บทที่ 260 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (2) [11-01-2020]
บทที่ 260 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (2)”
เมื่อเวลาได้ผ่านไปพักหนึ่งทั้งสามคนก็ได้กลับมาเป็นปกติ ในที่สุดแล้วคิมเยซอลก็ได้ถามถึงสามีของเธอ
"แล้วลูกหาพ่อไม่เจอหรอ?"
"ครับ ไม่เจอแม้แต่ร่องรอยเลย แต่ว่าผมจัดการกวาดล้างมอนสเตอร์ในโลกที่พ่ออยู่ไปแล้ว พ่อจะต้องปลอดภัยแน่"
"เจ้าพ่อคนนั้นนี่นะ เขาซ่อนได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง นี่ทำให้แม่นึกไปถึงตอนที่แม่กับพ่อเดทกันอยู่เลย..."
คิมเยซอลได้หวนนึกไปถึงวันวานของเธอ แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะไม่น่ามองในแง่ดีได้เลยก็ตาม
"ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกเนอะ คนๆนั้นไม่ใช่คนที่จะไปตายในที่ที่เราไม่รู้อยู่แล้ว ลูกไม่ต้องห่วงหรอกนะ เดี๋ยวพ่อเขาก็กลับมาเหมือนกับไม่มีอะไรในตอนที่การผนึกบนโลกหายไปเองนั่นแหละ"
"ผมอยากรู้จังเลยว่าแม่ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน แต่ก็... ชั่งเถอะครับ พ่อไม่เป็นไรแน่ งั้นเรากลับโลกกันดีกว่า"
"ได้เลย ไปกันเถอะ ถึงแม่จะตกใจที่ลูกไปกลับโลกได้ก็เถอะนะ"
เธอได้ยินมาแล้วว่ายูอิลฮานได้ใช้เวลาที่ยาวนานอยู่บนโลก และยังได้รู้ถึงสิ่งต่างๆที่ยูอิลฮานได้เจอมาแล้วเช่นกัน ยังไงก็ตามเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อในระดับพลังในตอนนี้ของยูอิลฮานเลย คิมเยซอลได้คิดว่านี่ก็คงจะเป็นความต่างกันในพรสวรรค์
"อิลฮานจะเปิดเส้นทางไปสู่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงในอีกไม่นานแล้ว ดังนั้นคุณแม่ก็จะได้เข้าร่วมกองกำลังของเขาด้วย"
"ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะดีมากเลยล่ะ"
ในเวลาเดียวกันยูอิลฮานก็มองกลับไปที่แม่ของเขาและพูดออกมา
"แม่ครับ ตอนนี้ผมก็ไม่คิดจะให้แม่สู้ดวยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกๆคนที่แข็งแกร่งจะต้องสู้ แล้วก็ผมก็แกร่งขึ้นมาแบบนี้ในระหว่างที่ผมสู้เอาชีวิตรอด..."
"อิลฮาน แม่ได้ตัดสินใจเรื่องนั้นแล้วนะ"
คิมเยซอลได้เขกหน้าผากของยูอิลฮานและพูดออกมาอย่างขี้เล่น
"ในระหว่างที่ลูกกำลังต้องลำบากจะมีแม่คนไหนกันปล่อยให้ลูกลำบากอยู่คนเดียวน่ะ? ลูกแม่ ลูกก็ทำสิ่งที่ลูกต้องทำไปเถอะ แม่พร้อมที่จะสนับสนุนลูกเต็มที่"
"อ่า"
ความดื้นรั้นของแม่ทรงพลังเกิดไป ในจุดนี้ความดื้นรั้นของยูอิลฮานก็มีต้นกำเนิดมาจากเธอเช่นกัน เนื่องจากยูอิลฮานไม่อาจจะทำอะไรได้อีกทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก แต่ว่าคิมเยซอลก็เข้าใจในตัวเขาเป็นอย่างดี
"แม่ได้ยินว่าตอนนี้ลูกมีเพื่อนเยอะเลยนี่นา แม่อยากจะเจอเพื่อนๆลูกเร็วๆจังเลย"
"พวก 'เพื่อน' ทุกๆคนสินะคะ"
เลียร่าได้พูดขึ้นราวกับประกาศออกมา ยังไงก็ตามคิมเยซอลก็รู้ถึงสิ่งที่เลียร่าต้องการจะซ่อนจากเธอทำให้เธอตาเป็นประกายขึ้นมา
"โอ้แบบนี้นี่เอง นี่ลูกมี 'ผู้หญิง' ที่ยังเป็น 'เพื่อน' อยู่ 'ในตอนนี้' เยอะเลยสินะ"
"นี่แม่เพิ่งจะเรียกหนูว่าลูกเองนะคะคุณแม่!"
"ลูกสาวคนใหม่ของแม่ ลูกแม่น่ะเป็นผู้ชายที่น่าทึ่ง แล้วก็มีแต่คนที่น่าทึ่งอยากจะสนับสนุนลูกแม่มากมายเลยนะ ไปดูพวกเธอกันดีกว่า เร็วๆเลยลูกแม่"
เลียร่าได้หดหู่ใจกับความคิดที่หลงผิดของคิมเยซอล ในระหว่างนี้ยูอิลฮานก็ได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติออกมา และเหล่าภูติก็ปรากฏตัวกันมาราวกับรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปกัน
[สหายเยซอลอันมีค่าของเรา บางทีเธออาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้วสินะ]
[ขอให้เธอมีความสุข แล้วก็ขอให้เธอก้าวหน้าไปต่อนะ]
[การเคลื่อนไหวของสวนอาทิตย์อัสดงแปลกไป พวกนั้นเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรู ยังไงก็ตามเมื่อพวกนั้นกลายมาเป็นมิตรจะยิ่งอันตรายกว่าการเป็นศัตรูกันซะอีก จำเรื่องนี้เอาไว้นะ]
"เพื่อนๆของฉัน ฉันจะไม่มีวันลืมพวกเธอทุกคนเลย"
คิมเยซอลได้หยักหน้าอย่างซาบซึ้งให้กับเหล่าภูติที่อยู่กับเธอมาเป็นเวลานาน ในเวลาต่อมาสกิลข้ามมิติก็ทำงานสำเร็จและส่งทั้งสามคนไปสู่โลก
"อ่า เขากลับมาแล้ว!"
"อิลฮานนนน!"
คนที่เฝ้าคอยยูอิลฮานกลับมาต่างก็กรูกันเข้ามาต้อนรับเขาในคราวเดียว คนที่น่าตกใจที่สุดเลยก็คือนายูนา ในทันทีที่เธอสังเกตเห็นคิมเยซอลมากับเขา เธอก็ได้วิ่งเข้ามากอดแขนคิมเยซอลในทันที
"คุณแม่ หนูอยากเจอคุณแม่มานานแล้วววว~!"
"โอ้ นี่คงเป็นลูกสาวคนที่สองของแม่งั้นสินะ?"
"ใช่ค่ะ หนูเป็นลูกสาวคนที่สอง~!"
หลังจากได้ยินนายูนาตอบกลับมาโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวทำให้แม้แต่คิมเยซอลก็ยังเหงื่อตกออกมา
"แม่ไม่นึกเลยนักว่าหนูจะยอมรับมาตรงๆแบบไม่สนใจอะไรเลยแบบนี้ ลูกชายของแม่คนนี้มีพรดีจริงๆ"
"นั่นเพราะเขาเก่งไงล่ะคะ"
ระหว่างที่นายูนายิ้มออกมาอย่างหมดจดก็ได้มีออร่าเสน่ห์เปล่งทั่วร่างของเธอ นี่คือออร่าที่เกิดมาจากมานาของตัวเธอเองซึ่งมันทำให้ยูอิลฮานรู้ได้เลยในทันทีถึงเรื่องหนึ่ง
"ดูเหมือนว่าเธอจะได้คลาส 4 มาในเวลาสั้นๆสินะ"
"เฮะๆ เยี่ยมไปเลยใช่ม๊า?"
ตอนนี้นายูนาได้เต็มไปด้วยความมั่นใจ จากการที่เธอได้รับคลาส 4 มาทำให้ค่าสเตตัสและสกิลของเธอได้เปลื่ยนนไปอย่างมาก เพราะแบบนี้จึงไม่แปลกที่เธอจะมั่นใจมากขึ้น ยูอิลฮานได้ถามกับนายูนาที่กำลังมองมาที่เขาขึ้น
"ถ้างั้นเลเวลของเธอในตอนนี้ล่ะ?"
"หลังจากได้คลาส 4 มาก็พุ่งไปเลเวล 279 แล้ว~"
"โอ้ววว"
คนที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในสงครามที่ดาเรย์รองมาจากยูอิลฮานนั้นไม่ใช่ทั้งเลียร่าหรือเอิลต้า แต่เป็นนายูนา เธอได้ใช้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในป้อมปราการทั้งแสงแห่งมอบพรให้กับทุกๆคนที่อยู่ในพื้นที่ ด้วยบัฟวงกว้างนี้ของเธอทำให้เธอได้รับค่าประสบการณ์มหาศาลจนเป็นรองแค่ยูอิลฮาน
หลังจากที่เธอได้รับคลาส 4 มาเธอไม่เพียงแต่จะได้รับคลาสรองมา แต่เลเวลเธอยังพุ่งพรวดไปอีก 79 เลเวลทำให้มานาของเธอเพิ่มขึ้นไปอย่างมหาศาล และเธอในตอนนี้สามารถจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ยังต้องตกตะลึงได้แล้วด้วย
"คนบนโลกนี้นี่ไม่ธรรมเลยสักคนเดียว ทั้งอิลฮาน แล้วก็เธอนายูนา"
"ชมฉันอีกสิพี่สาว! ชมอีก"
"แต่ว่าตอนนี้ เธอจะต้องถูกลงโทษ"
"อ้ายยยยยยยยย"
หลังจากนายูนาเผยเจตนาออกมาเธอก็ถูกเลียร่ารังแกไปในทันที ทุกๆคนได้ปล่อยสองคนนี้เอาไว้โดนไม่สนใจใดๆทั้งนั้น การลงโทษของเลียร่านั้นดูโหดร้ายมากๆ แต่ว่าจากภายนอกทั้งสองคนดูสนิทกันมากๆ
"ฉันเอิลต้า ฉันเคยทักทายคุณในร่างอื่นมาก่อน แต่ว่าตอนนี้ฉันก็เป็นมนุษย์แล้วเหมือนกัน"
"โอ้ ลูกสาวคนที่สามหรอ?"
"ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดอยู่ค่ะ"
ในขณะเดียวกันเอิลต้าก็ได้แนะนำตัวเองกับคิมเยซอล เธอทำตัวสงบมากซึ่งต่างไปจากนายูนาผู้โง่เง่า แต่ว่าเอิลต้าก็ไม่อาจจะหลอกคิมเยซอลได้อยู่ดี คิมเยซอลได้ยิ้้มมากยิ่งขึ้นเมื่อมองไปที่ดวงตาสีเขียวของเอิลต้า
"ไม่มีอะไรหรอกนะ นับจากนั้นฝากตัวด้วยนะจ๊ะ"
"...เหมือนกันค่ะ"
"แต่ว่าแม่จำได้ว่าแม่เคยเห็นทูตสวรรค์อีกคนอยู่นะ เธอไปไหนแล้วล่ะ?"
คิมเยซอลได้ทำให้บรรยากาศนิ่งไปในทันที เอิลต้าได้มองไปทางยูอิลฮานอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็ได้หยักหน้ามาอย่างไม่ลังเล เขาไม่อาจจะซ่อนอะไรจากแม่เขาได้เลย
"เธอตายไปแล้ว เธออยู่ในมุมมองที่ต่างไปจากเรา และหลังจากที่สู้กัน... ยูอิลฮานก็ได้ฆ่าเธอ"
"โอ้"
คำพูดตรงๆของเอิลต้าได้ทำให้คิมเยซอลพูดไม่ออกแม้แต่นิดเดียว นี่คือคำตอบที่แย่ที่สุดที่เธอได้ยินมา
"ถ้าคุณอยู่กับเราคุณจะต้องได้เจอกับเรื่องพวกนี้มากขึ้น ยูอิลฮานไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์และไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คุณเคยคิดอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันน่าจะบอกคุณถึงเรื่องก่อนหน้านี้ด้วย"
"...แม่เข้าใจ หากลูกแม่ใจดีเกินไปลูกแม่ก็จะช่วยคนอื่นๆไม่ได้"
คิมเยซอลได้มองไปที่ลูกของเธอ ริมฝีปากของเธอได้ขยับราวกับจะพูดอะไรออกมา แต่แล้วเธอก็ได้แค่หยักหน้าให้เขาและพูดสั้นๆออกมา
"ลูกจำไว้ด้วยนะว่า เมื่อตัวตนเดิมลูกตายไปแล้วลูกจะย้อนกลับไปเป็นตัวตนเดิมไม่ได้แล้วนะ"
"ครับ ผมจะจำเอาไว้"
"ดีแล้วลูกแม่"
ทั้งสองคนได้คุยจบกันแค่เพียงเท่านั้น โลกของเขาได้กลายเป็นไร้ระเบียบไปแล้ว หากพวกเขายังมีความคิดแบบคนในศัตวรรษที่ 21 อยู่อีกพวกเขาก็จะเอาตัวรอดมาไม่ได้ ในตอนนี้การที่เขาทำแบบนี้คือดีที่สุดแล้ว
"สะ สวัสดีค่ะ! ฉันคือข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์เอริเซีย"
เอริเซียได้โผล่ขึ้นมาในทันทีที่พวกเขาคุยกันจบ หูสีเงินของเธอได้ถูกพับลงมาอย่างสุภาพ และเมื่อคิมเยซอลได้มองมาที่เธอทำให้ ดวงตาของคิมเยซอลเบิกกว้างขึ้น
"โอ้ ไม่ต้องสุภาพกับฉันขนาดนั้นก็ได้นะจ๊ะ..."
"มารดาของท่านจักรพรรดิ..."
จากการที่เอริเซียเป็นคนเริ่มต้นทำให้ สหายของยูอิลฮานและลูกน้องของเขาทั้งหมดก้มหัวให้กับคิมเยซอล ในที่สุดคิมเยซอลก็ได้เข้าใจว่าาลูกชายสุดโดดเดี่ยวของเธอได้เปลื่ยนไปมากๆแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เธอตกใจมากที่สุดก็คือกองทัพมังกรที่มียูมิลเป็นผู้นำ
"โอ้วววว!"
"โอ้"
"พี่สาวคนสวยล่ะ"
"สวัสดีค่ะพี่สาว!"
"ดะ เด็ก เด็กน้อยน่ารักเต็มไปหมดเลย..."
คิมเยซอลรู้ว่าเด็กๆพวกนี้คือเด็กที่เกิดหลังจากมหาภัยพิบัติที่ยังรอดอยู่ แล้วก็ยังรู้ด้วยว่าเด็กๆคนพวกนิวไทป์จากที่ยูอิลฮานได้เล่าให้เธอฟัง เพราะแบบนี้ทำให้เธอไม่อาจจะมีความสุขกับสถานการณ์แบบนี้ได้เลย
มีกี่ชีวิตกันที่เสียไปกว่าที่จะเหลือมายืนอยู่ตรงนี้? พวกเด็กๆต้องทุกข์ทนลำบากมาขนาดไหนกัน? แค่จินตนาการถึงมันก็ทำให้เธอปวดใจแล้ว
"มานี่มา ทุกคนมาให้ฉันกอดคนล่ะทีสิ"
"เย้!"
"ว้าว!"
ยังไงก็ตามเมื่อเห็นเด็กอยู่ตรงหน้าเธอก็ไม่อาจจะร้องไห้ออกมาได้ ที่เธอทำได้ก็คือยิ้มอย่างสดใสที่สุดให้กับเด็กๆ เธอได้กอดเด็กๆทีล่ะคนจนครบ 8000 คนด้วยรอยยิม
"ทุกคนแข็งแกร่งแล้วก็กำลังมั่นใจกัน มิลคงพยายามอย่างหนักเลยสินะ"
"ครับคุณย่า ผมทำได้ดีเลยใช่ไหมครับ?"
"แน่นอนสิ หลานทำได้ดีมาก สมแล้วที่เป็นหลานย่า"
"ว้าว เธอคือย่าของฮีโร่ล่ะ!"
"น่าทึ่งจัง!"
เมื่อเด็กๆได้ยินว่าคนที่พวกเขาเพียงจะกอดไปมีสายเลือดเดียวกับยูมิลได้ทำให้เด็กยิ่งดีใจกันขึนไปอีก ยูอิลฮานได้มองฉากๆนี้อย่างโล่งใจที่สุด
แม้ว่าเด็กๆจะติดตามยูอิลฮานกับยูมิลมา แต่ว่าทางด้านอารมณ์แล้ทั้งสองคนนี้คือคนที่ไม่ปกติมากๆ บางทีคิมเยซอลอาจจะสามารถเติมเต็มช่องว่างที่เด็กๆขาดไปได้ก็ได้ เขาอย่างจะให้แม่ของเขาทำแบบนั้นได้จริงๆ
"ท่านยูอิลฮาน"
"ยูอิลฮาน"
เมื่อยูอิลฮานมองดูฉากอันน่าประทับใจนี้อยู่ คังฮาจินก็ได้เข้ามาหาเขา
"ตอนนี้นายคิดจะทำอะไรต่อล่ะ?"
"เราต้องไปหามิเรย์ นายคงต้องการคำตอบนี้สินะคังฮาจิน?"
"อ่า... ฉันขอโทษนะที่พูดเหมือนกับฉันเร่งนาย"
"ไม่เป็นไรหรอก เธอเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน ถึงฉันจะอยากสร้างอุปกรณ์เพราะมีวัตถุดิบเยอะแยะให้ใช้ก็เถอะนะ..."
ยูอิลฮานได้ตรวจดูสภาพของนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาในช่องเก็บของของเขา ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายและมันให้ความรู้สึกเหมือนสามเดือนได้ผ่านไปแล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้เปิดใช้บาเรียไป แต่ว่าความเป็นจิรงคือยังผ่านไปไม่ได้สิบวันด้วยซ้ำไป
"ฉันยังมีเวลาไว้ให้ใช้ในนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาอยู่อีกตั้งเยอะ ในตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าถ้าฉันหย่อนยานจะเกิดหายนะขึ้นแน่ ตอนนี้ฉันต้องสนใจที่ผู้คนก่อน"
"...ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจริงๆ"
"ด้วยความยินดี ในกลุ่มเรานายมีก็แต่นายเนี้ยแหละที่เป็นคนมีคุณธรรม"
"นายก็รู้สินะ... ถึงคำว่าคุณธรรมนั่นจะฟังดูน่าเศร้ามากๆก็เถอะนะ..."
ทั้งสองคนได้ยิ้มแห้งๆให้กันและกัน จากนั้นก็หันไปทางอื่น
"ถ้างั้นเราก็ควรจะไปกันได้แล้วนะ"
"ฉันทนรอเห็นใบหน้าตกใจของมิเรย์ตอนเห็นหน้าเราไม่ไหวแล้ว"
ยูอิลฮานได้เดินไปที่คฤหาสน์ของเขา แต่จู่ๆเขาก็หยุดเดิน เลียร่า นายูนา คังฮาจิน เอลฟ์ หมาป่า รวมไปถึงกองทัพมังกรกับคิมเยซอลต่างก็กันมาสนใจที่ยูอิลฮานกันทุกคน
เขาได้พูดขึ้นมาว่า
"ก่อนไปเรามากินข้าวกันก่อนไหม?"
***
ลานปาสคือที่ที่เฟิ่งฟูไปด้วยอารยธรรมเวทย์ที่พัฒนาสูงกว่าโลกอื่นๆมากมาย และที่ศูนย์กลางเพลลาเดียวที่ตอนนี้กำลังเกิดบางอย่างที่เรียกได้ว่ากำลังเกิดการเปลื่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น
[คุณได้สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่น่าเชื่อขึ้นได้สำเร็จ คุณได้กลายเป็นผู้บุกเบิกพลังใหม่แห่งอคาชิค และคุณได้รับคุณสมบัติที่จะกลายเป็นคลาส 4]
[นับจากนี้คุณเป็นผู้บุกเบิกขอบเขตพลังลึกลับที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากคุณได้ผ่านความยากลำบากและประสบการณ์มาคุณจะไปถึงปลายทางไหน แต่ว่าเทพแห่งเวทมนต์จะอวยพรให้แกคุณ มานาทั้งหมดที่ใช้ลดลงครึ่งหนึ่ง และคุณจะสามารถฟื้นฟูมานาทั้งหมดที่ใช้ไปได้เดือนล่ะครั้ง]
"มะ มิเรย์"
จักรพรรินีแห่งอาณาจักรเออร์ม่าแอนอิลต้าได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่นเครือ แม้ว่าอายุเธอจะเกือบ 30 ไปแล้ว แต่ว่าใบหน้าของเธอก็ยังคงไร้ริ้วรอยๆใดๆ และมีเพียงแค่สีหน้าที่ตกตะลึงอยู่เท่านั้นในตอนนี้ ตัวเธอดูเหมือนกับอายุสิบขวบซะมากกว่าอีก
"เธอทำอะไรลงไปกัน?"
ประตูสีฟ้าฟางๆได้รอยอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง นี่คือสิ่งที่คังมิเรย์ได้สร้างขึ้น จากนั้นเธอได้พูดออกมาด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปาก
"ดูเหมือนตอนนี้ฉันจะไปหาอิลฮานได้แล้ว"