GE 252 แค่ขอบเขตตัดวิญญาณ [ฟรี]
รถเพลิงทองคำเดินทางข้ามผ่านระยะทางมาไกลแสนไกล อีกไม่นานก็จะถึงเมืองลั่วหยุน แต่ยามนี้ กลับถูกซุ่มโจมตี
ผู้ที่ติดตามรถเพลิงทองคำได้นั้น ย่อมไม่ใช่อสูรทั่วๆไป
ผู้ลอบจู่โจมมีด้วยกัน 3 คน แต่ละคนล้วนเป็นผู้ที่ผู้บังคับรถให้หนิงฝานไม่อาจหยั่งพลังได้!
แรงกดดันของพวกมันทำให้ผู้บังคับรถหวาดกลัว
ผู้ที่ไล่ตามมาสมควรเป็นนายกองอสูร… อสูรตัดวิญญาณ
เมื่อพวกมันเข้าใกล้ ผู้บังคัลรถจึงรู้ว่าหนึ่งในนั้นคือนายกองไป่หยวน นายกองแห่งเผ่ารอยแยกพิภพ!
อีก 2 คนที่เหลือก็เป็นนายกองของเผ่ารอยแยกพิภพเช่นกัน!
“เผ่ารอยแยกพิภพ! ถึงกับส่งนายกองอสูรมาลอบสังหารถึง 3 คน!”
ผู้บังคับรถมีนามว่า ‘เย่าหยวน’... มันโกรธที่เผ่ารอยแยกพิภพส่งคนมาลอบสังหาร แม้มันจะรู้ว่าลู่เป่ยแข็งแกร่ง แต่อีกฝ่ายเป็นถึงอสูรตัดวิญญาณถึง 3 ตน
นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังไกลจากเขตแดนของเมืองลั่วหยุน
แม้จะเหลือระยะอีกไม่กี่ล้านลี้ แต่ที่นี่ก็ไร้ซึ่งผู้คน
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการลอบสังหาร....
“บัดซบเอ้ย! อีกแค่ไม่กี่ล้านลี้ ถ้าโดนไล่ตามทันพวกข้าไม่รอดแน่!”
“ฮ่า!” เย่าหยวนเร่งความเร็วรถเพลิงทองคำสุดกำลัง
ถ้ารู้ว่าการออกมาส่งหนิงฝานอันตรายขนาดนี้ มันคงไม่ออกมา
แม้ยามนี้มันจะเสียใจ แต่มันทำได้เพียงหลบหนีให้เร็วสุดชีวิต!
มันเชื่อว่าหนิงฝานรับมือกับนายกองอสูรถึง 3 คนไม่ได้ เพราะหากจะทำได้ อย่างน้อยเขาต้องบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ
แม้หนิงฝานจะปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิได้ แต่ขอบเขตพลังยังอยู่เพียงดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น
ดังนั้น อสูรตนอื่นๆจึงกล้าลอบจู่โจม
บุรุษในเกราะเงินไล่ตามอย่างไม่ลดละ มันคือไป่หยวน
“ลุ่เป่ย! เจ้าน่ะเหรอผู้ที่บุกไปสังหารทหารเอกของข้า ช่างอวดดีนัก! ถ้าเก่งจริงทำไมต้องซ่อนตัว! ช่างน่าขัน… คนอย่างเจ้าน่ะเหรอปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิได้ คนอย่างเจ้าน่ะเหรอที่ได้ค่าหัวถึง 100 ล้านหยกสวรรค์… ช่างน่าขันจริงๆ”
“เจ้ามันก็แค่เด็กอมมือ จะมีค่าพอให้ผู้คนสนใจขนาดนั้นได้ยังไง… ต้องเป็นข้าผู้นี้ ผู้ที่เป็นถึงนายกองผู้ยิ่งใหญ่ ถึงควรค่ากับค่าหัว 100 ล้านหยกสวรรค์!”
แต่ในขณะที่มันกล่าว บุรุษในเกราะดำอีกคนก็จ้องมองมันด้วยความขุ่นเคือง เพราะไป่หยวนกำลังทำให้ชื่อเสียงของนายกองแปดเปื้อน
ไป่หยวนแค่นเสียง และสงบคำ
บุรุษในเกราะทองคำอีกคนที่ตามมากล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“พวกข้าอุตส่าห์ไล่ตามมาขนาดนี้เจ้ายังไม่ให้เกียรติหยุดรถอีก! ข้าเองก็เป็นผู้ปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิได้เช่นกัน เมื่อยามที่ปลุกโลหิตครั้งที่ 3 ข้าปลุกโลหิตของหงส์เพลิงโบราณได้ตั้งครึ่งหยด!”
“ฮึ่ม!”
ดวงตาบุรุษเกราะทองลุกโหมด้วยเพลิง มันชี้นิ้วไปยังรถเพลิงทองคำที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายหมื่นลี้ รถเพลิงทองคำสั่นเทาก่อนที่เพลิงจะหายไป!
เมื่อเพลิงมอดดับ รถเพลิงทองคำก็ลดความเร็วลงอย่างต่อเรื่อง
แม้เย่าหยวนจะพยายามกระตุ้นให้รถเคลื่อนที่มากเท่าใดก็ไม่เป็นผล
ชั่วพริบตานั้น นายกองอสูรทั้ง 3 เข้าล้อมรถเพลิงทองคำ!
สีหน้าเผ่าหยวนแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ระดับพลังของมันด้อยกว่าเหล่านายกอง มันย่อมไม่มีทางหนีพ้น
แต่เมื่อมันรู้ว่าตนเองไม่รอดแล้ว มันจึงชักกระบี่ ชี้ไปหาไป่หยวน
“สารเลว! พวกเจ้าถึงกลับกล้าเข้ามาในอาณาเขตเผ่าข้า! ตามสนธิสัญญาระหว่างเผ่า นายกองไม่มีสิทธิ์ล่วงเข้ามาดินแดนของเผ่าอื่น”
“ฮึ่ม! อสูรดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์มาพูด”
ไป่หยวนก้าวเท้ามาเบื้อหน้า แรงกดดันเพิ่มพูน กดดันเข้าใส่เย่าหยวนจนกระอักโลหิตและถอยไปหลายก้าว มันบาดเจ็บสาหัส
นี่คือพลังของอสูรตัดวิญญาณ…
แรงกดดันเป็นสิ่งที่พวกมันทำให้ดูยิ่งใหญ่ เป็นขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าทหาร
“ต่อให้ข้าต้องตาย แต่ท่านเป่ยต้องรอด! ทหาร ฆ่ามัน!”
ทหารอสูรของเผ่าลั่วหยุนปรากฏตัวโดยไม่ทราบที่มา
แม้ทหารเหล่านั้นจะหวาดกลัว แต่ด้วยเป็นคำสั่ง พวกมันก็ต้องทำตาม!
“ฮึ่ม! ปากดีนัก คิดว่าทหารแค่นี้จะทำอะไรได้!”
เมื่อครู่ บุรุษเกราะดำสังเกตุเห็นไป๋หยวนทำร้ายเย่าหยวนได้ด้วยแรงกดดัน สีหน้ามันแปรเปลี่ยน เพราะแม้มันจะเป็นนายกองเหมือนกัน แต่มันทำไม่ได้
การที่ไป่หยวนแสดงพลังเช่นนี้ เพราะมันอยากจะข่มบุรุษเกราะดำ
แต่บุรุษผู้นั้นย่อมไม่ยอม
แม้มันจะไม่สามารถใช้แรงกดดันทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้ แต่มันมีสมบัติกึ่งสวรรค์ที่ทรงพลัง หากต่อสู้กับไป่หยวน มันนั่นใจว่าจะเอาชนะได้
“ผนึกพยัคฆ์คำราม!”
บุรุษเกราะดำนำสมบัติออกมา แม้บนตัวอาวุธจะเต็มไปด้วยรอยร้าว แต่มันยังทรงพลัง ชั่วลมหายใจนั้น เสียงพยัคฆ์คำรามดังกึกก้องจนพลังมิติแทบจะถูกทำลาย
อำนาจของมันทรงพลังมาก
“อาวุธกึ่งสวรรค์ของข้า! ได้รับการเสริมความสามารถมาจากผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆของแคว้น!”
ไป่หยวนตกตะลึง หากมันถูกอาวุธของชายเกราะดำจู่โจม มันไม่รอดแน่...
การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเสริมความสามารถให้กับสมบัตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากลู่ตู้เฉินแล้ว ไม่มีใครทำได้เท่านี้อีก
ผู้เชี่ยวชาญเสริมความสามารถสมบัติของเผ่ารอยแยกพิภพนั้น เป็นเพียงอสูรตัดวิญญาณขั้นสูง ได้ข่าวว่ายามนี้มันหยุดเรื่องเสริมความสามารถสมบัติไว้ก่อน และหันมายกระดับพลังเป็นดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด
ผนึกพยัคฆ์ของชายเกราะดำผ่านการผนึกวิญญาณมาโดยผู้เชี่ยวชาญการเสริมความสามารถของเผ่ามัน ซึ่งอาวุธของชายเกราะดำนั้น ผ่านการสลักตัวอักษรอสูรไปทั้งหมด 1096 ตัว
ด้วยจำนวนของอักษรที่สลักลงไปนั้น หากเป็นผู้เชี่ยวชาญทั่วไปไม่สามารถทำให้แล้วได้ในเวลาสั้น
“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีอาวุธที่ทรงพลังในครอบครอง… แต่หากข้าทุ่มเต็มกำลัง ข้าก็เอาชนะมันได้”
ชายเกราะดำชี้นิ้วไปยังเหล่าทหารที่กำลังเข้ามา
*โฮก!...*
เงาร่างพยัคฆ์ขนาดยักษ์ปรากฏบนท้องนภา เปล่งเสียงคำรามดังสนั่น เหล่าทหาร 40 คนที่ทะยานมากระอักโลหิต
เงาร่างพยัคฆ์ขยายขนาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้อยจ้าง… พันจ้า… หมื่นจ้าง...
เงาร่างขนาดยักษราวกับขุนเขา อัดแน่นไปด้วยพลังที่รุนแรง มันเปล่งเสียงคำรามและทะยานเข้าหารถเพลิงทองคำ!
เย่าหยวนที่เห็นใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มันขบฟันด้วยความคับแค้นใจ
บัดซบเอ้ย!!
ต่อให้มันต้องตาย มันต้องปกป้องลู่เป่ยให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้น มันจะเสื่อมเกียรติอย่างที่สุด
ต่อให้มันต้องระเบิดร่าง มันก็ต้องปกป้องรถเพลิงทองคำให้ได้
แต่ในขณะที่มันกำลังจะตัดสินใจระเบิดร่าง ฉากที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏ!
เงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวปรากฏขวางเบื้องหน้ารถและเงาร่างพยัคฆ์
บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
แส้ในมือเหวี่ยงเฆี่ยน เงาร่างพยัคฆ์ขนาดยักษ์สั่นไหว แส้มุ่งทะลวงผ่านเงาพยัคฆ์เข้าหาชายเกราะดำ เฆี่ยนลงบริเวณตันเถียนของมัน!
*อ็อก!!*
มันเอามือกุมหน้าท้อง โลหิตไหลเป็นสายไม่หยุด สีหน้าตกตะลึงไม่อยากเชื่อ
เพราะผู้ที่ทำร้ายมันและทำลายเงาพยัคฆ์คือลู่เป่ย!
มันคาดไม่ถึงว่าลู่เป่ยที่เป็นเพียงอสูรดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น จะทะลวงการจู่โจมและทำร้ายมันได้
เป็นครั้งแรกที่ชายเกราะดำเคยเห็นผู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ และยามนี้ มันก็รู้สึกว่าปราณในร่างหายไปไม่น้อย
เงาร่างพยัคฆ์ยังคงอยู่ แส้เมื่อครู่ทำให้มันสั่นไหว ยังไม่อาจหักล้างการจู่โจมของมันได้ ดัง
นั้น จึงต้องหวดเฆี่ยนเพิ่มจาก 1 เป็น 10 เป็น 100 เป็น!
ทุกแส้ที่เฆี่ยนตีแฝงด้วยพลังแข็งแกร่ง ไม่นานเงาร่างอสูรขนาดยักษ์ก็หายไป
การจู่โจมเงาพยัคฆ์ราวกับจะส่งผลกับปราณของชายเกราะดำด้วย จนยามนี้ ปราณของมันแทบไม่เหลือ
“ช่างเป็นแส้ที่ทรงพลัง...”
ตาซ้ายหนิงฝานเป็นประกาย เขาหันมองไป่หยวนและชายชราเกราะทอง จากนั้นเฆี่ยนแส้ใส่อย่างต่อเนื่อง
พวกมันได้เห็นกับตาว่าแส้ของลู่เป่ยทำให้ชายเกราะดำแทบหมดสภาพ ดังนั้นพวกมันจึงเร่งถอยห่างด้วยความหวาดกลัว
“นี่คือพลังของโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ?”
ชายชุดทองคำเค้นพลังทั้งหมด กระตุ้นโลหิตหงส์ภายในร่าง เค้นออกมาต่อต้าน
แต่ด้วยการจู่โจมของหนิงฝานทรงพลังเกินไป มันจึงไม่อาจต้านทาน
มันผงะถอยไปหลายก้าว แต่ก็ยังยากจะยืนให้มั่นคง
*อ๊อก!!*
ชายเกราะทองคำกระอักโลหิต
โลหิตเผ่าจักรพรรดิที่ไม่สมบูรณ์ของมันไม่อาจเทียบเคียงโลหิตของหนิงฝานได้
ยามนี้ นายกองอสูรที่มา 3 ตน บาดเจ็บหนักไป 2 เหลือเพียง 1 เท่านั้น
สำหรับมัน มันเห็นลู่เป่ยเป็นเพียงมดปลวกไม่คู่ควร แต่มันคิดผิด
“เป็นแค่นายกองอสูรกับกล้าขวางทางข้า!”
หนิงฝานชูนิ้ว นิ้วเปล่งแสงเจิดจ้า… ดรรชนีกระบี่ ทำลายภูเขา!...