WDS Chapter 76 การต่อสู้กับอาจารย์โจนาห์
WDS Chapter 76 การต่อสู้กับอาจารย์โจนาห์
ช่วงเวลาที่แดนีลมาถึงกระท่อม เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นที่คุ้นเคยจากในอากาศ ขณะที่เขาเคาะประตู เขาก็พยายามคิดเกี่ยวกับมัน แม้ว่ามันจะคล้ายกับน้ำยากับดักน้ำผึ้ง แต่มันแตกต่างออกไป
“เข้ามา”
ได้ยินเช่นนั้น แดนีลก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป เห็นอาจารย์ของเขากำลังยุ่งอยู่กับโหลน้ำผึ้ง
มีนกเผาวางอยู่ข้างๆ และดูเหมือนว่า ชิ้นส่วนต่างๆของมันจะถูกตัดออกไปผสมในน้ำยา
ใกล้ๆเขาเป็นสิ่งกีดขวางที่กำลังปกป้องบล็อกอีเธอร์ชิ้นหนึ่ง ขณะที่แดนีลเปิดประตูเข้ามา โจนาห์ก็ปิดการทำงานสิ่งกีดขวาง พร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
กระนั้น หลังจากที่เห็นว่าพวกยุงไม่สนใจน้ำยาของเขาแล้ว ความผิดหวังก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกมัน 8 ตัว เริ่มที่จะกัดกินบล็อกอีเธอร์ โจนาห์ก็ร่ายคาถาเพื่อขับไล่พวกมันออกไป แล้วเปิดใช้งานสิ่งกีดขวางอีกครั้ง
“นี่มันน้ำยาบ้าอะไรกัน มันทำอย่างอย่างไร? หากเพียงข้ารู้ ข้าก็คงจะสามารถทำมันได้เช่นกัน”
ที่หน้าประตู แดนีลหัวเราะออกมาเบาๆขณะที่แอบมองความพยายามที่ไร้ประโยชน์ของอาจารย์เขา หากน้ำยาของเขาสามารถจะทำสำเร็จได้ง่ายๆ ก็คงจะมีบางคนค้นพบนานแล้ว
หันกลับมา เมื่อสังเกตเห็นแดนีลแล้ว โจนาห์ก็กล่าวว่า “โอ้ แดนีล เจ้ามาข้า มีอะไรหรือไม่?”
โดยไม่กล่าวใดๆ แดนีลยกฝ่ามือขึ้น พร้อมกับทำให้อสรพิษสายฟ้าปรากฎตรงหน้าเขา
จำนวนอนุภาคมูลฐานที่จอมเวทย์สามารถจะควบคุมได้นั้น มันขึ้นอยู่กับระดับขั้นของพวกเขา ตอนนี้ ด้วยพลังจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ขั้น 4 ของแดนีล เขาได้ก้าวกระโดดจากการที่เคยสร้างได้เพียงประกายสายฟ้าเล็กๆที่ยาวเพียงไม่กี่นิ้ว เป็นอสรพิษสายฟ้ายาว 2 ฟุต
เห็นสายฟ้าดังกล่าว ดวงตาของโจนาห์เปร่งประกายขึ้น
“เจ้าทะลวงผ่านแล้ว นี่เป็นสถิติใหม่ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไม่ได้มีเพียงศักยภาพระดับตำนานแฝงเท่านั้น ดี มันชุดเจนแล้วว่า เหตุใดเคลเลอร์ถึงได้สนับสนุนเจ้า แล้ว? เจ้ามาเพื่อแสดงให้ดูเท่านั้น?”
ได้ยินเช่นนั้น แดนีลก็คิดย้อนกลับไปถึงครั้งสุดท้ายที่เขาท้าอาจารย์ของเขาประลอง ตอนนั้น เขาเพิ่งจะทะลวงเป็นจอมเวทย์ระดับมนุษย์ขั้น 3 และเขาต้องการจะรู้ว่า ตนมีพลังมากเพียงใดแล้ว เนื่องจากไม่มีคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม เขาจึงมาขอท้าประลองอาจารย์ของเขา
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้น พร้อมกับมีแท่งน้ำแข็งจ่ออยู่ที่คอ
สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ อาจารย์ของเขาได้ใช้วิธีการเดียวกับที่เขาใช้ในการประเมินปีหนึ่ง ขาของเขาถูกลมพัดจนล้มลง และแท่งน้ำแข็งก็ปรากฎขึ้นที่คอของเขา
แดนีลเปิดใช้งานการมองเห็นมูลฐานของเขา เขาจึงเห็นถึงเหตุผลที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ แรงกระโชกมีอิทธิพลต่ออนุภาคมูลฐานรอบๆ ทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าและทำให้แดนีลไม่มีโอกาสต่อต้าน มันเป็นสิ่งเดียวกับที่เขาเคยเห็นในครั้งแรกที่พบกับชายคนนี้
แดนีลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในปัจจุบัน อาจารย์ของเขาอยู่ในระดับใดแล้ว อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้โดยไม่ได้ต่อสู้นั้น มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก
ครั้งนี้ เขามีแผนการ
“ข้าต้องการประลอง และหากข้าทำร้ายท่านได้ ข้าอยากจะรู้ว่า เชิร์ชจะโจมตีพระราชวังเมื่อใด” เขากล่าวขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เพื่อที่จะรับข้อมูลตามเงื่อนไขดังกล่าว
พิจารณาจากการสังเกตสิ่งต่างๆ โจนาห์จะต้องมีระดับขั้นอย่างน้อย จอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษ์ขั้นสูงสุด นี่ยังไม่นับรวมการขยายพลัง ซึ่งเป็นรูปแบบคาถาแปลกประหลาดที่เขาได้รับมาจากเชิร์ช แต่หากแดนีลต้องการ ด้วยการทุ่มสุดกำลัง เขาอาจจะกระทั่งสามารถจะต่อสู้กับโจนาห์ได้อย่างสูสี อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยพลังที่แท้จริงของเขา แน่นอนว่า นี่ยังไม่ได้นับรวมการใช้คาถาต่างๆอย่าง บอลเพลิงบีบอัด ที่ได้รับการพัฒนาจากระบบ ไม่ว่าอย่างไร พารากอนก็เป็นที่รู้จักกันว่า มีความสามารถในการเอาชนะผู้ที่ระดับขั้นสูงกว่าได้
โจนาห์ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เจ้ามั่นใจแล้ว? ดี เช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าเริ่มก่อนซักเล็กน้อย แต่หากข้าชนะเจ้า เจ้าจะต้องนัดอาจารย์ของเจ้าให้ข้า ข้าอยากจะพูดคุยกับเขาซักเล็กน้อย เกี่ยวกับ...เรื่องธุรกิจ” เคลเลอร์บอกกับโจนาห์ เกี่ยวกับคนที่อยู่เบื้องหลังแดนีลแล้ว
แดนีลยักคิ้ว เป็นการยอมรับอย่างง่ายๆ และเขาได้เตรียมที่จะเหน็บแนมไว้แล้ว
แน่นอน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า โจนาห์ได้รับอนุญาติให้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่รู้รายละเอียดใดๆในข้อตกลงระหว่างโจนาห์และเชิร์ช
เขาถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ท่านสามารถบอกวันที่พวกเขาจะโจมตีกับข้าได้หรือ? ข้าคิดว่า เชิร์ชห้ามไม่ให้ท่านปล่อยข้อมูลของพวกเขารั่วไหลเสียอีก”
ราวกับจดจำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจได้ โจนาห์เบ้ปากก่อนจะตอบว่า “เจ้าไม่ต้องกังวลความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเชิร์ชมากนัก นอกจากนี้ มันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรนัก เชิร์ชเชื่อมั่นในแนวทางที่ตรงไปตรงมาของตัวเอง พวกเขาต้องการให้ประชาชนเห็นพวกเขาทุบตีและกำจัดเหล่าคนชั้นสูง ด้วยการใช้วิธีนี้ พวกเขาจะได้รับความประทับใจที่ดี และทำให้มันเป็นเรื่องง่ายในการสร้างความศรัทธาของพวกเขาหลังจากที่ชนะแล้ว แน่นอนว่า การโจมตีโดยตรง มีความเสี่ยงมากที่สุด แต่พวกเขาก็มีแผนการบางอย่าง ซึ่งแม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้ สำหรับวันที่พวกเขาจะโจมตี ข้าสามารถบอกเจ้าได้ แต่เจ้าจะต้องทำตามที่กล่าวให้ได้เสียก่อน”
ได้ยินเช่นนั้น แดนีลค่อนข้างจะตกใจ เดิม เขาคิดว่ากองกำลังต่างๆวางแผนที่จะโจมตีอย่างลับๆโดยไม่ให้พระราชวังรู้ตัว แต่กลับกัน พวกเขาเลือกที่จะเดินผ่านประตูหน้าโดยตรง?
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อย เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดโอกาส แต่กระนั้น เขาก็จำเป็นที่จะต้องรู้วันโจมตีล่วงหน้า
“มาประลองกัน”
โจนาห์พยักหน้า และเดินนำออกไปจากกระท่อม สำหรับแดนีล เขามองไปยังโจนาห์ ราวกับอาจารย์ของเขาเป็นดั่งคลังสมบัติ ที่จะทำให้เขาสามารถพัฒนาถาคาใหม่ๆขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสามารถของเขา และให้ข้อมูลที่เขาต้องการได้
ไปยังสนามโล่งที่อยู่ใกล้ๆ โจนาห์หยิ่งเครื่องประดับเวทมนต์ที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านี้ออกมา และเปิดใช้งานสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันการสอดแนม
เขายืนนิ่งอย่างสงบ รอให้แดนีลเป็นฝ่ายเดิมก่อน
ความมั่นใจดังกล่าวทำให้แดนีลไม่พอใจเล็กน้อย มันทำให้เขาต้องการที่จะพยายามอย่างสุดกำลัง และเอาชนะการประลองในครั้งนี้ เพื่อทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของอาจารย์เขากลายเป็นแข็งค้าง
ในฉับพลัน แดนีลหายไปจากจุดที่เขาเคยอยู่ แล้วปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหลังอาจารย์ของเขา ชี้มือไปข้างหน้า เขาสร้างบอลเพลิงหลายลูกที่มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ โดยแต่ละลูกมีขนาดเท่าศีรษะของเขา และความร้อนของมันก็แผ่ขยายไปยังอากาศรอบๆ
หลังจากที่เขายิงพวกมันออกไปโดยไม่ลังเลใดๆแล้ว เขาก็หายตัวไปอีกครั้ง และปรากฎตัวขึ้นที่ด้านขวาของโจนาห์ ครั้งนี้ เขาร่ายคาถาน้ำแข็ง
โจนาห์ร่ายคาถาสิ่งกีดขวางออกมา เขาหาวแล้วมองอย่างเฉยชาไปยังคาถาต่างๆที่พุ่งเข้ามาโจมตีเขา ก่อนที่จะหายไปเมื่อกระทบกับสิ่งกีดขวาง มันดูเหมือนว่า เขาจะได้รับผลกระทบจากความจริงที่แดนีลกล้าพนันกับเขา ตอนนี้ เขาจึงต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา
แดนีลไม่หยุดใดๆ เขาเทเลพอร์ตจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง และเขายังคงใช้คาถาบอลธาตุต่างๆไปยังสิ่งกีดขวางที่ปกป้องโจนาห์อย่างต่อเนื่อง
ไม่นานจากนั้น สิ่งกีดขวางก็ถูกเคลือบด้วยบางสิ่งที่คล้ายกับโคลนเฉอะแฉะ
“คาถาของเจ้า มันไม่สามารถจะทำอะไรข้าได้เลย แล้วด้วยระดับขั้นของเจ้า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าจะร่ายคาถาใหญ่ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ข้าจะจบการเล่นสนุกเพียงเท่านี้แล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงจากภายในสิ่งกีดขวางแล้ว แดนีลก็หยุดเทเลพอร์ตไปรอบๆและยินตรงหน้าโจนาห์ รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎบนใบหน้าของเขาขณะที่เขายกมือขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย
อสรพิษสายฟ้าหลายตัวที่คล้ายกับตัวที่เขาแสดงให้โจนาห์ก่อนหน้านี้ปรากฎขึ้นรอบๆสิ่งกีดขวาง เมื่อสัมผัสกับโคลนแล้ว พวกมันก็สลายหายไป
ในฉับพลัน เสียงแตกหักดังขึ้น สิ่งกีดขวางของโจนาห์พังทลายลง ซึ่งมันทำให้โจนาห์ประหลาดใจเป็นอย่างมาก
โจนาห์เปิดใช้งานสิ่งกีดขวางที่เล็กกว่าอีกอัน และทำการหยุดโคลนที่มีกระแสไฟฟ้าซึ่งกำลังพุ่งเข้ามาหาเขา
การแสดงถึงความอับอาย ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่กล่าวว่า “กลอุบายดี แต่เจ้ายังไม่ได้สัมผัสถูกตัวข้า”
กระนั้น แดนีลก็ชี้ไปที่ปกเสื้อของโจนาห์แล้วยิ้มออกมา มองไปที่มัน โจนาห์สังเกตเห็นโคลนขนาดเล็กที่ผ่านเข้ามาได้
สัมผัสกับมัน เขาถึงกับต้องหดมือกลับ เพราะรู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ยังคงอยู่
โจนาห์ถอนหายใจออกมา เขาอ้าแขนและขยายสิ่งกีดขวางออก เพื่อดีดโคลนออกไป
แดนีลใช้กลอุบายเล็กน้อยในการหลอกโจนาห์ สิ่งกีดขวางที่สร้างจากจอมเวทย์นั้น มันทำงานด้วยการควบคุมอนุภาคมูลฐานรอบๆ พวกมันจะพังทลายลงเมื่อคาถาที่โจมตีผ่านเกณฑ์บางอย่าง โดยมันมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ การใช้พลังที่เฉียบคมเพียงพอที่จะทะลุผ่าน หรือการโจมตีสิ่งกีดขวางจากทุกทิศทุกทางอย่างสมบูรณ์
แดนีลใช้วิธีหลัง การใช้คาถาบอลเพลิงและแท่งน้ำแข็งของเขานั้น ทำก็เพื่อให้โคลนซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีปรากฎขึ้น จากนั้น เขาก็ใช้คุณสมบัติดังกล่าว ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไป โจมตีสิ่งกีดขวางจากทุกทิศทาง
แน่นอน มีเพียงพารากอนเท่านั้นที่สามารถจะใช้คาถาได้มากมายและร่ายคาถาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันทรงพลังเช่นนี้ได้
“การเดิมพันก็คือการเดิมพัน ทำได้ดีมาก เด็กน้อย เจ้าเติบโตขึ้นแล้ว” โจนาห์กล่าว ซึ่งมันทำให้แดนีลยิ้มกว้างจากการได้รับชัยชนะด้วยความสามารถของตัวเขาเอง
แฟนเพจ : WDS แปลไทย