WDS Chapter 11 เริ่มต้นการฝึกอบรม
WDS Chapter 11 เริ่มต้นการฝึกอบรม
มาเธอร์เฟรย์ด้า วางมือของเธอลงในจุดเดี๋ยวกับที่ปรมาจารย์เคยวางมือของเขาลง แต่แสงที่ปรากฎขึ้นบนมือของเธอไม่ใช่แสงสีขาว กลับกัน มันเป็นแสงสีแดงสด และมันได้ทำให้เอเลนาฟถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา เอเลนาฟจะตื่นขึ้นมาและวิ่งได้ในเร็วๆนี้ สำหรับเจ้า เจ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ว่า ต้องการที่จะเข้าร่วมสำนักหมัดแห่งความยุติธรรม? การฝึกที่นี่หนักเป็นอย่างมาก แล้วข้าก็จะไม่สนใจว่าเจ้าจะร้องขอความเมตตาใดๆหลังจากที่เจ้าได้ตัดสินใจแล้ว แน่นอน เจ้าสามารถจะออกไปได้ในอนาคต แต่ต้องหลังจากที่จบหลักสูตรการฝึกฝนแล้วเท่านั้น นี่เป็นการแนะนำจากพ่อของเจ้า เจ้าไม่ต้องกล่าวสิ่งใด และคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ”
เมื่อได้ยินว่าพ่อของเขาได้แนะนำไว้แล้ว แดนีลก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่ยังบินอยู่ และหลังจากที่ได้เห็นความสามารถของจอมเวทย์และนักสู้ของที่นี่แล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธคำเชิญ
“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเข้าร่วม” เขาตอบ
“ดี ข้าชื่อเฟลิกซ์ แต่เจ้าจะต้องเรียกข้าว่าปรมาจารย์เฟลิกซ์ รออยู่ที่นี่ ข้าจะนำเหรียญลงทะเบียนของพวกเรามาให้กับเจ้า”
เฟลิกซ์เดินเข้าไปในกระท่อม และให้แดนีลรออยู่ด้านนอก ในขณะนั้น เสียงกรีดร้องของเอเลนาฟดังมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะทันได้หันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เฟลิกซ์ก็กลับออกมาแล้ว
“วางนิ้วลงบนเหรียญ แล้วคิดถึงการยอมรับคำเชิญ”
เฟลิกซ์ถือเหรียญที่มีรูปร่างคล้ายหมัด ซึ่งแต่ละนิ้วบนหมัดสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเหรียญที่ถูกทำขึ้นมาอย่างประณีต
แดนีลวางนิ้วลงบนเหรียญ ขณะที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อย เขาก็สังเกตเห็นว่า เลือดหยดของเขาหยดหนึ่ง ได้ไหลออกมาจากบาดแผลเล็กๆที่เกิดขึ้นจากเหรียญ จากนั้น มันก็ดูดซับเลือดของเขาเข้าไป และส่องแสงสีส้มออกมา
[ติ๊ง!]
[โฮสต์เข้าร่วมฝ่าย : สำนักหมัดแห่งความยุติธรรม]
[ได้รับรางวัล แต้มฝ่าย 1 แต้ม, ค่าประสบการณ์ 10 แต้ม มีการสื่อสารจากเหรียญลงทะเบียน โฮสต์ต้องการจะได้ยินหรือไม่?]
“ต้องการ”
[ยินดีต้อนรับสู่สำนักหมัดแห่งความยุติธรรม! คำขวัญของพวกเราก็คือ : ไร้กำลังหรือแข็งแกร่ง หมัดแห่งความยุติธรรมของข้าจะอยู่ที่เบื้องหน้า สร้างความหวาดกลัวในหัวใจให้กับเหล่าผู้เอาเปรียบและเหยียบย่ำผู้อื่น หมัดแห่งความยุติธรรม จะไม่มีวันสูญสลายตลอดกาล!]
[สัมผัสเหรียญได้ทุกเวลาที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับสำนักฝึกอบรมหรือตรวจสอบภารกิจใดๆ เหรียญนี้จะทำหน้าที่เป็นหลักฐานแสดงอัตลักษณ์ของท่านในโถง โปรดจำไว้ว่า หากคนอื่นที่ไม่ใช่ท่านแตะเหรียญนี้ มันจะทำร้ายผู้แตะ]
สิ่งนี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหรียญของเอเลนาฟในก่อนหน้านี้
ราวกับได้ยินเสียงเรียกจากความคิดของเขา เอเลนาฟที่อยู่ด้านหลังได้ตื่นขึ้นพร้อมกับร้องพึมพำบางอย่างออกมาด้วย
“ไม่ มันไม่ใช่ข้า ข้าไม่ได้โยนชุดชั้นในของนางลงบนกองเพลิง”
ได้ยินเช่นนั้น เฟลิกซ์และแดนีลก็หันกลับไปมอง แล้วพวกเขาก็เห็นว่า สตรีทั้งสองกำลังจดจ้องไปที่เอเลนาฟ
เอเลนาฟเกาหัวและนอนลงกับพื้น ราวกับเขาสลบลงอีกครั้ง เห็นเช่นนั้น วิลด้าก็ชกไปที่ขาหนีบของเขา ซึ่งมันทำให้เขาตื่นขึ้นพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เห็นเช่นนั้น เฟลิกซ์ก็หัวเราะออกมา ก่อนที่เขาจะหันกลับมากล่าวกับแดนีล
“นี่เป็นเหรียญอัตลักษณ์ของเจ้า เจ้าสามารถจะปรับแต่งมันได้หลังจากที่เลื่อนขั้นแล้ว ข้าจะเฝ้าดูเจ้า เด็กน้อย การฝึกจะเริ่มในอีก 3 วัน และเจ้าจะต้องฝึกที่นี่ จงเตรียมเสื้อผ้าไว้ใช้สำหรับ 3 เดือน วิลด้า หยุดเถียงกับเขาได้แล้ว ไปส่งสหายน้อยของพวกเรา และจำสถานที่ที่เจ้าไปส่งเขาไว้ด้วย อีก 3 วัน เจ้าจะต้องไปรับเขามาเริ่มการฝึก”
วิลด้าบินมาหาพวกเขา ก่อนที่จะพยักหน้ารับคำสั่งเฟลิกซ์และพาแดนีลกลับออกไป
วิลด้าดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวไม่ชอบพูดจาอะไรมากนัก เธอเพียงถามว่าที่ไหนเท่านั้น และไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก
ก่อนที่พวกเขาจะบินออกไป วิลด้าก็ได้กดไปที่จี้ของเธออีกครั้ง ซึ่งทำให้แดนีลสงสัยว่า มันอาจจะเป็นเครื่องมือบางอย่าง เพราะพวกเขาบินอยู่สูงจากพื้นเพียง 40-50 ฟุตเท่านั้น และทุกคนบนท้องถนนควรจะสามารถมองเห็นพวกเขาได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาเลย
หลังจากผ่านไปราว 90 นาที แดนีลก็ลงพื้นที่ทางเข้าสลัม จากนั้น วิลด้าก็เตือนเขาว่า เธอจะกลับมารับเขาที่นี่ในตอนเช้าของอีก 3 วันจากนี้ เห็นว่าเขาพยักหน้ารับแล้ว เธอก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง และเมื่อเธอบินไปได้ 5 ฟุต ร่างของเธอก็หายไปในทันที ซึ่งมันก็ได้พิสูจน์ข้อสงสัยของเขา
แดนีลรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ดี และเขาก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านอย่างรวดเร็ว มันเย็นมากแล้ว เขาจะก็ต้องรีบกลับไปช่วยแม่ของเขาทำงานบ้าน
เมื่อมาถึงบ้าน พ่อของเขาก็มองเห็นเหรียญที่ส่องประกายอยู่ภายในมือของเขา ก่อนจะถามว่า “เจ้าได้พบกับเฟลิกซ์แล้วหรือ? เกิดอะไรขึ้น?”
แดนีลบอกกับพ่อแม่ของเขาเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้ ขณะที่ช่วยทำงานบ้านไปด้วย ได้ยินว่าเขาถูกไล่ออกจากห้องสมุด พ่อของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธและกล่าวว่า “เจ้าสองคนนั้น พวกมันยังคงอยู่ที่นั่น ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการจำกัดการอ่านหนังสือใดๆทั้งสิ้น นั่นมันไร้สาระเกินไปแล้ว พวกมันสนุกกับการโยนคนที่พยายามเก็บเงินเป็นเวลานานเพื่อที่จะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด พวกมันสนุกกับการเห็นความสิ้นหวังและความโศกเศร้าบนใบหน้าของคนเหล่านั้น เมื่อก่อน ข้าเคยเตือนพวกเขาไปแล้ว และมันทำให้พวกเขาหยุดลง แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ หลังจากที่ถ้าถูกปลด พวกเขาจะกลับมาทำเช่นเดิมอีกครั้ง” โรเบิร์ตถอยหายใจขณะที่บ่นออกมา
สิ่งนี้ยิ่งทำให้แดนีลต้องการที่จะเห็นทั้งสองถูกลงโทษมากขึ้นไปอีก
หลังจากทำงานบ้านทั้งหมดเสร็จแล้ว ครอบครัวของพวกเขาก็ทานอาหารค่ำร่วมกัน ห้องทานอาหารของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ในขณะนั้น ทั้งสามได้ลืมเรื่องที่น่าเศร้าทั้งหมดออกไป และมีความสุขกับช่วงเวลาครอบครัวของพวกเขา
3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แดนีลรู้ว่าเขาจะต้องจากไป 3 เดือน เขาจึงใช้เวลาตลอด 3 วันนี้ อยู่กับพ่อแม่ของเขา แต่ละวันผ่านไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในช่วงเวลานั้น บ้านแอนิวรอนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและความสุขของครอบครัว
ในวันที่ 3 แดนีลเดินไปยังจุดนับพบพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา
ตอนนั้น มันเป็นช่วงเช้ามืด และมีคนอยู่บนถนนเพียงเล็กน้อย กลุ่มคนขี้เมา 5 คน เดินออกจากบาร์ และเตร็ดเตร่ไปบนถนนอย่างช้าๆ
หลังจากชั้นไม่กี่นาที หลังจากที่กลุ่มคนขี้เมาเดินผ่านไปแล้ว วิลด้าก็ได้ปรากฎตัวขึ้น เธอบินลงมาจากบนท้องฟ้าโดยที่ไม่มีใครทันจะได้สังเกตเห็น
เห็นหญิงสาวผู้งดงามปรากฎตัวขึ้นในฉับพลัน พวกขี้เมาก็พากันขยี้ต้าเพื่อทดสอบว่าพวกเขาไม่ได้ฝันไป ก่อนที่ขี้เมาคนหนึ่งจะก้าวออกมาและกล่าวว่า “เฮ้ สาวน้อย สนใจมาบ้านของข้าหรือไม่? ข้าจะจ่ายให้เจ้าอย่างคุ้มค่า” ขณะที่กล่าว เขาก็หยิบแลนสัมฤทธิ์ออกมาจากกระเป๋าของเขา
ความรังเกียจปรากฎขึ้นบนในหน้าของวิลด้า เธอยื่นแขนของเธอไปที่กลุ่มคนที่เมา ในฉับพลัน ทั้งห้าก็ถูกเหวี่ยงไปที่กำแพง จนทำให้กระดูกของพวกเขาหักและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นชั่วครู่ พวกเขาก็หมดสติไป
“ไปกันเถอะ” เธอกล่าวขณะที่พาแดนีลบินออกไป ราวกับการจัดการกลุ่มคนขี้เมาไม่ได้มีความหมายใดๆสำหรับเธอ
แฟนเพจ : WDS แปลไทย