ตอนที่แล้วChapter 2: ตระกูลมู่หลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 4: ดินแดนแห่งประตู การเปิดประตูสู่เส้นทางที่นำไปสู่ชีวิตและความตาย

Chapter 3: ความฝันในสามปีก่อน การสารภาพรักที่แสนอับอาย


Chapter 3: ความฝันในสามปีก่อน การสารภาพรักที่แสนอับอาย

“ค่าความสัมพันธ์และค่าความเข้าใจของฉันสูงขนาดนี้ได้ยังไงกัน? นี่ไม่ใช่ฝันใช่ไหม? ฉันใช้ชีวิตอยู่ในฝันถึงสามปีเลยงั้นเหรอ?”

ในเช้าวันต่อมา เฉินไคซิ่นก็อยู่ในกลุ่มนักเรียนที่กำลังเดินไปเรียนคาบเช้าพร้อมกับหนังสือของเขาในมือและเกี๊ยวรสเผ็ดในปากของเขา ในตอนที่เขากำลังเดินอยู่ เขาก็มัวแต่คิดเกี่ยวกับเรื่อง ค่าความสัมพันธ์ (AFF)* และ ค่าความเข้าใจ (CPH)* ที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเขาเข้าเกม เมื่อสามปีก่อน เขาก็จำได้ว่าค่า AFF ของเขาเพียงแค่ 15 และค่า CPH ของเขาคือ 17 ในเวลาเดียวกัน ทางเว็บไซต์ทางการของเกมก็เปิดเผยมาว่าค่า AFF สูงที่สุดคือ 35 และ ค่า CPH ที่สูงที่สุดคือ 27!

มันมีข่าวลือกันว่า แม้ผู้เล่นจะลบตัวละครของพวกเขาทิ้งไป และสร้างตัวละครใหม่ ค่าสถานะของเขาก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเฉินไคซิ่นจึงไม่ได้คาดคิด เมื่อสามปีผ่านไป และเขากลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ค่า AFF ก็เพิ่มสูงขึ้น 18 และค่า CPH คิอ 25 ค่าสถานะอีกสองอย่างของเขาก็เหมือนกับแต่ก่อน ค่าความแข็งแกร่งของแขน (AST)* คือ 21 และ ค่าความคล่องแคล่วของร่างกาย (BMM)* คือ 21

ด้วยเหตุนี้ ค่าสถานะตอนนี้ก็ดีกว่า สามปีที่แล้วมาก ในตอนนั้น เขาสูญเสียเป็นอย่างมาก เนื่องจากค่า CPH ของเขาต่ำและเขาก็วิ่งไปพบกับอุปสรรคทั่วทุกแห่ง มันทำให้เขาไม่ได้มีโอกาสเรียนศิลปะการต่อสู้ระดับสูง

‘ไม่สงสัยเลยที่หญิงสาวที่อ่อนโยนจากเมืองกูซู ที่เธอรับฉันเข้าร่วมด้วย ก็เป็นเพราะว่าค่า CPH ของฉันมัน 25 นี่เอง…’

เฉินไคซิ่นอาจจะสับสนและสงสัยว่าทำไม แต่เขาก็ยังมีความสุขมากๆด้วยเช่นกัน

การมีค่า CPH นั้นหมายความว่าเขามีโอกาสในการเรียนศิลปะการต่อสู้ระดับสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน และเขาก็สามารถที่จะเรียนมันได้เร็วขึ้น!

ปกติแล้ว ศิลปะการต่อสู้ระดับสูงจะไม่ถูกส่งมาให้กับเขาง่ายๆ ถ้าเขาไม่สามารถที่จะหาภารกิจและสำเร็จภารกิจที่ยากได้ ไม่สำคัญหรอกว่าค่า CPH ของเขาจะสูงแค่ไหน มันก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี ไม่อย่างงั้นแล้วละก็ผู้เล่นที่มีค่า CPH และ AFF ต่ำ ก็ไม่อาจที่จะทำอะไรในเกมได้เลย

เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฉินไคซิ่นก็ใจเย็นลง...

ในอดีต เขาก็พึ่งพาในการทำงานให้หนักและผ่านความยากลำบากมามากมาย เพื่อที่จะเข้าไปเป็นหนึ่งในสิบหกคนของทัวร์นาเมนต์ภูเขาฮัวซาน Sword Among Us ที่ซึ่งมีคนนับล้านคนเข้าร่วมด้วย ค่า AFF และ ค่า CPH ของเขาไม่ได้ดีในเวลานั้น แต่แล้วยังไงละ? ค่าสถานะเริ่มต้นก็ไม่สามารถที่จะตัดสินได้เลยว่าคนนั้นจะสำเร็จหรือไม่

ผู้คนก็ยังคงต้องพึ่งพาตัวของพวกเขาเองอยู่ดี!

เฉินไคซิ่นก็ไม่ได้สังเกตว่าเพื่อนสามคนได้หายไปจากข้างๆเขาสักพักหนึ่งแล้ว

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างยืนมองเขาที่ด้านข้างและก็ชี้มาที่เขา ในขณะที่เขากำลังเดินไปที่ห้องเรียน พวกเขากำลังพูดถึงใครก็ไม่รู้ที่กล้าที่จะยื่นร่มให้กับเจ้าหญิงของคณะ ซูซิ่น ในกลางคืน หลังจากคาบเรียน แต่ชายคนนี้ก็หน้าด้านจัดจนดูเหมือนไม่ยอมแพ้

เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องเรียนและเห็นเฉินไคซิ่นก็ยังทำตัวเฉยเมย คนจำนวนมากก็รู้สึกอารมณ์เสียไปตามๆกัน

‘ฉันไม่คิดเลยว่าไอ้เวรนั่นจะหน้าด้านได้ขนาดนี้!’

หญิงสาวทั้งหมดจากหอ 203 ก็แอบเดินตามเฉินไคซิ่นมาอย่างลับๆ จนทำให้หญิงสาวคนอื่นรู้สึกผิดหวัง พวกเธอตั้งใจที่จะให้เด็กหนุ่มที่กล้าหาญเช่นนี้ลิ้มรสชาติความแข็งแกร่งของพวกเธอ แต่พวกเธอก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะไม่ยอมหันหัวมาดูพวกเธอแบบนี้ มันเป็นการเสียพลังงานของพวกเธอโดยเปล่าประโยชน์

“ซูซิ่น เมื่อคาบเลิกแล้ว พวกเราจะไปรอที่หน้าประตู ไอ้เด็กนั่นจะมาสารภาพกับเธอแน่ๆ”

“เขามีความตั้งใจที่ดีนะ เธอจะทำยังไง?”

“ผู้ชายทุกคนก็เป็นหมาป่าที่โรคจิตนั่นแหละ เธอจะสามารถพูดได้ไงกันว่าเขามีความตั้งใจที่ดี? พวกเราจะต้องปกป้องสมบัติของหอพัก 203 ไว้ พวกเราไม่สามารถที่จะปล่อยหมาป่าโรคจิตตัวไหนพาเธอไปจากพวกเรา”

“ใช่เลย ถ้าใครก็ตามต้องการที่จะพาเธอไปจากพวกเรา พวกเขาต้องผ่านพวกเราไปก่อนนะ”

หญิงสาวทั้งหมดในหอพัก 203 ต่างทำให้เด็กหนุ่มทั้งหลายต่างสนอกสนใจ และพวกเขาต่างมองไปที่พวกเธอจากด้านข้าง

“ฉันจะไม่ฟังพวกเธอแล้วนะ!”

ซูซิ่นสะบัดหางม้าของเธอ พร้อมกับใบหน้าที่แดงฉานและสมุดในแขนของเธอ เธอก็เข้าไปในห้องเรียน แล้วหญิงสาวคนอื่นก็ตามเข้าไป หลังจากหัวเราะคิกคักกันเสร็จ

...

เมื่อบทเรียนจบลง หญิงสาวสามคนจากหอพัก 203 ก็รีบออกไปจากห้องเรียนและรออยู่ตรงบันได แต่สุดท้ายแล้ว พวกเธอก็ไม่ได้พบกับเฉินไคซิ่น เมื่อพวกเธอถามคนที่อยู่รอบๆ พวกเขาก็พบว่าเด็กหนุ่มทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งมหาวิทยาลัยตกตะลึง

เพียงเวลาไม่นานหลังจากที่นั่งในห้องเรียน เฉินไคซิ่นก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังออฟฟิศเพื่อที่จะไปคุยกับคนสอน เขาก็บอกกับคนสอนว่าเขาจะไม่เข้าเรียน และจะเรียนในหอของเขา

คนสอนก็ตกลงกับคำขอของเขาอย่างลึกลับ ซึ่งทำให้ผู้คนต่างสับสนกันมาก!

ซูซิ่นที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มขี้อายและแปลกหน้านั่นมากนัก ก็อดที่จะสนใจและสงสัยเสียมิได้ เมื่อเธอได้ยินข่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดชื่อของเด็กหนุ่มหลายต่อหลายครั้งในหัว และเธอก็เริ่มนึกถึงเขา

....

เพียงแค่นักเรียนของมหาวิทยาลัยจีนใต้กำลังจะยุ่งกับคาบเรียนนั้นเอง แฮปปี้ก็กลับไปยังโลกของศิลปะการต่อสู้ที่ซึ่งเต็มไปด้วยคนที่สามารถล้างแค้นได้ รวมถึงการตอบแทนอย่างใจดี เขาก็กลับไปยังคฤหาสน์ของตระกูลมู่หลงในเมืองกูซู ชื่อของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จักในที่สาธารณะ และเขาก็ไปซื้อแครอทและผักจากตลาดหลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่จะไปยังสนามหลังบ้าน เพื่อที่จะไปให้อาหารกระต่ายของคุณหญิงตระกูลมู่หลง เขาก็พึงพอใจกับชีวิตที่ง่ายๆเช่นนี้

ปกติแล้ว เมื่อผู้เล่นทำงานแบบนี้เป็นเวลาเจ็ดหรือแปดวัน หรือไม่ก็มี ‘โชค’ จากตอนเริ่มเกม พวกเขาก็อาจจะได้รับภารกิจในภายหลัง หัวหน้าพ่อบ้านก็เคลื่อนย้ายพวกเขาไปยังสวนหน้าบ้าน โดยการพูดว่าพวกเขาขี้เกียจ และพวกเขาจะต้องทำงานบ้านและเรียนวิชาการบ่มเพาะพลังปราณพื้นฐานทั้งหมดที่มอบให้กับศิษย์นอกสำนัก เหมือนกับผู้เล่นธรรมดาทั่วไปคนอื่น

แฮปปี้ก็เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากวุ่นวายอยู่ในโลกศิลปะการต่อสู้เมื่อสามปีก่อน เขาก็ทำอย่างระมัดระวังและตั้งใจ ในขณะที่เขาทำงานในตระกูลมู่หลง ไม่มีใครสามารถวุ่นวายกับเขาได้

สามหมาป่าโดดเดี่ยวถามแฮปปี้เกี่ยวกับสถานะในเกม ในช่วงตอนที่เขาออกจากเกมมากินข้าว หลายต่อหลายครั้ง เมื่อพวกเขาได้ยินมาว่าเขาเข้าร่วมกับตระกูลมู่หลง พวกเขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก เหมือนกับว่าพวกเขาโด๊ปยายังไงยังงั้น

เมื่อพวกเขาถามต่อไป พวกเขาก็ได้ยินว่าแฮปปี้ทำแต่งานจิปาถะอยู่หลายวัน เขาก็ไม่ได้เรียนวิชาการบ่มเพาะลมปราณ หรือศิลปะการต่อสู้พื้นฐานเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันทำให้พวกเขาหมดความสนใจในทันที

“เป็นไปได้ยังไงกันละเนี่ย?”

“หรือว่ามันไม่ใช่ภารกิจกันแน่? แฮปปี้ ทำไมนายไม่ออกจากที่นั่นละ? ถ้านายมัวแต่ทำแบบนี้ต่อไปเริ่อยๆแล้วละก็ นายคงจะเสียเวลามากเกินไปแน่ๆ ฉันว่านายไปทำงานเป็นศิษย์นอกสำนักจะดีกว่าไหม? ถ้านายทำแบบนั้นแล้ว นายก็คงได้เรียนศิลปะการต่อสู้มาหนึ่งหรือสองอย่างแล้วละ”

“ใช่เลย มันน่าอายจะตายไป ที่นายต้องให้อาหารกระต่ายอยู่ทุกวันแบบนี้”

แฮปปี้ก็แค่ยิ้มให้กับคำแนะนำของสามหมาป่าโดดเดี่ยว เขาก็ไม่ได้ทำตาม

โลกศิลปะการต่อสู้พึ่งออกมาได้ไม่นาน ดังนั้นมันยังมีคำแนะนำในเกมบางอย่างที่ไม่ตรง มันเข้าใจได้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเกม

“ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้อะไรเลยจากการทำแบบนี้ เมื่อฉันเดินไปเดินมาอยู่ทุกวัน และจับกระต่าย ค่า AST และ ค่า BMM ก็เพิ่มขึ้น ฉันคิดว่าจะทำงานนี้ต่ออีกไม่กี่วัน ถ้ามันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้วละก็ ฉันจะฟังพวกนายเอง” แฮปปี้พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าแฮปปี้ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องเรียนแล้วในอนาคต ดังนั้นเขามีเวลามากพอ แม้ว่าเขาจะเสียเวลาไปหลายวัน เขาก็จะตามพวกเขาทัน

หลังจากนั้น สองวันก็ผ่านไป

ในช่วงที่เขาป้อนอาหารกระต่ายในสนามหลังบ้าน แฮปปี้ก็พบว่ากระต่ายน้อยตัวหนึ่งไม่ยอมที่จะมาข้างเขา มันเหมือนกับว่ามันเป็นอะไรบางอย่าง และนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมกรง ขนของมันก็แข็งๆเล็กน้อย แฮปปี้ก็สงสัย ดังนั้นเขาจึงหยิบมันขึ้นมา

มันมีแผลเล็กตรงๆหน้าท้องของกระต่ายน้อยและก็มีหนองไหลออกมาจากมัน เมื่อดูแล้ว เหมือนกับว่าแผลมันกำลังติดเชื้ออยู่

แฮปปี้ก็รู้ว่าโอกาสได้มาถึงแล้วในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็รีบหยิบกระต่ายน้อยไปหาหัวหน้าพ่อบ้าน

เสียงใสก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา “หยุดอยู่ตรงนั้นเลย เธอตั้งใจเอาเจ้าขาวไปไหน?”

เมื่อเขาหันกลับไปมอง แฮปปี้ก็พบว่าคุณหญิงในชุดขาวที่เคยปรากฏตัวตรงสนามหน้าบ้านก็โผล่ออกมา และก็ทำให้เขาตกตะลึง เธอก็ยังดูเหมือนกับเทพธิดาพร้อมกับดวงตาที่สว่างสดใสและฟันขาวของเธอ แขนของเธอก็ส่องประกายออกมา และเธอก็เหมือนกับภูติ เมื่อใครก็ตามที่เห็นเธอ พวกเขาก็คงจะอดรู้สึกอับอายกับหน้าตาของพวกเขาเองไม่ได้

เมื่อแฮปปี้เห็นคุณหญิงของตระกูลมู่หลงอยู่ด้านหน้าเขา เขาก็พึมพำออกมา “มันป่วยครับ ผมคิดว่าผมจะพามันไปหาหัวหน้าพ่อบ้าน ดังนั้นพวกเราจะได้พามันไปหานักกายภาพครับ”

คุณหญิงตระกูลมู่หลงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “เธอคิดว่า เธอจะต้องพากระต่ายป่วยไปหานักกายภาพงั้นเหรอ? เด็กน้อย เธอนี่มันน่ารักจริงๆ”

แฮปปี้เกาหัวของเขาและหัวเราะเจื่อนๆออกมา ความแปลกประหลาดของเขาทำให้คุณหญิงตระกูลมู่หลงรู้สึกตลกอีกครั้งหนึ่ง

“เอาละ ส่งเจ้าขาวมาให้ฉันมา”

“ครับ”

คุณหญิงตระกูลมู่หลงก็ไม่ได้สนใจว่าเจ้าขาวป่วยหรือไม่ เธอก็จับมันอย่างอ่อนโยนและกวาดตาที่สวยงามของเธอมองแฮปปี้

“เธอชื่ออะไร?”

“แฮปปี้ครับ”

“แฮปปี้.... เอาละ เจ้าขาวมันป่วย ตั้งแต่ที่เธอคอยช่วยดูแลเจ้าขาวและกระต่ายตัวอื่นของฉัน หลายวันมานี้ ฉันจะสอนวิชาการบ่มเพาะพลังปราณให้กับเธอเอง ไปยังป่าไผ่ม่วงซะสิ มันตั้งอยู่ตรงทางตะวันออกของชานเมืองกูซู แล้วไปเอาไผ่มาสามลำซะ” คุณหญิงตระกูลมู่หลงก็ยื่นกระดาษขาวและดาบสั้นให้ ก่อนที่จะเดินจากไป

“คุณได้รับวิชาการบ่มเพาะพลังปราณสรรพจริง , คุณได้รับดาบสั้นหนึ่งเล่ม”

เมื่อเขาได้ยินการแจ้งเตือนจากระบบ แฮปปี้ก็มึนงงไปในทันที เขาคิดว่าเขาจะได้รับศิลปะการต่อสู้ที่สูงกว่านี้จากตระกูลมู่หลง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะได้รับ วิชาการบ่มเพาะพลังปราณสรรพจริง จาก เต๋าสรรพจริง ซึ่งเป็นวิชาการบ่มเพาะพลังปราณที่ธรรมดาทั่วไป

‘เอาเถอะ ถ้าฉันได้ วิชาการบ่มเพาะพลังปราณสรรพจริงมาก็ชั่งมันละกัน มันก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยฝึกมันมาก่อนนี่นา’

แฮปปี้ก็นั่งขัดสมาธิและจดจำวิชาการบ่มเพาะพลังปราณสรรพจริง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะทำตามสิ่งที่เขียนในกระดาษ…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด