ตอนที่ 40 ไม่อาจก่อกบฏ!
ต้อก ต้อก!
หัวหน้าพ่อบ้านเงียบลง เขาเคาะนิ้วบนโต๊ะขณะที่คิดหนัก
เขาอดที่จะคิดถึงข้อเสนอของเฟิงหลินไม่ได้ แต่มีบางอย่างที่รู้สึกผิดปกติ
การเข้าเรียนที่วิทยาลัยระหว่างดวงดาวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำไมเขาถึงมั่นใจนัก?
มหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวคัดเลือกนักศึกษาจากประชากรทั่วทั้งจักรวาล และมีจำนวนผู้สมัครมากขึ้นทุกปี มีเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิสอบ มีนักเรียนไม่มากนักที่สามารถเข้าร่วมการสอบได้ และการแข่งขันก็ดุเดือด ความเป็นไปได้ที่จะได้รับเลือกคือหนึ่งในแสน…บางทีอาจเป็นหนึ่งในล้าน
สถานะพลังของเฟิงหลินเพียงแค่1.5 และเป็นเพียงผู้ฝึกหัด เขาอยู่ไกลจากการเป็นผู้บ่มเพาะแท้จริงมาก เขาจะเข้ามหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวได้ยังไง?
เราต้องเข้าใจว่ามีอัจฉริยะมากมายในแต่ละรุ่นของตระกูลเฟิง และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่น่าจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดวงดาว
ลืมเกี่ยวกับการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวไปได้เลย ภายในระยะเวลาเจ็ดถึงแปดเดือนก่อนการสอบ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กฝึกหัดจะฝึกฝนพัฒนาอย่างหนัก และกลายเป็นผู้บ่มเพาะที่แท้จริงได้!
เขาจะต้องกลับไปทำงานอย่างเชื่อฟังเมื่อถึงวันนั้น?
หัวหน้าพ่อบ้านไม่คิดว่าสมาชิกระดับต่ำอย่างเขาจะสามารถแซงหน้าสมาชิกคนอื่นในตระกูลได้ในเวลาเพียงเท่านี้ และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวได้
ในที่สุดเขาก็จะรู้ว่าเขาตัดสินใจผิด
ไม่ นั่นไม่ถูกต้อง!
เขาเกือบถูกหลอกแล้ว ไอ้เด็กนี่!
ถ้าเขาเห็นด้วย เฟิงหลินก็จะเป็นอิสรภาพ ถ้าเขาชนะหรือต่อให้เขาแพ้ เขาก็จะยืดเวลาในการฝึกงานที่โรงงานไปได้กว่าครึ่งปี เขามีแต่ได้กับได้
โดยไม่มีสัญญาณเตือน เขาทำตัวอยู่เหนือกฎของตระกูลและก่อกบฏ ถ้าทุกคนทำตามมันจะไม่วุ่นวายไปหมดงั้นรึยังไง?!
เด็กนี่ ไม่ใช่เล่นเลย!
ไม่ เขาต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ
เมื่อดูท่าทางสงบนิ่งของเฟิงหลินแล้ว หัวหน้าพ่อบ้านก็อ้าปากค้าง เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะยังเด็ก แต่ข้างในเขาไม่เลวเลย ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังขาดประสบการณ์!
เขาเยาะเย้ยยิ้มมุมปาก หัวหน้าพ่อบ้านพอใจ เขาจะไม่ยอมให้ใครใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในกฎของตระกูล!
ไม่มีใครสามารถเลี่ยงกฎของตระกูลได้! ไม่มีวัน!
"ช่างตลกสิ้นดี มันเป็นความรับผิดชอบของเธอที่จะต้องทำหน้าที่ให้กับตระกูล เธอไม่สามารถละเลยไปได้ แต่เธอกลับกล้าใช้เรื่องนี้มาเสนอตระกูล! ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูล เธอควรจะปฏิบัติตามกฎอย่างเชื่อฟัง และไม่เสียเวลาไปกับฝันลมๆแล้งๆ ตระกูลจะไม่มีทางอนุญาติให้เธอเดิมพันด้วยสิ่งนี้! " หัวหน้าพ่อบ้านตอบอย่างเย็นชา แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่คำพูดของเขาก็ไร้อารมณ์ขัน กดเฟิงหลินให้ตกไปในจุดตกต่ำ
เฟิงหลินขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าหัวหน้าพ่อบ้านจะไม่ยอม
เขาตอบช้าๆ "เป็นไปได้ไหมว่าในฐานะหัวหน้าพ่อบ้าน ท่านไม่มีความกล้าเลยแม้แต่น้อย!! พนักงานโรงงานเล็กๆคนหนึ่งจะช่วยอะไรท่านได้ ถ้าท่านชนะผมจะกลับไปทำงานอย่างเชื่อฟัง และถ้าท่านแพ้ ตระกูลก็จะได้นักศึกษามหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวเพิ่ม นั่นเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่หรือยังไง?”
"ล้อกันเล่นหรือไง!" หัวหน้าพ่อบ้านไม่ซ่อนท่าทางรังเกียจ "อย่ามาเล่นอุบายกับฉัน! ยั่วโมโหฉันไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าคนอย่างแกสามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาวได้ งั้นผู้อาวุโสและอัจฉริยะนับไม่ถ้วนของตระกูลเฟิงจะมีค่าอะไร? ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ แกคิดว่าแกทำได้อย่างงั้นหรอ? กฎของตระกูลไม่ได้มีไว้ให้แกเล่น ถ้าแกยังยืนยันที่จะต่อต้าน อย่ามาโทษว่าเป็นเพราะฉัน!”
เขาเอ่ยเตือนถึงภัยที่จะมาถึงตัวเฟิงหลิน
สีหน้าของเฟิงหลินเปลี่ยนไป เขารู้สึกกดดันในหัวใจ
ความเข้มงวดเรื่องระดับชั้นของตระกูลทำให้เขาหายใจไม่ออก กฎทุกข้อเป็นเหมือนห่วงโซ่พันรอบตัวเขาให้อยู่ต่ำกว่า ไม่มีทางที่จะหนีและเป็นอิสระได้
ตอนนี้หัวหน้าพ่อบ้านไม่แม้แต่จะให้โอกาสเขาในการเดิมพัน และบังคับให้เขาต้องยอมรับ!
หัวหน้าพ่อบ้านมองดูอย่างพอใจกับสีหน้าสิ้นหวังของเฟิงหลิน เขาพยักหน้าเมื่อรู้ว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา
"ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ให้โอกาสเธอ! เธอต้องการเลื่อนการฝึกงานออกไปใช่ไหม? ง่ายมาก” ในฉับพลันเขาพูดอย่างสนุกขณะที่รอปฏิกิริยาของเฟิงหลินว่าจะสิ้นหวัง? หรือสิ้นหวัง? และสิ้นหวังมากขึ้น!
"ยังไง?" เฟิงหลินถามด้วยความสงสัยในความเมตตาของหัวหน้าพ่อบ้าน เงื่อนไขต้องเป็นสิ่งที่ยั่วโมโหเขาแน่ๆ
ถึงอย่างนั้น เพื่ออนาคต เขาก็ไม่สนใจอะไรมากนัก
"มีสองวิธี! หนึ่งแกต้องกลายเป็นผู้บ่มเพาะพื้นฐานให้ได้ก่อนการฝึกงาน ถ้าเป็นเช่นนั้น ตระกูลก็จะสนับสนุนแกอย่างเต็มที่ในการสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาว อีกวิธีหนึ่งคือแกต้องชดเชยให้กับตระกูล จ่ายเงินหนึ่งล้านเหรียญดาราหลังจากนั้นแกจะเป็นอิสระ! " หัวหน้าพ่อบ้านหัวเราะอย่างชั่วร้าย
"อะไรนะ?" ตาของเฟิงหลินมืดลง เขามีเวลาเพียงสามสัปดาห์ก่อนเริ่มการฝึกงาน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลายเป็นผู้บ่มเพาะพื้นฐานในระยะเวลาสั้นเพียงเท่านี้ แต่วิธีอื่นคือต้องจ่ายเงินมากถึงหนึ่งล้านเหรียญดารา เขาจะจ่ายเงินมากขนาดนี้ได้ยังไง? ปล้นกันชัดๆ?
นอกจากนี้ในฐานะสมาชิกระดับต่ำ ตระกูลให้อะไรเขาในการเติบโตล่ะ? สารอาหารเกรดต่ำและไม่มีอะไรมากกว่านั้น!
ยังกล้ามาเรียกเงินหนึ่งล้านเหรียญดารา?
คงเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในโลกแล้วล่ะ!
เมื่อสังเกตความเงียบของเฟิงหลิน รอยยิ้มของหัวหน้าพ่อบ้านก็คลายลง "ไม่มีการบ่มเพาะ! ไม่มีเงิน? แล้วแกยังต้องการเจรจากับฉันอีก? แกคิดว่าตระกูลนี้เป็นองค์กรเพื่อการกุศลหรือยังไง?ไม่ ตระกูลพยายามเลี้ยงดูแก แต่แกกลับจะหนีความรับผิดชอบ แกมีสองทางเลือกเท่านั้น ทำหน้าที่ของแกอย่างเชื่อฟัง หรือจ่ายค่าธรรมเนียม! นอกจากนั้นไม่มีอะไรต้องพูดกัน!”
เสียงหัวเราะชั่วร้ายของเขาดังไม่หยุด เมื่อมองเห็นความสิ้นหวังและหมดหนทางของเฟิงหลิน
เฟิงหลินเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง ปฏิเสธที่จะยอมแพ้แบบนั้น
เขารู้ว่าเขาสามารถยอมแพ้ได้ แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้น เขาจะไม่สามารถแก้ไขชีวิตของเขาได้
"ผมปฏิเสธ!" แม้ว่าเขาจะรู้ว่าผลที่จะเกิดขึ้นจะเกินจินตนาการได้ก็ตาม แต่เฟิงหลินก็ยังปฏิเสธ
เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาไม่มีที่ให้ถอยหลัง
"ว่าไงนะ?" สายตาของเฟิงหลางตกใจมาก ผู้ชายคนนี้อยากตายหรือยังไงกัน? หัวหน้าพ่อบ้านบอกเขาแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังดูเหมือนไม่กลัวเลย หัวหน้าพ่อบ้านไม่มีทางยอมแน่
ดูเหมือนว่าเฟิงหลางจะเห็นจุดจบที่น่าสังเวชของเฟิงหลิน
ความจริงดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
"อีกครั้ง?" เมื่อได้ยินคำพูดของเขา การแสดงออกของหัวหน้าพ่อบ้านก็ดุร้าย รัศมีหนาทึบที่ล้อมรอบเขาก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นพุ่งมาหาเฟิงหลิน
แรงกดดันมหาศาลที่เขารู้สึกได้ก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว มันให้ความรู้สึกเหมือนไม่ใช่แค่เนินเขาที่กดทับเขาอยู่ แต่ตอนนี้เป็นภูเขาทั้งลูกที่กดทับอยู่
เฟิงหลินพยายามยืนหยัด
แคร่ก แคร่ก
เสียงเริ่มดังลั่น เสียงกระดูกสันหลังของเขาดังเหมือนจะแตก
กระดูกสันหลังของผู้ชายห้ามแตก เพราะถ้าแตกแล้วจะไม่สามารถยืนตัวตรงได้อีกต่อไป
เฟิงหลินมีสีหน้าหม่นหมอง เขาจับมือทั้งสองข้างแน่น เล็บของเขาจิกลงไปในฝ่ามือ เลือดเริ่มไหลออกมา
ฉันจะต้องไม่ยอมแพ้!
นี่คือพลังของผู้บ่มเพาะพื้นฐานใช่ไหม? พลังของเขาเท่าไหร่กันนะ 10? 20? หรือมากกว่านั้น...
เขาไม่เคยรู้สึกอ่อนแออย่างนี้มาก่อน และความกระหายที่จะแข็งแกร่งกว่าเดิมก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
น่าเสียดาย ในท้ายที่สุดเขาก็ยังขาดเวลาและโอกาส ความกดดันของโชคชะตาปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาก่อนที่เขาจะมีโอกาสเพิ่มพลังของตัวเอง
ทำไมเขาต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความไม่พอใจเช่นนี้? ถ้ามีเวลามากกว่านี้ เขาจะทำลายทุกอย่างด้วยหมัดของเขา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ หัวหน้าพ่อบ้านก็หมดความอดทน
เพียงการขยับมือเล็กน้อยของเขา พลันเกิดเป็นพายุกระโชกรุนแรง เช่นเดียวกับกระสอบทรายที่ไร้การป้องกัน ร่างกายของเฟิงหลินถูกเหวี่ยงออกไปอย่างแรง กระแทกกับกำแพงและล้มลงกับพื้น
"ยาม! เฟิงหลินท้าทายกฎของตระกูล พาเขาไปสถานกักกันหนึ่งสัปดาห์! ถ้าเขากระทำความผิดใดๆในช่วงเวลานั้น งั้นก็บังคับเขาเข้าโรงงานของตระกูล!" เสียงของหัวหน้าพ่อบ้านดังและเต็มไปด้วยอำนาจ แม้เขาจะเห็นว่าเฟิงหลินก่ออาชญากรรม แต่ก็ไม่คุ้มกับโทษประหารชีวิต เขาตัดสินใจลงโทษที่รุนแรงที่สุดแล้ว!
ประตูเปิดออกโดยไม่มีเสียง มีชายกล้ามใหญ่สามคนแต่งตัวด้วยชุดดำเดินกันมาอย่างหนักแน่น
นี่คือฝ่ายบังคับของตระกูล ทุกคนมีค่าสถานะพลังอย่างน้อย3 พวกเขาดุร้ายและมีสีหน้าเย้ยหยันพลางยืนล้อมรอบเฟิงหลิน
เฟิงลินลุกขึ้นและเซไปมา "เอามือออกไป ฉันเดินเองได้!"
ท้ายที่สุด เขาก็ทิ้งความประทับใจสุดท้ายไว้แก่หัวหน้าพ่อบ้านก่อนที่จะออกไป เขาไม่ยอมงอเลยจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย!
ที่ด้านข้างเฟิงหลางเองก็ตกตะลึง
ช่างเป็นเด็กที่อวดดีจริงๆ!
หัวหน้าพ่อบ้านจ้องมองอย่างเย็นชา หลังจากร่างของเฟิงหลินห่างออก เขามองราวกับว่ากำลังมองวัตถุที่ไม่มีชีวิต
หืมม ต้องการที่จะต่อต้าน และนำความสับสนวุ่นวายมาสู่กฎของตระกูลโดยไม่ต้องเป็นผู้บ่มเพาะพื้นฐานใช่ไหม ฝันไปเถอะ!
อย่างช้าๆ เขากางมือออก นิ้วมือของเขาม้วนงอเหมือนกำลังถืออะไรบางอย่าง ดูเหมือนภูเขาวูซูของพระพุทธเจ้า *
(T / N: วูซูในภาษาจีนสามารถแปลได้โดยตรงเป็นนิ้วมือทั้งห้า)
เฟิงหลินก็เหมือนลิงในฝ่ามือของเขา ไม่ว่าจะกระโดดสูงแค่ไหน...
เขาไม่มีทางก่อกบฏได้!