ตอนที่แล้วตอนที่ 36 การเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 โต้เถียง

ตอนที่ 37 การขัดแย้งในตระกูล


ลิฟต์เลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากเฟิงหลินกลับถึงบ้าน เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งหน้าไปยังชั้นบนของตระกูลเฟิง

การเปลี่ยนแปลงชีวิตทำให้เขามีความมั่นใจและเขาก็ไม่เต็มใจที่จะรออีกต่อไปแล้ว เขาจะต้องเผชิญหน้ากับตระกูลของเขา จัดการกับอันตรายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งกำลังจะมาถึงในอีกสามสัปดาห์

ด้วยเส้นทางการบ่มเพาะที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาจะไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลและใช้ชีวิตตอย่างสูญเปล่าอยู่ในโรงงานของตระกูลได้อย่างไร?

ระบบสุริยะเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตดวงดาวแสนยุ่งเหยิง กฎระเบียบทางสังคมที่ยุ่งยาก และคนจากตระกูลเดียวกันจะรวมตัวกันเพื่อหาทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

เมื่อเปรียบเทียบกับยุคสมัยศักดินาของยุคโลกโบราณที่ครอบครัวจะมีขนาดเล็ก ครอบครัวที่เล็กที่สุดในยุคสมัยดวงดาวมีคนอย่างน้อยหลายหมื่นคน

แต่ละตระกูลเป็นเหมือนสังคมเล็กๆ

ที่ไหนมีคน ที่นั่นจะมีสังคม เมื่อขนาดของประชากรเพิ่มขึ้นความขัดแย้งก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลจะจัดสรรทรัพยากรที่ดีที่สุดให้กับคนที่มีความสามารถมากที่สุด เพื่อหล่อเลี้ยงผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ผู้คนในกลุ่มถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับตามความถนัดและความสามารถของพวกเขา

ยิ่งลิฟต์ขึ้นไปชั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มันก็อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่แต่งตัวในชุดหรูหรา

เฟิงหลินแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดากลายเป็นจุดเด่นที่สังเกตเห็นได้ง่าย มีสายตามองมาอย่างเย็นชาและรังเกียจ

อย่างไรก็ตาม ในทางทฤษฎีพวกเขาทั้งหมดมาจากตระกูลเดียวกัน และไม่ได้พูดคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อกัน พวกเขาเพียงแต่รักษาระยะห่าง และไม่เข้าใกล้เฟิงหลิน

ในขณะนั้น สถานที่ที่เฟิงหลินยืนอยู่นั้นสว่างขึ้น ทำให้เขากลายเป็นจุดเด่น

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินนิ่งสงบ

ในไม่ช้าเขาก็มาถึงชั้นที่เขาจะตั้งใจจะมาและก้าวออกไป

ชั้น 80 ของตึกตระกูลเฟิง

อาคารสูงตระหง่านมากมาย มีอยู่อย่างหนาแน่นในยุคสมัยดวงดาว ทุกอาคารสูงตระหง่านมาก แต่ละตึกเหมือนภูเขาลูกเล็กๆ

หากอยู่ในที่ต่ำกว่าแสงแดดจะถูกปิดกั้นได้ง่าย และคนเหล่านั้นจะต้องอยู่ในความมืดไปเนิ่นนาน

สถานที่เหล่านี้มักถูกมองว่าเป็นถนนมืด - สถานที่ที่คนด้อยโอกาสเท่านั้นที่จะอยู่

ยิ่งสูงมากเท่าใด แสงแดดก็จะยิ่งเข้ามามากขึ้นเท่านั้น และสภาพแวดล้อมก็จะยิ่งดีขึ้น

ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้ที่อยู่บนชั้นสูงของอาคารจะมีฐานะร่ำรวยหรือมีตำแหน่งสูง

ผู้ที่อยู่ในชั้น80 หรือสูงกว่าของตึกตระกูลเฟิงถือว่าเป็นสมาชิกระดับสูง - ซึ่งเป็นทายาทสายตรงที่บริสุทธิ์ที่สุด

แวบแรกที่เห็นเฟิงหลิน เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นสมาชิกระดับล่างของตระกูลที่เข้ามาเป็นครั้งแรก เขาจ้องมองทุกอย่างด้วยความประหลาดใจ

ทุกคนจ้องมองที่เสื้อผ้าธรรมดาของเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

เฟิงหลินเดินผ่านราวกับไม่เห็นพวกเขา เขาเดินผ่านทางเดินยาวและมาถึงหน้าห้องโถงกว้างขวาง

มีคนหลายสิบกว่าคนเข้าคิวที่หน้าประตู แม้ว่าคิวจะยาว แต่ทุกคนก็รออย่างอดทนและนิ่งเงียบ

สำนักงานการจัดการแห่งตระกูลเฟิง!

มีคนหลายหมื่นคนในตระกูลใหญ่แห่งนี้

เมื่อมีคนมากขึ้น ก็ย่อมมีปัญหามากขึ้นที่ต้องให้ความสนใจ

ดังนั้นทุกตระกูลในโลกจะมีสมาชิกหลักเพื่อจัดการทุกอย่างในตระกูล คนกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าพ่อบ้าน

นี่คือสำนักงานหัวหน้าพ่อบ้านของตระกูลเฟิง

ตระกูลเฟิงมีประชากรจำนวนมาก และมีเรื่องเล็กน้อยที่ต้องคอยจัดการทุกวัน คนที่มาหาหัวหน้าพ่อบ้านมักจะมีเรื่องสำคัญ หากพวกเขามีปัญหากับหัวหน้าพ่อบ้านด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันไม่ใช่แค่เรื่องเหล่านั้นจะไม่มีความหมาย แต่พวกเขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงด้วย

แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังเป็นเรื่องปกติที่จะมีการเข้าคิว บางครั้งผู้คนอาจต้องรอคิวกว่าสองสามวัน

เฟิงหลินพบที่นั่งด้านหลังและนั่งรออย่างเงียบ ๆ

"เหตุใดผู้ด้อยโอกาสจึงไม่ไปทำงานที่โรงงาน แต่กลับมาที่นี่แทน?"

“ หลบหนีจากการทำงาน? แล้วยังกล้ามาหาหัวหน้าพ่อบ้านอีก ไม่กลัวว่าเขาจะถูกลงโทษหรือไง?

“เขาช่างกล้าจริง ๆ !”

...

เมื่อผู้คนที่รอคิวเห็นเฟิงหลินเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ถอยห่างอย่างรังเกียจทันทีพร้อมกับพึมพำกันเอง

เฟิงหลินตอบแทนคนเหล่านั้นด้วยการไม่สนใจการแสดงออกเหล่านั้น

คิวค่อยๆดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เฟิงหลินก็เขยิบมาข้างๆเรื่อยๆช้าๆ มันเพิ่งผ่านไปห้าคิวเท่านั้น ถ้ายังช้าแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหนก่อนจะถึงเขา

อย่างไรก็ตามเขาทำได้แค่รอ

ถ้าเขาใจร้อน เขาก็จะทำให้หัวหน้าพ่อบ้านไม่พอใจ ทำให้ทุกอย่างแย่ลง มันจะเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลอย่างมาก

"ไอ้คนต่ำต้อย! ออกไปเดี๋ยวนี้!เวลาไม่เคยรอใคร แกจะเอาเรื่องไร้สาระอย่างนี้มาสร้างปัญหาให้หัวหน้าพ่อบ้านทำไม? ถ้าเรื่องของฉันล่าช้า แกจะรับผิดชอบเรื่องนี้ไหวไหมห้ะ!" เสียงดังขึ้นถัดจากเขา

เฟิงหลินถูกผลักออกไปอย่างแรง หลังจากที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็เห็นใบหน้าบางเฉียบที่ดูมั่นใจ เฟิงหลินถอนหายใจ เขาทำสีหน้ารำคาญใส่

หน้าฉันดูเหมือนคนยอมคนรึไง?

...

ความคิดที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้จุดประกายในใจเฟิงหลิน และเขาก็จริงจังขึ้น เขารู้เหตุผลดี

มีความแตกต่างอย่างชัดเจนในเรื่องระดับภายในตระกูล

ท้ายที่สุด เขาคือสมาชิกที่ด้อยกว่าในตระกูล และถูกมองว่าเป็นผู้อ่อนแอ

ผู้คนในตระกูลถูกแบ่งแยกด้านความถนัดและความสามารถของพวกเขา

ความแข็งแกร่งของเฟิงหลินเติบโตขึ้นเร็วเกินไป แต่เขาก็ยังคงเป็นคนในตระกูลขั้น9มาก่อน เป็นคนระดับต่ำสุด

คนเหล่านี้อาจเห็นสถานะของเขาและรู้สึกว่าความสามารถของเขาด้อยกว่าและอ่อนแอเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินว่าเขาจะยอมง่ายๆ

ไม่เช่นนั้น ทำไมถึงต้องมาหาเรื่องเฟิงหลิน ทั้งๆที่มีคนอีกมากมายเข้าคิวอยู่?

เขาจะต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นให้เร็ว

การเพิ่มความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เขาจะไม่ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ มิเช่นนั้นเขาจะต้องเจอเรื่องน่ารำคาญแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น แล้วเขาจะตั้งใจบ่มเพาะได้ยังไงกัน?

เฟิงหลินรู้สึกไม่พอใจมาก

“ไอ้คนชั้นต่ำ แกชื่ออะไร? แกไม่รู้จักฉันเฟิงหลางหรือยังไง?ถอยออกไป!” ชายร่างผอมคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่หลงไหลและเห็นว่าเฟิงหลินยังคงนิ่ง เขาเลยผลักอีกครั้ง

มองมาด้วยสายตาเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าเขาทำสิ่งนี้อย่างตั้งใจ!

เมื่อต้องจัดการกับคนแบบนี้ คำตอบของเฟิงหลินนั้นง่ายมาก

หมัดของเขา!

หมัดของเขาหนักเหมือนกระสอบทรายพุ่งออกไป

หมัดพุ่งออกไปด้วยแรงมหาศาล

คนอื่นตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ ไม่คาดคิดว่าเฟิงหลินจะตัดสินใจเด็ดขาดเช่นนี้ เขาตกตะลึงเล็กน้อย

ปัง!

ทันทีที่โดนหมัด ชายคนนั้นก็กระเด็นไปไกลและล้มลงกับพื้น

อย่างไรก็ตามบุคคลนั้นพุ่งกลับมาในทันที นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่กระเซอะกระเซิงเพียงเล็กน้อย เขาก็ดูเหมือนจะไม่บาดเจ็บอะไรเลย เขาจ้องมองที่เฟิงหลิน ขณะที่ลูบหน้าของเขา เขาโกรธจนหน้าแดง "สารเลว! แกไม่รู้เลยสินะว่ากำลังสู้อยู่กับใคร?”

แม้ว่าหมัดของเขาจะไม่หนักมากนัก แต่เขาก็โดนมันตรงๆ เฟิงหลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ความสามารถของเขาไม่น้อยเลย

เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่ได้ใส่ใจเขาเลย ชายคนนั้นก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาเตรียมต่อสู้และพุ่งเข้าหาเฟิงหลิน

หมัดงูเลื้อย!

ร่างกายของชายคนนั้นบิดและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ด้วยการเคลื่อนไหวแปลกๆ เขาเข้ามาใกล้ด้วยเคลื่อนไหวรูปตัว Z เหมือนงูเลื้อย นิ้วทั้งสิบของเขาสะบัดและปล่อยเสียงฟู่เหมือนงู พุ่งไปที่ดวงตาของเฟิงหลินด้วยท่าทางที่ดุร้ายมาก

"ทำได้ดีมาก!" เฟิงหลินก็ไม่ได้กลัวอะไรเลยและก็ยังสู้ต่อ

หมัดงูเลื้อยนั้นมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วทำให้ผู้ฝึกสามารถเลื้อยและโจมตีจุดสำคัญของคู่ต่อสู้ได้

เฟิงหลินขยับด้วยฝ่ามือแปดเหลี่ยม เข้าต่อสู้กันไปมากับอีกฝ่าย

หมัดและฝ่ามือชนกัน ร่างกายของเฟิงหลินไม่ขยับเขยื้อนในขณะที่ผู้ชายอีกคนถอยห่างไป

"ดีมาก! เอาชนะเขา! เอาให้มันตาย!"

"ถ้าแกเป็นผู้ชาย อย่าขี้ขลาด!"

"ฉันไม่ได้คาดคิดว่าที่มีจะมีการโชว์ดีๆให้ดู!"

...

ผู้คนในบริเวณใกล้ๆไม่กลัวเลยว่าจะมีปัญหาและคอยเชียร์พวกเขา

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา

"พวกแกกำลังทำอะไร ทำไมพวกแกถึงต่อสู้กัน กล้าละเมิดกฎระเบียบของตระกูล? ถ้าแกให้เหตุผลฉันไม่ได้ฉันจะลงโทษพวกแกทุกคน!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด