บทที่ 190 แขวนอยู่บนเส้นด้าย โต้กลับ
บทที่ 190
แขวนอยู่บนเส้นด้าย โต้กลับ
เช่นเดียวกับที่หลี่ฟู่เฉินคาดไว้ นักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์อีกคนตั้งเป้ามาที่หลี่ฟู่เฉิน
สำหรับนักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ส่วนที่เหลือ เขาเพียงแค่ส่งการโจมตีออกไปและไม่ตรวจสอบว่ามันโดนหรือพลาด
นักสู้ขอบเขตสวรรค์สามารถบินด้วยความเร็วสูงที่เท่ากับสัตว์อสูรประเภทอากาศระดับ 3
โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เขาก็ตามหลี่ฟูเฉินทัน
“เด็กผู้นั้น เร็วอะไรเช่นนี้… เจ้าจะต้องเป็นศิษย์หลักระดับทอง! ข้าสงสัยว่ามันจะรู้สึกอย่างไรหากฆ่าศิษย์หลักระดับทอง?” เร้นภูผาหัวเราะเสียงดัง เขาสะบัดนิ้วของตนและพลังดัชนีไปยังหลี่ฟู่เฉิน
(หมายเหตุ TL: ดูเหมือนว่านักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ได้รับชื่อแทน เช่น อาวุโสแม่งป่อง นกฮูกโลหิต เร้นภูผา)
ปิสส!
พลังฉีคล้ายภูเขาขนาดใหญ่ถูกยิงลงมาบนพื้นผิวดิน ขณะนั้นเองที่หลี่ฟู่เฉินเริ่มหลบหลีก
“ความรู้สึกอันเฉียบแหลม คู่ควรกับสมยานามศิษย์หลักระดับทอง”
เร้นภูผายิงดัชนีออกไปอย่างต่อเนื่องโดยการตวัดนิ้วอย่างง่ายๆ
ปิสส ปิสส ปิสส ปิสส…
หลุมลึกจำนวนมากเกิดบนผืนผิวดิน ด้วยการใช้ออกย่างก้าวเงาวายุและลูกเตะไร้เงาสู่จุดสูงสุด ร่างของหลี่ฟู่เฉินปรากฏอยู่ทุกหนแห่ง ซ้าย ขวา หน้าและหลัง มันรู้สึกราวกับร่างกายของเขาสูญเสียจุดศูนย์ถ่วงและเขาสามารถเปลี่ยนความเร็วและทิศทางเมื่อใดก็ตามที่เขาพอใจ
นอกเหนือจากนั้น จิตใจของหลี่ฟูเฉินอยู่ในระดับที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน มีหลายครั้งก่อนที่เร้นภูผาเขาจะสะบัดนิ้วของตัวเอง หลี่ฟู่เฉินก็สามารถคำนวนเส้นทางการโจมตีได้แล้ว
“หือ?!”
เร้นภูผารู้สึกประหลาดใจ หากแค่เพียงหลบการโจมตีหนึ่งหรือสองครั้ง มันยังคงสามารถยอมรับได้ แต่มันจะไร้หตุผลหากสามารถหลบการโจมตีของเขาทั้งหมดได้
“มาดูกันว่าครั้งนี้เจ้าจะหลบได้อย่างไร”
เร้นภูผาดึงอาวุธจากถุงเก็บของเขา อาวุธนี้คือค้อนทลายภูผา หัวค้อนของค้อนทลายภูผามีขนาดครึ่งหนึ่งของหินโม่(จานหินขนาดใหญ่) มันถูกหล่อหลอมมาจากแร่ระดับลึกลับขั้นต่ำ แร่ภูผาทมิฬ มันมีน้ำหนักกว่า 2,400 กิโลกรัม อย่าได้กล่าวถึงการถ่ายพลังฉีเข้าไปในอาวุธ แม้ว่าพลังฉีจะไม่ถูกถ่ายเข้ามา การทุบเพียงหนึ่งครั้งจากค้อนก็พอที่จะบดขยี้พื้นดินและระเบิดอะไรก็ได้ที่อยู่ในโรงตีเหล็ก
“เจ้าจะต้องตาย!”
เมื่อค้อนถูกหยิบออกมา พลังงานสวรรค์และโลกสั่นสะเทือน เงาอันมหึมาของค้อนปกคลุมหลี่ฟู่เฉิน ราวกับว่ามีภูเขาลูกเล็กๆ กระแทกลงมาบนตัวเขา
“อันตราย”
ขนบนร่างของหลี่ฟู่เฉินล้วนแล้วแต่ตั้งตรง ทุกๆ ส่วนบนร่างของเขาล้วนแล้วแต่กรีดร้อง มันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกาย
เปิดใช้งานท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ หลี่ฟูเฉินกลายเป็นความว่างเปล่า ไร้ซึ่งเงาใด และก็พุ่งตัวออกไป ความเร็วของเขาสามารถอธิบายได้โดยจากคำว่า แปลกประหลาด
ครืน!
ค้อนกระแทกกับพื้นประมาณสิบเมตรตากด้านหลังของหลี่ฟู่เฉิน พื้นแข็งๆ ของพื้นดินกลายเป็นของเหลว ขณะที่คลื่นดินปรากฏออกมา
ชั่วขณะนึง หลี่ฟูเฉินรู้สึกเหมือนสวรรค์และโลกกำลังจะล่มสลาย เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายของตัวเองและดูคล้ายกับมัดฟาง ถูกโจมตีโดยคลื่นกระแทก
ปิสส!
ไถลลงไปกับพื้น หลี่ฟู่เฉินหน้าดูซีดลง ขณะที่กระอักเลือดออกมาเต็มปาก
การปะทะกับแรงค้อนนั้นน่าหวาดกลัวเกินไป เพียงคลื่นกระแทกเพียงอย่างเดียวทำให้หลี่ฟู่เฉินบาดเจ็บสาหัสได้ทันที หากว่ามันไม่ใช่เพราะคุณสมบัติทางกายภาพของเขา คลื่นกระแทกนี้จะทำให้เขากลายเป็นเหล็กที่โดนถลุง
“ไปต่อสิ และหลบ! ทำไมเจ้าไม่หลบแล้วล่ะ?”
เร้นภูผายกค้อนขึ้นสูงและตั้งใจที่จะทุบหลี่ฟู่เฉินให้เป็นกองเลือด
“อรูสเต๋าปีศาจอวดดีนัก! พวกมันทุกตนสมควรได้รับความตาย! ฆ่าพวกมันทั้งหมด!ไ
บนท้องฟ้า มีเงาสามร่างบินเข้ามา
มันเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์สามคน กำลังเสริมที่มาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ นั้นย่อมหมายความว่าพวกเขาเป็นผู้บัญชาการจากสาขาที่หกทั้งสามคน
ผู้บัญชาการคนหนึ่งดึงดาบที่เป็นสมบัติของเขาออกมา พลังฉีดั่งเช่นน้ำตกพุ่งไปยังเร้นภูผา
แคร๊ก!
ประกายไฟพุ่งออกมาขณะที่เร้นภูผาโต้กลับ
ผู้บัญชาการสาขาอีกสองคนติดตามอย่างใกล้ชิดและแต่ละคนก็เฉือนไปยังเร้นภูผา
เร้นภูผาส่งเสียงฮึดฮัด ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงถอยกลับอย่างรวดเร็ว
“สมาชิกจากสาขาที่หกกำลังมา เจ้าสามารถใช้เวลานี้เพื่อพักฟื้น” ผู้บัญชาการสาขาหนึ่งจำหลี่ฟู่เฉินได้และส่งข้อความไปถึงเขา
หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า เขาได้รับบาดเจ็บสาหัญจึงไม่สามารถเข้าร่วมได้ทันที
หยิบยาฟื้นพลังออกมาจากถุงเก็บ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าบาดแผลร้าวลั่น เขากินยาอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเม็ดฟื้นฟู่ระดับลึกลับขั้นต่ำ มีค่าใช้จ่าย 100,000 คะแนนสะสม หลี่ฟู่เฉินไม่ได้คาดหวังว่ามันจะถูกใช้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
เม็ดยาฟื้นฟู่ระดับสีเหลืองหรือยารักษาระดับลึกลับครึ่งก้าวมีผลที่น่าทึ่งอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพดั่งเช่นเม็ดยาฟื้นฟู่ระดับลึกลับขั้นต่ำอันนี้
เม็ดยาระดับลึกลับขั้นต่ำนั้นควรค่าแก่ความล้ำค่าของมัน ในเวลาเพียงแค่ 15 นาที อาการบาดเจ็บของหลี่ฟู่เฉินหายไปประมาณ 30% ถึง 40% อวัยวะที่ฉีกขาด เนื้อ และกระดูกก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อสภาพร่างกายของเขากลับมาอยู่ที่ประมาณ 50% จากสภาพเดิม หลี่ฟู่เฉินยืนขึ้น
เขาไม่จำเป็นต้องโคจรพลังฉีเพื่อฟื้นฟู่อีกต่อไป ผลที่เหลือของยาจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขาโดยอัตโนมัติ
“นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องได้รับคะแนนสะสมมากขึ้น 100,000 คะแนนถูกใช้ออกไปทั้งๆ แบบนี้”
จำนวนคะแนนสะสมที่หลี่ฟู่เฉินมีอยู่นั้นอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านคะแนน เขาใช้ส่วนหนึ่งของคะแนนสะสมเพื่อแลกรายการต่างๆ เช่น ระเบิดอัคนีคำรน ยาเม็ดระดับลึกลับ และแม้แต่กระทั้งชุดเกราะสัตว์ปีศาจระดับสูงรุ่นก่อนหน้าของเขาก็ได้รับการยกระดับเป็นเกราะป้องกันสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นกลาง
ขณะที่ระดับเกราะสัตว์ปีศาจเพิ่มขึ้น ราคาของมันก็จะเพิ่มขึ้นตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกราะระดับ 1 ใช้เหรียญทองสองสามเหรียญ เกราะระดับ 2 มีราคาหลายร้อยเหรียญทอง เกราะระดับ 3 มีตั้งแต่หนึ่งพันเหรียญทองขึ้นไป แต่เกราะระดับ 4 จะเริ่มจาก 100,000 เหรียญทอง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 500,000 คะแนนสะสม
หลี่ฟู่เฉินส่วมใส่เกราะสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นกลางซึ่งทำให้เขาเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 คะแนนสะสม
นอกเหนือจากการซื้อครั้งนี้ หลี่ฟู่เฉินก็ซื้อไปอีกหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาต้องใช้คะแนนสะสมไปเป็นจำนวนมาก
แน่นอน คะแนนส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อแลกเม็ดยา เช่น ยาแก้พิษ ยาฟื้นฟู่ และยาช่วยในการบ่มเพาะ การแลกเม็ดยาออกมาเพียงอย่างเดียวก็ใช้คะแนนสะสมไปแล้วกว่า 2 ล้านคะแนน
แต่หลี่ฟู่เฉินไม่รู้สึกว่ามันน่าเสียดายที่ใช้มันไปมากเช่นนั้น
หลังจากทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง
หากไร้ชีวิต มันก็ไร้ประโยชน์หากได้รับคะแนนสะสมมามากมาย
สาขาที่ห้าและหกอยู่ใกล้กับสาขาที่เจ็ดมากที่สุด
ขณะนั้นที่หลี่ฟู่เฉินลังเลว่าเขาควรจะกลับไปต่อสู้ดีหรือไม่ นักสู้ขอบเขตสวรรค์อีกสามคนเข้าร่วมการต่อสู้บนท้องฟ้า
“กลับไป”
หายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟู่เฉินหันหลังกลับและมุ่งหน้าไปยังสนามรบ
ด้วยการโจมตีจากศูนย์บัญชาการใหญ่ของสมาคมมือปีศาจ มันจึงไม่ได้มีแค่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ แน่นอนว่าจะต้องมีนักสู้ขอบเขตปฐพีและขอบเขตต้นกำเนิดเข้าร่วมในการต่อสู้ด้วย
เมื่อหลี่ฟู่เฉินกลับไปที่สนามรบ มันมีเสียงอึกทึกวุ่นวายวุ่นวายมาก
ในท้องฟ้าด้านบน ผู้บัญชาการสาขาที่เจ็ดเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว โชคดีที่ผู้บัญชาการสาขาที่หกและห้ารีบมา สำหรับด้านสมาคมมือปีศาจ เหล่านักสู้ขอบเขตสวรรค์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นจากห้าคนเป็นแปด
สถานการณ์ยังคงไม่เอื้ออำนวยสำหรับฝ่ายวายุศักดิ์สิทธิ์
บนพื้นดิน สมาชิกสมาคมมือปีศาจกำลังโลดแล่นไปทั่วและสังหารพวกที่เหลือของสาขาที่เจ็ด
หลี่ฟู่เฉินเห็นหลังของดาบไร้อารมณ์
เซี่ยเฟิงต่อสู้อย่างกล้าหาญและดุดัน เขาได้รับบาดเจ็บ เขาต่อสู้กับนักสู้ขอบเขตปฐพีสูงสุดทั้งสามเพียงลำพัง แม้ว่าเขาจะเสียเปรียบ แต่มันก็แค่ชั่วคราวและไม่ได้อยู่ในสภาพที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
“ฆ่า!”
หลี่ฟู่เฉินไม่ลังเลและเข้าร่วมการต่อสู้
บุคคลที่น่าเกรงขามทุกคนเติบโตขึ้นจากผลของการต่อสู้และจำเป็นต้องต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ไม่ได้กำหนดเป้าหมายมาที่เขา เหตุใดเขาจึงต้องกลัวนักสู้ขอบเขจปฐพีเหล่านี้?
เมื่อหลี่ฟู่เฉินเข้าร่วมการต่อสู้ มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการต่อสู้โดยรวมแต่อย่างใด
โชคดีที่สนามรบมีขนาดใหญ่มากพอ ทอดตัวกว้างประมาณ 8 ไมล์ หากไม่เช่นนั้น เมื่อหลี่ฟู่เฉินเข้าสู่การต่อสู้ มันจะดึงดูดความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจากสมาคมมือปีศาจ
หลังจากหนึ่งชั่วโมง สมาชิกสาขาที่เจ็ดก็เกือบจะถูกขจัดจนหมดสิ้น เซี่ยเฟิง หลี่ฟู่เฉิน และที่เหลือถอยห่างออกไปขณะที่พวกเขายืดเยื้อการต่อสู้ ขยายสนามรบทั้งหมดและทำให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
“เต๋าปีศาจอวดดี! คุณกล้าโจมตีอย่าโจ้งแจ้งในที่แคว้นวารีครามของเราได้อย่างไร? ช่างไร้ความเมตตา!”
ในที่สุด สมาชิกสาขาที่หกก็มาถึงการต่อสู้
เมื่อหน่วยลาดตระเวนสาขาที่เจ็ดรู้ว่าสมาคมมือปีศาจกำลังบุกรุกเข้ามา พวกเขาส่งสัญญาณเปลวไฟและส่งข้อมูลไปยังหน่วยลาดตระเวนอื่น ซึ่งเป็นวิธีถ่ายทอดข้อมูลอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง สาขาที่หกทั้งหมดอยู่ที่นี่เพื่อให้การสนับสนุน
โชคดีที่ระยะห่างระหว่างฝ่ายต่างๆ ไม่ไกลกันเกินไปนัก ซึ่งเป็นวิธีที่พวกเขาสามารถจัดหากำลังเสริมได้อย่างรวดเร็ว หากไม่เช่นนั้นแล้ว สาขาที่เจ็ดทั้งหมดจะถูกกำจัด