WDS Chapter 99 แอนแกเรีย
WDS Chapter 99 แอนแกเรีย
[การค้ากับราชอาณาจักรเอลฟ์ที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเอนชานท์ เอลดินอร์ ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นกว่า 40%ของการนำเข้าทั้งราชอาณาจักร จากการวิเคราะห์แนวโน้วนับสิบๆปี โมดูลวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่-1ที่ระบบเปิดใช้งานได้สังเกตเห็นว่า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ซึ่งส่งผลต่อความต้องการของตลาดในแลนธานอร์ ความผิดปกติหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ จำนวนยุงจากทั่วทั้งราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจในระยะเวลาสั้นๆ ในเวลาเดียวกันนั้น อุปสรรคจำนวนมากจากเอลดินอร์กลับเตรียมพร้อมที่จะขนส่งในทันที แม้ราชาในเวลานั้นจะมีความสงสัยตามที่กล่าวไว้ในบันทึกความทรงจำของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถจะพิสูจน์มันได้] แดนีลค่อนข้างตกใจเมื่อได้ยินความผิดปกตินี้ เอลดินอร์? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อราชอาณาจักรเอลฟ์แห่งนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องระหว่างยุงและการขายสิ่งกีดขวาง
‘ระบบ บอกข้าเกี่ยวกับส่วนนี้ของโลก’
[ยืนยัน ตามข้อมูลที่รวบรวมมา แลนธานอร์ตั้งอยู่ในทวีปที่ชื่อว่า แอนแกเรีย ซึ่งมีราชอาณาจักรและกองกำลังต่างๆอย่างน้อย 10 แห่ง มหาสมุทรขนาดยักษ์ล้อมรอบทวีปไว้ และไม่มีข้อมูลเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับส่วนที่เหลือของโลก แอ็กซ์เลอร์และเอลดินอร์ เป็นหนึ่งในราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ชายแดนของแลนธานอร์ ราชอาณาจักรทั้งสองเชื่อมโยงกันด้วยความสัมพันธ์ทางการค้า แม้ว่าเอลดินอร์จะเป็นราชอาณาจักรที่มีขนาดเล็กกว่า แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียงในด้านการเอนชานท์ รู้จักกันในชื่อ ศูนย์กลางเครื่องประดับเวทมนต์แห่งแอนแกเรีย วิทยาลัยการเอนชานท์ที่มีชื่อเสียงก็ตั้งอยู่ที่นั่น]
เอลฟ์แห่งเอลดินอร์ แดนีลเคยได้ยินคำนี้บ่อยครั้งจากเรื่องราวที่เขาได้ฟังจากนักเดินทางที่อ้างว่า เขาเดินทางมาแล้วรอบโลก อย่างน้อยก็ในเรื่องราวเหล่านั้น เหล่าเอลฟ์ถูกอธิบายว่า มีผิวเปร่งประกาย, ใบหูคล้ายดาบ และดวงตาขนาดใหญ่ พวกเขาเป็นที่รู้กันว่า เป็นผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเวทมนต์ มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพวกเอลฟ์ ที่ช่วยเหลือทุกคนด้วบความเมตตาของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของระบบ แดนีลก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ขณะที่เขาตระหนักว่า มันมีความหมายอย่างไรหากสิ่งนี้เป็นเรื่องนี้
ในการจัดตั้งธุรกิจของเขา แดนีลได้สังเกตถึงความต้องการในตลาดและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการ โดยทำให้มันมีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่าของเดิม หากสิ่งที่เขาสงสัยเป็นเรื่องจริง พวกเอลฟ์ได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว และพวกเขาได้ริเริ่มสร้างความต้องการ ก่อนที่จะขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
แม้ว่าเขาจะเชื่อในความสามารถของระบบ แต่แดนีลก็ยังคงต้องยืนยันสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง เขาจึงเรียกเคลเลอร์มาพบและถามว่า
“พวกเราเชิญใครมายังราชอาณาจักร เพื่อร่วมพิธีราชาภิเษกบ้าง?”
“นายท่าน ราชอาณาจักรทั้งสี่ที่พวกเรามีความสัมพันธ์ด้วยได้รับเชิญทั้งหมด ในบรรดาพวกเขา เอลดินอร์เป็นราชอาณาจักรที่ใกล้ชิดกับพวกเรามากที่สุด เนื่องจากข้อตกลงทางการค้าระหว่างพวกเรา หากไม่พบวิธีอื่น ราชาคงจะขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ที่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เป็นเพราะเขาได้รับข้อเสนอขององค์ชายใหญ่ก่อน”
“ทางเอลดินอร์ได้ยืนยันแล้วว่า พวกเขาจะมาร่วมพิธีด้วย”
แดนีลพยักหน้า และบอกให้จอมเวทย์ราชสำนักออกไป นี่เป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อนเกินไปที่จะกล่าว เว้นแต่เขาจะยืนยันทุกสิ่งด้วยตัวเองได้แล้ว
การค้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับราชอาณาจักร หากความเข้าใจผิดเกิดขึ้นในฉับพลัน มันอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรหลายคนในแลนธานอร์ และมันจะกลายเป็นหายนะสำหรับราชอาณาจักรที่เพิ่งจะเปลี่ยนผู้นำ
ดังนั้น แดนีลจึงตัดสินใจใช้ไหวพริบกับสถานการณ์ เขาจะเริ่มจากการเตรียมแผนสำรองก่อน แล้วค่อยหาวิธียืนยันความสงสัยของเขา เหตุการณ์น้ำยากับดักเวทมนต์ ได้สอนให้เขารู้ว่า เขาควรจะประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดรอบคอบ และเตรียมการให้เพียงพอก่อนที่จะเริ่มดำเนินการจริง
ภารกิจต่อไปก็คือ การเยี่ยมเยือนคลังสมบัติหลวงของแลนธานอร์ นี่เป็นสิ่งที่แดนีลตั้งตารอ ในขณะนี้ เขาคิดย้อนกลับไปถึงความแวววาวของแลนทอง เมื่อครั้งที่เขาไปรับเงินครั้งแรกจากการขายน้ำยากับดักน้ำผึ้งในคฤหาสน์เสนาบดี
คลังสมบัติตั้งอยู่ข้างใต้ห้องหัวใจมังกร มันเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดเป็นอันดับสองในพระราชวังทั้งหมด เพราะแกนกลางของรูปแบบตั้งอยู่ด้านบนของมัน
หลังจากลงบันไดไปแล้ว แดนีลก็เดินผ่านแถวแล้วแถวเล่าของเหล่าทหารที่โค้งคำนับเขาด้วยความเคารพ แดนีลยังคงไม่ชินกับการมีคนจำนวนมากมาโค้งคำนับให้เขา แม้ว่าเขาจะเพียงแค่พยักหน้ารับพวกเขาเท่านั้น แต่หลังจากทำหลายครั้ง มันก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บคอ และตระหนักได้ว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต้องทำ
“นายท่าน ข้าขอบังอาจแนะนำ ท่านต้องการจะไปเยี่ยมเยือนอาจารย์สอนมารยาทการปฏิบัติตัวในพระราชวังหรือไม่? เขารับผิดชอบในการสอนเหล่าองค์ชายและองค์หญิง ในการปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้รับความเคารพ”
คิ้วของแดนีลขมวดเล็กน้อยขณะที่ได้ยินคำกล่าวของเคลเลอร์ เขาคิดเกี่ยวกับมัน และต้องการที่จะปฏิเสธเพราะเขาไม่มีเวลามากนักในตอนนี้ กระนั้น มันก็มีบุคคลสำคัญที่ทรงเกียรติมากมาย ที่จะมาเข้าร่วมพิธีราชาภิเษกของเขา
ดังนั้น เขาจึงพยักหน้าให้เคลเลอร์ก่อนที่จะเดินต่อไปยังคลังสมบัติ
สุดทางเดิน มันเป็นประตูขนาดยักษ์ที่สูงเท่ากับเพดานอย่างสมบูรณ์
โถงทางเดินสูงอย่างน้อย 30 ฟุต ทำให้มือจับประตูโลหะอยู่สูงจากพื้นกว่า 15 ฟุต สำหรับแดนีล มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่า เขาเป็นมนุษย์ที่เดินเข้ามาในบ้านของยักษ์
“นายท่าน ราชาองค์ก่อนเองก็ประหลาดใจกับประตูนี้เช่นกัน โปรดวางหินสาบานตนที่รองของประตูเพื่อเปิดประตู”
มีร่องกลมอยู่ที่ประตูโลหะสีดำ แดนีลเดินไปข้างหน้า เรียกกินสาบานตนออกมาและวางมันลงในร่อง
ขณะที่ประตูเปิดออก บอลที่ส่องแสงก็ปรากฎขึ้นภายใน ขณะที่แดนีลเดินเข้าไป เขาก็ถึงกับอ้าปากค้าง
โชคดีที่มีเพียงเคลเลอร์เท่านั้น ที่เห็นการแสดงออกที่ไม่สมควรบนใบหน้าของราชา
แดนีลไม่สามารถจะควบคุมอารมณ์ของเขาได้ ภาพตรงหน้ามันน่าตกตะลึงมากเกินไป
แท่งทองที่ส่องแสงแวววาวจำนวนมาก วางซ้อนทับกันและกัน ก่อตัวเป็นลูกบาศก์ที่สูงยิ่งกว่าตัวเขา แต่ละลูกบาศก์มีแท่งทองอย่างน้อย 1,000 ก้อน และแดนีลสามารถจะมองเห็นได้ 10 ลูกบาศก์ทั่วทั้งห้อง
ด้านหนึ่งเป็นชั้นวางแลนทองที่มีเป็นแสนๆเหรียญ โดยที่มันมีการจัดเป็นกลุ่มกลุ่มละ 10,000 เหรียญ
สิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ปกคลุมอีเธอร์จำนวนมากที่สุดที่แดนีลเคยเห็นในชีวิต จากการประเมินของเขา มีอีเธอร์อย่างน้อย 50,000 บล็อก อยู่ภายในสิ่งกีดขวางสีขาวนั้น
แม้ว่าบล็อกอีเธอร์เหล่านั้นจะมีค่าเทียบได้กับแท่งทอง แต่มันก็มีบางอย่าง ที่ดึงดูดสายตาของแดนีล
ภายในสิ่งกีดขวาง เขาเห็นอัญมณีสีแดงกองเล็กๆ ที่ส่องประกายยิ่งกว่าบล็อกอีเธอร์มาก
จากระยะไกล แดนีลสังเกตเห็นว่า อัญมณีเหล่านี้บางสิ่งที่หนาแน่นกว่าหมอกอีเธอร์ รูปร่างของมันสมบูรณ์แบบ เหมือนกับเพชรที่เขาเคยเห็นในโลกเดิม แดนีลรู้สึกว่า ตัวเขามีความปรารถนาที่จะสัมผัสและรู้สึกถึงมัน
เห็นการจ้องมองของแดนีล เคลเลอร์ก็อธิบายว่า
“นี่คืออัญมณีเคอร์ พวกมันเป็นทรัพยากรพลังงานที่ระดับสูงกว่าอีเธอร์ อย่างที่ท่านรู้ ขณะที่จอมเวทย์มีความก้าวหน้าในระดับขั้น ปริมาณบล็อกอีเธอร์ที่เขาต้องใช้ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ในการก้าวเข้าสู่ระดับนักรบ แม้แต่อีเธอร์ความเข้มข้นสูง ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเหล่าจอมเวทย์ที่จะทะลวงระดับ ดังนั้น มันจึงจำเป็นจะต้องใช้อัญมณีเคอร์ มันเป็นประโยชน์ต่อทั้งจอมเวทย์และนักสู้ และมันเป็นทรัพยากรหลักที่ราชาปรารถนา แม้ว่าอัญมณีเคอร์จะมีผลให้การฝึกฝนดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้นกับบางคน แต่สำหรับคนที่ระดับขั้นต่ำกว่าจอมเวทย์ระดับนักรบ พวกมันมีราคาแพงมากเกินไป อัญมณีเคอร์แต่ละเม็ด มีค่าเทียบได้กับ 10,000 บล็อกอีเธอร์”
10,000 บล็อกอีเธอร์?
แดนีลตกตะลึงเมื่อได้รู้มูลค่าของมัน ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว มันมีความหมายว่า อัญมณีแต่ละเม็ด มีค่าเทียบได้กับ 100,000 แลนทอง
“การฝึกฝนเป็นหนึ่งในวิธีเผาผลาญเงิน” แดนีลพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เขาเดินเข้าไปในสิ่งกีดขวาง เพื่อดูทรัพยากรพลังงาน ที่ทำให้ราชาองค์ก่อนคลั่งไคล้ด้วยความปรารถนา
แฟนเพจ : WDS แปลไทย