AS ตอนที่ 9 - กองทัพโลหิตเพลิง
เซเลบัสยักไหล่เบาๆ ก่อนจะกล่าวกับลูกชายของเขา
"พรุ่งนี้เจอกันที่ค่ายทางฝั่งทิศตะวันตกนะ"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เอาหนังสือที่อยู่บนโต๊ะไปเก็บในชั้น ก่อนที่จะเดินกลับห้องไป
เช้าวันต่อมา แดนตื่นตั้งแต่หัวรุ่ง หลังจากที่เขารับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว แดนรีบเดินไปยังประตูฝั่งตะวันตก และถามยามเฝ้าประตูถึงทิศทางของค่ายทหาร
ยามเฝ้าประตูจ้องมองที่หน้าของแดน และแสดงสีหน้าที่โง่งมออกมาอย่างช่วยไม่ได้
'เทพองค์ใดเข้าฝันนายน้อยกันแน่ล่ะเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะไปที่ค่าย'
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบนายน้อยของเขาไปด้วยความเคารพ
หลังจากเดินเท้ากว่าชั่วโมง ในที่สุด แดนก็เห็นประตูค่ายอยู่ไกลๆ ใจจริงแดนอยากจะขี่ม้ามามากกว่า แต่เซเลบัสได้เอาม้าที่มีอยู่เพียงตัวเดียวไปแล้ว แดนจึงต้องเดินเท้ามาอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อแดนเดินมาถึงที่หน้าประตูค่าย ยามสองคนก็ได้มาขวางทางของเขาไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
"แสดงบัตรผ่านของเจ้ามา!"
แดนส่ายหัวแล้วตอบกลับไป
"ท่านพ่อเรียกให้ข้ามาพบที่นี่ และตอนนี้ข้าก็ไม่มีเหรียญตระกูลติดตัว ท่านช่วยตามท่านพ่อออกมาหน่อยได้ไหม"
ยามคนหนึ่งมองที่แดนด้วยความรำคาญ
"ถ้าท่านแม่ทัพออกมาพบทุกคนได้ง่ายๆ แบบนี้ ท่านคงจะไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว!"
แดนยกมือขึ้นมาเกาแก้มอย่างเขินๆ
'ตาแก่นั้น! ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะวะว่าต้องใช้บัตรเข้า! ทำไงดีละทีนี้...'
"งั้นแค่ไปบอกเขาก็ได้ ว่าลูกชายของเขารออยู่ตรงนี้..."
ยามคนเดิมมองหน้าแดนด้วยความสงสัย ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาหาแดน และพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"เจ้าพูดอะไรออกมาน่ะ! ท่านแม่ทัพของพวกเราทั้งแข็งแกร่งทั้งสุขุม ไม่มีทางที่ท่านจะมีลูกชายอ่อนปวกเปียกแบบนี้ได้หรอก!"
"พอได้แล้วไคลด์" เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง สีหน้าของแดนดีขึ้นในพริบตา ต่างจากสีหน้าของไคลด์ที่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีเทา เขารีบหันหลังไปหาต้นเสียง
"พบท่านแม่ทัพ!"
"ไคลด์ เบอร์ทอส นำตัว แดน ลองกินุส เข้าไปพักในค่ายซะ" เซเลบัสกล่าวออกมาและจ้องไปที่หน้าของแดน เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดกับแดนและหันหลังกลับไป
"การฝึกของเจ้าจะเริ่มขึ้นวันนี้ตอนเที่ยง ข้าจะฝึกเจ้าไปพร้อมๆ กับทหารคนอื่นๆ เลย”
ในขณะนี้ ใบหน้าของไคลด์นั้นซีดเผือกราวกับศพ เขามองไปที่แดนด้วยสีหน้ารู้สึกผิด แดนเห็นอย่างนั้นเขาจึงเดินเข้ามาแล้วเอามือตบบ่าของไคลด์ก่อนจะพูด
“ไม่ต้องคิดมากหรอก เจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นเอง”
เมื่อไคลด์ได้ยินดังนั้น เขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ถึงกระนั้นไคลด์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมคนระดับนายน้อยถึงได้มาใจดีกับคนอย่างเขา ไคลด์ส่ายหัวเลิกคิด และรีบนำแดนไปยังห้องรับรองทันที
เมื่อแดนเดินมาถึงในห้องรับรอง เขาแปลกใจกับความสะดวกสบายในที่แห่งนี้มาก ภายในห้องรับรองนี้มีข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานอยู่ครบครัน มีแม้กระทั่งพรมและห้องน้ำส่วนตัวไว้ให้ใช้ แดนยืนมองห้องรับรองด้วยความพอใจ ก่อนจะออกไปข้างนอกเพื่อเดินเล่นรับแสงแดด
แดนเดินจนมาถึงบริเวณสนามฝึก เขายืนมองเหล่าทหารเลือดร้อนที่กำลังฝึกกันอยู่อย่างบ้าคลั่ง ทั้งฝึกธนู ทักษะดาบ และฝึกการเคลื่อนไหว ภาพเบื้องหน้าของเขาก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ ราวกับมีพลังฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเหล่าทหารสังเกตเห็นแดนยืนมองพวกเขาอยู่ พวกเขาก็เริ่มกระซิบกันทันที
“ไอ้เด็กนั่นใครวะ”
“ไม่รู้ดิ มันคงมาเดินมองผู้ชายเล่นๆ มั้ง”
“เชี่ย มันมองมาทางกูด้วยว่ะ”
แดนได้แต่มองบนให้เหล่าทหารอย่างช่วยไม่ได้
หนึ่งชั่วยามผ่านไป พระอาทิตย์ขยับมาอยู่ตรงกลางหัวบ่งบอกถึงเวลาเที่ยงตรง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เซเลบัสมาถึงสนามฝึก เมื่อเหล่าทหารเห็นเซเลบัสมาถึงแล้ว พวกเขาก็ตั้งแถวตรง ชูมือขวาขึ้นเพื่อทำการเคารพแม่ทัพของพวกเขา แดนยืนมองความเป็นระเบียบของกองทหาร ก่อนจะสังเกตเห็นไคลด์ที่อยู่ในเครื่องแบบต่างจากคนอื่นเล็กน้อย พอจะทำรู้ได้ว่าเขามีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองทหาร
“วันนี้ พวกเจ้าก็ฝึกฝนกันไปตามปกติ ข้าแค่มีเรื่องอยากจะแจ้งเล็กน้อย นั่นก็คือลูกชายข้า แดน ลองกินุส จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพโลหิตเพลิงของเราด้วย!”
เสียงของเซเลบัสดังกังวาลอยู่ในหูของเหล่าทหาร พวกเขาต่างมองตากันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่กี่อึดใจต่อมา ภายในแววตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
‘ลูกชายของท่านแม่ทัพ?’
‘ขนาดแม่ทัพยังแข็งแกร่งและดุร้ายขนาดนี้ อยากจะเห็นลูกชายของท่านแล้ว!’
‘บางที อาจจะแข็งแกร่งว่าพ่อก็ได้นะ!’
“แดน! มานี่! ออกมายืนให้เหล่าทหารแห่งกองทัพโลหิตเพลิงเห็นหน่อย!”
เซเลบัสพูดพลางส่งสัญญาณให้แดนออกมายืนข้างหน้าเหล่าทหาร แดนที่ยืนพิงกำแพงอยู่จึงต้องเดินออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขามองไปยังเหล่าทหารตรงหน้าที่ตอนนี้สีหน้าแต่ละคนต่างตกอยู่ในอาการช็อค
‘นะ... นี่มันไอ้เด็กนั่นไม่ใช่เหรอ...” ทุกคนต่างคิดเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม แดนก็โทษพวกเขาไม่ได้ เพราะไอ้เจ้าของร่างคนก่อนก็เป็นอย่างที่พวกมันว่าจริงๆ นั่นแหละ ทั้งอ่อนปวกเปียก ทั้งเจ้าสำอาง แดนได้แต่แอบก่นด่าเจ้าของร่างคนเก่าอยู่ในใจ
เมื่อแดนเดินมาถึงข้างหน้าของเหล่าทหาร เซเลบัสก็พูดขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง ซึ่งทำให้เหล่าทหารต้องช็อคยิ่งกว่าเดิม
“นับตั้งแต่วันนี้ ลูกชายของข้า แดน ลองกินุส จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บังคับบัญชาอย่างเป็นทางการ!”