ตอนที่แล้วบทที่ 270 - ถ้าอยากจะติดตามฉันล่ะก็นะ (4) [31-01-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 272 - ถ้าอยากจะติดตามฉันล่ะก็นะ (6) [04-02-2020]

บทที่ 271 - ถ้าอยากจะติดตามฉันล่ะก็นะ (5) [02-02-2020]


บทที่ 271 - ถ้าอยากจะติดตามฉันล่ะก็นะ (5)

พอเขากลับมาก็เป็นเวลาตี 4 แล้ว หากเป็นโลกตามปกติทุกๆคนก็น่าจะกำลังหลับกันอยู่ แต่ว่าเหล่าคนที่อยู่ในกุนเดียวนี้ต่างก็ต้องปะทะกับมอนสเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เป็นปกติที่พวกเขาจะยังไม่นอนกัน

ยังคงมีแสงไฟตามที่ต่างๆของป้อมปราการและเหล่าคนเฝ้ายามต่างก็ไม่อาจจะลดการระวังยูอิลฮานกับป้อมปราการที่อยู่ๆก็โผล่มาจากการที่ยูอิลฮานยกเลิกการซ่อนตัวได้ ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าไม่มีทางเอาชนะได้ แต่ว่าพวกเขาก็ต้องระวังตัวอยู่ดี

[บรรยากาศที่นี่ดีนะ]

"ฉันเคยเห็นภาพแบบนี้แต่ในหนัง"

"ฉันบอกว่าฉันจะไปกวาดล้างมอนสเตอร์ทั้งหมดก่อนจะกลับมานี่นา ทำไมพวกเขาถึงยังอยู่นี่กันล่ะ?"

[ที่รักจะไปนอนหรอหากว่ามีคนแปลกหน้าจู่ๆก็เข้ามาบอกว่าเขาคนนั้นจะไปกวาดล้างกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดน่ะ?]

"น่าเศร้าแหะ แต่เธอก็พูดถูก"

ตอนแรกยูอิลฮานคิดว่าคนพวกนี้จะไม่ให้เขาเข้าประตูไปด้วยซ้ำ แต่ก็น่าจะเพราะมีคำสั่งมาจากฮานเยรังทำให้ยูอิลฮานเดินเข้ามาได้โดยไร้ซึ่งการขัดขวาง แต่แน่นอนว่ายังคงมีเสียงกระซิบกันอยู่ดี

"ชายคนนี้คือ..."

"ฉันมั่นใจแล้ว เขามีสตรีที่งดงามเคียงข้าง"

"ฉะ ฉัน"

คิมเยซอลได้ยิ้มออกมาหลังจากได้ยินคำว่า 'งดงาม' ยูอิลฮานก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เขากังวลเลยคือเฮเรียน่าอาจจะปลดพลังของเธอออกมาทำให้วุ่นวายได้ แต่ดูเหมือนว่าเธอก็ได้ซ่อนเอาพลังเวทย์ของเธอเอาไว้อยู่

"คุณมาแล้ว"

"โอ้ พลตรีแล้วก็..."

"ไม่เจอกันนานเลยนะคะ"

เขาได้ทหารพามาในที่ที่พลตรียุนกับฮานเยรังอยู่ ฮานเยรังมีออร่าที่น่าประทับใจอยู่แม้ว่าเธอจะใส่เกราะพังๆอยู่ก็ตาม และเขายังได้เห็นความเป็นผู้นำจากตัวเธออีกด้วย แม้กระทั่งหลังจากได้เจอคิมเยซอลกับเฮเรียน่า เธอก็ยังไม่ถอยกลับและทักทายกับยูอิลฮานมา

"พันเอกฮานเยรัก"

"ฉันดีใจที่คุณสบายดี"

ฮานเยรังได้พูดออกมาอย่างมั่นใจกับยูอิลฮานอย่างเป็นธรรมชาติ หากในด้านความสัมพันธ์ส่วนตัวพวกเขาแทบไม่คุยกันเลย แต่หากเป็นในด้านการค้านับว่าพวกเขาสนิทกันมาก

"ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่เธอสบายดี ตอนนี้ฉันได้จัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดไปแล้ว... แต่ว่าโลกใบนี้ยังไม่ได้สเถียรนักทำให้ ฉันไม่มั่นใจว่ามันจะโผล่มาอีกเมื่อไหร่"

"...นี่ก็น่าทึ่งมากแล้ว"

ฮานเยรังควรจะทำสีหน้ายังไงดีกับการที่ยูอิลฮานพูดออกมาว่าเขาได้สังหารมอนสเตอร์ทั้งหมดไปเหมือนกับการที่เขาไปถอนหญ้าหลังบ้านมา? แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะได้ยินเรื่องต่างๆจากยุนแดฮานแล้ว แต่ว่านี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เธอได้เจอกับช่องว่างความห่างฉันอย่างมหาศาลในโลกที่พวกเธอมีชีวิตอยู่ ยูอิลฮานได้พูดออกมาโดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

"เดิมทีฉันคิดจะมาพาตัวเธอกับสมาชิกทั้งหมดของกองกำลังปราบปรามกลับไปที่โลกเรา แต่ว่าในตอนนี้โลกเรา..."

"ฉันได้ยินทุกๆเรื่องมาแล้ว การพัฒนาของโลกกำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และในอนาคตอันใกล้นี้ก็มีโอกาสที่โลกเราจะกลายไปเป็นโลกระดับสูง..."

ยูอิลฮานได้ยักไหล่และพูดต่อไป การที่ไม่ต้องอธิบายเพิ่มอีกเป็นเรื่องที่ดรมาก

"แต่ว่าฉันรู้สึกว่าพันเอกฮานมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำที่นี่อยู่ แต่แน่นอนว่าถ้าเธออยากจะตามมา ฉันก็จะพาเธอกลับไปที่โลกด้วย..."

"ไม่ล่ะ"

เธอได้ส่ายหัวออกมาอย่างไม่ลังเล นี่มันก็เป็นไปอย่างที่ยูอิลฮานคิดเอาไว้

"ตราบใดที่ผู้คนที่นี่ยังเชื่อในตัวฉัน ฉันจะไม่มีวันหนีพวกเขาไปแน่"

"นั่นจะไม่นับเป็นการหนีหรอกนะ สภาพแวดล้อมที่โลกเราโหดร้ายกว่าที่นี่มาก"

"แต่ที่นั่นมีคุณอยู่ คุณยูอิลฮาน แค่คุณคนเดียว โลกเราก็ปลอดภัยยิ่งกว่าที่นี่มากแล้ว"

การประเมินของเธอมันทำให้เขาตัวสั่นขึ้นมา ยังไงก็ตามต่อจากนั้นฮานเยรังก็ได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่กว่าเดิมออกมา

"งั้น... ทำไมคุณไม่รับเราทุกคนไปด้วยล่ะ?"

"...ว่ายังไงนะ?"

ยูอิลฮานได้ถามออกมามีครั้งราวกับได้ยินผิดไป แต่คำตอบกลับก็ยังคงเหมือนเดิม

"ผู้รอดชีวีตในป้อมปราการนี้มีแค่สามหมื่นคนเท่านั้น ในตอนนี้พวกเราแค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆเท่านั้น... แถมเรายังไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตมากนักด้วย"

เขาไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ การต่อสู้กับมอนสเตอร์และเตรียมตัวรบตลอดเวลา เรื่องแบบนี้มันไม่นับว่าเป็นการ 'ใช้ชีวิต' แล้ว

"แต่ว่าทั้งสามหมื่นคนนี่..."

"พวกเราจะตั้งถิ่นฐานกันเอง มีที่ดินมากมายบนโลกที่ยังไม่มีเจ้าของ ฉันก็แค่อยากจะได้การคุ้มกันจากคุณเท่านั้น คุณยูอิลฮาน ฉันอยากจะไปอยู่ในที่ที่คุณดูแลถึง"

"..."

ยูอิลฮานได้แต่มองไปที่ยุนแดฮานโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ยังไงก็ตามแทนที่เขาจะชักชวนฮานเยรังกลับกลายมาเป็นเธอได้เกลี้ยกล่อมเขาแทน

"จริงๆ เราก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว ถ้าคุณอนุญาติเราทุกคนก็จะตามคุณกลับไปที่โลกคุณยูอิลฮาน"

"เธอรู้ใช่ไหมว่าโลกที่มีระดับสูงกว่ามันหมายความว่ายังไง ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าโลกเรากำลังเข้าสู่ช่วงสงคราม? ที่นั่นมันจะเป็นสนามรบของคนที่มีพลังมากจนเทียบกับโลกที่เธออยู่นี่ไม่ได้เลยนะ!"

"แต่ถึงแบบนั้นเราก็คิดว่ามันดีกว่าการปล่อยให้ตัวเองต้องการที่นี่แหละนะ"

"...นี่เธอ..."

เขาไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่าคนพวกนี้คิดอะไรกันอยู่ ยังไงก็ตามคิดเยซอลก็ได้ยิ้มพอใจอยู่ตลอดเวลา และเฮเรียน่าก็หัวเราะขึ้น

[นี่มันน่าสนใจจริงๆ ที่รักคือคนที่ทำให้มนุษยชาติเอาตัวเองเข้าไปสู่การทำลาย จากเดิมที่พวกเราดิ้นรนในสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาได้วิ่งเข้าไปสู่สถานการณ์ที่แย่กว่าเดิมด้วยความคิดที่ว่าสิ่งใหม่ๆจะดีกว่า!]

"นี่มันไม่ต่างไปจากพวกกองทัพปีศาจวิบัติของเธอเลยสินะ"

[โอ้ ที่รักคิดแบบนั้นงั้นหรอ เป้าหมายของกองทัพปีศาจวิบัติน่ะคือการทำลายล้างนะ การทำลายก็คือการกลืนกินทุกๆอย่างไปแม้กระทั่งตัวเองก็ตาม นี่เป็นเหตุผลที่กองทัพปีศาจวิบัติไม่ขัดขืนต่อการถูกลงโทษไงล่ะ]

"พวกนั้นนี่มันบ้าไปแล้ว"

[ยังไงก็ตามที่รักน่ะต่างออกไป]

รอยยิ้มที่ยั่วยวนของเฮเรียน่าได้เข้ามาถึงหัวใจของยูอิลฮานแล้ว

[ที่รักไม่ได้คิดที่จะทำให้โลกของที่รักไปเจอกับหายนะใช่ไหมล่ะ?]

"ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันหวังจะทำเลยล่ะ เธอพูดได้ถูก"

[เพราะแบบนี้ทำให้ผู้คนที่หลงใหลในพลังของที่รักเชื่อว่าที่รักจะทำในสิ่งที่คิดเป็นจริงได้ มันก็เป็นปกติที่คนอ่อนแอมักจะมาเป็นทาสของผู้แข็งแกร่งนี่นา]

เพราะแบบนี้คนบนโลกนี้ก็เลยเชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาตามยูอิลฮานไป พวกเขาก็จะไม่ได้เลือกทางผิด เธออยากจะบอกแบบนี้งั้นหรอ ซับซ้อนจริงๆเลย

[ฟุฟุ หน้าตาตอนครุ่นคิดของที่รักนี่นารักเหมือนกันนะ...]

"ฮึ่ม"

ยูอิลฮานได้ดันหน้าของเฮเรียน่าที่ยื่นเข้ามาใกล้เขาออกไปอย่างไม่ลังเล เฮเรียน่าได้ฉีกยิ้มออกมาเพิ่มขึ้นในทันที

"เอาล่ะถ้างั้นก็ทั้งสามหมื่นคนจะไปที่โลกด้วยกันกับเรา นี่ไม่น่าจะยากอยู่แล้ว"

"ขอบคุณมาก"

หลังจากฮานเยรังได้เห็นเฮเรียน่าที่เธอเทียบไม่ติดทำตัวน่ารักกับยูอิลฮาน สีหน้าของเธอก็ได้มืดมนลงไป แต่ไม่นานนักเธอก็ได้รับคำอนุญาติจากยูอิลฮาน ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างสดใสราวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การที่เธอจะทำตามอารมณ์ของเธอมันหมดไปนานแล้ว

ยูอิลฮานได้เดินไปที่กำแพงป้อมปราการพร้อมกับสหายของเขา เสียงกระดิ่งได้ดังออกมาอย่างช้าๆเพื่อเตือนว่ามีเวทย์ถูกใช้งาน เหล่าคนที่ไปหลับอย่างเหนื่อยล้าได้ตื่นและเดินออกมาข้างนอกทั้งหมดในทันที เมื่อทุกๆคนได้ออกมารวมตัวกันแล้ว ฮานเยรังก็ได้ประกาศออกมาเสียงดัง

"นับจากนี้ไปเราจะไปที่โลกของฉัน โลกที่ฉันได้เกิดมา และยังเป็นที่ที่มีผู้ปกครองสูงสุดอยู่!"

"อ๊าาาาาาาาาาา!"

เสียงแสดงความยินดีได้ดังออกมาเต็มไปหมด ผู้ปกครองสูงสุดนี่หมายถึงเขางั้นสินะ ยูอิลฮานได้สลดลงไปทันที ยังไงก็ตามจากปฏิกิริยาของทุกๆคนที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต ทำให้เขาไม่มีแรงไปโต้แย้งกับพวกเธอ

"ถ้างั้นเราจะไปกันเดี๋ยวนี้แหละ พวกเราจะไปพร้อมกันในทีเดียว"

"จำนวนคนขนาดนี้... ในทีเดียว?"

"แน่นอนสิ"

ยูอิลฮานได้ข้ามมิติไปที่โลกหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าเขาจะพาคนไปมากแค่ไหนก็ไม่ต้องใช้มานามากเลย ยูอิลฮานได้ยกเลิกบาเรียจากป้อมปราการผู้พิทักษ์ของเขาและให้ทุกๆคนที่รอดอยู่ขึ้นไปในป้อมปราการ จากนั้นเขาก็เอาไอเทมสำคัญเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

ทุกๆคนได้ขึ้นมาบนป้อมปราการผู้พิทักษ์แล้ว โดยปล่อยป้อมปราการเก่าของของพวกเขาทิ้งล้างเอาไว้ เมื่อเห็นกุนเดียที่ไร้ซึ่งชีวิตทำให้เขาพีมพัมออกมา

"จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันนะ?"

[อืมม? มันก็คงจะถูกทิ้งล้างแบบนี้ตลอดไป แม้ว่าจะมีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นมาก็ตาม แต่พวกมอนสเตอร์ก็จะผ่านวงจรการเกิดและหายไปจากการทำลายตัวเอง เพราะแบบนี้ทำให้โลกใบนี้ไร้อนาคตแล้ว]

"บางทีนี่มันอาจจะหมายความว่าเวลาภายในโลกใบนี้ไม่ได้เดินอีกต่อไปแล้ว... ทุกๆอย่างบนโลกใบนี้ได้ยุดลง น่าเสียดายจริงๆเลยเนอะ"

คิมเยซอลได้พึมพัมออกมา จากคำพูดของเฮเรียน่าได้ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจ ยังไงก็ตามเฮเรียน่าก็ยังคงพูดไม่จบ

[แต่ว่าที่รักรู้อะไรไหม หากว่าเป็นที่รัก ที่รักอาจจะเปลื่ยนแปลงมันได้ก็ได้นะ]

"ยังไงล่ะ? เธออยากจะให้ฉันมากวาดล้างมอนสเตอร์ที่โลกใบนี้งั้นหรอ?"

[ไม่ ไม่ใช่หรอกที่รัก มนุษยชาติของโลกใบนี้ได้กลายมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณไงล่ะ]

"แล้ว?"

[...ฟุฟุ เรื่องต่อจากนี้เป็นความลับ ถ้าเป็นที่รักอีกไม่นานคุณก็จะรู้เองแหละ]

"นี่เธอ..."

[ฟุฟุ]

เฮเรียน่าได้มองมาที่เขาหลังจากพูดจบ สายตานี้มันคุ้นเคยกับเขามาก นี่มันคล้ายกับสายตาที่เลียร่าชอบมองมาที่เขาเป็นปกติ ยูอิลฮานได้อ้าปากออกมาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่พูด

เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังตกไปในบึงโคลนมากเมื่อเมื่อเขาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นตัวตนที่ปฏิเสธในมุมมองและมาตราฐานการกรำตำของเขาอย่างตรงไปตรงมาก

เธอขัดต่อกฏธรรมชาติเอามากๆ นี่มันเป็นเพราะตัวเธอมาจากกองทัพปีศาจวิบัติงั้นหรอ? ทั้งๆที่เขาบอกว่าให้เธอมาอยู่ข้างๆเพื่อที่จะควบคุมตัวเธอก็ตาม แต่ว่าบางทีนี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดของเขาก็ได้ที่มาเธอมาด้วย

"ถ้างั้นเราจะไปโลกกันแล้วนะ"

"โลก นั่นจะเป็นโลกแบบไหนกันนะ?"

"มันเป็นโลกที่ถูกปกครองด้วยคนที่ทรงพลังมากๆ ที่นั่นจะโหดร้ายกว่าที่นี่อีก"

"แต่... แต่ว่าที่นั่นจะมีชีวิตที่ต่างออกไปรอเราอยู่สินะ"

"นายหญิงฮานเยรังก็ไปกับเราด้วย มันไม่มีอะไรให้เราต้องกลัว!"

ความเชื่อมั่นในตัวของฮานเยรังได้ฝังลึกลงไปในจิตใจของคนพวกนี้แล้ว ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติทั้งๆที่คิดว่าคนพวกนี้กำลังทำเรื่องบ้าๆกันอยู่

"โอ้ววว"

"ที่โลกนี่คือ..."

เมื่อพวกเขาได้กลับมาที่โลก ผู้คนบนป้อมปราการผู้พิทักษ์ก็ได้อุทานกันออกมาทุกคน

มีใบไม้หนาเต็มไปหมด รวมไปถึงหนาผาสูงชันอีกด้วย!

โพร่งที่เชื่อมน้ำทะเลไปสู่พื้นดินกับท้องฟ้า มีหมู่เกาะหินจำนวนนับไม่ถ้วนภายในโพร่งน้ำทะเลและสะพานสายรุ้งที่เชื่อมต่อไปยังเกาะต่างๆ! นี่มันเหมือนกับสรวงสวรรค์

"สวย"

"สวยงามมาก..."

"นี่คือโลกที่ผู้ปกครองสร้างขึ้น?"

ทุกๆคนได้มองมาที่ยูอิลฮานอย่างตกตะลึง ฮานเยรังก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้ว่าตัวเธอจะได้เรียนรู้การควบคุมอารมณ์แล้ว แต่ว่าต่อหน้าปรากฏการณ์แบบนี้ทำให้เธอไม่อาจจะซ่อนอารมณ์ไว้ได้เลย

"น่าทึ่งมาก คุณยูอิลฮาน..."

ยูอิลฮานได้พูดออกมาแห้งๆ เขาไม่อาจจะพูดได้เลยว่าเขานั่นแหละคือคนที่ตกตะลึงมากที่สุดในคนทั้งหมดนี้

ก่อนที่โลกจะได้ก้าวไปสู่โลกระดับสูงอย่างสมบูรณ์ เขาจะต้องรีบปรับสมดุลของโลกเดี๋ยวนี้เลย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด