Chapter 10: ผลงานชิ้นเอก
Chapter 10: ผลงานชิ้นเอก
เมื่อแฮปปี้กลับมาในเกม เขาก็ได้รับเงินมาหลายตำลึง ซึ่งมาจากการต่อสู้กับหมาป่าดุร้ายตลอดทั้งคืน
เขี้ยวและกรงเล็บของหมาป่าดุร้ายสามารถที่จะใช้มันในการสร้างอาวุธลับที่มีคุณภาพดีกว่าเล็กน้อยได้ พวกมันก็ยังสามารถที่จะบดไปเป็นผงเพื่อสร้างยารักษา ราคาของมันก็เป็นสองเท่ากับของที่มาจากหมาป่าหนุ่มธรรมดาทั่วไป
พวกมันอาจจะยากในการรับมือสำหรับผู้เล่นธรรมดาทั่วไป แต่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ที่รู้วิธีการโจมตีของหมาป่าก็สามารถรับมือได้ “หมาป่าดุร้าย” ก็ยังไม่ได้ดุร้ายมากพอ และสำหรับแฮปปี้ก็เช่นกัน! สัตว์ป่าในป่าไม่สามารถที่จะทนรับมือต่อหมัดยาวเส้าหลินได้นานนัก และเขาก็ไม่มีโอกาสที่ได้ใช้ครีมทาจินฉวงเลยด้วยซ้ำไป
ในช่วงกลางวัน หมาป่าดุร้ายทั้งหมดก็ได้หายไป เหลือทิ้งไว้แต่หมาป่าหนุ่มที่เดินเตร็ดเตร่รอบๆบริเวณด้านล่างวิหารภูเขาเยือกเย็น
หมาป่าธรรมดาทั่วก็ไม่สามารถช่วยแฮปปี้ได้เลย เมื่ออยู่ดินแดนที่เจ็ด หมัดยาวเส้าหลินก็แข็งแกร่งพอที่จะจัดการงานยากๆให้ง่าย เมื่อแฮปปี้ต่อยออกไป การระเบิดพลังก็น่าตื่นตกใจอย่างยิ่ง และเพียงแค่สองสามหมัด เขาก็สามารถที่จะบดขยี้กระดูกของหมาป่าได้แล้ว คุณค่าของขนหมาป่าที่เขาได้รับก็น้อยขนหมาป่าที่ได้ตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าเขายังคงมัวแต่ล่าหมาป่าต่อไป มันก็จะเสียเวลาเขาอย่างมาก
แฮปปี้ก็เอาธนบัตรเงินออกมาและเดินเข้าไปในร้านขายอาวุธในเมืองกูซูอย่างไม่ลังเลใจ
...
อาวุธในเกมโลกศิลปะการต่อสู้ก็ยังมีระบบด้วยเช่นกัน!
อาวุธโลหะในตอนเริ่มแรกก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งของการโจมตีเพียงแค่เล็กน้อย ความทนทานของพวกมันก็ยังลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย มันสามารถที่จะพูดได้ว่า หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดเพียงครั้งเดียว ผู้เล่นก็จะต้องกลับไปหน้าเตาเพื่อที่จะสร้างพวกมันใหม่ หรือซ่อมพวกมันใหม่
ราคาของอาวุธโลหะก็ค่อนข้างที่จะปกติ พวกมันก็มีราคาประมาณห้าสิบตำลึงเงินถึงหนึ่งร้อยตำลึงเงิน
อาวุธและอุปกรณ์ที่ทนทานมากขึ้นก็สร้างมาจากทองแดง พวกมันไม่เพียงแต่เพิ่มพลังโจมตีของผู้เล่นเป็นอย่างมากแล้ว แต่ความทนทานก็เป็นคุณสมบัติเฉพาะของมัน พวกมันก็ยังทนทานและใช้งานง่าย ดังนั้นผู้ใช้ดาบก็เลือกที่จะใช้ดาบทองแดงมากกว่าดาบโลหะ ไม่มีใครต้องการที่จะหลอมอาวุธพวกเขาทุกครั้งที่ใช้ หรือต้องสร้างความลำบากในยามสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ราคาของอุปกรณ์ทองแดงก็สูงกว่ามาก ปกติแล้ว พวกมันก็มีราคามากกว่าสองร้อยตำลึงเงินและพวกที่มีคุณภาพที่ดีกว่า หรือสร้างโดยช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงก็มีราคาเป็นสองเท่าจากปกติ!
แร่ที่สูงกว่าทองแดงก็คือ เหล็กบริสุทธิ์ คูไปร์ท และเหล็กเย็น อาวุธจากแร่เหล่านี้ต่างถูกสร้างโดยช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียง แลอาวุธของมันก็ต่างมีชื่อ
อาวุธทั้งหมดที่ถูกสร้างโดยช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงต่างถูกพิจารณาว่าเป็นสัญลักษณ์ของช่างตีเหล็กและเป็นแบรนด์ของสินค้า.... ซึ่งมีราคาที่สูงเป็นปกติ ราคาของมันก็ไม่ใช่ราคาที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถซื้อได้ไหว
อาวุธที่มีระดับต่ำที่สุด (ระดับเก้า) ก็มีราคาหนึ่งพันตำลึงเงิน หรืออาวุธสูงชั้นหนึ่งระดับสูงก็มีราคานับหมื่นตำลึงเงิน
มันก็ยังคงมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นข่าวลือ ซึ่งไม่เคยมีผู้ใดครอบครองมันมาก่อน!
ดาบกันเจียง! ดาบโมเย่!
ดาบสวรรค์! กระบี่สังหารมังกร!
ดาบมัจฉา (มันมีดาบท้ะงหมดห้าเล่ม และพวกมันมี ดินแดนบริสุทธิ์ , ความสามัคคีบริสุทธิ์ , ผู้ปราบปีศาจ , ซ่อนในปลา และ ยักษา) (2)
อาวุธศักดิ์สิทธิ์แต่ละอย่างต่างมีความสามารถพิเศษ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันอยู่ที่ใด
..
แฮปปี้มีเงินอยู่ห้าร้อยตำลึงเงิน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เขาไม่สามารถซื้ออาวุธชิ้นเอกได้ เขาก็เดินเตร็ดเตร่อยู่ในร้านค้าอาวุธและหยุดอยู่ด้านหน้าอาวุธเล่มหนึ่งอย่างลังเลใจ
ราคาที่ต่ำที่สุดของดาบทองแดงก็คือสองร้อยสี่สิบตำลึงเงิน แต่สิ่งที่เขาต้องการจะซื้อก็คือถุงมือคู่หนึ่ง มันมีถุงมืออยู่สามประเภทในร้านค้า หนึ่งในพวกมันถูกสร้างขึ้นโดยแหวนโลหะและดูเหมือนกับถูกใช้โดยผู้ร้ายในหนัง ดังนั้นเขาจึงไม่เลือกมัน อีกคู่หนึ่งก็สร้างมาจากไหมโลหะและเกล็ดเงิน มันสามารถที่จะเพิ่มค่าป้องกันของเขา และเมื่อเขาปะทะเข้ากับอาวุธ ถุงมือก็ยังเพิ่มพลังโจมตีของเขาอีกด้วย
ถุงมือคู่สุดท้ายก็มีรูปร่างที่สวยงามด้วยเช่นกัน ค่าความคงทนของมันก็ดีกว่าอาวุธทองแดงเหล่านั้นอีก และตราบเท่าที่แฮปปี้ไม่ได้ปะทะเข้ากับอาวุธชิ้นเอกระดับสูงกว่าหรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะสร้างความเสียหายกับถุงมือเหล่านี้ได้
แต่ราคาของพวกมันนั้นแพงมากเกินไป!
สองพันตำลึงเงิน…
ไม่ต้องคิดถึงถุงมือคู่สุดท้ายเลย มันเป็นอาวุธชิ้นเอกระดับสูงและมันก็เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ หยกเขียวห่อหุ้มด้วยไหมสวรรค์ ความสวยงามของถุงมือนี้มีความเว่อวังอย่างมาก ทั้งสวยงามและปลดปล่อยความเย็นยะเยือกออกมา เพียงแค่เหลือบตามองมันเพียงครั้งเดียว มันก็เห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันเป็นถุงมือชิ้นเอกที่โดดเด่นออกมาท่ามกลางถุงมือชิ้นเอกคู่อื่นๆ ดังนั้นลืมไปได้เลยที่จะซื้อพวกมัน
แฮปปี้ก็ทำได้เพียงเดินออกจากร้านไปอย่างไม่มีความสุข!
“โรงจำนำ?”
เมื่อเขาเห็นตึกที่เขียนด้วยคำว่า [โรงจำนำ] ด้านบนมัน แฮปปี้ก็มีความคิดดีๆขึ้นมา
โรงจำนำเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถหาเงินจำนวนมากได้จากการแลกเปลี่ยนไอเทมของพวกเขา ซึ่งจำเป็นต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นสิ่งของดีๆมากมายจึงปรากฏขึ้น มันจึงมีสมบัติล้ำค่าที่ถูกฝังอยู่ท่ามกลางกองขยะ ปรากฏขึ้นอยู่บ่อยๆและราคาของไอเทมเหล่านี้ต่างถูกกว่าร้านค้าธรรมดาทั่วไป
ตราบเท่าที่สายตาของผู้คนนั้นแหลมคมมากพอ และพวกเขามีโชค พวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้ไอเทมที่มีคุณภาพที่ดีมาจากคนติดหนี้โรงจำนำ เนื่องจากว่าเจ้าของเดิมไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายดอกเบี้ยในระยะเวลายืมเงิน
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แฮปปี้ก็เดินเข้าไปพร้อมกับเงินห้าร้อยตำลึงเงิน
โรงจำนำแตกต่างไปจากโรงจำนำในช่วงราชวงศ์ชิง มันเป็นส่วนขนาดใหญ่ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากร้านค้าธรรมดาทั่วไปที่ไอเทมยังไม่ได้เอาไปคืนในช่วงยืมเงิน มันก็ยังมีไอเทมอยู่หลากหลายประเภท ทั้งกระบี่ ดาบยารักษา เสื้อผ้า เพชรนิลจิลดา และวิชาศิลปะการต่อสู้ ร้านค้าเหล่านี้มีทุกสิ่งทุกอย่าง และถูกขายด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว
แฮปปี้ก็มองรายการไอเทม
เขาก็เมินพวกไอเทมไร้ประโยชน์รวมทั้งเสื้อผ้า เขาก็ไม่ได้สนใจในยารักษาด้วยเช่นกัน เขามองแต่อาวุธและวิชาศิลปะการต่อสู้ แต่เขาก็ยังไม่พบอะไรที่เหมาะสมกับเขา
ไอเทมบางอย่างอาจจะมีค่า แต่เมื่อเขาเพิ่มค่าซ่อมแซมของมันเข้าไปด้วยแล้ว ราคาของมันก็จะพอๆกันกับไอเทมตามร้านค้าธรรมดาทั่วไป เขาก็จะไม่ได้ประหยัดเงินเลยแม้แต่น้อย
เมื่อแฮปปี้กำลังจะเดินจากร้านไป ผู้เล่นสองคนที่สวมชุดคนงานก็รีบเดินเข้ามาในร้าน พวกเขาก็เดินผ่านเขาไปและเหลือบตามองไอเทมและราคาบนเคาน์เตอร์
พวกเขาก็ไม่ได้อยู่นาน พวกเขาก็เหลือบตามองอย่างรวดเร็ว แล้วก็เดินจากไป
มันเป็นภาพที่น่าสงสัย แต่ปกติแล้ว ผู้เล่นก็จะไม่เดินเข้ามาดูของในโรงจำนำเช่นนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดที่จะทำท่าเหลือบมองไอเทมอย่างรวดเร็วในสถานที่แบบนี้
แฮปปี้ที่กำลังเดินอยู่ก็หยุดลง เมื่อทั้งคู่จากไป เขาก็เหลือบตามองไปที่ไอเทมที่คนหนึ่งในนั้นตรวจสอบมันเป็นเวลานาน หลังจากนั้น ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป
มันเป็นไอเทมหยก!
มันเป็นหยกเก่าที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ มันก็ดูธรรมดาอย่างไม่น่าเชื่อ และมันก็ถูกวางไว้ท่ามกลางไอเทมหยกชิ้นอื่น ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะว่าการกระทำแปลกๆของทั้งสอง ที่สร้างความสงสัยและความสับสนกับแฮปปี้แล้ว มันก็คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพบว่ามีร่องรอยคำบางอย่างถูกสลักไว้บนแหวนหยก
ในโลกศิลปะการต่อสู้แล้ว ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้เก่าแก่บางคนก็กังวลว่าศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาจะหายไป หรือพวกเขาจะลืมคำบางอย่างจากสกิลของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงชอบจดศิลปะการต่อสู้ลงสมุดหรือสลักลงไปบนจี้หยกเล็กๆ ซึ่งสามารถพกพาไปได้อย่างง่ายดาย จี้หยกเหล่านี้ก็จะเปิดเผยความลับออกมาในสถานการณ์บางสถานการณ์ และหยกที่อยู่ต่อหน้าแฮปปี้ก็เป็นหนึ่งในไอเทมเหล่านั้น
“ฉันเข้าใจแล้ว”
แฮปปี้ยิ้ม แล้วเขาก็เดินจากไป
ในขณะที่ราคาของแหวนหยกนี้คล้ายคลึงกับเครื่องประดับหยกชิ้นอื่นและเขาก็สามารถจ่ายมันได้อย่างแน่นอน เขาก็จะไม่มีเงินเหลือพอไว้ซื้ออย่างอื่น แทนที่จะซื้อศิลปะการต่อสู้ระดับสูงธรรมดาทั่วไปที่มีค่าเล็กน้อยกับเขาในยามนี้ มันก็คงจะดีกว่าในการใช้เงินกับบางสิ่งบางอย่างที่มีความหมายมากกว่านี้
แฮปปี้ก็ไม่เชื่อว่าโรงจำนำจะไม่สังเกตเห็นค่าของหยก เมื่อมันเห็นได้เด่นชัดว่ามันใช้ในการสืบทอดศิลปะการต่อสู้ และพนักงานในโรงจำนำต่างชาญฉลาดกันทั้งนั้น
มันมีเหตุผลเพียงสองอย่างที่อธิบายว่าทำไมมันราคาถูก
อย่างแรกคือคุณค่าของศิลปะการต่อสู้บนแหวนหยกไม่ได้สูงพอ หรืออย่างที่สองก็คือ บางส่วนนั้นได้หายไป!
จากมุมมองของเขาแล้ว ผู้เลน่นสองคนจ้องไปที่ “เหยื่อ” ที่ถูกตั้งขึ้นโดยโรงจำนำ แต่แฮปปี้ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นเหยื่อหน้าโง่ ที่โดนหลอกอีกคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงเดินออกไปจากโรงจำนำ
...
“เจ้าเด็กนั่นไม่หลงกลละ!”
ผู้เล่นสองคนจากด้านหลังโรงจำนำก็ขมวดคิ้ว
เมื่อพวกเขามองแฮปปี้เดินจากไป พวกเขาก็มองหน้ากันอย่างผิดหวัง
“มันไม่น่าจะเป็นไปได้นะ”
“พวกเราอุตส่าห์หาภารกิจระดับสูงจากร้านค้าได้ รางวัลของมันก็ตั้งหนึ่งร้อยตำลึงเงิน แต่พวกเราก็ทำมันไม่สำเร็จ เจ้าหนูนั่นมันงกเกินไป”
แฮปปี้ก็ไม่ได้รู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าภารกิจได้ตั้งขึ้นโดยเจ้าของโรงจำนำ ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาก็หลีกเลี่ยงหายนะได้อย่างไม่คาดคิด
โน้ตคนแปล :
(1) ดาบกันเจียงและ ดาบโมเย่ : ถูกสร้างขึ้นโดยสามีภรรยาช่างตีเหล็กที่อาศัยอยู่ในช่วงยุควสันตสารท ราวๆ 770ปีก่อนคริสต์ศักราช ดาบทั้งสองเล่มถูกสร้างขึ้นและถูกตั้งชื่อหลังจากนั้น พวกมันเป็นที่รู้จักกันในนามของดาบแห่งความรัก
(2) ดาบมัจฉะ : ดาบในตำนานของประเทศจีน ซึ่งถูกสร้างโดย อู่ เยซี่ (Ou Yezi) และลูกศิษย์ของเขา