WDS Chapter 56 รีปลีย์
WDS Chapter 56 รีปลีย์
ณ เมืองชั้นนอกส่วนทางใต้ของแลนธานอร์, มีถนนพิเศษแห่งหนึ่ง
ถนนสายนี้รกร้างมากที่สุดของราชอาณาจักรแลนธานอร์ บ้านเกือบทั้งหมดถูกทิ้งร้าง และแม้แต่หินที่ถูกใช้สร้างอาคารก็เริ่มปรากฎให้เห็นชัด เพราะสีที่เคลือบถูกกัดกร่อน
มีบ้านสีแดงหลังหนึ่งบนใจกลางถนน ซึ่งมีแสงพลังอีเธอร์ถูกสลักไว้หน้าประตูว่า ‘ห้ามเข้า’
มันเป็นบ้านหลังนี้ ที่อาจารย์โจนาห์ได้แนะนำแดนีลว่า หากต้องการจะสังเกตการณ์หรือเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการเอนชานท์ ก็ให้มาที่นี่ แม้เขาจะกล่าวว่า มันไม่มีโอกาสใดๆเลยที่แดนีลจะถูกรับเป็นเด็กฝึกงาน แต่หากเพียงแค่สังเกตการณ์การเอนชานท์ จดหมายของเขาสามารถจะช่วยได้
บูมมม!
เสียงระเบิดดังออกมา ขณะที่มีควันรูปวงแหวนปรากฎขึ้น และมันได้ทำให้นกที่อยู่รอบๆบินแตกกระจายกันออกไป
เคาะประตูอย่างกังวล แดนีลสงสัยว่า ผู้ที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ยังคงปกติหรือไม่
ไม่กี่นาทีต่อมา ประตูก็ถูกเปิดออกโดยชายที่มีใบหน้าดำคล้ำคนหนึ่ง
แม้เขาจะพยายามเช็ดคราบเขม่าจากการระเบิดออกแล้ว แต่มันก็ยังคงมีเหลือติดอยู่บนเสื้อผ้าและใบหน้าของเขา
เขาดูเหมือนกับคนวัยกลางคน ร่างผอมและเต็มไปด้วยหนวดเครา และเสื้อผ้าของเขา ดูราวกับไม่ได้ซักมาหลายสัปดาห์แล้ว
“เจ้าเป็นใคร? เจ้าไม่ได้อ่านป้าย?” เขากล่าวอย่างไม่พอใจขณะที่เห็นแดนีลจ้องมาที่เขา
โดยไม่กล่าวใดๆ แดนีลมอบจดหมายของอาจารย์โจนาห์ให้เขา
รับจดหมายมา ชายคนนั้นอ่านมันก่อนจะเปลี่ยนมันกลายเป็นขี้เถ้า การเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่ว และเขาก็สามารถใช้เวทมนต์ได้ง่ายๆราวกับเขากำลังหายใจ คนผู้นี้จะต้องผู้จอมเวทย์ระดับสูงอย่างแน่นอน แดนีลคิด
“เจ้านั่นยังคงมีชีวิตอยู่? สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาช่างน่าสงสารนัก เจ้าต้องการจะดูการเอนชานท์? เพราะเหตุใด?” เขาถามหลังจากถอนหายใจ
แดนีลยักไหล่ เขาได้รับคำแนะนำจากโจนาห์ถึง 4 ครั้งว่า ให้พูดกับชายคนนี้ให้น้อยที่สุด แม้แดนีลจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่เขาก็ยังคงตั้งใจทำตามคำแนะนำนั้น
“ต้องการประโยชน์? อยากรู้อยากเห็น? ไม่เป็นไร เข้ามาข้างใน เดี๋ยวข้าจะหาเหตุผลด้วยตัวเอง”
เข้าไปในบ้าน แดนีลสังเกตว่า มันมีเก้าอี้และรูปภาพจำนวนมากถูกแขวนอยู่บนผนังอย่างน่าสงสัย
หลังจากที่ตามชายคนนั้นขึ้นบันไดไปแล้ว เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่า การระเบิดก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นที่ชั้นบนของบ้าน
ชั้นบนของบ้านเปิดออกสู่ท้องฟ้าจากการระเบิด แม้ดูจากด้านนอก มันจะไม่เห็นความผิดปกติใดๆ แต่มองจากภายใน เพดานพังยับเยินและมันกลายเป็นพื้นที่เปิดโล่ง
ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่างๆกระจัดกระจาย มีบางอย่างคุ้นเคย เช่น ทั่งตีเหล็กในมุมห้อง หรือ โต๊ะแบนที่มีเข็มเสียบอยู่ด้านบน สำหรับแดนีลแล้ว มันดูแปลกตาอย่างมาก
“ไม่เคยเห็นห้องทำงานของเอนชานเตอร์มาก่อน? ข้า รีปลีย์ เจ้าชื่ออะไร?” เขาถามขณะที่แดนีลมองไปรอบๆห้อง
โดยไม่กล่าวใดๆ แดนีลส่ายหัวและรออย่างเงียบๆ
คิดย้อนกลับไปถึงจดหมายที่เขาเพิ่งอ่าน ริปลีย์กล่าว่วา “โอ้ แดนีล ชื่อตลกนัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ช่างมันเถอะ ข้ากำลังอยู่ระหว่างการเอนชานท์เครื่องประดับเวทมนต์แบบใหม่ เจ้าสามารถจะดูได้ แต่ห้ามส่งเสียงใดๆ”
แดนีลพยักหน้า ก่อนจะถอยกลับไปมุมห้อง
ในขณะเดียวกัน ริปลีย์ก็เดินไปยังโต๊ะที่มีเข็ม หยิบเหรียญสัมฤทธิ์ทรมกลมออกมาจากกระเป๋าของเขา และวางไว้บนเข็มเหล่านั้น ก่อนจะปิดตาลง
การแสดงออกอย่างตั้งอกตั้งใจ ปรากฎบนใบหน้าของเขา ในขณะนั้น เข็มก็ราวกับกลายเป็นมีชีวิตและลอยขึ้นมาในอากาศอย่างฉับพลัน เชื่อมต่อกับโต๊ะด้วยสายไฟบางๆ ปลายเข็มทาบลงกับเหรียญ แกะสลักบบางสิ่งที่ซับซ้อนบนผิวของมัน
โดมแผ่วบางเล็กๆที่มีขนาดใหญ่กว่าหัวมนุษย์เริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆเหรียญ มันดูเหมือนว่า โดมนั้นจะไม่ใช่วัตถุรูปธรรม เพราะเข็มยังคงเข้า-ออกจากรัศมีของมันได้ เข็มที่มีทั้งหนาและบาง สลับตำแหน่งกันบ่อยครั้ง เพื่อแกะสลักเหรียญ
ราว 1 ชั่วโมงต่อมา เข็มทั้งหมดก็กลับลงไปอยู่บนโต๊ะ โดมเริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ และก็ดูเหมือนว่า เหรียญจะร้อนขึ้นจนกลายเป็นสีแดง จากกระบวนการดังกล่าว
ในฉับพลัน รีปลีย์รีบถอยออกมาจากโต๊ะ ราวกับชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย โดมที่ก่อตัวขึ้นกระพริบเป็นเวลา 1 วินาที ก่อนที่มันถอยกลับเข้าไปในเหรียญ
“ข้าทำได้ ฮ่าๆๆๆ เจ้าเซลแลกซ์ ข้าก็เป็นเอนชานเตอร์ขั้นสองโว้ยยย”
ด้วยความปิติยินดี ริปลีย์รีบวิ่งเข้าไปหยิบเหรียญมาไว้ในมือ
ในฉับพลัน โดมกลับมามีชีวิตรอบมือของเขา
ร้องจ๊ากกก รีปลีย์รีบโดยมันไปบนอากาศ ก่อนจะหมอบและเอามือมาปิดหัว
“หลบเร็ว” เขาตะโกนออกมา ทำให้แดนีลกลายเป็นตื่นตระหนกและรีบหลบอยู่ด้านหลังแท่งเหล็ก
บูมมม!
ในการระเบิด เศษเล็กเศษน้อยแตกกระจายไปบนอากาศ พวกเขาถูกแรงระเบิดยิงเข้าไปในผนังและอุปกรณ์ทั้งหมดที่วางอยู่บนพื้น ในตอนนี้ แดนีลได้สังเกตเห็นว่า แม้แต่บนพื้นก็ยังมีรอบบุบเล็กๆ
ขณะเดียวกัน ควันรูปวงแหวนที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง และมันกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้าน
ออกมาจากที่ซ่อน แดนีลรู้สึโล่งใจที่ชายคนนั้นยังคงดูไม่เป็นอะไร
ด้วยการปรบมือเพียงครั้งเดียว เศษเล็กเศษน้อยทั้งหมดที่ฝังอยู่ในที่ต่างๆ ถูกรวบรวมกลับเข้ามาในมือของเขา
“เหตุใดครั้งนี้มันถึงได้ระเบิด? รูปแบบการเอนชานท์ถูกสลักอย่างถูกต้อง… การทดลองอีกครั้งคงจะทำให้ข้าได้รับคำตอบ”
เขาพึมพำในขณะที่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปที่ทั่งตีเหล็กใกล้แดนีลแล้วหยิบแร่สีส้มออกมา วางมันลงพร้อมใช้ จากนั้น เขาก็เริ่มจดจ้องไปที่มั่นราวกับกำลังรอบางสิ่ง
แม้ว่าแดนีลจะอยู่ด้านหลังทั่งใกล้ๆ แต่รีปลีย์ไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย แดนีลเดินกลับไปยังตำแหน่งเดิมของเขาในขณะที่เขาก็ยังคงสังเกตการณ์อยู่ตลอด
ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ริปลีย์ก็นำแร่ที่กลายเป็นสีแดงจากความร้อนไปวางบนทั่ง จากนั้น เขาก็ใช้ค้อนทุบมันจนแบน
แม้ว่าร่างของเขาจะดูซูบผอม แต่แขนของเขาก็เหวี่ยงค้อนได้ราวกับช่างตีเหล็กที่มากประสบการณ์
ไม่นานหลังจากนั้น แร่ก็ถูกตีจะกลายมาเป็นแผ่นดิสก์หยาบ วางค้อนลง รีปลีย์แตะที่แผ่นดิสก์ ก่อนที่สิ่งสกปรกสีดำจะเริ่มปรากฎขึ้นบนแผ่นดิสก์ และมันก็ค่อยๆถูกลบออกไป จากนั้น เขาก็ตีแผ่นดิสก์ด้วยค้อนอีกครั้ง
หลังจากทำกระบวนการนี้ 4 รอบ แร่ขนาดเท่าผ่ามือก็ได้เปลี่ยนเป็นเหรียญที่ดูเหมือนกับเหรียญที่เพิ่งจะระเบิดไป
เห็นได้ชัดว่า รีปลีย์ลืมเรื่องการคงอยู่ของแดนีลอย่างสมบูรณ์ แน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งที่แดนีลต้องการ
เขาดูรีปลีย์ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เหรียญระเบิด และบอกให้แดนีลหาที่หลบ
ในที่สุด เสียงแจ้งเตือนของระบบที่เขารอคอยก็มาถึง
[เทคนิคการเอนชานท์ พร้อมสำหรับการพัฒนาแล้ว]
[เทคนิคการตีเครื่องประดับเวทมนต์ที่ยังไม่ได้เอนชานต์ พร้อมสำหรับการพัฒนาแล้ว]
แฟนเพจ : WDS แปลไทย