ตอนที่ 5 สิ้นสุดวันแรก
หลังจากเลเวลพวกเรามาถึงเลเวล 10 แล้วพวกเราก็รีบเดินทางกลับมายัง「หมู่บ้าน Altrowa 」
…โอ้ ดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นมากว่าเดิมเยอะเลยซินะ
แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ก็นี้เป็นวันแรกที่เกมเปิดให้เล่นวันแรกนี้น่า
ดูเหมือนว่าเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเกมจะต้องปิดตัวลงเนื่องจากมีผู็เล่นน้อยเกินไป
เนื่องจากพวกเราทั้งคู่ได้ตัดสินใจเรื่องอาชีพของพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นอาชีพของพวกเราทั้งคู่ก็คือ ผมเล่นเป็นอาชีพนักบวชและยูมีร์เล่นเป็นอัศวิน นี้ถือเป็นการจับคู่ที่ไม่แย่สักทีเดียวหนึ่งโจมตีหนึ่งช่วยเหลือ
หลังจากที่พวกเรามาถึงเลเวล 10 แท่งไม้ที่ทางระบบแจกมาหาก็สลายกลายเป็นแสงหายไปทันทีที่พวกเราทั้งคู่ก้าวเข้าสู้หมู่บ้าน ที่มันไม่สลายไปตั้งแต่เลเวลอัพทั้งแต่แรกคงเพราะป้องกันผู้เล่นเจอเมอสเตอร์หลังจากที่แท่งไม่หายไป ไม่ใช่เพียงแค่แท่งไท้เท่านั้นแม้แต่น้ำยาเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ยังเหลือเวลาอยู่ก็ยังหายไปด้วยพร้อมกับน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก็เช่นกัน
ลาก่อนนะเจ้าแท่งไม้และเหล่าให้ไอเทมที่ช่วยเหลือพวกเราทั้งคู่มาตลอด….
เมื่อเราเขามาในหมู่บ้านยูมีร์ก็เริ่มยืดเส้นยืดสาย
「พวกเราทำเสร็จแล้ว! ได้สู้กับพวกมอนสเตอร์ก็ไม่เลวเหมือนกันเนอะ แต่ฉันอยากจะลองสู้กับบอสดูอะ มันจะต้องตื่นเต้นมากกว่านี้แน่เลย! 」
「เขต「 Homa Plains 」นั้นค่อนข้างใหญ่ ฉันคิดว่าตรงที่เราอยู่มันเป็นแค่ตรงเส้นแบ่งเขตพื้นที่ระหว่าง「 Homa Plains 」และ「 ป่าDondery 」เท่านั้น นั้นทำให้มอนสเตอร์ที่เราเจอมีแต่พวกเลเวลต่ำๆและไม่มีบอสอยู่แถวนั้นเลย ถ้าจากที่ฉันคิดหากเราเข้าไปลึกอีกหน่อยอาจจะเจอก็ได้นะมอนสเตอร์ที่เป็นบอสหน่ะ」
「 ฉันก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น! 」
นอกเหนือจากก๊อบลินที่อาศัยอยู่ในเขต「 Homa Plains 」ก็ยังมีกระต่ายที่ถูกเรียกว่า「อัลมิราจ」
เนื่องจาก「 อัลมิราจ 」เป็นมอนสเตอร์ที่มุ่งเน้นไปที่ความเร็วถ้าหากผู้เล่นไม่ทันระวังตัวอาจจะถูกมันโจมตีด้วยความเร็วจนตายเลยก็ได้ ปัญหาอีกอย่างนึงก็คือด้วยความที่มันมีความเร็วค่อนข้างจะสูงนั้นทำให้มันสามารถหลบการโจมตีของผู้เล่นได้ค่อนข้างบ่อย นี้ถือเป็นมอนสเตอร์ที่รับมือยากพอสมควรสำหรับผู้เล่นใหม่
อย่างไรก็ตาม HP ของมันค่อนข้างต่ำดังนั้นหากผู้เล่นสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้และโจมตีมันได้สัก2-3ครั้ง「 อัลมิราจ 」ก็ถือเป็นมอนสเตอร์เริ่มต้นที่เป็นแหล่งเก็บเลเวลที่ไม่่เลวเลยทีเดียว
หากผู้เล่นสามารถรู้จุดอ่อนของมอนสเตอร์มันก็เป็นเรื่องง่ายในการที่จะเอาชนะมอนสเตอร์เหล่านี้
เมื่อพูดถึงก็อบลินจุดอ่อนของพวกเขาอยู่ตรงบริเวณลำคอซึ้งต้องบอกเลยว่าสำหรับผู้เล่นใหม่ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างจะโจมตีโดนได้ยาก
「ยูมีร์เธอรู้รึเปล่าว่าเราจะไปหาไอเทมฟื้นฟูได้จากที่ไหน..และอีกอย่างเธอต้องเอาไอเทมและเงินมาเก็บไว้กับฉัน」
พวกคุณคงตกใจสินะที่ผมบังคับให้เธอเอาไอเทมและเงินมาเก็บไว้กับผมทั้งหมด
แต่ถ้าพวกคุณรู้จักยูมีร์เหมือนที่ผมรู้จักละก็พวกคุณก็จะทำเหมือนผมเนี่ยแหละ
แต่ผมคิดว่าคำถามที่ผมถามเธอไปมันน่าจะเหมือนคำตอบที่ผมคิดไว้อยู่แล้ว
「 ถ้าคนที่พูดไม่ใช่นายฉันคงปฎิเสธไปแล้วแต่ถ้าเป็นนายฉันก็ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องไอเทมฟื้นฟู ... นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าฉันต้องการอะไรก็แค่ใช่เงินไม่เห็นต้องมานั่งหาอะไรแบบนั้นให้มันยุ่งยากเลย」
「นั้นไง ฉันว่าแล้วเธอต้องพูดแบบนี้…เพราะแบบนี้ไงลุงอากิฟุมิถึงต้องให้ฉันดูแลเธอ」
แม้ว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กและดูเหมือนผมจะสนิทกับเธอมากจนเกินไป...จนครอบครัวของยูมีร์คิดว่าผมกลายเป็นลูกของพวกเขาอีกคนแล้ว
นี้บ้านนี้เห็นผมเป็นตัวอะไรกันเนี่ย ... ผมอยากจะถามพวกเขานะแต่ก็กลัว
แม้แต่เจ้าเครื่อง VR ผมก็เชื่อว่าเธอบอกกับลุงอากิฟุมิว่าจะซื้อให้ผมตรงๆ และยิ่งกว่ามั่นใจว่าลุงอากิฟุมิก็เห็นด้วยอย่างแน่นอน
ด้วยฐานะครอบครัวของยูมีร์ผมบอกได้เลยว่าเธอมีเงินเหลือกินเหลือใช้อีกเยอะแค่นี้ขนหน้าแข้งของลุงอากิฟุมิไม่ล้วงแม้แต่เส้นเดียว
「ถ้างั้นก็ฝากดูแลชีวิตของฉันในเกมนี้ด้วยนะ ไฮน์โดะคุง 」ยูมีร์พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ของเธอ ก่อนที่ยูมีร์จะพูดสิ่งที่ทำให้ผมคีิ้วกระตุก「แต่บอกไว้ก่อนว่านายไม่สามารถห้ามฉันเรื่องใช้ตังได้หรอกนะ 」
「นี้ยูมีร์ขนาดในเกมเธอยังไม่คิดแม้แต่จะเลิกใช้นิสัย "ใช้เงินฟาด"อีกหรอ」
「ไม่!」
「เธอเนี่ยอะน้า!」
หลังจากที่พวกเราตกลงกันได้ผมก็ให้(บังคับ)ยูมีร์ทำการส่งไอเทมและเงินมาให้กับผมผ่านทางระบบแลกเปลี่ยน ซึ้งต้องบอกเลยว่ามันสะดวกสบายมากๆ
ระบบการแลกเปลี่ยนนั้นเป็นระบบที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนไอเทมและเงืนได้ตามแต่ที่ผู้เล่นต้องการ
แต่ดูเหมือนว่าระบบแลกเปลี่ยนจะไม่สามารถส่งมอบให้กันได้เพราะตัวระบบมีการป้องกันอยู่นั้นก็คือการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมหรือก็คือการซื้อขายเมื่อใช้ระบบนี้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องนำไอเทมหรือเงินเข้ามาใช้ในการแลกเปลี่ยนตัวระบบถึงจะอนุญาตให้แลกเปลี่ยนกันได้
ซึ่งแน่นอนผมให้ยูมีร์ส่งไอเทมและเงินทั้งหมดมาที่ผมโดยที่ผมใส่เงืนลงไปแค่ 1 เหรียญเท่านั้น...และนั้นทำให้ตอนนี้ในช่องเก็บของของผมนั้นเต็มไปด้วยไอเทม
ซึ่งผมคิดว่าครั้งหน้าที่ล๊อคอินเข้ามาในเกมจะจัดการเรื่องไอเทมทั้งหมดในช่องเก็บของก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากนั้นผมควรฟาอาวุธให้กับพวกเราทั้งคู่…และตอนนี้ผมก็คิดอะไรบางอย่างได้เกี่ยวกับเรื่องนี้
「ยูมิร์ ตอนนี้ฉันมีความคิดที่จะสร้างอาวุธขึ้นมาเอง ถ้าเธออยากได้อาวุธแบบไหนก็ลองบอกฉันมา ถึงตอนนี้จะยังไม่สามารถสร้างได้ก็เถอะ แต่ถ้ามีรูปแบบหรืออาวุธที่อยากได้ไว้ก่อนมันก็ไม่เสียหายนี้จริงไหม」
「โอ้ นายจะเล่นอาชีพเสรืมเป็นช่างทำอาวุธหรอ งั้นเอาเป็น...สว่านละกัน」
「..อะไรนะ?」
ตอนนี้ผมแยกไม่ออกแล้วว่ายัยนี้มันแกล้งเพี้ยนหรือเพี้ยนจริงๆกันแน่
...
... !?
「ไม่ ไม่! ฉันอยากรู้ว่าเธออยากได้อาวุธเป็นดาบหรือหอก อาวุธที่่อัศวินเขาชอบฉันกันหน่ะ! ฉันไม่ได้หมายความว่าให้เธอคิดอาวุธขึ้นมาเองยัยเพี้ยนเอ้ย! 」
「งั้นเอาเป็นหอกแบบโรมันได้ไหม ฉันเคยดูในเรื่อง 300 มันน่าจะเท่ดีนะนายว่าปะ」
「ฉันว่ามันก็ดีนะ หอกนั้นทั้งเป็นอาวุธระยะไกลและ....จะบ้ารึไงยัยเพี้ยน มันไม่ได้เหมาะกับอัศวินเลยสักนิด ฉันจะไม่มีวันทำอาวุธแบบนั้นให้กับเธอแน่นอนยูมีร์! 」
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของผม ดูเหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบ้างอย่าง
ซึ่งผมก็ไม่รู้เธอไม่พอใจหรือเธอกำลังคิดมากเกี่ยวกับอาวุของเธอ
ยูมีร์ยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้นก่อนที่เธอจะหันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่จริงจัง
「ทางอย่งานั้น…ของเป็นปืนคู่」
「ยัยเพี้ยน! นี้มันเป็นเกมแฟนตาซียุคกลางนะ จะไปสร้างของแบบนั้นได้ไง! 」
「พัดเหล็กละ! 」
「ไม่ได้! 」
「เคียวโซ่!」
「ที่เธอคิดมาเนี่ยไม่มีอันไหนเป็นอาวุธของอัศวินเลยสักชิ้น นี้เธออยากเป็นอัศวินจริงๆรึเปล่าเนี่ย!!」
「งั้นก็เครื่อง..」
「ถ้าเธอพูดว่าเครื่องยิงฉันคงต้องลงไม้ลงมือกับเธอให้หายเพี้ยนซักหน่อยแล้ว」
「...」
อย่างที่คาดหวังหลังจากที่ยูมีร์เห็นผมชูหมัดขึ้นมา เธอรีบเอามือขึ้นมาปิดปากทันที
เครื่องยิงที่ยูมีร์หมายถึงคือเครื่องยิงอาวุธหรือลูกศรขนาดใหญ่ซึ้งมันมีพลังโจมตีแตะทะลุทะลวงมหาศาล
แต่มันไม่ใช่อาวุธที่อัศวินใช้กัน
「 โถ่ว ถ้างั้นเอาเป็นดาบปกติก็ได้…」
「เธอน่าจะพูดอย่างงั้นตั้งแต่แรก! ที่นี้ก็ง่ายหน่อยถ้าอาวุธของเธอเป็นดาบเธออยากให้มันมีรูปลักษณ์แบบไหนละ」
「 อืม จริงๆแล้วฉันยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นเลยอะ ฉันอาจจะคิดออกถ้าได้ลองฉันดาบดูก่อน」
แล้วที่คุยกันมาตั้งนานนี้เพิ่ออะไรกันละเนี่ย...
ในเกมนี้อาชีพและอาวุธจะมีความสัมพันธ์กัน นั้นหมายความว่าถ้าหากเลือกอาชีพไปแล้ว แต่ใช้อาวุธของอีกอาชีพนึงผลที่ได้ออกมาคือจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้หรืออาจจะทำได้แต่ทำได้น้อยมาก
ก่อนหน้านี้ในระหว่างที่เก็บเลเวลอยู่นั้นผมด้ลองให้ยูมีร์ลองใช้ไม้เท้า(แท่งไม้โง่)ลองโจมตีใส่มอนสเตอร์ดูผลปรากฎว่ามันสร้างความเสียหายได้แค่ 1 เท่านั้นทั้งๆทีมันมีพลังโจมตีตั้ง 5
ในหน้าต่างสถานะเราจะเห็นว่าอัศวินใช้ดาบและหอกเป็นอาวุธหลักและนักบวชใช้กระบองไม่ก็ไม้เท้า
「ไฮน์โดะ ถ้างั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนละกัน」
「โอเค แล้วเธอจะมากินข้าวเย็นด้วยใช่มั้ย」
「แน่นอนอยู่แล้ว ถือว่าเลี้ยงฉลองย้อนหลัง! 」
「งั้นฉันคงต้องเตรียมอาหารไว้สำหรับ 5 ที่สินะ ออกจากเกมกันเถอะ」
「 ห้ะ! …5 ที่?」
ผมไม่ได้ตอบยูมีร์แต่เลือกที่จะเปิดระบบเมนูขึ้นมาก่อนที่จะกดไปที่ปุ่ม 「ออกจากเกม」
ทันทีที่ผมกดปุ่ม ร่างอวตารของผมก็เริ่มกลายเป็นแสง
ทันทีที่แสงสว่างจ๋าสติของผมก่อนเหมือนพุ่งออกมาจากระบบเกม
สติของผมค่อยๆกลับมาพร้อมกับความมืดรอบๆตัว ... ทันใดนั้นตรงหน้าผมก็เด้งกรอบข้อความขึ้นมาพร้อมกับเขียนว่า ท่านได้ออกจากเกมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อผมเห็นข้อความ ผมก็ค่อยๆลองขยับร่างกายและถอดเครื่อง VR ออกจากหัวของผม… ทันทีที่เครื่อง VR เลื่อนออกจากหัวข้อความก็จางหายไป
ผมวางเครื่อง VR ไว้ข้างเตียงสายตาของผมค่อยๆปรับโฟกัสหลังจากที่หลับตามานานความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนกับที่พึ่งจะการนอนเต็มอิ่ม แสงแดดส่องแสงเข้ามาในห้องนั้นทำให้ดวงตาของผมหรี่ลงเพื่อค่อยๆปรับโฟกัสกับแสงที่ส่องเข้ามา
เมื่อผมรู้สึกว่าดวงตาเริ่มปรับโหกัสได้แล้ว ผมก็หันไปมองทางยูมืเธอเองก็พึ่งถอดเครื่อง VR ออกเช่นกัน
「อ้า…ปวดตัวจังเลย…」ยูมิร้องออกมาขณะที่บิดตัวเพื่อลดอาการปวด
「ก็พวกเรานอนเล่นกันตั้งหลายชั่วโมงนี่น่า…」
ดูเหมือนว่าเครื่อง VR ใช้เพียงแค่สมองของผู้เล่นเท่านั้นในการทำงานโดยที่ร่างกายของผู็เล่นจะนอนอยู่เฉยๆ
ด้วยร่างกายที่ไม่ได้ขยับหลายชั่วโมงทำให้ผมเองก็รู้สึกปวดตามตัวไม่น้อยเหมือนกัน เห็นทีแบบนี้คงไม่สามารถเล่นติดต่อกันได้หลาบชั่วโมงไม่งั้นร่างกายจะเกิดอาการปวดแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้
และดูเหมือนครั้งนี้จะเล่นนานเกินไปหน่อยจนร่างกายปวดขนาดนี้
「นี้วาตารุ ทำไมนายถึงบอกว่าจะทำข้าวเย็นสำหรับ 5 ที่ละ? 」
「ก็ฉันจะให้เธอตามลุงอากิฟุมิมาด้วยไง หรือเธอจะเป็นคนทำให้ลุงอากิฟุมิกิน
「ฉันไม่...! 」
「เอาเถอะน่าา ฉันจะทำกับข้าวให้กินเองเพื่อเป็นการขอบคุณเรื่องเครื่อง VR นี้ด้วยไง ถ้ายังไงก็ฝากเธอตามลุงอากิฟุมิมาให้ได้ด้วยละกัน」
「สำหรับพวกเราที่มักจะกินอาหารสำเร็จรูปไม่มีทางที่พวกเราจะปฏิเสธแน่นอน! 」
「ดูเหมือนเธอจะภูมิใจมากเลยนะ ยูมิ ฉันว่าเธอควรเลือกกินอาหารสำเร็จรูปพวกนั้นและหันมาทำอาหารกินเองจะดีกว่า ... 」
「ไม่มีวันซะหรอก ถ้าเกิดฉันทำอาหารเป็นขึ้นมาฉันก็อดกินอาหารฝืมือนายกันพอดีละสิ! เมื่อถึงตอนนั้นนายก็คงไล่ให้ฉันกับไปทำอาหารกินเองใช่ไหมละ!? 」
อีกนิดเดียวเท่านั้น…ผมเกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้วเชียว
ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็กๆ ทำให้ผมและยูมิต่างรู้เรื่องภายในของครอบครัว พ่อของผมเสียไปตั้งแต่ยังเด็กๆส่วนยูมืเองก็ไม่มีแม้
ครอบครัวของเราทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พ่อของผมเสียชีวิตหลังจากที่ล้มป่วยมานาน
แต่ทางยูมินั้นแม่ของเธอได้อย่าร้างกับลุงอากิฟุมิและแยกกันอยู่นั้นทำให้เธอมีแค่พ่อคนเดียวที่อยู่ดูแล
และนั้นก็ดูเหมือนจะทำให้พวกเราทั้งคู่สนิทกันมากขึ้นหลังจากที่พ่อของผมเสียไป...
「ถ้างั้นฉันจะรีบไปตามพ่อมาให้นะ แล้วเดียวฉันจะรีบกลับมา! 」
「อ๊ะ เดี๋ยวก่อนยูมื! หากเธอรีบลุกตอนนี้ละก็... 」
「เอ๊ะะ!」
「!!!」
จากการที่เธอไม่ฟังคำเตือนของผม ในขณะที่ยูมืรีบลุกขึ้นจากเตียงด้วยความที่ร่างกายยังไม่หายจากอาการอ่อนล้าทำให้ยูมิเสียการทรงตัวทันทีที่เธอลุกขึ้น ทำให้ร่างของยูมิที่อยู่บนเตียงล้มลงมาทางผม
เนื่องจากผมมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ช้า ผมพยายามจับแขนของยูมิเพื่อช่วยพยุงให้เธอ แต่ ....ด้วยความที่ผมตอบสนองช้าเกินไปถึงแม้ว่าผมจะลุกขึ้นมารับร่างของยูมิไว้ได้ทันแต่ผมก็ไม่สามารถทรงตัวได้ร่างของยูมิและผมก็ล้มลงกับพื้นตามระเบียบ
ยิ่งกว่านั้นร่างของยูมิได้ล้มทับผมและด้วยความตกใจหรืออาจจะเพราะร่างของยูมิทับผมอยู่ทำให้ผมหายใจไม่ออก
「หายใจมะ.....」
「...」
「... วะ-วาตารุ ... ?」
「...」
「 วาตารุ…! 」
ผมอยากจะร้องตะโกนออกมาดัง แต่ดูเหมือนว่าผมจะไม่สามารถส่งเสียงออกไปได้
ยูมิที่รู้สึกตัวรีบลุกออกจากร่างของผม
ยูมิรีบเขย่าร่างของผมด้วยความตกใจ ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าผมไม่สามารถหายใจได้
หลังจากที่ยูมิช่วยเขย่าร่างของผม ดูเหมือนว่าร่างกายของผมจะเริ่มตอบสนองแล้ว ...
「 ... เฮือก …」
「วาตารุ! นายเป็นไงบ้าง ! 」
「ยัยเพี้ยน! เธอทำฉันเกือบตายรู้ตัวไหม !? 」
「 ข-ขอโทษ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ! 」
「ฉันม่เป็นไรแล้ว เธอไปตามลุงอากิฟุมิเถอะ! 」
「ขอโทษที่นะวาตารุ! 」
ยูมิกล่าวขอโทษออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากห้องของผม
หลังจากที่เห็นยูมิวิ่งออกจากห้องไป ผมก็ก้มหน้าลงพร้อมกับจับไปที่หน้าอก
「อึก... .」
เพราะผมพยายามตะโกนขณะที่ผมขาดอากาศหายใจตอนนี้ผมจึงรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย ...
แต่ผมก็ดีใจที่ยูมิไม่ได้บาดเจ็บตรงไนห