AS ตอนที่ 6 - สถานการณ์ฉุกเฉิน!
“ข้าขอยืมนี่ก่อนละกันนะ...”
แดนพูดพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย ตอนนี้ในมือข้างขวาของแดนนั้นมีคันธนูอยู่ และในมือข้างซ้ายก็มีมีดสั้นที่ชุ่มไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขาเอง สภาพของแดนตอนนี้ จะว่าเหมือนดั่งร่างอวตารของเทพเจ้าแห่งสงครามก็ไม่ผิด
“จะเข้ามาไหม?”
สายตาของแดนฉายแววขี้เล่นแต่ก็โหดเหี้ยมในขณะเดียวกัน
“ถ้าพวกเจ้าไม่เข้ามา... งั้นข้าเข้าไปเอง!”
แดนเดินเข้าไปหานักฆ่าทั้งสองอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกมันต้องถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้แดนจะขู่จนพวกมันกลัว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจัดการพวกมันได้ง่าย ๆ
แดนยังคงเดินเข้าไปหาพวกมัน พร้อมกับหลบมีดสั้นที่พวกนักฆ่าสมัครเล่นพวกนั้นโจมตีใส่ เขากลิ้งไปทางซ้ายและหลบการโจมตีได้อย่างมืออาชีพ เมื่อได้จังหวะ แดนพลิกมือเล็กน้อยก่อนจะยิงลูกธนูสวนเข้าไปปักที่หลอดลมของนักฆ่าทางขวาได้อย่างแม่นยำ
พุช!
เสียงลูกธนูที่ทะลุเข้าไปในเนื้อดังขึ้น ตามมาด้วยภาพของสหายตนเองล้มลงและนอนสิ้นใจอยู่กับพื้น นักฆ่าคนสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่จึงรีบหยิบขวดหยกออกมาจากกระเป๋า แล้วเขวี้ยงลงพื้นทันที
ตูม!
ระเบิดควันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาในพริบตา
“คิดจะหนีเหรอ เหอะ.. ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง”
ด้วยการตรวจจับที่แม่นยำถึง 100% ของระบบ การค้นหาศัตรูในม่านหมอกนี้เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก แดนไม่รอช้า หยิบลูกธนูขึ้นมาและยิงไปทาง 3 นาฬิกาของตนเองทันที
พุช!
เสียงลูกธนูทะลุเนื้อหนังของมนุษย์ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่ม่านควันค่อย ๆ จางลง ปรากฏเป็นภาพของนักฆ่าคนสุดท้ายนอนสิ้นใจอยู่บนพื้น เมื่อเห็นดังนั้น แดนทิ้งตัวลงกับพื้นทันที วิสัยทัศน์ของเขาค่อย ๆ มืดลงทีละนิด แดนรู้ตัวว่าเขามีเวลาอีกไม่มาก เมื่ออดรินารีนในร่างกายกลับมาเป็นปกติ ความเจ็บปวดทั้งหลายที่เกิดขึ้นก็จะโถมเข้าใส่เขาทันที
แดนกัดฟันแน่น เขาเดินไปที่ศพของพวกนักฆ่า และทำการปล้นทรัพย์จากพวกมัน แต่ช่างน่าเสียดาย พวกมันไม่มีทรัพย์สมบัติหรือโอสถใด ๆ ติดตัวมาเลย แดนได้แต่ก่นด่าพวกมันในใจ เขาหยิบเสื้อคลุมของพวกมันมาหนึ่งตัว จากนั้นเขาจึงรีบทำลายหลักฐานโดยการเผาศพของพวกมันอย่างเร็วที่สุด เพราะถ้าใครมาเห็น คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
หลังจากที่จัดการกับศพของพวกมันเสร็จแล้ว แดนจึงนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ แต่ยังไม่ทันที่แดนจะได้ผ่อนคลาย ความเจ็บปวดจากแผลตรงอกก็แผ่ซ่านขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดที่หยุดแล้วก็ไหลออกมาอีกครั้ง
“อ๊ากกกกกกก!”
แดนล้มลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด เพราะนี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้รับประสบการณ์เสี่ยงตายและโดนโจมตีจนบาดเจ็บหนักขนาดนี้ แม้กระทั่งในชีวิตก่อนของเขา ความเจ็บปวดที่เจ็บที่สุดที่เขาเคยเจอก็คือการที่เขาเผลอเดินไปเหยียบตัวต่อเลโก้ที่ทำตกพื้นไว้แค่นั้น
แค่เหยียบเลโก้เขาก็ร้องเหมือนผู้หญิงแล้ว! เมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่เขากำลังเจออยู่ตอนนี้ ความเจ็บปวดมันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
ใบหน้าของแดนเต็มไปด้วยเหงื่อ ผิวของเขาเริ่มขาวซีดราวกับกระดาษ เขากัดฟันแน่นและเอามือขวาของเขาปิดปากแผลไว้เพื่อห้ามเลือด จากนั้นเขาก็เอ่ยกับระบบ ด้วยความทรมาน
“ระบบ ตอนนี้พลังชีวิตของข้าเหลือเท่าไร”
[ระบบกำลังทำการสแกน; 49%...]
[ทำการสแกนเสร็จสิ้น!]
[แดน ลองกินุส: 35%]
หลอดค่าพลังชีวิตปรากฏขึ้นในอากาศ แดนจ้องมองที่แถบพลังชีวิตสีแดงที่อยู่เบื้องหน้า เขาลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก และค่อย ๆ พยุงตัวเองเดินออกไปยังส่วนนอกของป่าแห่งความโดดเดียวอย่างทุลักทุเล
“ถ้าเป็นแบบนี้ ข้าคงได้ตายก่อนจะกลับถึงตระกูลแน่”
ในระหว่างนั้น สายตาที่สะลึมสะลือของเขาก็เหลือบไปเห็นพืชพรรณต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างได้
“ระบบ ใช้ความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับสมุนไพรที่ข้าได้อ่านมาจากห้องสมุด และช่วยแสดงสมุนไพรที่สามารถหาได้จากที่นี่ที”
[ระบบกำลังทำการสแกน...]
[ทำการสแกนเสร็จสิ้น!]
[หญ้าเกล็ดโลหิต, หญ้าร้อยก้าน, แปะก๊วย, โสมแดง, เห็ดสีรุ้ง...]
รายชื่อสมุนไพรต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมาในอากาศ แดนกัดฟันแล้วตะโกนสั่งระบบ
“ระบบ! ลบรายชื่อสมุนไพรที่หาไม่ได้ภายใน 5 นาทีออกซะ!”
ติ๊ง!
[หญ้าเกล็ดโลหิต, โสมแดง, เห็ดสีรุ้ง, หญ้าแห่งชีวิต]
แดนรีบกดตรงภาพโฮโลแกรมของหญ้าเกล็ดโลหิตที่ลอยอยู่ข้างหน้าทันที จากนั้นเขาก็มองหาหญ้าเกล็ดโลหิตรอบ ๆ ตัวเขา
“เจอแล้ว! ใต้ต้นไม้นั่น!”
แดนพบหญ้าเกล็ดโลหิตต้นหนึ่งขึ้นอยู่บริเวณรากต้นไม้ที่อยู่ห่างจากเขาไปประมาณ 5 เมตร เขาไม่รอช้า รีบเดินไปขุดต้นหญ้าเกล็ดโลหิตออกมาทันที
จากนั้น แดนรีบบดหญ้าเกล็ดโลหิตผสมกับเลือดของเขาและเอาไปปิดที่ปากแผลของเขาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ต้นหญ้าเกล็ดโลหิตสัมผัสโดนแผล ความรู้สึกร้อนที่มาจากฤทธิ์ของสมุนไพรก็แผ่ไปทั่วอกข้างซ้าย ทำให้เลือดค่อย ๆ หยุดไหลราวกับเวทมนต์
แดนถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้ากลับตระกูลทันที เขาใช้เสื้อคลุมที่ขโมยมาจากพวกนักฆ่าปิดบังบาดแผล มุ่งหน้าเดินเข้าเมืองและค่อย ๆ กลืนไปกับฝูงชนอย่างแนบเนียน
และด้วยความทรงจำของเจ้าของร่างคนเก่าที่ขึ้นชื่อว่าคุณชายจอมเสเพลแล้ว การแอบเข้ามาในตระกูลนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เมื่อแดนเข้ามาถึงห้องของเขา เขารีบหยิบโอสถฟื้นฟูออกมาจากลิ้นชักและยัดเข้าปากไปอย่างไม่รอช้า ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง ด้วยความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ จึงทำให้เขาหลับไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว