WDS Chapter 90 ราชาผู้ถ่อมตน?
WDS Chapter 90 ราชาผู้ถ่อมตน?
สุดท้ายแล้ว หลังจากผ่านไป 1 นาที แดนีลก็รู้ได้ว่า เขาไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับกองทัพและสงครามเลย แม้ว่าเขาจะถามระบบ ทั้งหมดที่เขารู้ก็เป็นข้อมูลที่รวบรวมมาจากห้องสมุด มันทำให้เขาคิดถึงเว็บเซิรชเอ็นจิ้นจากโลกก่อน ที่เขาสามารถค้นหาขอมูลใดๆที่เขาต้องการได้ แต่การใช้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เขาจะต้องทำด้วยตัวเอง
เนื่องจากมันเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน และประชาชนยังคงเฝ้าดูเขาอยู่ เขาจึงไม่สามารถตรวจสอบเครื่องมือในร้านค้าระบบที่อาจจะสามารถช่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ที่แคสแซนดร้าเสนอวิธีการและรอให้เขาตัดสินใจอย่างเร็วที่สุด
คิดเกี่ยวกับมัน แดนีลตัดสินใจทำบางอย่างและกล่าวในช่องส่วนตัวว่า
“แคสแซนดร้าและเหล่าผู้บัญชาการทั้งหลาย ข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ข้าเพิ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ และข้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับกองทัพและสงคราม ข้าหวังว่าจะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างให้เร็วที่สุดเท่าที่ข้าสามารถจะทำได้ แต่ในเวลานี้ สิ่งเดียวที่ข้าสามารถทำได้ก็คือ พึ่งพาประสบการณ์ของพวกท่าน กองทัพศัตรูกำลังรอให้กองกำลังที่โจมตีพระราชวังบุกฝ่าเข้ามาและสังหารราชา อย่างไรก็ตาม ข้าทำความเข้าใจรูปแบบและใช้มันได้ก่อนที่พวกเขาจะทำเช่นนั้นได้ แล้วข้าก็ได้จับกุมพวกเขาทั้งหมดไว้และหยุดแผนการของพวกเขาได้แล้ว”
“จากการคาดการณ์ของข้า ศัตรูรวบรวมกำลังพลจำนวนมากก็เพื่อเดินทัพเข้าสู่ราชอาณาจักรโดยตรง พวกเขาจะควบคุมราชอาณาจักรจากทั้งภายในและภายนอก โดยการประสานงานกับกองกำลังที่เข้ามาควบคุมหินสาบานตน ที่ข้ากล่าวมา มันเป็นกรณีที่ข้าทำไม่สำเร็จ และเป็นคนอื่นที่มาคุยกับพวกท่าน พวกเขาอาจจะสั่งให้พวกท่านยอมแพ้ และปล่อยให้ศัตรูเดินทัพเข้ามา”
นี่คือสิ่งที่แดนีลวิเคราะห์จากสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาพยายามวางตัวเองในจุดเดียวกับศัตรู เขาจึงตระหนักได้ว่า หินสาบานตนเป็นกุญแจสำคัญ ด้วยหินสาบานตน มันสามารถจะสั่งให้กองทัพยืนนิ่ง และปล่อยให้ศัตรูเข้าควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดน ตามที่พวกเขาตกลงกันไว้ได้
เขารู้ว่า เขาไม่ฉลาดหรือไม่พลังมากพอที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้ ทุกย่างก้าวที่เขาเดิน เขาจึงไม่ลังเลใดๆที่จะรับความช่วยเหลือจากผู้ที่สามารถทำมันได้ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือในการจัดการฝ่ายของแฟกซัล หรือเอเลนาฟและเสนาบดี ในการขายน้ำยากับดักน้ำผึ้ง แดนีลรู้ดีว่าใครและเมื่อไหร่
ตอนนี้ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าว ความเงียบก็ปกคลุมช่องสื่อสารอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ที่ด้านหน้ากำแพงชายแดน กองทัพแอ็กซ์เลอร์ก็กำลังพยายามตัดสินใจก้าวต่อไปของพวกเขาเช่นกัน
ผู้บัญชาการทั้งสามยืนเป็นวงกลม มองเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ขณะที่สงสัยว่า สิ่งที่พวกเขาได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่
จากทั้งสาม หนึ่งเป็นผู้หญิงผมสีแดงยาว สวมใส่กองเกงหนัง, เสื้อเชิ้ตสีขาว, เสื้อกั๊กหนัง และสวมทับด้วยชุดคลุมสีเทาที่โบกสะบัดตามสายลม ด้วยการสวมชุดรัดรูป มันทำให้รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ เพียงพอจะทำให้เหล่าทหารหลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเหลือบมองไปที่ผู้บัญชาการคนนี้ ซึ่งได้รับฉายาแปลกประหลาดว่า ปีศาจเพลิง
ดวงตาสีแดง, โหนกแก้มสูง, จมูกแหลม ฝ้ากระที่ติดอยู่บนใบหน้าของเธอเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียง เพราะมันจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนเวลาที่เธอโกรธ ซึ่งจะเห็นได้อย่างบ่อยครั้งในกองทัพจอมเวทย์
ชายคนที่สองมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ราวกับว่า ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาถูกใช้อยู่ในสนามรบ เขาสวมใส่ชุดสีดำที่ดูเหมือนกับชุดเกราะ กล้ามเนื้อที่บวมเป่งของเขา ดูราวกับพยายามจะระเบิดชุดของเขา เคราและผมของเขาเป็นสีดำซึ่งมีริ้วสีขาวปะปนอยู่เล็กน้อย ขณะที่จมูกของเขา จะเคยถูกทำให้หักหลายครั้งแล้ว
ชายคนสุดท้ายสวมชุดลำลองราวกับเขาเป็นเพียงประชาชนธรรมดาที่ออกไปซื้อผักในตลาดตามเวลาปกติ เขายังดูเยาวัย มีผมสีน้ำตาลมันวาว, ดวงตาแวววาว และกรามแหลมคม ริมฝีปากของเขามีรอยยิ้มซุกซนที่ตอนนี้เผยออกมาเล็กน้อย ราวกับคำกล่าวที่เขาได้ยินเมื่อครู่นั้น มันน่าตกใจเกินกว่าที่จะแสดงออกตามปกติได้
ทั้งสามใช้เวลาชั่วครู่เพื่อฟื้นคืนจากความตกใจที่พวกเขาได้ยินจากสิ่งที่แดนีลกล่าว
ตั้งแต่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการในสมัยของราชาองค์ก่อน พวกเขาได้ถูกตำหนิและตะคอกใส่ทุกครั้งที่พวกเขาล้มเหลวจากความปรารถนาของราชาที่ต้องการจะชนะการต่อสู้ที่ไม่สามารถจะเอาชนะได้และรับเอาทรัพยากรที่หาได้ยาก พวกเขาทำได้เพียบทำตามคำสั่งและพยายามอย่างดีที่สุดในการช่วยชีวิตทหารของพวกเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การปลอบใจเดียวสำหรับพวกเขาก็คือ อย่างน้อย ราชาก็รู้ว่า การให้คนชั้นสูงที่ไม่มีประสบการณ์มาดำรงตำแหน่งของพวกเขา มันจะเป็นดั่งหายนะที่จะทำลายราชอาณาจักร
ดังนั้น หน้าที่หลักของพวกเขาก็คือ ฟังคำสั่งและพยายามปฏิบัติตาม โดยที่ห้ามถามคำถามกลับใดๆ สิ่งเดียวที่หยุดไม่ให้กองทัพถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ก็คือ ความรู้ทางทหารที่กว้างไกลของราชา ที่เขาได้รู้มาจากห้องลับภายในห้องสมุด แต่ความรู้ก็เป็นเพียงความรู้ เขามักจะไม่สามารถต่อต้านมันและออกคำสั่งที่เป็นไปไม่ได้ เพื่อโอกาสเพียงเล็กน้อยในการตอบสนองความโลภของเขา
ดังนั้น ได้ยินแดนีลกล่าวอย่างสุภาพ แม้พวกเขาจะไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่เขากลายเป็นราชา แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า ชีวิตของพวกเขาทั้งหมด อยู่ในมือของเขา ในกรณีนี้ มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก จากใครบางคนที่ยังสุภาพกับคนที่อยู่ภายใต้เขา
“ราชาผู้ถ่อมตน?”
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาเงียบครั้งที่สอง
“ข้าชอบเขา”
แคสแซนดร้ากล่าวขึ้นเสียงดัง ซึ่งมันได้ทำลายความคิดของอีก 2 คน
“มันเป็นเสียงที่น่ายินดีอย่างแน่นอน” ชายคนที่สวมชุดลำลองกล่าว ขณะที่ยิ้มออกมาบนใบหน้า
ชายคนที่สามไม่กล่าวสิ่งใด แต่อีก 2 คน สามารถบอกได้ว่า เขาก็รู้สึกปิติยินดีเช่นกัน โดยการตัดสินจากดวงตาที่เปร่งประกายของเขา
“ท่านคิดอย่างไร? การวิเคราะห์ของเขาถูกต้องหรือไม่?” แคสแซนดร้าถาม พวกเขายังคงพูดคุยกัน ขณะที่แดนีลกำลังรอให้ความเงียบครั้งที่สองสิ้นสุดลง
ชายมีแผลเป็นกล่าวว่า “ไม่ แอ็กซ์เลอร์จะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น และข้าก็รู้ว่าท่านก็คิดเช่นนั้น แคสแซนดร้า แม้เขาจะกล่าวถูกครึ่งหนึ่ง แต่อีกครั้งจะต้องผิดอย่างแน่นอน ตามสิ่งต่างๆที่พวกเราเห็น ใครจะอาสาเป็นคนบอกราชาองค์ใหม่ของพวกเราว่าเขาผิด และหาวิธีให้เขาใช้ข้อเสนอของพวกเรา? พวกเราต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในครั้งก่อน หูของข้ายังดังด้านชาจากเสียงตำหนิที่ข้าได้ยินในวันนั้น ดังนั้น ในครั้งนี้ มันจะต้องเป็นหนึ่งในพวกท่านทั้งสอง” ชายในชุดลำลองกล่าว ในขณะนั้น ทั้งสามสั่นสะท้านเล็กน้อย ราวกับจดจำความทรงจำอันเลวร้ายที่ฝังลึกอยู่ในสมองของพวกเขาได้
แฟนเพจ : WDS แปลไทย