GE253 บั่นศีรษะ [ฟรี]
ภูเขานับหมื่นรายล้อมพังทะลาย ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
อัสนีฟาดผ่า พายุเกิดทุกหนแห่ง แปรเปลี่ยนภูมิประเทศกว้างนับหมื่นลี้ กลายเป็นพื้นที่โล่ง
พลังดรรชนีกระบี่แผ่แรงกดดันที่รุนแรง ผลักให้ไป่หยวนต้องถอยไปหลายก้าว ส่วนบุรุษเกราะทองที่แทบจะสิ้นแรงถูกซัดปลิวไปไกล
บุรุษเกราะทองขบฟัน กระตุ้นเกราะในร่างเพื่อป้องกันแรงกดดัน
มันตกตะลึงใจอย่างที่สุด!
ยามนี้ดรรชนีกระบี่ที่ 1 ของหนิงฝาน รุนแรงเทียบเท่าการโจมตีเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นแล้ว
ดรรชนีกระบี่ทำให้บุรุษเกราะทองสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงจนมันรู้สึกเสียวสันหลัง
เมื่อปราณกระบี่พุ่งออกปลายนิ้วหนิงฝาน ปราณกระบี่แยกตัวเป็นสามสาย แต่เข้าหาไป่หยวน บุรุษเกราะทอง และบุรุษเกราะดำ
แต่เมื่อปราณกระบี่เข้าประชิดร่างพวกมัน ปราณกระบี่กลับแตกออกเป็นเส้นแสงขนาดเล็กจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เข้าจู่โจมจุดตายของพวกมัน
ไป่หยวนและบุรุษเกราะดำที่ยังมีแรง สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ส่วนบุรุษเกราะทอง หวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ
กระบี่เส้นไหม… วิชาที่แยกปราณกระบี่ขนาดใหญ่ให้กลายเป็นปราณกระบี่ขนาดเล็กเท่าเส้นไหมหลายเส้น แม้จะเป็นวิชาในขอบเขตตัดวิญญาณ แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่บรรลุ
ซึ่งด้วยวิชานั้น จะทำให้อานุภาพปราณกระบี่เพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย
“แย่แล้ว!”
เกราะของบุรุษเกราะทองไม่อาจต้านทานไหว แม้มันจะกระตุ้นเกราะชิ้นที่ 4 แต่ก็ยังถูกทำลายในพริบตา!
ชั้นแรก… ชั้นที่ 2… ชั้นที่ 3… ชั้นที่ 4… เกราะป้องกันทุกชั้นถูกทำลาย แต่ปราณกระบี่ยังแทบไม่ถูกลดทอนกำลัง!
ปราณกระบี่จำนวนมากทะลวงเข้ากลางอกของมัน โลหิตสีดำสาดกระจาย อาการบาดเจ็บเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง ระดับพลังลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน!
บุรุษเกราะทองมองหนิงฝานด้วยเกลียดชังและหวาดกลัว มันเป็นถึงนายกองอสูร แต่กลับถูกอสูรดวงจิตแรกเริ่มทำร้ายปางตาย หากหนิงฝานใช้ดรรชนีอีกครั้ง มันคงได้ตายจริงๆ
“ถอย! ถอยเดี๋ยวนี้! ข้าแทบไม่เหลือปราณแล้ว ช่วยคุ้มกันข้าด้วย!” บุรุษเกราะทองขบฟัน
ไป่หยวนและบุรุษเกราะดำกำลังรับดรรชนีกระบี่ของหนิงฝาน
อีกอย่าง แม้พวกมันจะมีเกราะที่ทรงพลัง แต่เมื่อได้เห็นอานุภาพของแซ่อัสนีแล้ว พวกมันก็ไม่กล้าเอามาอีก
“วิชาอสูร… ราตรีสีขาว!”
“วิชาอสูร… ร่างเพลิง!”
พวกมันเปล่งพลังและวิชาที่น่าสะพรึงกลัวสมเป็นนายกองอสูร ไป่หยวนชี้นิ้วไปเบื้องหน้า ท้องนภาที่ดาษดื่นด้วยดารา ถูกฉาบย้อนด้วยสีขาวกระจ่าง ดรรชนีกระบี่ของหนิงฝานสั่นไหวก่อนจะสลายไป
บุรุษเกราะดำ ร่างกายของมันเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงที่รุนแรง มันเอื้อมมือคว้าปราณกระบี่ของหนิงฝานและเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
แต่ถึงอย่างนั้น วิชาที่พวกมันใช้ก็ทำให้สูญเสียปราณไปไม่น้อย ทั้งยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ
ดังนั้น การล่าถอยจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ออมมือให้ข้า… แต่จะว่าไป พวกท่านก็วางแผนมาเป็นอย่างดี ในเมื่อแผนการผิดพลาดแบบนี้ จะมีหน้ากลับเผ่าด้วยเหรอ? พวกท่านคงไม่มีหน้าไปพบคนอื่นๆแล้ว!”
ไป่หยวนขบคิด แม้ดรรชนีกระบี่ของหนิงฝานจะทรงพลัง แต่ใช่ว่ามันจะรับมือไม่ได้หากทุ่มสุดกำลัง
และมันยังคิดว่า หนิงฝานที่อยู่เพียงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม คงมีเพียงดรรชนีกระบี่เมื่อครู่เท่านั้นที่ทรงพลังที่สุด
แต่น่าเสียดายที่มันดูแคลนพลังหนิงฝานมากเกินไป
แค่ร่างกายในขอบเขตกระดูกหยก ก็ทำให้เขาต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้แล้ว
นอกจากนี้ ดรรชนีกระบี่ที่สอง ยังทรงพลังพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้
ยิ่งผสานกับโลหิตอสูรฟู่ลี่ และปราณอสูรอีก 7455 เกราะ เขาสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้ง่ายๆ
ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ เขาชี้นิ้วไปที่พวกมัน เพียงแต่นิ้วที่ชี้ไป เป็นสองนิ้วประกบกัน
ไป่หยวนที่กำลังจะหลบหนีเผยสีหน้าตกตะลึง
บุรุษเกราะดำที่กำลังกระอักโลหิตก็แหงนหน้ามอง มันไม่อยากเชื่อสายตาว่าหนิงฝานจะใช้ดรรชนีได้อีก!
เพลิงที่ลุกโหมทั่วร่างของมันเริ่มกลายเป็นสีดำและเสียการควบคุม!
“ดรรชนีที่สอง… ขยี้สวรรค์!”
แรงกดดันจากดรรชนี ทำให้ท้องนภาที่ว่างเปล่าปริแตก เผยให้เห็นรอยแยกมิติ
แสงสีดำก่อขึ้นที่ปลายนิ้วของหนิงฝานถูกยิงออกไปเบื้องหน้า แปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสงสีดำนับล้านเข้าจู่โจมพวกมันทั้ง 3 คน
เงาภาพภูเขาปีศาจสีำดำขนาดยักษ์ปรากฏ หนิงฝานตระง่านอยู่บนยอดเขาอย่างน่าเกรงขาม
สีหน้าไป่หยวนซีดขาวราวกระดาษ อานุภาพของดรรชนีที่กำลังตรงเข้าหามันรุนแรงเกินไป จนกระทั่งสังหารมันได้ในพริบตา
ที่สำคัญ ดรรชนีเดียวแต่แบ่งจู่โจมเป็น 3 คน ยังรุนแรงเกินจินตนาการพวกมัน
แม้จะหวาดกลัวจนลนลาน ไป่หยวนยังขบฟันนำธงสีขาวออกมาโบกสtบัด ธงสีขาวเปล่งแสงเจิดจ้า ดอกบัวขาวนับพันปรากฏ ต่อต้านปราณกระบี่จำนวนมหาศาลที่ตรงเข้ามา แต่การฝีนใช้พลังของมัน ทำให้สูญเสียปราณไปไม่น้อย
ไป่หยวนทุ่มปราณไปกว่าครึ่งต้านรับดรรชนีกระบี่ เพียงมันลดทอนอำนาจของดรรชนีกระบี่ได้เพียง 3 ใน 10 ส่วน ที่สำคัญ ธงของมันเริ่มถูกปราณกระบี่ขนาดเล็กทะลวงจนขาดวิ่น
สมบัติระดับกึ่งสวรรค์กลับต้านรับดรรชนีกระบี่ได้เพียง 3 ส่วน และถูกทำลายไป
หากพลังดรรชนีไม่ถูกแบ่งเป็นสามส่วน มันคงได้ตายในพริบตา
ไป่หยวนหวาดกลัว บุรุษเกราะดำเองก้ไม่ต่างกัน มันประกบสองมือ ขบกัดปลายลิ้น ก่อนจะกลายร่างเป็นหงส์เพลิงที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าพันจ้าง
มันคิดใช้ร่างกายที่พิเศษของมันต้านรับ ไม่ว่าจะร่างหงส์เพลิงของมันจะบาดเจ็บขนาดไหน แต่มันยังฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
แม้ยามนี้ปราณกระบี่จะไม่สามารถสร้างบาดแผลบนร่างของมันได้ แต่ก็ทำให้มันเสียปราณจากการรักษาไปกว่า 3 ส่วน
แต่สิ่งที่ทำให้ชายเกราะดำคาดไม่ถึง คือปราณกระบี่แต่ละเส้นแฝงด้วยเจตจำนงค์ปีศาจที่รุนแรง กัดกินชอนไชเข้าไปในจิตใจของมัน เข้ากระตุ้นความทรงจำที่เป็นจุดอ่อนในใจของมัน
“เจตจำนงค์ปีศาจ? ไม่ใช่เจตจำนงค์อสูร! แปลกมาก ลู่เป่ยเป็นเผ่าอสูร แต่กลับสร้างเจตจำนงค์ปีศาจได้ตั้งแต่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม!”
จิตใจบุรุษเกราะดำสั่นไหว
ทางด้านบุรุษเกราะทอง มันนำชุดเกราะทั้งหมดที่มีในชีวิตมาส่วนใส่ แต่ก็ยังไม่อาจต้านทางดรรชนีกระบี่ได้!
แต่เมื่อจวนตัวจริงๆ มันนำแผ่นหยกสีทองออกมาและบีบทำลาย
เมื่อแผ่นหยกถูกทำลาย ระดับพลังในขอบเขตตัดวิญญาณที่ลดลงของมัน ตกลงสู่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มในพริบ แต่หลังจากนั้นม่านพลังสีทองคุ้มกายปรากฏ ต้านดรรชนีกระบี่ที่กระหน่ำเข้ามา
มันใช้พลังของบรรพบุรุษอสูร
ผู้ที่มีโลหิตอสูรนั้น หากผ่านพิธีบูชาบรรพบุรุษ พวกมันจะได้แผ่นหยกสีทองมา หากทำลายแผ่นนั่น ระดับพลังของพวกมันจะลดลงหนึ่งขอบเขตใหญ่ แต่สิ่งที่ได้มาคือพลังที่เอาไว้คุ้มครองชีวิต!
มันรู้ว่ามันไม่สามารถต้านรับดรรชนีกระบี่ของหนิงฝานได้ มันจึงทำเช่นนั้น
ดรรชนีกระบี่ของหนิงฝานไม่อาจทะลวงผ่านม่านพลังสีทองได้ และม่านพลังสีทองนี้ จะคงอยู่หลายชั่วยาม แม้เป็นสมบัติระดับกึ่งสวรรค์ก็ไม่สามารถทำลายได้
นี่คือเวลาที่มันต้องหนีสุดชีวิต! มันต้องทำให้สำเร็จก่อนที่ม่านพลังสีทองจะหายไป หากมันหนีไปได้และฟื้นคืนพลังในขอบเขตตัดวิญญาณเช่นเดิม มันจะกลับมาแก้แค้น
มันจ้องมองหนิงฝานด้วยความเกลียดชัง แต่ก่อนที่มันหนีไปนั้น ด้านหลังของมันก็ปรากฏเงาร่างของคนผู้หนึ่ง เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ม่านพลังของมันอย่างรุนแรงจนมันไม่อาจเคลื่อนไหว
เพียงของ 2 กระบวนท่า ท่านพลังสีทองมันแทบแตกสลาย!
ไม่ผิดแน่… ไม่ผิดแน่… แค่หมัดเดียวของลู่เป่ย ก็แทบจะทำให้ท่านพลังของมันถูกทำลาย… และระดับของร่างกายที่จะทำเช่นนั้นได้คือต้องบรรลุขอบเขตกระดูกหยก!
นี่ไม่ใช่แค่มดปลวก แต่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งทัดเทียมพวกมัน!
“ปล่อยข้าไปเถอะ! หากปล่อยข้าไป ข้าจะไม่มารบกวนเจ้าอีก! หยุดมือเถอะ ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ไม่มีทางทำลายม่านพลังได้!” มันกล่าวอ้อนวอน
“หนวกหู!”
หนึ่งหมัดไม่สามารถสามารถทำลายม่านพลังได้ หนิงฝานรู้ดีว่าม่านพลังสีทองนั้นทรงพลังมาก
เพียงแต่ ผู้ที่จะทำลายไม่ใช่หนิงฝาน!
กระบี่แยกสวรรค์ปรากฏออกจากกลางหน้าผากหนิงฝาน มันเปลี่ยนรูปร่างเป็นกระบี่ยาวเปล่งประกายวาววับ
หนิงฝานตวัดกระบี่ตัดขวาง กระบี่ที่คมกริบกรีดผ่านม่านพลังราวกับมีดตัดกระจก เพียงแต่… สิ่งที่ถูกตัดยังรวมไปถึงร่างของบุรุษเกราะทองที่ขาดเป็นสองท่อน!
แต่นอกจากร่างกายแล้ว ดวงจิตของมันก็ขาดเป็นสองท่อนเช่นกัน!
ปราณกระบี่ที่กวาดผ่านม่านพลังยังไม่สิ้นอานุภาพ มันกวาดผ่านไปไกลสุดสายตา ทิ้งรอยแยกมิติไว้เป็นทางยาว
ชายเกราะทองถูกสังหารแล้ว!
หนิงฝานดูดกลืนร่างของชายเกราะทองและดวงจิตของมันเพื่อเพิ่มพูนปราณปีศาจ แล้วแหงนหน้ามองไป่หยวนและบุรุษเกราะดำ
ทันทีที่ไป่หยวนรับมือกับดรรชนีของหนิงฝานได้เสร็จ มันกลับได้ยินร้องขอความเมตตาของบุรุษเกราะทอง เมื่อมันก้มมอง มันเห็นกระบี่ของหนิงฝานตัดผ่านม่านพลัง ทั้งยังทิ้งรอยแยกมิติไว้
ฉากที่เกิดขึ้นทำให้มันตกตะลึงและหวาดกลัว ขนทั่วร่างลุกชัน
แม้บุรุษเกราะทองจะแทบไม่เหลือปราณ แต่มันยังมีเกราะคุ้มกายที่ทรงพลัง มีม่านพลังที่ได้จากการบูชาบรรพบุรุษ แต่สุดท้าย ม่านพลังที่เป็นปราการด่านสุดท้ายที่ทรงพลังที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานได้!
กระบี่ที่อยูในมือหนิงฝานคมมาก คมในขนาดที่ทั้งชีวิตของไป่หยวนไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกจากนี้ ในแดนสองแห่งนี้ไม่เคยมีกระบี่คมขนาดที่ตัดได้ทั้งร่างและจิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้
นั่นมันกระบี่อะไรกัน!
หลังจากทำหน้าที่ของมันเสร็จ กระบี่แยกสวรรค์ก็ผสานเข้ากับร่างหนิงฝานอีกครั้งจนไม่อาจเห็นหน้าตากระบี่ได้ชัด
ไป่หยวนและบุรุษเกราะดำมองหน้ากัน พวกมันคิดหนี!
การดิ้นรนจนเฮือกสุดท้ายของบุรุษเกราะทอง และจบด้วยการตายนั้น ทำให้ไป่หยวนและบุรุษเกราะดำหวาดกลัว!
ที่สำคัญ ความกลัวและสัมผัสแห่งอันตรายร้ายแรงได้ปกคลุมหัวใจของมันจนหมดกำลังใจสู้
ความแข็งแกร่งระดับนี้ของลู่เป่ย แม้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางก็ต่อกรได้!
“หนี!!”
พวกมันมองหน้ากันราวกับเข้าใจความหมาย ก่อนจะเร่งหลบหนีเต็มกำลัง
ไป่หยวนกลายร่างเป็นสัตว์อสูรสองเขาสี่หาง มันเองก็เป็นผู้มีโลหิตอสูรโบราณไม่สมบูรณ์
สัตว์อสูรขนาดยักษ์สองตัววิ่งตะบึง เฝ้าคอยป้องกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
“จะหนีเหรอ? สายเกินไปแล้ว”
หนิงฝานชี้นิ้วไปที่พวกมัน และใช้วิชาตรึงร่างพวกมันไว้!
เส้นแสงสีโลหิตจำนวนมากปรากฏราวกับไร้ที่มา ทะลวงร่างมัดตรึงพวกมันไว้จนไม่อาจขยับ
“ตอนนี้วิชาตรึงร่างของข้า สามารถตรึงร่างขอบเขตตัดวิญญาณได้ 3 ลมหายใจ”
หนิงฝานเคลื่อนเข้าหาไป่หยวนในพริบตา กระบี่แยกสวรรค์ปรากฏในมือ ฟาดฟันเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
เมื่อกระบี่ฟาดฟันเข้าหา ไป่หยวนรู้ทันทีว่าเหตุใดกระบี่เล่มนี้ถึงคมมากขนาดนี้!
นั่นเพราะบนกระบี่มีอักษรอสูรจำนวนมหาศาลถูกสลักเอาไว้!
7000 พัน… อย่างน้อยๆต้อง 7000 ตัวอักษร!
ความคมระดับนี้ทำให้กระบี่ทรงพลังเทียบเท่าสมบัติสมบัติสวรรค์!
มันไม่ทางป้องกันกระบี่ได้!
“อสูรคำราม!”
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้น ไป่หยวนเค้นพลังสุดชีวิต เปล่งเสียงคำรามจนแทบจะทำลายลำคอของมัน เกิดเป็นเคลื่อนเสียงสีฟ้าเป็นระรอกเข้าต้านกระบี่
ในเมื่อมันไม่อาจขยับ สิ่งที่มันพอทำได้คือเปล่งเสียง! อสูรคำรามของมันคือหนึ่งวิชาที่สืบทอดมาทางสายเลือดที่ปลุกได้ แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือ ทุกครั้งที่ใช้ จะทำให้โลหิตอสูรโบราณของมันเบาบางลง กระทั่งกลายเป็นโลหิตอสูรทั่วไป
คลื่นเสียงคำรามของมันนั้นสามารถสังหารอสูรตัดวิญญาณทั่วไปได้ในพริบตา แม้เป็นผู้ที่มีขอบเขตกระดูกหยกที่ 4 ก็ยังอาจบาดเจ็บสาหัสได้หากประมาท
มันถ่วงเวลาอย่างเต็มที่เพื่อให้พ้น 3 ลมหาย เมื่อนั้นมันจะหนีรอด
แต่เมื่อคลื่นเสียงของมันกำลังจะกระทบร่างหนิงฝาน ทั่วร่างหนิงฝานกลับปกคลุมด้วยรังไหมหยก
แม้คลื่นเสียงของมันจะทำอันตรายขอบเขตกระดูกหยกที่ 4 ได้ แต่ทำอันตรายหนิงฝานไม่ได้!
“รังไหมหยก! ร่างกายเจ้าบรรลุขอบเขตกระดูกหยก!”
ร่างและดวงจิตของไป่หยวนถูกหนิงฝานผ่าเป็นสองส่วน
ไป่หยวนตายในขณะที่มันยังไม่ได้ทราบว่าเหตุใดอสูรดวงจิตแรกเริ่มอย่างลู่เป่ย ถึงได้บรรลุขอบเขตกระดูกหยก ทั้งยังมีกระบี่ที่สลักอักษรอสูรถึง 7000 ตัว
“ทำลาย!”
หนิงฝานชี้นิ้ว ร่างของไป่หยวนระเบิดเป็นหมอกโลหิต ก่อนที่หนิงฝานจะดูดกลืนเข้าไปทั้งหมด
เมื่อเสร็จสิ้น หนิงฝานตรงเข้าหาหงส์เพลิงยักษ์ และใช้กระบี่แยกสวรรค์ฟาดฟัน
หงส์เพลิงตกตะลึง มันเหลือเวลาอีก 1 ลมหายเพื่อหลุดพ้นจากพันธะนาการ
พลังที่ลู่เป่ยแสดงออกมานั้นทรงพลังจนเกินไป สังหารได้ทั้งบุรุษเกราะทองและไป่หยวน
ร่างกายในขอบเขตกระดูกหยก กระบี่ที่สลักด้วยอักษรอสูรกว่า 7000 ตัว
ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องทำลายวิชาตรึงร่างให้ได้ แต่หากทำไม่ได้ มันก็จะฆ่าตัวตาย!
“ทำลาย!”
คลื่นความร้อนที่รุนแรงแผ่ออกจากร่างของมันเข้าหาหนิงฝาน
แต่หนิงฝานกลับอ้าปากดูดกลืนคลื่นความร้อนและเพลิงเข้าไป หล่อเลี้ยงสร้อยหยินหยาง เมื่อเปลวเพลิงมอดดับ ร่างของหงส์เพลิงก็สลาย และก่อตัวขึ้นใหม่อย่างช้าๆ
แม้มันหลุดจากวิชาตรึงร่างของหนิงฝานได้ แต่นั่นก็ทำให้หนิงฝานตื่นเต้น
“มันมีโลหิตหงส์เพลิงโบราณ อสูรที่สามารถฟื้นคืนชีพได้จากเถ้าถ่าน! ดูเหมือนอาวุธธรรมดาคงทำอันตรายมันไม่ได้”
หนิงฝานทะยานเข้าหาและระดมหมัดใส่อีกฝ่ายแทน
หงส์เพลิงยิ้มเย้ย “ฮึ่ม! ข้าไม่เหมือนกับเจ้าไป่หยวน! ถึงข้าจะปลุกโลหิตหงส์เพลิงได้แค่หยดเดียว แต่มันก็ทำให้ข้าได้ร่างหงส์เพลิงและความสามารถในการคืนชีพมา ไม่ว่าจะเป็นวิชาหรืออาวุธย่อมทำอะไรข้าไม่ได้ เจ้าไม่ใช่คู่มือข้า ตายไปซะ!”
รอบข้างกว่าหมื่นลี้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิง
มันรู้ว่าทะเลเพลิงนี้สังหารหนิงฝานไม่ได้ แต่ที่มันต้องการคือสลายปราณธรรมชาติ เพื่อลดทอนอำนาจของวิชาตรึงร่าง
เปลวเพลิงที่รุนแรงลุกโหมทั่วร่าง เมื่อหลุดพ้นพันธะนาการ มันสยายปีกพร้อมกระพือ แต่ในจังหวะนั้น มันกลับรู้สึกเจ็บที่ปีกของมัน!
กระบี่คมกริบฟาดฟันปีจนร่วงหล่น โดยที่ปีกของมันไม่อาจงอกออกมาได้อีก!
“เป็นไปไม่ได้! ร่างหงส์เพลิงของข้าไม่มีวันตาย! สิ่งเดียวที่ทำอันตรายข้าได้คืออาวุธเทพโบราณ! หรือวิชาที่สาบสูญเท่านั้น!”
“งั้นเหรอ?” หนิงฝานเย้ยหยัน
เพลิงที่ลุกโหมปิดบังทางร่นถอย เปิดเป็นทางให้หนิงฝานได้ก้าวเดิน
โลหิตอสูรของหงส์เพลิงไหลริน ที่กระบี่แยกสวรรค์ก็มีโลหิตของมัน
“ปีกหงส์เพลิงของเจ้าเหมาะที่จะนำไปทำเป็นอาวุธให้ว่านเอ๋อร์มาก!”
เงาร่างหนิงฝานหายไป ความเจ็บปรากฏขึ้นบริเวณปีกอีกข้าง ก่อนที่ปีกของมันจะร่วงหล่น
“อะ… อาวุธสวรรค์โบราณ! นี่เจ้ามีมันได้ยังไง?”
“ข้าต้านรับกระบี่นั่นไม่ได้ จะหนีก็ไม่ได้ ฉะนั้นข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า! เผาโลหิต!”
โลหิตที่ไหลรินออกจากแปรเปลี่ยนทะเลเพลิงที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ
มันยอมฆ่าตัวตายไปพร้อมกับหนิงฝาน
หนิงฝานขมวดคิ้ว ในหมู่นายกองอสูรทั้ง 3 ที่มา หงส์เพลิงคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!
และวิชาเผาโลหิตที่มันใช้ในระยะใกล้เช่นนี้ ทำให้โลหิตของหนิงฝานเดือดพร่าน
หากหนิงฝานเป็นคนทั่วไป ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว
หนิงฝานไม่อาจต้านทางเพลิงที่รุนแรงได้ จึงได้สลายเป็นปราณกระบี่สีดำนับไม่ถ้วนไป
ทะเลเพลิงมอดดับ เงาร่างของหนิงฝานและหงส์เพลิงหายไป
แต่ยามนั้น ไกลออกไปกลับปรากฏเส้นแสงสีดำ ก่อตัวเป็นร่างหนิงฝาน!
กระบี่วารีผันแปร!
แม้หนิงฝานจะมีโลหิตของฟู่ลี่ในครอบครอง แต่เขาไม่สามารถคืนชีพได้เหมือนหงส์เพลิง เพียงแต่ วิชากระบี่วารีผันแปรของเขาก็เทียบได้กับการเกิดใหม่
ในมือหนิงฝานมีศีรษะของหงส์เพลิงในร่างมนุษย์ เขาเก็บเอากระเป๋าเก็บของของมัน และนำปีกของมันที่ตัดไว้กลับไปด้วย
เมื่อเสร็จธุระ หนิงฝานยังคงไม่กลับไปรถเพลิงทองคำ เขาหันมองเข้าไปในรอยแยกมิติที่เกิดจากกระบี่
“คิดว่าข้าไม่รู้หรือไง?”
ในระหว่างที่มันระเบิดร่างเมื่อครู่ ดวงจิตของมันได้เข้าไปแอบในรอยแยกมิติเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย
หากเป็นอสูรตัดวิญญาณทั่วไปจะยังเข้าไปในมิติ พวกมันจะถูกสังหาร… แต่หงส์เพลิงนั้นต่างออกไป มันมีความสามารถให้การคืนชีพ จึงอยู่ในมิติได้
แต่แล้วเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น หนิงฝานเดินเข้าไปในรอยแยกมิติ ยามนี้ มันไม่มีทางหนีพ้นอีกแล้ว
มันไม่อยากเชื่อว่าลู่เป่ยจะเข้ามาในมิติได้
“เป็นไปไม่ได้...” นอกจากมันแล้ว คนอื่นๆไม่สมควรเข้ามาในมิติได้!
แต่ลู่เป่ยกลับเดินเข้ามาอย่างเรียบเฉยราวกับเดินเล่น
ตัวมันในยามนี้ ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ
“ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าสัญญาว่า...”
มันพยายามร้องขอความเมตตา แต่หนิงฝานไม่สนใจและดูดกลืนดวงจิตของมันไป
หนิงฝานออกจากรอยแยกมิติ และมุ่งกลับรถเพลิงทองคำ
การสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคราวนี้ทำให้ปราณปีศาจในร่างของเขาทรงพลังมากขึ้น ทำให้เย่าหยวนและเหล่าทหารหวาดกลัว
ไม่มีใครคิดว่าลู่เป่ยจะรอดมือจากนายกองอสูรถึง 3 คนได้!
และไม่มีใครคิดว่าขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มจะรับมือขอบเขตตัดวิญญาณถึง 3 คนได้!
เย่าหยวนและเหล่าทหารหวาดกลัวจนแข้งขาอ่อนแรง พวกมันหน้าไม่กล้าสบตาหนิงฝาน
ในเผ่ารอยแยกพิภพมีนายกองอยู่ทั้งหมด 7 ตน เป็นหัวหน้าของเหล่านายกองหนึ่งตน และอีกหกเป็นนายกองทั่วไป
แต่ยามนี้ นายกองของเผ่า 3 คนถูกหนิงฝานสังหารตายที่นี่ หากเรื่องนี้แพร่ออกไปทั่วแดนสอง ชื่อเสียงของหนิงฝานคงโด่งดังกว่านายกองอสูรตัดวิญญาณขั้นกลาง
“ท่านเป่ยแข็งแกร่ง!”
เย่าหยวนและทหารคนอื่นๆทั้งหวาดกลัวและนับถือ ซึ่งความนับถือที่พวกมันมีให้ เทียบได้กับหนิงฝานเป็นเจ้าของเผ่า
ยามนี้ลู่เป่ยไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
เป็นผู้ท้าทายสวรรค์ ที่สังหารอสูรตัดวิญญาณได้!
“รับนี่ไปแล้วรีบมุ่งหน้าเข้าเมืองลั่วหยุน ถ้าเกิดมีใครกล้าขวาง ก็เอาของที่อยู่ในนั้นออกมาแสดง!”
“ขอรับ!”
เย่าหยวนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อครู่เจ้าของศีรษะยังเป็นคนอยู่เลย แต่ยามนี้กลับเหลือเพียงศีรษะ
มันหันมองแผ่นหลังของหนิงฝานด้วยความตื่นเต้น
“ในที่สุด เผ่าลั่นหยุนของข้าก็มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง เขาจะกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งแดนสอง!”
หลังจากเย่าหยวนและเหล่าทหารพักรักษาตัวเล็กน้อยแล้ว รถเพลิงทองคำก็มุ่งหน้าไปยังเมืองลั่วหยุน
หนิงฝานไปยังข้างเตียงว่านเอ๋อร์ จ้องมองนางด้วยความผ่อนคลาย
“พวกมันตายแล้ว… ตอนที่ข้าสังหารทหารเอกของพวกมัน พวกมันตั้งค่าหัวข้า 30 ล้านหยกสวรรค์ พอรู้ว่าข้าปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิได้ พวกมันก็เพิ่มค่าหัวข้าเป็น 100 ล้านหยกสวรรค์ คราวนี้ข้าสังหารนายกองอสูรไป 3 พวกมันจะขึ้นค่าหัวข้าเท่าไหร่”...
ภายในเผ่ารอยแยกพิภพ นายกองใหญ่แห่งเผ่าถือลูกกลมสองลูกไว้ในมือ หลับตาไม่ยอมกล่าว
มันกำลังรอให้นายกองกลับมาพร้อมกับข่าวดีว่าจับตัวหนิงฝานได้
“ไป่หยวน เฟิงซื่อฉี และซู่เยว่ ออกไปได้เกือบปีแล้วป่านนี้ยังไม่กลับ… โลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ น่าอิจฉาพรสวรรค์ของมันจริงๆ แต่หากได้โลหิตของมันมา ข้าอาจบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง”
ในขณะที่มันดีใจอยู่นั้น แผ่นหยกในกระเป๋าของมัน 3 แผ่นกลับแตกเป็นเสี่ยงๆ
หยกทั้งสามชิ้นเป็นของนายกองที่มันส่งไป แต่ยามนี้กลับแตก
“เป็นไปไม่ได้ นายกองถึง 3 คนร่วมมือลอบสังหาร หากไม่ใช่ลู่ตู้เฉินมา ไม่ทางที่คนของข้าจะถูกสังหาร… แต่จากรายงาน ลู่ตู้เฉินยังเก็บตัวฝึกฝน”
“หรือผู้ที่สังหารจะเป็นลู่เป่ย!”
เมื่อคิดเช่นนั้น มันเร่งผุดลุกยืน
“ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นจริง ข้าก็ผิดพลาดใหญ่หลวงแล้ว! หากจะตั้งรางวัลค่าหัวก็ต้องเพิ่มเป็น 3000 แบบนี้จะเอาหยกสวรรค์ที่ไหนจ่าย...”
มันขบฟันด้วยความแค้น
ถ้ามันรู้ก่อนว่าหนิงฝานแข็งแกร่งขนาดนี้ มันคงไม่ส่งนายกองไปถึง 3 ตน เพราะนั่นเท่ากับทำให้ความแข็งแกร่งของเผ่ามันลดลงมหาศาล จนบางทีอาจกลายเป็นเผ่าที่อ่อนแอที่สุดก็ได้
แม้จะผิดพลาด แต่การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ มันไม่ยอม!
หากจะตั้งค่าหัวต่อก็คงไม่เหมาะสม และหนิงฝานก็แข็งแกร่งเกินไป
“ข้าจะทำยังไงดี”...