WDS Chapter 33 อนุภาคมูลฐาน
WDS Chapter 33 อนุภาคมูลฐาน
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกหรือราวๆนั้น แดนีลเพลิดเพลินไปกับความสวยงามกับภาพตรงหน้าเขา ด้วยสายตาที่ดีขึ้นอย่างมากของเขา มันทำให้เขาสามารถมองเห็นส่วนต่างๆของไม้ที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจน ที่ยิ่งไปกว่าไม้ก็คือ รูปแบบที่น่าเหลือเชื่อที่ก่อตัวขึ้นบนน้ำจนมันกลายมาเป็นน้ำแข็งที่แข็งมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างช้าๆ เขาเริ่มมองเห็นอนุภาคเล็กๆ มีอนุภาคชนิดต่างๆในน้ำและไม้ ซึ่งพวกมันมีสีสันที่แตกต่างกัน เมื่ออนุภาคสีแดงของประกายไฟสัมผัสกับอนุภาคจำนวนนับไม่ถ้วนของไม้ ปฏิกิริยาบางอย่างดูเหมือนจะเกิดขึ้นเมื่ออนุถาคทั้งหมดกลายเป็นสีแดง ซึ่งก็คือเปลวเพลิง
สิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นกับอนุภาคสีฟ้าอ่อนของน้ำ เมื่อมันสัมผัสกับอนุภาคสีน้ำเงินเข้ม พวกมันก็กลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม
ราวกับเขากำลังมองเข้าไปในมิติที่แตกต่างออกไป ขณะที่เขามองไปรอบๆ เขาก็สังเกตว่าโลกทั้งใบประกอบไปด้วยอนุภาคเหล่านี้ เฉดสีมากมายปรากฎตรงหน้าเขาและสมองของเขาก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยข้อมูลมากมายที่ไร้จุดสิ้นสุด ในฉับพลัน เขาก็รู้สึกเจ็บที่หน้าผากของเขา ซึ่งมันทำให้เขาต้องหลับตาลง
ขณะที่เขาเปิดตาอีกครั้ง มันก็กลับมาเป็นปกติ
[ติ๊ง!]
[ได้รับเครื่องมือสายตามูลฐาน]
[ระบบของแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับมันมาด้วยตนเอง]
[สายตามูลฐาน : โลกแห่งนี้ประกอบไปด้วยอนุภาคมากมายเหลือคณานับ แม้พวกมันจะถูกเรียกว่า อนุภาคมูลฐาน แต่พวกมันก็ไม่ได้ผูกติดกับองค์ประกอบ(ธาตุ) สายตามูลฐานทำให้สามารถมองเห็นอนุภาคเหล่านี้ได้ ปริมาณของอนุภาคที่สามารถจะมองเห็นได้โดยไม่ใช้สมองมากจนเกินไป จะเพิ่มขึ้นตามระดับขั้นของจอมเวทน์]
‘แล้วระดับความเข้าใจของข้าเป็นอย่างไร? ข้าสังเกตเห็นว่า การทำงานร่วมกันของอนุภาค เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง’ เขาถามอย่างสงสัย
[ระดับความเข้าใจของโฮสต์ : สีแดงโลหิต ด้วยการขัดเกลาและขยายต่อมไพเนียลของโฮสต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้โฮสต์สามารถเข้าถึงขั้นความเข้าใจระดับตำนานของสำหรับจอมเวทย์]
[ศักยภาพขั้นสีแดงโลหิต มีลักษณะที่สามารถสังเกตอนุภาคและปฏิกิริยาของมันได้]
[ศักยภาพขั้นสีทอง มีลักษณะที่สามารถสังเกตเห็นความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงสถานะ, ชื่อ และการสั่นของอนุภาค การสังเกตดังกล่าวเป็นไปได้เนื่องจากโมดูลวิเคราะห์ปรากฎการขั้นสอง(PAM-2) มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จอมเวทย์จะสามารถสังเกตเห็นได้ ความเข้าใจในปัจจุบันของโฮสต์ ถือได้ว่าอยู่ในระดับตำนานแล้ว]
ถูกต้องแล้ว มันเป็นความเข้าใจระดับตำนาน และมันก็เป็นความสำเร็จของตัวเขาเองโดยปราศจากความช่วยเหลือจากระบบ
แน่นอนว่า หากไม่มีระบบ ต่อมไพเนียลดั้งเดิมของเขาคงจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
‘ระบบสามารถกำหนดระดับขั้นที่ข้าต้องการในระหว่างการทดสอบได้หรือไม่?’
[รับคำร้อง ตั้งแต่ขั้นสีม่วงจนถึงขั้นสีทอง ระบบสามารถจำลองความเข้าใจระดับขั้นใดก็ได้ที่โฮสต์ต้องการ]
มันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ตอนนี้ แดนีลกำลังอยู่ระหว่างการเลือกที่ยากลำบาก
เขาควรจะเลือกระดับตำนานและได้รับทรัพยากรทั้งหมด? หรือเขาควรจะเลือกระดับต่ำ และทำตัวไม่โดดเด่น?
หากเขาเลือกตัวเลือกแรก มันจะหมายความว่า เขาจะต้องตกไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐตลอดเวลา พวกเขาจะมีบทบาทในทุกการพัฒนาของเขา ซึ่งมันอาจจะควบคุมทุกอย่างที่เขากระทำ อย่างที่ชายคนนั้นกล่าว มันไม่ได้ปรากฎขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว และพวกเขาก็ให้ความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ที่จะกลายเป็นกระดูกสันหลังของราชอาณาจักร
การเลือกระดับต่ำไม่ใช่สิ่งที่แดนีลต้องการ เพราะหากเขาทำเช่นนี้ เขาจะอยู่ในระดับล่างและอาจจะถูกดูถูก
สำหรับทรัพยากร เขายังมีขุมทรัพย์ที่น่าเหลือเชื่ออย่างห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติ
ก่อนที่เขาจะเลือก แดนีลก็ได้ถามขึ้นว่า
‘เป็นไปได้หรือไม่ว่าความเข้าใจของจอมเวทย์จะเปลี่ยนไป?’
[เป็นไปได้ แต่มันเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว ระดับความเข้าใจจะเชื่อมโยงกับขนาดและระดับการขัดเกลาต่อมไพเนียล มีความเป็นไปได้ที่ร่างของมนุษย์จะใช้อีเธอร์ในลักษณะเดียวกับที่ระบบทำโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็เป็นไปได้ยากอย่างมาก เพราะข้อมูลเกี่ยวกับต่อมไพเนียล ยังคงไม่ถูกค้นพบบนโลกแห่งนี้ มันถูกพิจารณาว่าเป็นพรที่ได้รับจากสรวงสวรรค์]
ได้ยินเช่นนั้น แผนการเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของแดนีล
จากนั้น เขาก็ตัดสินใจเลือก
เวลา 2 ชั่วโมงค่อยๆหมดลง และเหล่าเด็กๆก็เริ่มเดินไปที่รูปปั้น ทีละคนทีละคน
คนแรกดูเหมือนบุตรสาวของพ่อค้าที่ร่ำรวย ชุดของเธอประดับประดาไปด้วยทองตั้งแต่หัวจนถึงข้อเท้า ซึ่งแตกต่างจากเหล่าเด็กที่แดนีลเคยเห็นในสำนักฝึกอบรมอย่างสิ้นเชิง เธอมีสีหน้าอ่อนโยนและยิ้มเล็กน้อยให้กับฝูงชน ก่อนจะวางมือลงบนรูปปั้น
ส่วนแนวตั้งของรูปปั้นส่องแสงสีขาวเจิดจ้า ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นขั้วสี 9 ชั้น แต่ละสีแสดงถึงระดับขั้นของความเข้าใจ
แสงสีขาวเริ่มเปร่งออกมาจากด้านล่าง แล้วค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป
ม่วง, คราม, น้ำเงิน, เขียว และเหลือง ยิ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ ความเร็วของแสงสีขาวก็จะยิ่งช้าลง
ก่อนที่มันจะหยุดลงที่สีแสด(สม) ซึ่งได้ทำให้หลายคนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“ความเข้าใจระดับสูง ทำได้ดี ยินดีต้อนรับสู้สถานศึกษา เจ้าต้องการให้ข้าพาเจ้าไปหาอาจารย์หรือไม่?” ชายชุดสีนำเงินถามออกไป ขณะที่เด็กสาวยิ้มกว้างหลังจากถอนมือกลับมาจากรูปปั้น
“อะแฮ่ม” ในฉับพลัน เสียงไอที่ด้านหน้ารูปปั้น มันได้ทำให้ใบหน้าของชายชุดสีน้ำเงินซีดลง
“เรื่องอาจารย์เอาไว้ก่อน เจ้าสามารถเลือกได้ในภายหลัง มายืนด้านหลังข้า ด้วยศักยภาพระดับสูงของเจ้า เจ้าจะเดินไปได้ไกลในเส้นทางจอมเวทย์ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเข้าสู่คลาสสูงสุด ที่มีผู้ฝึกสอนและทรัพยารที่ดีที่สุดได้ เพราะไม่มีระดับตำนานมาหลายสิบปีแล้ว”
แฟนเพจ : WDS แปลไทย