WDS Chapter 69 งานพิธีศพ
WDS Chapter 69 งานพิธีศพ
วันรุ่งขึ้น เมื่อประชาชนตื่นขึ้นมา พวกเขาก็ได้เห็นทหารยามและสมาชิกรัฐบาลเดินไปรอบๆถนน แล้วใช้ลำโพงขนาดเล็ก กระจายเสียงของพวกเขาออกไป เนื้อหาของข้อความทำให้ประชาชนจำนวนมากถึงกับต้องบี้หูของตัวเอง และฟังอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่า สิ่งที่พวกเขาได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่
“ราชาองค์ก่อนของพวกเขา เจฟฟรอย แลนทานอเร่ ได้สิ้นลมหายใจแล้ว หลังจากที่อุทิศชีวิตของพวกเขาเพื่อดูแลใช้ราชอาณาจักรแลนธานอร์มาเป็นเวลานาน เช้าวันพรุ่งนี้ พวกเราจะทำตามพิธีโบราณอย่างสมเกียรติ เดินขบวนไปตามถนนสายกลาง จากประตูเมืองชั้นในไปยังประตูเมืองชั้นนอก ขอให้ชื่อของเขาคงอยู่ตลอดไป”
เมื่อได้ฟังการประกาศซ้ำหลายครั้งแล้ว ทุกคนก็ตระหนักได้ว่า สิ่งที่พวกเขาได้ยินนั้นถูกต้องแล้ว ราชาองค์ก่อน? หลายคนไม่รู้จากชื่อของเขา จนกระทั้งพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของพวกเขาบอกกับพวกเขา นี่เป็นเพราะมันเป็นเวลา 60 ปีแล้ว ที่ราชาองค์ปัจจุบันขึ้นครองราช
มนุษย์ทุกคนที่ก้าวข้ามระดับมนุษย์เข้าสู่ระดับนักรบ จะมีช่วงชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 200 ปี นี่เป็นเพราะมันเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดที่สำคัญครั้งแรกของร่างกายมนุษย์ ในทางกลับกัน คนทั่วไปส่วนใหญ่มีอายุยืนยาวได้เพียง 80 ปีเท่านั้น ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่ใครหลายคนจะคิดว่า ราชาองค์ก่อนได้ล่วงลับไปนานแล้ว ตอนนี้ เมื่อตระหนักว่าเขามีชีวิตอยู่เป็นเวลานาน พวกเขาก็ต้องตกตะลึงกับผลประโยชน์จากการฝึกฝนสู้จุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม หากปราศจากความสามารถและทรัพยากรแล้ว การจะไปถึงระดับดังกล่าวก็คงจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
หลังจากที่ผู้ประกาศทำการประกาศทั่วทั้งเมืองหลวงเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็เดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆในราชอาณาจักรโดยใช้การเทเลพอร์ตของกองทัพ ดังนั้น กว่าที่แดนีลจะได้ยินประกาศ มันก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว เขานอนหลับตลอดทั้งคืนและตลอดช่วงเช้า เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเทเลพอร์ตวัตถุขนาดใหญ่
เมื่อเสียงประกาศลอยมาถึงหูของเขา สิ่งแรกที่เขารู้สึกก็คือ ความโล่งใจ แดนีลไม่เคยเชื่อถือเวลาที่ราดากัสต์เคยบอกกับเขา เขาได้สอบถามกับระบบและรู้ว่า อายุไขจะยิ่งลดลงเมื่อพยายามออกแรง ในความเป็นจริง จากการพิจารณาการแสดงของนักบวชต่อตัวเขาในตอนนั้น และเหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากที่เขาออกไป ทำให้เขาตระหนักได้ว่า แผนการของพวกนักบวชในตอนนั้นก็คือ พยายามให้ราชาองค์ออกแรง เพื่อที่อายุขัยของเขาจะได้สั้นลงเร็วขึ้น
ด้วยเหตุนี้ แดนีลจึงใช้เวลาตลอด 3 ปี ทำทุกอย่างเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ เพื่อเตรียมพร้อมเผื่อว่าเหตุการณ์จะคืบหน้าเร็วเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ นี่เป็นบทเรียนอันมีค่าที่เขาได้เรียนรู้จากการยายน้ำยากับดักน้ำผึ้ง ทุกสิ่งสามารถจะดำเนินไปไกลเกินความคาดหมายของเขาได้ และมันก็พร้อมจะหันหลังกลับมาแทงข้างหลังเขาหากเขาไม่เตรียมพร้อมรับมือ
ในความเป็นจริง เขาได้ตั้งเป้าหมายไว้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวในแต่ละปี ดังนั้นแล้ว หากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เขาก็จะต้องเตรียมความพร้อม ในความคิดของเขา หากมีเวลาซัก 5 ปี มันคงจะสมบูรณ์แบบ เพราะมันยังมีแผนการบางอย่าง ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในชัยชนะของเขาได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เขาจะต้องพยายามทำเท่าที่เขาสามารถจะทำได้
ขึ้นจากห้องใต้ดิน ด้วยการปีนบันได กลิ่นอันน่าอัศจรรย์ของพายเนื้อที่แม่เขาทำได้เข้ามาต้อนรับเขา ตอนนี้ เขารู้แล้วว่า เนื้อของโลกนี้มาจากสัตว์ที่ดูเหมือนจะผสมระหว่างเป็ดและไก่ มันมีจงอยปากคมและมีขนสีขาว หลังจากนั้น เขาก็ได้เพลิดเพลินกับพายเนื้อที่แม่เขาทำอย่างเอร็ดอร่อย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาได้มาเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเป็นประจำทุกเดือนหรือมากกว่านั้น แน่นอนว่า เขาได้ขอให้จอมเวทย์มิติของเสนาบดีช่วย เพราะเขาไม่มีพลังมากพอที่จะเทเลพอร์ตระยะไกลได้ กระทั่งหลังจากที่เขาทะลวงผ่าน และยืนยันว่า ไม่มีใครเฝ้าติดตามเขาแล้ว เขาก็ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
พ่อแม่ของเขาใช้ชีวิตในชนบทอย่างมีความสุข พวกเขาได้ดูแลฟาร์มเล็กๆด้วยความช่วยเหลือจากเด็กๆบางคนที่พวกเขาว่าจ้างจากในหมู่บ้าน และแดนีลก็มักจะนำสิ่งต่างๆมาฝากพวกเขาเมื่อเขามาที่นี่
แดนีลรู้สึกมีความสุขที่เห็นพ่อแม่ของเขาปลอดภัยและมีความสุข ทุกครั้งที่เขามาเยี่ยมพวกเขา ความรักที่พวกเขาแสดงออกมา มันได้ทำให้เขาพยายามมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่จะคุกคามตัวเขาและครอบครัวของเขา นอกจากนี้ เขายังรู้สึกขอบคุณเสนาบดี ที่ช่วยเขาทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยเขาอย่างมากในการเป็นสื่อกลางการเงินระหว่างราชาและอาจารย์ของเขา
เขารู้ว่าในไม่ช้า ราชาจะต้องขอให้เขาตัดสินใจเกี่ยวกับการเทเลพอร์ตระยะไกล แดนีลจึงเตรียมที่จะกลับไปยังห้องของเขาในสถานศึกษา
สิ่งเดียวที่เขางงวยก็คือ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังพิธีศพ เขาสงสัยว่าเพราะเหตุใด ราชาถึงตัดสินใจทำเช่นนั้น ทั้งๆที่เขารู้ดีอยู่แล้วว่า ศัตรูท้ังหมดในราชอาณาจักร กำลังรอโอกาสนี้อยู่
เมื่อกลับมาถึงห้อง เขาก็เริ่มคิดถึงแรงจูงใจที่อาจจะเป็นไปได้
ห้องของเขาแตกต่างจากเมือง 3 ปีก่อน มันมีรอยดำมากมายบนผนังห้อง ราวกับเกิดการระเบิดขึ้นอยู่เป็นประจำ มีบอลโลหะจำนวนมากเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นรอบๆ และมีเตาเผาแบบพกพาอยู่ในมุมของห้อง มันดูทรุมโทรมอย่างมาก ราวกับถูกใช้งานอยู่เป็นประจำ
นั่งลงบนเตียง แดนีลเริ่มวิเคราะห์ทุกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ เขารู้ดีว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนยังไม่เปิดฉากโจมตีก็คือ รูปแบบอันทรงพลังที่ปกป้องพระราชวัง เขาได้ยินเรื่องนี้มาจากพ่อของเขา ที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาจากในกองทัพ
มันเป็นไปได้สูงว่า รูปแบบดังกล่าวจำเป็นจะต้องให้ผู้ที่มีความสามารถสูงมาบัญชาการพวกมัน แล้วจอมเวทย์ราชสำนักและราชา ก็คงจะไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถจะทำได้ ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ จากราชาต้องการจะช่วยตัวเองและตระกูลของเขาขณะที่ไม่หลบหนี เขาจะต้องทำสิ่งหนึ่ง แสดงพลัง
แดนีลสงสัยว่ามันจะเป็นเช่นนั้น หากมีผู้เล่นคนใหม่ก้าวออกมา และมีพลังมากพอจะควบคุมรูปแบบได้ ผู้เล่นคนอื่นจะไม่มีทางเลือกนอกจากกลับมารออีกครั้ง กระนั้น นี่ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องง่าย เปรียบเทียบกับราชอาณาจักรที่อยู่รอบๆแล้ว ระดับของราชาองค์ก่อนไม่ได้อยู่ห่างไกลจากบุคคลระดับสูงของพวกเขามากนัก
แดนีลเรียกโจชัวมาที่ห้องด้วยการใช้เครื่องประดับเวทมนต์ เขาสั่งบางอย่างและใช้เวลาที่เหลือของวันไปกับการฝึกฝน เขาเพิ่งจะทะลวงเป็นจอมเวทย์ผู้โดดเด่นขั้น 4 เขาจึงยังคงต้องทดสอบและทำให้พลังของเขามั่นคง
วันถัดมา มีการวางรั้วชั่วคราวไว้ในถนนกลาง ทำให้คนติดอยู่ด้านข้าง ฝูงชนจำนวนมากแห่กันไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ โดยหวังว่าจะได้เห็นร่างของบุคคลที่อยู่มาเป็นเวลานาน
ที่ปะปนอยู่ในฝูงชน มีหลายคนที่มีดวงตาเฉียบคมและพวกเขามองไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รอให้ขบวนเริ่ม จะเห็นได้ชัดว่า จะมีบุคคลเช่นนี้อยู่อย่างน้อย 3 กลุ่ม พวกเขาสวมชุดแตกต่างกัน และคอยจับตาดูกันและกัน
มีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็นเด็กวัยรุ่นปะปนอยู่ในฝูงชนและทำตัวเช่นเดียวกับพวกเขา เพียงแต่อยู่ในลักษณะที่จืดจางกว่า ความตึงเครียดดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เสียงพูดคุยของฝูงชนเงียบลงในทันทีที่ประตูที่เชื่อมต่อกับเมืองชั้นนอกเปิดออก
ในที่สุด งานพิธีศพก็เริ่มต้นขึ้น
แฟนเพจ : WDS แปลไทย