ตอนที่ 34 บันทึกพันธุกรรม
ปริมาณของเหลวในแต่ละขวดมีไม่เยอะ
ดังนั้น 41 ขวดจึงใส่เพียงถุงเล็กๆเท่านั้น
เฟิงหลินประสบความสำเร็จในเอาของทั้งหมดเข้าบ้านโดยไม่ดึงความสนใจใดๆ
ตอนที่เขาถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว
พ่อแม่ของเฟิงหลินยุ่งตลอดทั้งวัน และเข้านอนพร้อมน้องชายและน้องสาวของเขาแล้ว
เฟิงหลินค่อยๆเดิน ไม่เสียงดังทำให้ทุกคนตื่น เข้าไปที่ห้องมืดๆของเขาอย่างเงียบๆแม้เขาจะเสียพลังงานไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดื่มยาแห่งชีวิตในทันที
นั่นเป็นเขายังไม่ย่อยยาสารอาหารเทพเขียวประเภท3ที่เขากินไปก่อนหน้านี้
ถ้าเขาได้รับสารอาหารมากเกินไปในคราวเดียว มันจะไม่ดีสำหรับการย่อยอาหารของเขา
เขาเปิดบันทึกการวิจัยของนักวิจัยพันธุกรรมและเริ่มอ่าน
นี่เป็นยุคสมัยดวงดาว และบันทึกจะไม่มีลักษณะล้าสมัยเหมือนบันทึกที่เขียนด้วยลายมือ แต่เป็นการบันทึกที่เก็บไว้ในไมโครชิปแทน
ไมโครชิปเปล่งแสงประกายและภาพฉายสามมิติออกมา มีร่างมนุษย์ที่สวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่ในห้องที่คล้ายกับห้องทดลองเคมี เขาถือหลอดทดลองอยู่ในมือราวกับกำลังพยายามผสมอะไรบางอย่าง
ของเหลวสีแดงคล้ายเลือดปล่อยความร้อนออกมาเหมือนแม็กม่า
บูม!
ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรผิดปกติและยาระเบิดอย่างกะทันหัน ทำให้หลอดทดลองระเบิดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
ชายในชุดคลุมสีขาวดูเหมือนจะคาดเดาไว้แล้ว เขาหลบอย่างเร็วและไม่ได้รับอันตรายใดๆ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถปกปิดความผิดหวังบนใบหน้าเอาไว้ได้ เขามองไปที่กล้องแล้วพูดช้าๆว่า "วันนี้คือปี 9982(ปฏิทินดาราศาสตร์) วันที่: 17 มีนาคม การผสมยาสารอาหารในเลือดล้มเหลวอีกครั้ง! ฉันจำไม่ได้ว่าฉันทำพลาดมากี่ครั้งแล้ว มันคือ100ครั้ง?หรือ300ครั้ง?หรือ1,000ครั้ง?ฉันสับสนนิดหน่อย แต่ฉันต้องทดลองต่อไป การปรุงยาอย่างไม่หยุดหย่อนจึงจะกลายเป็นนักพันธุศาสตร์ที่แท้จริง นี่คือความฝันของฉัน ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้ ... "
ชายคนนี้เริ่มวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากเขาพูดเสร็จ เขายังคงปรุงยาสีแดงนั้น จากนั้นก็ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างไรก็ตามเขาไม่ยอมแพ้
ฉากยังคงฉายต่อไป พวกเขาบันทึกเสียงการค้นคว้าพันธุศาสตร์ทั้งหมด
เฟิงหลินดูการบันทึกอย่างจริงจังและสรุปใจความสำคัญในบางสถานการณ์เกี่ยวกับนักพันธุศาสตร์
นักพันธุศาสตร์ถลำลึกลงไปในการวิจัยทฤษฎีพันธุศาสตร์ พวกเขาจะใช้พื้นฐานของพวกมันในการสร้างและพัฒนาทรัพยากรการบ่มเพาะที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ซึ่งจะแบ่งออกเป็นความรู้หลายประเภท
นักพันธุศาสตร์บางคนมีความเชี่ยวชาญในการปรุงยาเสริมพลังบ่มเพาะ และเป็นที่รู้จักในฐานะเภสัชกรทางพันธุกรรม มีผู้ที่พัฒนาชุดยีนที่ผสมผสานกับยีนมนุษย์เพื่อปลดปล่อยพลังไร้เทียมทาน คนเหล่านี้ถูกเรียกว่าผู้สร้างเกราะพันธุกรรม....
แม้พวกเขาจะเป็นนักพันธุศาสตร์เหมือนกันหมด แต่ความแตกต่างด้านความรู้นั้นต่างกันมาก
ชายคนนี้ชื่อ’ไอรอส ลินคอน’ เขาเป็นนักวิจัยในสาขายาพันธุกรรม และเด่นเรื่องการผสม
ยา สมบัติ ชุดยีน วิชายุทธ์ ... ทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดเหล่านี้ถูกแยกออกเป็นระดับต่างๆ ได้แก่ ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุด
ผู้สามารถปรุงยาระดับต่ำได้จึงจะถือว่าเป็นนักพันธุศาสตร์ที่แท้จริง ยาสารอาหารเลือดเดือดเป็นหนึ่งในนั้น
หลังจากทานยานี้ เลือดของผู้ใช้จะเดือด และผลจากยาจะกระตุ้นศักยภาพทางพันธุศาสตร์ของตนทันที ปลดปล่อยพลังที่เหนือล้ำกว่าเดิมถึง50%
ข้อเสียคือผลของยาสามารถอยู่ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นมันจะทำให้คนๆนั้นเสียทั้งเลือดและพลังงาน ที่สำคัญพวกเขาจะอ่อนแอตลอดทั้งเดือน ยานี้ไม่ควรใช้หากไม่ใช่ช่วงเวลาวิกฤติจริงๆ
แม้กระนั้น ความต้องการสำหรับยาเลือดเดือดก็ยังสูงมาก
ด้วยยาเช่นนี้ มันก็เหมือนกับได้รับชีวิตเพิ่มหนึ่งชีวิต ใครจะไม่ต้องการ?
ยาแห่งชีวิตที่เฟิงหลินซื้อมานั้นเป็นยาที่ไม่มีระดับชัดเจน มันเป็นเพียงผลพลอยได้เมื่อเภสัชกรพันธุศาสตร์ปรุงยาระดับกลางที่เรียกว่าเลือดเทพ
เมื่อเห็นสิ่งนี้เฟิงหลินก็มีความมั่นใจมากขึ้นในความคิดที่อยากจะเป็นนักพันธุศาสตร์
เพียงผลพลอยก็มีมูลค่าสูงแล้ว ถ้าเขาสามารถสร้างยาทางพันธุกรรมที่แท้จริงได้ มูลค่าของมันจะประเมินค่าไม่ได้
มีเนื้อหาจำนวนมากในชุดบันทึกนี้ และสิ่งที่มีค่าที่สุดคือยาพันธุกรรมสามประเภทที่บันทึกไว้ในนั้น – ยาเลือดเดือด ยาเพิ่มความแข็งแกร่ง และยาแปรสภาพ
น่าเสียดายที่ราคาของอุปกรณ์ และส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับยาพันธุกรรมเหล่านี้แพงเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เฟิงหลินสามารถจ่ายได้
ตอนนี้เฟิงหลินกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ว่ามีขุมทรัพย์ แต่ไม่สามารถเข้าไปเอาได้ เขารู้สึกเสียใจอย่างมากจากนั้นเขาก็ตรวจดูบันทึกย่ออย่างละเอียดและพบจุดที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
มันเป็นกุญแจสำคัญในการบริโภคยาแห่งชีวิต
คนธรรมดาไม่สามารถรับยาแห่งชีวิตได้ เพราะยาจะทำให้ร่างกายระเบิด อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน ถ้าถูกเจือจางคนธรรมดาก็จะสามารถดื่ม
อย่างไรก็ตามยาแห่งชีวิตจะต้องไม่ถูกเจือจางด้วยน้ำ แต่ต้องเจือจางด้วยสารอาหารเหลว
สารอาหารเหลวทั่วไปจะมีเทคนิคการผสมแบบง่ายๆ เป็นการผสมระหว่างธรรมชาติและความสมบูรณ์แบบ
ตราบใดที่ยาแห่งชีวิตเจือจางลงจากสารอาหาร คนธรรมดาก็จะสามารถบริโภคได้
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยของเหลวทางพันธุกรรมจะต้องเป็นสารอาหารเหลวระดับกลาง สารอาหารเกรดเริ่มต้นนั้นด้อยคุณภาพและมีสิ่งสกปรกมากเกินไป หากทั้งสองรวมกันจะเกิดปฏิกิริยาที่คาดเดาไม่ได้เกิดขึ้นแทน อาจมีผลข้างเคียงหลังจากบริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเขาหรือเธอได้
"อืมม?" เฟิงหลินเพิ่งจะนึกได้ว่าเขาไม่เพียงแต่ได้เหรียญดารากว่า100,000เหรียญจากคล็อตและลูกน้อง แต่เขายังได้รับสารอาหารมาอีก 20 ขวดด้วย เขาสามารถลองกับพวกนั้นได้
เขาหยิบสารอาหารเหลวระดับกลางออกมาหนึ่งขวด มันมีกลิ่นหอมอ่อนๆออกมาเมื่อเขาเปิดฝา มีกลิ่นของผักและผลไม้ทำให้เกิดความอยากอาหารมาก
จากนั้นเขาก็นำขวดยาแห่งชีวิตออกมาอย่างระมัดระวัง ยานี้มีสีอำพันและอยู่ในสภาพแข็งเล็กน้อยเหมือนวุ้น มันดูลึกลับมากและมีกลิ่นที่หอมหวนมาก
แค่เล็กน้อยก็พอให้เฟิงหลินรู้สึกว่าเส้นเลือดหลักทั้งแปดเขาถูกชะล้าง แม้กระทั่งอวัยวะภายในและนอกก็ยังดูเหมือนได้รับการชะล้าง
เขาหยดหยดยาแห่งชีวิตลงในสารอาหารเหลวระดับกลางอย่างระวัง ทั้งสองรวมกันอย่างกลมกลืนเหมือนนมกับน้ำ
"มันได้ผลจริงๆ!" เฟิงหลินร่าเริงและดื่มมัน
ในขณะที่สารอาหารเหลวไหลเข้าสู่ร่างกาย ก็เกิดเป็นคลื่นร้อนพุ่งผ่านร่างกาย ปล่อยความร้อนในไปทั่วตัวเขา
เซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายของเขาบิดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง และดูดซับสารอาหารเช่นเดียวกับทะเลทรายแห้งแล้งที่เจอฝนตกหนัก
ความรู้สึกนี้ไม่เลวเลย!
เฟิงหลินเลียริมฝีปากเพราะอยากดื่มมากกว่านี้ นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรแตกต่างเป็นพิเศษ
เฟิงหลินส่ายหัว แม้ว่าผลของการผสมสารอาหารนี้จะไม่เลว แต่มันก็ไม่ได้มีผลต่อเขามากนัก
ท้ายที่สุดพลังของเขาอยู่ที่1.9 เขาใช้พลังชีวิตส่วนเกินไปมากก่อนหน้านี้และต้องการสิ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่านี้
"นั่นใครน่ะ?" ทันใดนั้นเฟิงหลินก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังสอดแนมเขา
"อ่า! อ่า!" เสียงแหลมติดต่อกันสองครั้งดังขึ้น ราวกับตกใจที่เฟิงหลินสังเกตเห็น ร่างเล็กสองคนในชุดนอนตกใจและล้มลงกับพื้น ไม่กล้าหายใจเสียงดัง
เฟิงหลินมองอย่างระวัง และรู้ว่านั่นคือน้องชายเขาเฟิงเฉิน และน้องสาวของเขาเฟิงซิน
เขาผ่อนคลายและยิ้มอย่างอบอุ่น "ทำไมทั้งสองคนถึงได้มาอยู่ตรงนี้?"
เด็กทั้งสองคนที่กลัวสายตาของเฟิงหลินมองดูเขา และพูดพึมพำว่า "เราได้กลิ่นหอม ... แล้วจากนั้น ... และจากนั้นเราก็ตื่น!"
ใบหน้าของทั้งคู่เป็นสีเหลืองจากการขาดสารอาหาร ตอนนี้ตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่สารอาหารเหลวเกรดกลางในมือของเฟิงหลิน และกลืนน้ำลาย
พวกเขาตื่นขึ้นเพราะกลิ่นของสารอาหารเหลว?
เฟิงหลินมองและยิ้มและกวักมือเรียกพวกเขา
น้องที่อายุน้อยกว่าของเขาเดินมาอย่างระวัง
เฟิงหลินเทสารอาหารเกรดกลางลงในขวด "นี่!"
"นี่ของพวกเรางั้นหรอ?" เด็กสองคนไม่อยากเชื่อสิ่งนี้ เพราะพวกเขาแสดงออกถึงความต้องการอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะต้องการดื่มจริงๆ พวกเขาก็ยังคงส่ายหัวและส่งคืนให้อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นพวกเขาก็พูดว่า "พี่ชาย พี่ไม่ต้องดื่มหรอคะ? นี่เป็นสารอาหารระดับกลาง ถ้าพี่ดื่มอาจจะได้รับการพัฒนาและสามารถสอบเข้าวิทยาลัยได้!"
ความรู้สึกอบอุ่นเพิ่มขึ้นในหัวใจของเฟิงหลินในขณะที่เขาลูบผมสีเหลืองของน้องทั้งสองซึ่งทำให้เขานึกถึงพื้นหญ้า เขายิ้มและพูดว่า "พี่ดื่มแล้วล่ะ เพราะงั้นน้องสามารถดื่มได้!"
"จริงๆหรอคะ/ครับ?" พวกเขาสองคนมองเฟิงหลินอย่างสงสัย
เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินพยักหน้า ทั้งเฟิงเฉินและเฟิงซินต่างก็ยังเป็นเด็กอยู่ และไม่สามารถต้านทานการล่อลวงได้ พวกเขาคว้าสารอาหารเหลวแล้วจิ้มกินอย่างช้าๆ พร้อมยิ้มอย่างมีความสุข
พวกเขาเลียรสชาติที่เหลือตามมุมปากเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่ได้ดื่มหลังจากคอแห้งในทะเลทรายมายาวนาน
เฟิงหลินยิ้ม
การเป็นมนุษย์ในช่วงชีวิตที่สอง เขาได้รับชีวิตใหม่และครอบครัวใหม่ ...
การได้กินและได้ดื่มเพื่อเติมเต็มความสุขคือวิธีที่ง่ายที่สุด!
เขาสาบานกับตัวเองว่าจะปกป้องช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ตราบเท่าที่เขาทำได้