Chapter 7: สามกระบวนท่า
Chapter 7: สามกระบวนท่า
เสื้อคุณภาพทั่วไปก็สามารถที่จะทำมาจากขนหมาป่า เมื่อแฮปปี้กลับไปยังเมืองกูซูพร้อมกับรางวัลที่เขาหาได้ เขาก็ได้รับเงินมาสี่สิบตำลึงเงินมาจากร้านค้าเสื้อผ้า
เมื่อเป็นมือใหม่ เขาก็สามารถที่จะซื้อชุดเซ็ตอุปกรณ์คุณภาพปานกลางด้วยราคาสี่สิบตำลึงเงินได้ ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็ยังสามารถซื้อวิชาศิลปะการต่อสู้ธรรมดาทั่วไปได้อีกสองเล่ม หรือจะเป็นกระบี่ยาวหรือดาบสั้น พร้อมกับไอเทมแบบนี้ เขาก็สามารถที่จะทำให้ตัวเองเหมือนกับนักเดินทางได้!
อย่างไรก็ตาม แฮปปี้ก็ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น พร้อมกับเงินในมือของเขา เขาก็รีบออกไปจากเมืองและมุ่งตรงไปยังป่าไผ่ม่วง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมือง
เขาก็ใช้เวลาทั้งวันในการจัดการกับหมาป่าหนุ่มนับสิบตัว และพวกมันก็ทำให้เขาพัฒนาขึ้นมามาก นอกจากสี่สิบตำลึงเงินแล้ว พวกมันก็ยังทำให้หมัดยาวของเขาเลื่อนจากดินแดนแรกไปเป็นดินแดนที่หก ศิลปะการต่อสู้ก็เลื่อนเป็นเลเวล 53.8
อย่างไรก็ตาม เมื่อความรุนแรงของวิชาเพิ่มขึ้น มันก็เป็นเรื่องยากมากขึ้นในการที่จะทำให้มั่นใจว่าขนหมาป่าจะยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ในช่วงบ่ายของวัน แฮปปี้ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเก็บขนหมาป่าอีกแล้ว เขาก็ปล่อยพวกมันทิ้งไว้ให้แห้งจนลมพัดพวกมันหายไป
วิธีที่จะเพิ่มเลเวลของศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดนั้นเหมือนกัน ยิ่งเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเท่าใด ยิ่งคู่ต่อสู้ที่เผชิญหน้าแข็งแกร่งเท่าใด ร่างกายและจิตใจก็จะประสานให้มันสมบูรณ์แบบมากเท่านั้น ศิลปะการต่อสู้ก็ยิ่งจะพัฒนาเร็วขึ้น
เมื่อศิลปะการต่อสู้เลื่อนไปถึงดินแดนที่หก มันก็จะเป็นเรื่องที่ยาก สำหรับหมาป่าหนุ่มที่จะช่วยพัฒนาศิลปะการต่อสู้ให้ไปไกลขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม เมื่อมันเลื่อนถึงดินแดนที่หก แฮปปี้ก็ออกมาจากป่า และไปทำตามสัญญา
“เหอะ เธอมาจริงๆด้วย”
มันก็ไม่ได้มีคนมากเท่าไหร่ที่ยืนดูอยู่รอบนอกป่าไผ่ม่วง แต่มันก็มีคนบางคนที่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกับสำนักของเจ้าของป่าไผ่ม่วง เมื่อพวกเขาเห็นเด็กหนุ่มรับใช้จากตระกูลมู่หลง ความพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
ด้วยการตัดสินใจของพวกเขา พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ถึงความแตกต่างระหว่างแฮปปี้ในวันนั้น
“ไป”
เจ้าของป่าไผ่ม่วงก็ส่งสัญญาณมาจากศาลาและนักดาบรับใช้ก็เดินออกมาพร้อมกับดาบ เขาก็ยืนเหมือนกับกำแพง ก่อนที่แฮปปี้จะพบกับร่องรอยของการเยาะเย้ยและการดูถูกจากดวงตาของเขา
“ข้าทำพลาดไปเอง ที่จำเป็นต้องโจมตีถึงสองครั้งในครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ ข้าจะไม่ให้โอกาสกับเจ้าอีกแล้ว”
เมื่อนักดาบรับใช้รับรู้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าเขาเป็นสายลับที่ส่งมาจากตระกูลมู่หลง เพื่อเรียนรู้พื้นฐานของพวกเขา เขาก็ไม่ได้เป็นกันเองเหมือนกับแต่ก่อนอีกแล้ว
แฮปปี้ก็ไม่ได้สนใจที่จะคุยด้วยเช่นกัน เขาก็ทำท่าเคารพให้อีกฝ่ายเท่านั้น
“ได้โปรดสั่งสอนข้าด้วยครับ!”
นักดาบรับใช้อาจจะเร่งรีบที่จะส่งเขาออกไป แต่แฮปปี้ก็เร่งรีบเหมือนกัน ที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเขาได้ฝึกฝนอย่างหนักในหลายวันที่ผ่านมา ในขณะที่ความต่างชั้นระหว่างความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมาก แฮปปี้ก็เชื่อว่าเขามีโอกาสจำนวนหนึ่งในการรับการโจมตีสามครั้ง
ผู้หญิงในศาลาก็หยุดเล่นสีธเออร์ พร้อมกับดวงตาของเธอที่ลุกวาว เธอก็มองไปที่พวกเขาที่อยู่ในป่าไผ่ ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ
ผู้เล่นที่อยู่รอบๆ ก็รู้สึกว่าสถานการณ์มันน่าตื่นเต้นอย่างแปลกๆ พวกเขาก็รีบหาจุดยืนรับชมดีๆ สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็เล่นโลกศิลปะการต่อสู้มาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่เคยที่จะได้พบกับการต่อสู้ระหว่าง NPC กับ ผู้เล่นเลยสักครั้ง
“รับวิชาไม้ปีศาจบ้าคลั่งนี้ไปซะ!”
เมื่อนักดาบรับใช้ตะโกนคำเหล่านี้ออกมา เขาก็ไม่ได้ใช้ดาบยาวในมือของเขา เขากลับโจมตีด้วยมือของเขา ซึ่งเล็งไปที่หน้าอกของเด็กหนุ่มแทน
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเด็กหนุ่มมาจากตระกูลมู่หลงและได้รับการสั่งสอนมาจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลัง เขาก็ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้ที่พึ่งเรียนศิลปะการต่อสู้จะสามารถเรียนอะไรที่ใช้ประโยชน์ได้ ด้วยเวลาไม่กี่วัน
การโจมตีด้วยหมัดของเขาอาจจะดูรุนแรง แต่เขาก็รั้งไว้เล็กน้อย เขาก็ไม่ได้ใช้พละกำลังทั้งหมด
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเห็นได้ชัดเจน แฮปปี้ก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย
ทันทีที่การโจมตีของนักดาบรับใช้สูงถึงขีดสุด แฮปปี้ก็ขยับตัวไปด้านข้างและหลบการโจมตีได้อย่างเฉียดๆ ด้วยการทำแบบนี้ ด้วยการทำแบบนี้ เขาก็จัดการหลบการโจมตีแรกของนักดาบรับใช้ได้แล้ว
เขาหลบอย่างใจเย็นและดูสวยงาม การหลบนั้นทั้งคล่องแคล่ว เรียบง่าย และแสดงให้เห็นว่าเขาหลบได้ไม่ยากเลย ในเวลาเดียวกัน นักดาบรับใช้ที่ประมาทและโจมตีพลาดก็ดูโง่เง่าอย่างมาก
“เหลือการโจมตีอีกสองครั้ง”
“เจ้าเด็กโอหัง!”
หลังจากโดนเด็กเยาะเย้ย นักดาบรับใช้ก็เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ
วู้ชชชช!
ดาบในมือของเขาก็เขวี้ยงขึ้นไปกลางอากาศ นักดาบรับใช้ก็ทิ้งดาบของเขาไป! เขาก็ทำมือเป็นรูปของกรงเล็บและเคลื่อนไหวเหมือนกับว่าเขากำลังบินอยู่ ในชั่วพริบตา เขาก็เข้ามาใกล้แฮปปี้ และไม่เหลือเวลาให้เขาหลบเลยแม้แต่น้อย
แต่แฮปปี้ก็ไม่ได้วางแผนที่จะหลบมัน!
เขาก็ยอมให้เขาโดนจับที่ไหล่ หลังจากนั้น นักดาบรับใช้ก็ตกตะลึงกับการกระทำของเขา เขาก็ปล่อยพลังออกมาและใช้ท่าพลิกไพธ่อน เขาก็บดไหล่ของเขาและทำให้นักดาบรับใช้ตกใจ แล้วเขาก็ปลดปล่อยความแข็งแกร่งที่เขามีที่ไหล่ของเขา และชนเข้ากับอกของนักดาบรับใช้ และเขาก็ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามีส่งชายหนุ่มกระเด็นไปไกลหลายเมตร
เด็กหนุ่มและนักดาบก็ลุกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน!
“ยังเหลือการโจมตีอีกครั้ง…”
“เยี่ยมมาก!”
ก่อนที่แฮปปี้จะพูดได้จบ นักดาบรับใช้ก็พูดเสียงดังออกมา เขาก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับประหลาดใจแทน
“ใช้ท่าพลิกไพธ่อนได้เยี่ยมมาก เจ้านี่เป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาดจริงๆ! เยี่ยมมาก ข้ายอมรับความแพ้ของฉันแล้ว!”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เข้าใช้กลยุทธ์ของแฮปปี้ทั้งหมด
แฮปปี้ได้ใช้วิธีการเยาะเย้ยใส่เขา ในการโจมตีครั้งแรก และก็หลบการโจมตีของเขาอย่างฉิวเฉียด ด้วยการทำแบบนั้น เขาก็จะรับการโจมตีนี้ได้ และเขาก็ยังซ่อนความจริงที่ว่าเขาได้ฝึกฝนหมัดยาวเส้าหลินอีกด้วย หลังจากนั้น ในช่วงคับขัน เขาก็ใช้ท่าพลิกไพธ่อนเพื่อหลบหนีเงื้อมมือและรับการโจมตีครั้งที่สอง!
เนื่องด้วยวิธีการนี้ ไม่ว่าเขาจะสามารถรับการโจมตีครั้งที่สามได้หรือไม่ แฮปปี้ก็ได้รับการพิจารณาว่าเขาได้ผ่านการโจมตีทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งตระกูลมู่หลงได้ชนะการเดิมพันนี้
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าพอใจในการแพ้เด็ก แต่มันก็คุ้มค่าพอที่จะโดนเล่นโดยเด็กที่ชาญฉลาดที่มีความเข้าใจที่ยอดเยี่ยมแบบนี้! นักดาบรับใช้ก็ไม่ใช่คนใจแคบหรือคนที่ผิดสัญญาอะไร เขาก็เข้าไปในป่าและนำไผ่ม่วงดำยาว ออกมาแล้วก็ส่งให้กับแฮปปี้ เขาก็ยังส่งหนังสือให้อีกด้วย
“เจ้าเด็กน้อย จากที่ข้าเห็น เจ้าพึ่งจะเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้สินะ ถ้าเจ้าพบว่าเจ้าไม่สามารถที่จะอยู่ในตระกูลมู่หลงได้อีกแล้ว มาหาเจ้านายของข้าซะสิ ข้าจะให้หนังสือบ่มเพาะลมปราณนี้กับเจ้าไป ในขณะที่วิชาบ่มเพาะลมปราณสรรพจริงอาจจะเป็นวิชาดั้งเดิมจากในโรงเรียน มันก็ยังเป็นแค่วิชาวิเคราะห์ลมปราณระดับต่ำทั่วไป ด้วยความเข้าใจของเจ้าแล้ว การฝึกฝนวิชาบ่มเพาะลมปราณเช่นนั้นมันเสียของ… เจ้ารับหนังสือเล่มนี้ไป เจ้าว่างตอนไหน ก็ไปฝึกมันมาซะ”
แฮปปี้ก็รีบเหลือบตาไปอ่านชื่อบนหนังสือและหัวใจของเขาก็เต้นระรัว เขาก็หายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะแสดงความขอบคุณออกมา
“ท่านนักดาบครับ ขอบคุณสำหรับของขวัญของท่านมากจริงๆ! ได้โปรดบอกชื่อของท่านด้วยเถอะครับ”
นักดาบรับใช้ก็ให้ของขวัญที่ดีกับแฮปปี้ ซึ่งมันก็คือ ดาบเจ็ดดาว ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงจากโรงเรียนสรรพจริง มันไม่ใช่เพียงแต่วิชาขั้นสูงสำหรับวิชาบ่มเพาะลมปราณ แต่มันก็ยังมีท่าดาบอีกสี่สิบเก้าท่า บรรจุไว้ด้านใน ในขณะที่มันอาจจะไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ขั้นหาผู้เปรียบไม่ได้ ผู้เล่นก็จะกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังได้ด้วยหนังสือวิชาดาบเล่มนี้เพียงเล่มเดียว
ของขวัญเช่นนี้มันยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก!
“ไม่จำเป็นต้องถามชื่อข้าหรอก ข้าให้ป้ายชื่อนี้กับเจ้า ถ้าเจ้าตัดสินใจที่จะออกจากตระกูลมู่หลง เจ้าก็สามารถมุ่งหน้าไปยังฝ่ายดาบแห่งทะเลสาปสวรรค์ได้เลย พวกเขาจะปฏิบัติกับเจ้าอย่างดีแน่นอน”
เมื่อเขาพูดเสร็จ นักดาบรับใช้ก็หมุนตัวและเดินจากไป
แฮปปี้อาจจะยังมีคำถามบางคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ แต่เขาก็รู้ดีว่า ถ้าเขามัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาก็จะไม่ได้เรียนอะไรสักอย่าง เขาก็ทำได้เพียงกลับไปยังตระกูลมู่หลง อย่างมีความสุข และครุ่นคิดในขณะที่ถือวิชาและไผ่ม่วง ตอนเดินกลับ
“นักดาบรับใช้... จากฝ่ายดาบแห่งทะเลสาปสวรรค์?”
คุณหญิงตระกูลมู่หลงก็รอเขาอยู่ที่สวนหลังบ้านเป็นเวลานานแล้ว เมื่อเธอเห็นป้ายชื่อที่แฮปปี้ยื่นให้เธอ เธอก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะคืนป้ายชื่อให้กับเขา
“มันค่อนข้างเป็นสำนักที่มีชื่อเสียงเลยละ เอาละ พวกเขาค่อนข้างใจกว้างกับของขวัญของพวกเขานะเนี่ย หื้มม? นี่ใช่ ดาบเจ็ดดาวใช่ไหม? เหอะ! พวกเขาคิดว่า พวกเราตระกูลมู่หลงไม่ได้มีศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงงั้นเหรอ? กล้าดียังไงที่พยายามจะขโมยลูกศิษย์ไปจากตระกูลมู่หลงในถิ่นเมืองกูซูกัน…แฮปปี้!”
แฮปปี้ก็ไม่ได้พูดขัดคุณหญิงตระกูลมู่หลงเลย ตั้งแต่ที่เธอเริ่มบ่นออกมา แต่เขาก็มีความสุขอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยิน เขานั้นก็รอให้คุณหญิงตระกูลหลงตื่นเต้นเสร็จ แล้วเธอจะได้สอนวิชา สับเปลี่ยนดวงดาวให้กับเขา
“หลังจากนี้เป็นต้นไป เธอจะกลายเป็นลูกศิษย์ภายในของตระกูลมู่หลง ฮึ่ม! มันไม่จำเป็นที่เจ้าต้องฝึกวิชาบ่มเพาะลมปราณสรรพจริงต่อแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาให้ดาบเจ็ดดวงดาวกับเจ้ามาแล้วงั้นเหรอ?”
“มันก็ค่อนข้างดีเลยละ เนื่องจากว่าฉันจะให้หนังสือเจ้าไปอีกเล่ม ฉันจะสอนเจ้า เกี่ยวกับวิชามังกรแหวกว่ายของตระกูลมู่หลง เมื่อเจ้าเรียนและเข้าใจศิลปะการต่อสู้จากสำนักอื่นได้ระดับหนึ่ง เจ้าก็รายงานกับเจ้าของสำนักซะ เขาจะไปสอนเจ้าเกี่ยวกับวิชาสับเปลี่ยนดวงดาวเอง”
“คุณหญิง ขอบคุณท่านมากที่สั่งสอนข้า!”