WDS Chapter 94 ห้องสมุดลับ
WDS Chapter 94 ห้องสมุดลับ
กองกำลังทั้งสามเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาถอนกำลังคนของพวกเขาออกไปเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับพวกเขา ตัวเลือกเช่นนี้ดีกว่าการถูกแดนีลใช้กำลังทหารถอนรากถอนโคน พวกเขาเติบโตในราชอาณาจักรแห่งนี้ได้ เนื่องจากความเฉื่อยชาของราชาองค์ก่อน ที่มุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดไปเพียงความแข็งแกร่งของตัวเอง
แดนีลดำเนินการต่อจากนั้นด้วยตัวเอง ในระหว่างนั้น คนทั้งสามที่ถูกจับอยู่ในกรงเล็บมังกรต่างก็จดจ้องมาที่เขา แม้แต่นักบวชอ้วนก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยขณะที่เห็นแดนีลเอาเข็มขัดกับเครื่องประดับเวทมนต์ของเขาไป
สำหรับคำสาบานเวทมนต์ มันมีหลักเหตุผลง่ายๆ กองกำลังเหล่านี้จะสามารถเคลื่อนไหวได้ก็ต่อเมื่อ มีโอกาสเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ความเชื่อมั่นของประชาชนมาถึงจุดแตกหัก สำหรับคนที่อยู่ในระดับนักรบ ไม่ว่าจะเป็นจอมเวทย์หรือนักสู้ พวกเขามีช่วงอายุยืนยาวกว่าคนทั่วไป 3 เท่า พวกเขาจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเวลาเพียง 10 ปี
ในอีก 10 ปีข้างหน้า หากแดนีลยังคงไม่มีความสามารถมากพอ มันจะยังไม่สายเกินไปที่พวกเขาจะเริ่มดำเนินการกับราชอาณาจักรแห่งนี้อีกครั้ง
ในความเป็นจริง คุณค่าหลักๆของผู้ใต้บังคับบัญชาก็คือ ความสามารถของพวกเขา โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงผู้มีความสามารถระดับสูงที่มีศักยภาพในการเติบโตเท่านั้น ที่จะได้รับภารกิจเช่นนี้ เพื่อรวมรวบประสบการณ์การและฝึกฝนตัวเอง ดังนั้น จากมุมมองของกองกำลังต่างๆ พวกเขาอาจจะสูญเสียโอกาสในการแข่งขันไปแล้ว หลังจากนี้ พวกเขาอาจจะพิจารณาการใช้บุคคลระดับผู้ชนะ กระนั้น พวกเขาก็จำเป็นจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะไม่ว่าอย่างไร บุคลคนระดับนั้นก็เป็นดั่งกระดูกสันหลังของนิกายและสมาคมลับส่วนใหญ่
คาถาสำหรับคำสาบานตนเวทมนต์นั้นค่อนข้างง่าย แม้แต่ผู้ที่ยังไม่ถึงขั้นจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ก็สามารถจะเรียนรู้และร่ายมันได้ แล้วการยอมรับคำสาบานตน ก็ไม่สามารถจะบังคับกันได้แต่อย่างใด นั่นคือข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับคำสาบานตนเวทมนต์
ด้วยการคิด หินสาบานตนปรากฎขึ้นบนมือของเขา ขณะที่คนทั้งสาม สาบานตนในนามขององค์กรพวกเขา ว่าจะไม่เข้าเข้ามาในแลนธานอร์อีกในช่วง 10 ปีจากนี้ ภายในใจของแดนีล สิ่งนี้ทำให้เกิดสามการเชื่อมต่อใหม่ ซึ่งมันก็จะทำให้เขาสามารถสื่อสารกับคนทั้งสามได้
หลังจากกองกำลังต่างๆออกไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ประชาชนที่ยังเหลือก็เริ่มสลายตัว หลายคนพูดคุยกันเกี่ยวกับพิธีราชาภิเษกที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วัน พวกเขารอคอยที่จะได้เฉลิมฉลองในวันนั้น
ด้วยเหล่าผู้บัญชาการมาถึงที่นี่แล้ว แดนีลจึงไม่ประสบปัญหาใดๆในการควบคุมพระราชวังอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ขังสมาชิกคนชั้นสูงทั้งหมดแล้ว เขาก็รีบทำให้แน่ใจว่า พ่อแม่ของเขาจะถูกเทเลพอร์ตมาโดยเร็ว และเขาก็จัดการกับสิ่งต่างๆอย่างระมัดระวัง
เคลเลอร์, แคสแซนดร้า และแอรัน สามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างมาก พวกเขาแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระราชวัง และอธิบายกับเขาว่ารัฐบาลทำงานเช่นใด
คร่าวๆ รัฐบาลแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แต่ ตุลาการ, ตำรวจ, การทหาร และคนชั้นสูง
ตุลาการประกอบไปด้วยกลุ่มผู้พิพากษาที่มีหน้าที่ตัดสินคดีความต่างๆตามกฎหมายของแลนธานอร์ แดนีลเคยตรวจสอบกฎหมายมาก่อน ส่วนใหญ่ของพวกมัน ทำให้เขาคิดย้อนกลับไปถึงโลกเดิมของเขา กระบวนการก็คือ ประชาชนจะไปที่สำนักงานตุลาการและยื่นคำร้อง จากนั้น ตำรวจก็จะรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดและนำเสนอต่อผู้พิพากษา ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินโทษหากมีความผิดจริง
กล่าวอีกนัยก็คือ มันเป็นแบบที่เรียบง่ายของกฎหมายและกฎระเบียบจากโลกเดิม แทนที่จะมีทนายความและอัยการ ประชาชนจะต้องต่อสู้คดีด้วยตัวเอง ขณะที่ไม่มีคณะลูกขุนตัดสินเป็นผู้ตัดสิน แต่ผู้พิพากษาจะสาบานตนว่า พวกเขาจะตัดสินคดีความอย่างยุติธรรม ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับความยุติธรรมในกระบวนการตุลากร
แดนีลเรียกผู้บัญชาการตำรวจผ่านหินสาบานตนทันทีที่สิ่งต่างๆถูกจัดการ เขาวางแผนที่จะประชุมกับบุคลากรสำคัญทุกคนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พวกเขาได้รับรู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับความปรารถนาและปณิธานของราชอาณาจักร
จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่ ได้รับคำสั่งให้ติดตามเขาไปทั่วพระราชวัง กระนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นและกล่าวสิ่งใด เว้นแต่แดนีลจะถามออกมา
ห้องที่หัวใจมังกรตั้งอยู่ มันอยู่ภายในห้องโถงของราชา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ราชาจะใช้พักผ่อนและนอนหลับ นี่เป็นกฎที่ส่งผ่านมาจากราชาองค์แรก ราชาทุกคนจะต้องนอนในห้องนี้ เพื่อฟังการเต้นของหัวใจมังกร ซึ่งมันจะทำให้พระราชวังปลอดภัย
ห้องบัลลังก์อยู่ใกล้กับห้องโถง
แดนีลตัดสินใจเยี่ยมชมพระราชวัง ขณะที่รอให้พ่อแม่ของเขามาถึง โดยแดนีลได้บอกให้เคลเลอร์พาเขาไปยังสถานที่ที่น่าประทับใจอื่นๆในพระราชวัง นอกเหนือจากห้องโถงของราชา
ในช่วงเวลานั้น รอยยิ้มอันเรียบง่ายปรากฎขึ้นบนใบหน้าของแดนีล ขณะที่เขาพูดคุยกับเคลเลอร์และเหล่าผู้บัญชาการ เวลาสำหรับความตึงเครียดและการทำสิ่งต่างๆ สิ้นสุดลงแล้ว มันถึงเวลาที่จะผ่อนคลายและค่อยๆกำหนดบทบาทของเขาในฐานะราชา ก่อนจะตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างทิศทางในการปกครองราชอาณาจักร
ด้วยเหตุนี้ เคลเลอร์จึงได้พาแดนีลไปยังห้องบัลลังก์
ทางเข้าเป็นประตูที่ทำขึ้นมาจากทองคำสูง 15 ฟุต ประดับประดาด้วยอัญมณีส่องประกายแวววาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
รูปแบบครอบคลุมห้องและหลายส่วนของพระราชวัง ดังนั้น มันจึงไม่มีปัญหาใดๆที่เขาจะไปยังสถานที่ต่างๆที่เขาต้องการ เปิดประตูขนาดใหญ่ด้วยความคิดที่ส่งผ่านระบบ แดนีลเดินเข้าไปและเขาถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นความมั่งคั่งในปรากฎตรงหน้า
ตัวห้องมีความสูงอย่างน้อย 30 ฟุต มีหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ประดับประดาไปด้วยศิลปะแก้วอันประณีต สะท้อนแสงอ่อนๆในห้องบัลลังก์
ห้องมีรูปร่างคล้ายกรวย โดยมีทางเข้าและบัลลังก์อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ส่วนที่กว้างที่สุดมีระยะอย่างน้อย 100 ฟุต และส่วนที่แคบที่สุดมีระยะราว 50 ฟุต พื้นที่ที่เหลือของห้องตั้งอยู่ด้วยเก้าอี้กำมะหยี่สีแดง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า มันมีไว้สำหรับให้เหล่าเสนาบดีและเจ้ากรมนั่ง
สำหรับบัลลังก์ มันตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของห้อง แทนวางมือทั้งสองเป็นไม้แกะสลักรูปมังกร ที่กำลังอ้าปากและคำรามใส่ผู้ที่มองพวกมัน
กรงเล็บของมังกร ทำให้แดนีลคิดถึงสิ่งที่ปรากฎขึ้นขณะที่เขาใช้รูปแบบ ปีกขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้าง พับไปด้านหน้า ขณะที่ส่วนที่เหลือของร่างดูลู่ลมจากหางถึงหัว ราวกับว่า สิ่งมีชีวิตนี้เกิดมาเพื่อที่จะบิน
ขณะที่แดนีลจดจ้องไปที่มัน เขารู้สึกเหมือนปลายจมูกของพวกมันจะกระเพื่อม ราวกับพวกมันมีชีวิตจริงๆ
ด้านหลังของบัลลังก์เป็นหมอนผ้าพลัฌ ซึ่งถูกจัดเย็บขึ้นมาเหมือนมังกรอีกตัว มันหันหัวมาด้านขณะ ทำให้สามารถจะมองเห็นเขี้ยวของมันได้อย่างชัดเจน
ส่วนที่เหลือของเก้าอี้ทำจากทองคำ ซึ่งส่องประกายระยิบระยับในห้อง
เห็นบัลลังก์ ความทรงจำการทำสิ่งต่างๆได้พุ่งผ่านความคิดของแดนีล และในขณะนั้นเอง เขาก็ได้คิดย้อนกลับไปถึงบางสิ่งที่เขาจะต้องทำ ในช่วงเวลาที่เขาได้เป็นราชาแล้ว
มันก็คือ ห้องสมุดลับ เมื่อครั้งที่เคลเลอร์ช่วยให้แดนีลได้เข้าถึงสถานศึกษาเวทมนต์ เขาได้บอกว่า มีห้องสมุดลับอยู่ที่นั่น แต่มีเพียงราชาเท่านั้น ที่สามารถจะเข้าถึงได้ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่า มีสิ่งใดอยู่ภายใน หลังจากได้รับยืนยันแล้วว่า พ่อแม่ของเขาจะต้องใช้เวลาซักพักก่อนจะมาถึง เขาก็ตัดสินใจไปสถานศึกษาเวทมนต์
ใช้ทางเดินที่เชื่อมระหว่างพระราชวังและสถานศึกษา แดนีลมาถึงห้องสมุดอย่างรวดเร็ว จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่ ใช้เลือดของเขาหยุดเปิดใช้งานบันได ที่จะนำไปสู่ห้องสมุดลับ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร คนส่วนใหญ่จึงกลับไปยังบ้านของพวกเขา สถานศึกษาและห้องสมุดจึงแทบจะไม่มีคนเหลืออยู่เลย
เข้าไปในห้อง มันเป็นห้องที่ดูเหมือนจะว่างเปล่า เพียงแค่มีโพเดี่ยวที่คุ้นเคยตั้งอยู่ตรงกลาง และแดนีลเดินไปที่มันอย่างช้าๆ
ด้วยคำแนะนำของจอมเวทย์ราชสำนัก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงคนเดียวนอกเหนือจากราชาที่สามารถเข้าถึงห้องสมุดลับแห่งนี้ได้ แดนีลคิดถึงหินสาบานตนและนำมันออกมาจากร่างของเขา จากนั้น ก็วางมันลงร่องของโพเดียม
หินสาบานตนเข้ากับร่องอย่างสมบูรณ์ และมันก็ส่องแสงสีเหลืองสลัวๆออกมา จากนั้น แดนีลก็ทำตามคำแนะนำ ด้วยการหยดเลือดของเขาลงไปบนร่อง
ทันทีที่เลือดหยดลงบนร่องของโพเดียม มันก็ถูกดูดซับเข้าไป ซึ่งในขณะนั้น แดนีลรู้สึกได้ว่า มีข้อมูลจำนวนมากพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขา
[ตรวจพบอินเตอร์เฟซ เริ่มต้นการติดต่อ โฮสต์ต้องการจะได้ยินข้อความในความคิดหรือไม่?]
ขณะที่ระบบหยุดมัน แดนีลก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะกล่าวในใจว่า ‘ใช่’
ข้อความที่เขาได้ยิน มันทำให้เขาตกตะลึงและถึงกับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เคลเลอร์และจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่จดจ้องมาที่เขา
‘ขอแสดงความยินดีที่ได้เป็นราชา มันดูเหมือนว่าในที่สุด เหล่าเด็กน้อยจากตระกูลแลนธานอเร่ก็ถูกช่วงชิงอำนาจไป ข้ารู้สึกยินดีที่จะได้พูดคุยกับคนอื่น แทนที่จะเป็นเจ้าโง่คนก่อนที่ถามแต่เรื่องไร้สาระมาเป็นเวลานาน แล้ว ท่านมาที่นี่เพื่อหาข้อมูลอะไร?’
แฟนเพจ : WDS แปลไทย