ตอนที่ 174 เจ็ดทูตมังกรทอง

ด้านนอกของพระราชวัง ณ เทือกเขาเมฆาคราม

การต่อสู้ที่ดุเดือดได้เกิดขึ้นในที่แห่งนี้และหลงเหลือความพินาศไว้ทุกที่

ในขณะนั้น ร่างแข็งแกร่งทั้งเจ็ดที่เปล่งรัศมีทรงพลังยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาเมฆาคราม พวกเขายืนรออยู่อย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นก็มีร่างสามร่างปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า

"พวกเขามาแล้ว"

ร่างทั้งเจ็ดมองขึ้นไป

เมื่อจุดสีดำใกล้เข้ามา เห็นได้ชัดว่ามันคือกริฟฟินสามตัวที่มีเจียงวู่เฉิง,หยางจู่ซวนและซูรูขี่อยู่

เมื่อพวกเขาใกล้เข้ามา พวกเขาก็กระโดดลงจากกริฟฟิน

"ฮ่าฮ่า เจียงวู่เฉิง"ชายวัยกลางคนที่ดูเยือกเย็นและมีเสน่ห์กล่าวต้อนรับเจียงวู่เฉิงด้วยรอยยิ้ม

"ท่านทูตเย่?"ดวงตาของเจียงวู่เฉิงเปล่งประกาย

เขารู้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับคำเชิญจากจ้าววังขาวและพวกคนเหล่านั้นจะรอเขาอยู่ที่นี่ แต่เขานั้นไม่รู้ว่าคนกลุ่มนั้นเป็นใคร

เขาจำได้ว่าชายวัยกลางคนคือเย่ลู่เฟิง ซึ่งเขาเคยพบมาแล้วหลายครั้ง

เย่ลู่เฟิงเป็นคนส่งเขาไปที่วังมังกร

"วู่เฉิง พบกันอีกแล้ว"เย่ลู่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม"ประมาณสองปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ในเวลานั้นข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ หากไม่มีเจ้าลูกสาวข้าคงจะตายไปแล้ว"

เมื่อก่อนเจียงวู่เฉิงได้ไปหาเย่ลู่เฟิงขณะที่ได้รับมอบหมาบภารกิจจากวังมังกร เจียงวู่เฉิงช่วยเย่ลู่เฟิงดูแลลูกสาวของเขา โดยช่วยนางทำภารกิจองครักษ์มังกรทองสองกรงเล็บจนสำเร็จ

เย่ลู่เฟิงได้รับฟังเรื่องราวจากเย่เหมยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภารกิจ ดังนั้นเขาจึงทราบว่าเจียงวู่เฉิงช่วยเหลือลูกสาวของเขา

"ช่างมันเถอะ"เจียงวู่เฉิงยิ้ม

"เจ้าช่วยชีวิตลูกสาวของข้าไว้ ข้าต้องขอบคุณเจ้า"เย่ลู่เฟิงกล่าวอย่างจริงจัง

"ข้าเชื่อในเรื่องของบุญคุณ การกระทำของเจ้าทำให้ข้าชื่นชมอย่างมาก ด้วยการช่วยชีวิตลูกสาวข้า ข้าต้องชดใช้บุญคุณนี้ เมื่อได้ยินว่าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ ข้าจึงมาที่นี่อย่างไม่ลังเล"

"ฮ่าฮ่า ขอบคุณท่านมาก ท่านเย่"เจียงวู่เฉิงกล่าว

"อย่างเรียกขานอย่างจริงจังเลย หากไม่รังเกียจโปรดเรียกข้าว่าพี่ชายเย่"เย่ลู่เฟิงกล่าว

"พี่เย่"เจียงวู่เฉิงไม่ปฏิเสธ

"เอาล่ะ ข้าขอแนะนำ..."เย่ลู่เฟิงนำตัวเจียงวู่เฉิงมาต่อหน้าคนอื่น

"นี่คือสุ่ย หมิงเฮ่าที่เป็นทูตมังกรทอง"

เจียงวู่เฉิงมองไปที่ชายคนดังกล่าว ดูคล้ายว่าภายในดวงตาของเขาจะมีเวทย์มนตร์ที่แปลกๆซึ่งทำให้ทุกคนสังเกตเห็นตั้งแต่แรก

"ท่านสุ่ย"เจียงวู่เฉิงพูดอย่างสุภาพ

"เจียงวู่เฉิง อันดับหนึ่งของทำเนียบมังกรปฐพี อัจฉริยะอันดึบหนึ่งที่ได้รับการยอมรับไปทั่วราชวงศ์เทียนซ่ง หลังจากการคัดเลิอก ผู้คนต่างพูดคุยกันถึงเรื่องของเจ้าและข้าก็เคยได้ยินเรื่องของเจ้ามามาก ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอ"สุ่ยหมิงเฮ่าพูดและหัวเราะ

"นั่นคือ..."เย่ลู่เฟิงแนะนำคนอื่นๆให้แก่เจียงวู่เฉิงทีละคน

เจียงวู่เฉิงตระหนักถึงบางสิ่งเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับคำเชิญจากจ้าววังขาว

เจ็ดผู้เชี่ยวชาญที่ถูกเชื้อเชิญโดยจ้าววังขาว

ในหมู่พวกเขา สามคนมีการบ่มระเบิดหยินขั้นกลาง สองคนระเบิดหยินขั้นสูงและอีกสองระเบิดหยินขั้นสูงสุด

เย่ลู่เฟิงและสุ่ยหลิงเฮ่ามีการบ่มเพาะอยู่ในระเบิดหยินขั้นสูงสุด

เจียงวู่เฉิงรู้สึกยินดีเมื่อได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งเจ็ด เขารู้สึกซาบซึ้งต่อจ้าววังขาวที่ได้เชื้อเชิญผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจำนวนมากมาให้เขา

แม้ว่านิกายเก้าจักรพรรดิจะเป็นนิกายชั้นนำในราชวงศ์เทียนซ่ง พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระเบิดหยินถึงแปดคน โดยมีเพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้นที่อยู่จุดสูงสุดของระเบิดหยิน ในการต่อสู้เพียงแค่เย่ลู่เฟิงและอีก6ผู้เชี่ยวชาญก็เพียงพอที่จะต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของนิกายเก้าจักรพรรดิ

นอกจากนี้่ยังมีเจียงวู่เฉิง หยางจู่ซวนและซูรูซึ่งพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสิบอันดับแรกของทำเนียบมังกรปฐพี ทั้งสามมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เทียบเท่ากับระเบิดหยินหยางขั้นกลาง นอกจากนี้เจียงวู่เฉิงยังเทียบเท่าได้กับนักรบระเบิดหยินหยางขั้นสูง

มันเพียงพอแล้วที่จะทำลายนิกายเก้าจักรพรรดิด้วยการต่อสู้

สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องระวังคือผู้เชี่ยวชาญที่หลบซ่อนจากหอคอยขนนกโลหิต

"พวกท่าน ข้าเสียใจจริงๆว่าเราไม่สามารถที่จะบอกพวกท่านได้ว่าเรากำลังจะทำอะไรในตอนนี้ ข้าจะบอกพวกท่านหลังจากที่เราไปถึงที่หมาย"เจียงวู่เฉิงกล่าว

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ทูตมังกรทองต่างขมวดคิ้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

"ไปกันเถอะ"

เจียงวู่เฉิง หยางจู่ซวนและซูรูออกจากที่แห่งนี้ด้วยกริฟฟินของพวกเขา ในขณะทูตมังกรทองทั้งเจ็ดเหยียบอากาศตามไปที่ภูเขาเก้าวงแหวน

ภูเขาเก้าวงแหวนตั้งอยู่ในแคว้นเทียนหนาน

เป็นที่รู้กันดีว่าภูเขาเก้าวงแหวนเป็นที่มั่นของนิกายเก้าจักรพรรดิ

นิกายเก้าจักรพรรดิเป็นนิกายเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในแคว้นเทียนหนาน

กล่าวกันได้ว่ามีสามตระกูลและสี่นิกายซึ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเทียนหนาน นิกายเก้าจักรพรรดิก็เป็นหนึ่งในสี่สำนักนั้น

เงาร่างนับสิบเงาลอยอยู่บนอากาศภายนอกภูเขาเก้าวงแหวน ซึ่งมองเห็นนิกายเก้าจักรพรรดิอยู่ไม่ไกล

"นั่นคือ...นิกายเก้าจักรพรรดิ?"

ทูตมังกรทองมองไปที่แห่งนั้น

"ทูตมังกรทั้งหลาย นั่นคือเป้าหมายของพวกเรา...นิกายเก้าจักรพรรดิ"เจียงวู่เฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง"จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือของวังมังกรทอง คนที่ถูกคุมขังโดยนิกายเก้าจักรพรรดิคือพ่อของข้า"

"หืม?"ทูตมังกรทองทั้งเจ็ดมองไปที่เจียงวู่เฉิง

"ข้าต้องการช่วยเหลือของพวกท่าน เพื่อการช่วยชีวิตของพ่อข้า"เจียงวู่เฉิงกล่าว"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของนิกายเก้าจักรพรรดินั้นแข็งแกร่งอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับหอคอยขนนกโลหิต ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงอาจซ่อนอยู่ในนิกายเก้าจักรพรรดิ"

"หอคอยขนนกโลหิต"การแสดงออกของทูตมังกรทองเปลี่ยนไป

พวกเขาสามารถจัดการได้ถ้าหากเป็นเพียงการต่อสู้กับนิกายเก้าจักรพรรดิ

แม้ว่านิกายเก้าจักรพรรดิจะแข็งแกร่ง แต่มันก็เป็นเพียงนิกายชั้นหนึ่งของภูมิภาคแห่งนี้และผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายนี้่เป็นเพียงระเบิดหยินหยางขั้นสูงสุด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จะแตกต่างกันหากหอคอยขนนกโลหิตเข้ามาเกี่ยวข้อง หอคอยขนนกโลหิตเป็นองค์กรนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในราชวงศ์เทียนซ่ง องค์กรนี้สร้างความหวาดหวั่นไปทั่วราชวงศ์เทียนซ่ง

ใครก็ตามที่ท้าทายหอคอยขนนกโลหิต จะต้องตกเป็นเป้าหมายของการสังหาร แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นระเบิดหยินก็ไม่สามารถที่จะหนีจากความตายได้

นอกเหนือจากเย่ลู่เฟิง ทูตมังกรทองยังคงลังเล

"ท่านทั้งหลาย"

เจียงวู่เฉิงสังเกตถึงการแสดงออกของพวกเขาและพูดว่า"ข้ารู้ว่าพวกท่านกังวล ถ้าพวกท่านไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับหอคอยขนนกโลหิต ข้าก็จะไม่บังคับให้ทำ ถ้ามีใครอยากจะจากไป พวกท่านสามารถไปได้"

"แน่นอน ข้าจะเป็นหนี้บุญคุณพวกท่านทุกคนที่อยู่เพื่อข้า ข้าจะพยายามอย่างยิ่งที่จะตอบแทนพวกท่านในอนาคต"

ทูตมังกรทองหลายคนหยุดลังเล และดวงตาเปล่งประกายตามคำพูดของเจียงวู่เฉิง

ก่อนหน้านี้ จ้าววังขาวได้ให้สัญญาว่าจะมอบขอบขวัญให้แก่พวกเขาเช่นเม็ดยาหรือวิชาเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะได้รับสิ่งของเหล่านั้น

แต่การได้รับความโปรดปรานจากเจียงวู่เฉิงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

...