตใจ"
[เพิ่มเรียบร้อยแล้ว]
"และ...สวมใส่ฉายาผู้พิพากษา"
[สวมใส่แล้ว]
ในที่สุดซังจินก็หยิบหนังสือสีดำมาไว้ข้างหน้าของเขา
หนังสือเวทมนตร์ - ภาพลวงตา
เวทมนตร์ดำระดับ 7
สร้างร่างเลียนแบบขึ้นมา โดยที่จำนวนจะขึ้นอยู่กับพลังเวท
ซาดาเมียร์ได้ให้คำแนะนำแก่เขาจากด้านข้าง
"มันเป็นเวทที่จะได้รับผลจากพลังเวทเป็นอย่างมาก นักเวทส่วนใหญ่จะใช้เวทนี้ในการถ่วงเวลาเพื่อที่จะร่ายเวทมนตร์อื่นๆ แต่สำหรับท่านผู้ที่เชียวชาญในวิชาดาบก็จะสามารถใช้มันสำหรับโจมตีได้เช่นกัน"
ซังจินหยักหน้ารับออกมา
"เรียนรู้"
หนังสือได้ถูกเผาออกไปด้วยเฟลวเพลิงสีดำ ไอเทมชิ้นต่อไปที่เขาตรวจสอบหลังจากหนังสือเวทมนตร์นั้นก็คือ 'กระดาษเวทมนตร์'
"ข้อมูลเกี่ยวกับที่ราบสูงทาราชาน"
ซังจินได้หยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาและก็หยิบขนมปังปิ้งที่อยู่ถัดไปข้างๆขึ้นมา จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากโรมแรมแล้วนั่งลงที่ตรงม้านั่งหย้าประตูพร้อมกับมองพระอาทิตย์ขึ้น
จากนั้นซังจินได้กัดขนมปังค้างไว้อยู่นาน ในสุดซาดาเมียร์ก็ถามออกมา
"ท่านเป็นอะไรไหม นายท่าน"
"อา หืมม..."
ซังจินได้กัดขนมปังออกก่อนและตอบกลับมา
"ไม่เป็นไร ฉันแค่กหลังคิดอยู่นะ"
"ถ้างั้นข้าจะกลับเข้าไปในตะเกียงแล้ว ได้โปรดเรียกข้าถ้าหากท่านต้องการความช่วยเหลือ"
ซาดาเมียร์ได้กลับเข้าไปในตะเกียงแล้วและในตอนนี้มีเพียงเคนที่ยังคงอยู่ข้างๆเขา เหมือนกับเข้าใจว่าซังจินกำลังทำอะไรอยู่เคนได้นั่งลงอย่างนิ่งๆ
ซังจินได้ครุ่นคิดขึ้นในหัวของเขาต่อไป
'มืดมิดยิ่งกว่าความมืด...มันมีอะไรที่มากกว่าที่ฉันคิด..'
''อย่างแน่นอน...'
ได้มีเสียงของคนอื่นเข้ามาขัดจังหวะความคิดของเขาจากภายในหัว คนๆนั้นคือเบสโกโร่ ซังจิยจึงถามเขาออกไป
"อะไร นายก็ถิดเช่นนั้นหรอ คุณปู่"
'ข้าไม่ใช่ปู่ของท่าน ข้าเป็นอัศวิน เรียกข้าว่าเบสโกโร่'
'ชิ นายเป็นแค่ผี ทำไมถึงต้องเรื่องมากด้วย'
"เอาหละ เบสโกโร่ นายสามารถจะมองเห็นไหม"
'ทุกๆสิ่งที่ท่านเห็นข้าก็จะเห็น ทุกๆสิ่งที่ท่านได้ยินข้าก็จะได้ยิน'
มันเป็นการเปิดเผยเกืนไปจนไม่น่าพอใจ
'ฉันควรจะถอดมันออกมาในตอนที่ไม่จำเป็นต้องใช้'
ซังจินได้คิดขึ้นกลับตัวเองและเขาก็ตอบกลับมา
"คุณคิดว่ามันคืออะไร ที่นั้น? ชายคนนั้น?"
'ฉันไม่แน่ใจนัก...แม้ฉันจะเป็นผีก็พบว่าเขาดูประหลาดมาก เขานั้นเป็นผู้ชายจริงๆหรอ หรือผี แต่เขาก็ดูไม่เหมือนเช่นนั้น เขานั้นดูใกล้เคียงกับบางอย่าง....เช่น ปีศาจหรือพระเจ้า'
ชายคนนั้นเป็นคนที่ดูจะลึกลับในหลายๆด้าน
"เยี่ยม ไม่ว่าเขาจะเป็นปีศาจหรือพระเจ้า...แต่เขาก็มีไอเทมที่ฉันต้อง"
'แต่ทำไมท่านถึงรู้สึกว่าไอเทมเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็น ฉันสามารถจะยอมรับในดาวได้ แต่ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์หละ ท่านใช้มันที่ไหน'
"...มันไว้เป็นเครื่องหมายสำหรับคนที่ฉันต้องการ"
'คนที่ท่านต้องการ'
"ใช่แล้ว แข็งแกร่งแต่ก็ยังคงไว้ใจได้'
ผีนั้นได้เริ่มที่จะหัวเราะออกมากับคำพูดของเขา
"เฮะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ~"
เสียงหัวเราะที่ดูน่าสยดสยองได้ดังขึ้นมาภายในหัวของเขา เขาจึงถามกลับไป
"นายหัวเราะทำไม"
'สิ่งนั้นมันไม่มีอยู่หรอก'
ซังจินได้ปิดปากลง เขายังรู้ด้วยถึงสิ่งที่เบสโกโร่บอกออกมา ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับมันมากมาย เบสโกโร่ก็ยังคงพูดต่อไป
'เยี่ยม...คนที่จิตใจดี ผู้ที่ช่วยเหลือคนอื่นๆนั่นคือสิ่งที่ดี แต่เป็นเพราะพลังอำนาจไม่ได้อยู่รอบๆตัวของเขา มันเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะเปลื่ยนไปเมื่อได้มีพลังอำนาจที่มากขึ้น'
ซังจินหยุดลงและคืดย้อนกลับไปครู่หนึ่ง
'เซริน อิกกอ มาฮาเดส'
และจากนั้นเขาก็ตอบกลับมา
"ไม่ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป"
'แน่นอน มันมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ แต่ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเช่นนั้น เชื่อข้า ข้าได้อยู่ในสนามรบมา 40 ปี ข้าได้พบกับสหายนับไม้ถ้วนและได้เห็นพวกเขาส่วนใหญ่ตายไป'
ซังจินหังอย่างเงียบๆ ประสบการณ์ 40 ปีของเบสโกโร่นั้นเป็นสิ่งที่ควรจะฟังไว้
'แต่ในตอนท้ายที่สุด ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่แข็งแกร่งและไร้ซึ่งความปราณี เสียสละ และขโมยของทุกสิ่ง ผูกขาดทุกอย่าง ที่จะช่วยให้เขามีชีวิตรอดได้'
"ที่นายเชื่อเช่นนั้นเพราะพวกนายนั้นเกิดมาอยู่ในสนามรบตลอดชีวิต แต่ที่ๆฉันเกิดมานั้นแตกต่างจากที่แห่งนี้"
ด้วยคำพูดของเขา เบสโกโร่ก็ตอบกลับมาสั้นๆ
'มันเหมือนกันทุกที่นั้นแหละ'
และด้วยคำพูดนั้น เบสโกโร่ก็ได้เงียบหายไป ซังจินได้ส่ายหัว พยายามที่จะลบสิ่งที่เบสโกโร่จะยัดใส่เข้าไปในหัวของเขา
เขานึกย้อนกลับไปในอดีต ถึงเซริน อิกกอ มาฮาเดส คนอื่นๆที่เขาได้เจอในชีวิตก่อนหน้านี้ สมาชิก 10 คนสุดท้าย
'อรูวโจ รูชิน นาด้า อัมคูบ้า ไอริช ฮิวดีแบรน ซันซุเกะ มัสตาฟา และ...เอ็ดเวิร์ด'
ทุกๆคนในกลุ่มนี้เป็นคนที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ทั้งทักษะ ความสามารถและโชคพวกเขามีมันทั้งหมด จนถูกเรียกได้ว่า 'ผู้ถูกเลือกโดยพระเจ้า'
ซังจินนั้นเป็นนักดาบที่ดีที่สุดในกลุ่มพวกเขา แต่ในแง่ของความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาก็ไม่สูงเท่ากับอีก 9 คนที่เหลือ ปัญหาเดียวที่ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 9 คนมีก็คือความหยิ่งทรนงในตนเอง
'ฉันจะทำมันเองในครั้งต่อไป'
'ไม่ มันจะต้องเป็นฉัน'
'ถ้าหากนายไม่ต่อสู้ค่าผลงานก็จะถูกตัดออกไป'
'หุบปาก นายมีความคิดเป็นอย่างไรในการจู่โจมครั้งล่าสุดเมื่อเขาพยายามที่จะลุยเดี่ยวกับบอส
และในท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกกำจัดออกไป เหตุผลที่พวกเขาถูกกำจัดนั้นไม่ใช่เพราะการขาดแคลนสเตตัสหรือทักษะ พวกนเขสแต่ละคนนั้นต่างก็เต็มไปด้วยพลังที่ล้นเหลือ แต่การที่พวกเขาถูกกำจัดมันเนื่องมาจากการที่พวกเขาไม่สามารถจะร่วมมือกันได้
ซังจินก้มลงไปมองดาบทั้งสองเล่มของเขาและคิดขึ้นมา
'ฉันอาจจะแข็งแกร่งขึ้นในเวลานี้ หลังจากที่ได้เคลียการจู่โจมแบบ 100% ทุกๆการจู่โจม'
ในเก้าคนสุดท้ายอาจจะมีคนที่เขาไม่รู้จักโผล่ออกมาและก็อาจจะมีบุคคลที่เคยถูกกำจัดออกไปในรอบ 10 คนสุดท้ายของชีวิตที่แล้วโผล่ออกมาเช่นกัน
ซังจินยืนขึ้น
'ดาวของผู้ไร้ชื่อและน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งบัพติศมา ฉันจะต้องซื้อมันทั้งคู่และสร้างกลุ่ม 10 คนสุดท้ายใหม่ที่ฉันเลือกขึ้นมา และด้วยทีมใหม่นี้ฉันก็จะต้องผ่านไปจนถึงการจู่โจมสุดท้ายและเคลียมันได้สำเร็จ'
หลังจากที่เขานึกบางอย่างขึ้นได้เขาก็ได้เอาของบางอย่างออกมาจากแจ๊คเก็ต มันเป็นแหวนที่ดูจะธรรมดาที่ทำมาจากโลหะ
มีเฉพาแค่บางส่วนที่ดูจะแปลกๆคือส่วนที่มันถูกสร้างมาคล้ายกับสายไฟสองเส้นบิดเบี้ยวไปรอบๆ ซังจินได้หยิบมันขึ้นมาและมองดูหน้าต่างสถานะ
แหวนฮีลิค - แหวนของวอล็อค
แหวนระดับวีรบุรุษ
ทักษะติดตัว
อำนาจการปกครอง(I)
จะได้รับหนึ่งเหรียญขาวจากผู้ที่จงรักภักดีและจูบแหวนวงแหวน บรรดาผู้ที่จูบแหวนวงนี้ก็จะได้รับเหรียญดำรางวัลจู่โจมเพิ่มขึ้น 10% ในอนาคต
สามารถใช้ได้เพียงแค่คนละครั้งเท่านั้น
ในระหว่างสองฝากฝั่งพวกเขาได้คุกเข่าลงและร้องเพลง
กษัตริย์องค์ใหม่ได้ปรากฏออกมาแล้ว
มันเป็นไอเทมที่เขาจะต้องจ่ายเงินไปถึง 3000 เหรียญเพื่อที่จะซื้อมันมา ซังจินได้นึกย้อนไปถึงบทสนาก่อนหน้านี้
'แค่เพียง...หนึ่ง'
'ใช่แล้วแค่เพียงเหรียญเดียว แต่ว่ามันเป็นสกุลเงินที่แตกต่างกัน'
เขานั้นไม่เคยได้ยินเรื่องเหรียญขาวมาก่อนเลย แม้แต่ในช่วงชีวิตก่อนของเขา
'ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่...'
ซังจินกำมือแน่นและยืนขึ้น
'ฉันจะต้องได้รับสิ่งเหล่านี้และมีพลังใหม่เพิ่มขึ้นมาจากนั้นก็จะสร้างกฏของฉันให้อยู่เหนือการจู่โจม'
ซังจินได้คิดถึงสิ่งที่เขาจะต้องทำต่อไป และดวงอาทิตย์ก็ได้ค่อยๆลอยสูงขึ้นไปในยามเช้า
เรื่องนี้แปลจนจบแล้วนะครับ สามารถติดต่ออ่านก่อนใครได้ที่เพจนี้เลยครับ > จิ้มเลย <