SGS บทที่ 92 – แมงมุมองครักษ์! และชะตากรรมของคนที่ทิ้งเพื่อนฝูงล่ะ!
ทีมล่าสมบัติมองสีหน้าหวาดกลัวของแรงค์7ทั้งสิบห้าคนด้วยสงสัยแบบสุดๆ พวกต่างก็หันมาหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ ก่อนจะเกิดเสียงพูดคุยขึ้นไปทั่วดูอลหม่านไปหมด
แม้แต่ตัวแรงค์7ทั้งสิบห้าคนเองก็ยังคงใจเต้ากระหน้ำ ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย พวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำยังไงต่อดี
ออร่าแห่งความตายมันกำลังคืบคลานเข้ามาด้วยความเร็วสูง และสัญชาตญาณของพวกเขาเองก็ร้องเตือนไม่หยุดว่ากำลังมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวใกล้เข้ามา.....
ขณะที่พวกแรงค์7กำลังคิดไม่ตกว่าจะหนีหรืออยู่ต่อดี ต่อมาไม่นานนักพวกเขาก็ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะมาใช้คิด.....
ทีมล่าสมบัติค่อยๆเงียบเสียงลง ถึงพวกเขาจะเทียไม่ได้กับพวกแรงค์7 แต่พวกเขาก็ถือว่าผู้บ่มเพาะที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้จึงพอรู้สึกได้แล้วว่ากำลังมีอะไรที่ไม่ดีมากๆเกิดขึ้น!
บรรยากาศแปลกๆได้แผ่ขยายออกไปปกคลุมทั่วทุกที ทำให้ที่นี่เงียบสงัดอย่างน่าใจหาย แม้แต่ แรงค์7 ก็ยังหยุดใช้สมอง
“มาสเตอร์ สิ่งมีชีวิตทรงพลังเข้ามาใกล้แล้วค่ะ!”
ยกเว้นแต่พวกวู่หยาน ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงพูดของอิคารอส ขณะทั้งสามคนกำลังเครียด อยู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาราวกับกำลังมีอะไรบ้างอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดิน!
ยิ่งได้ยินเสียงมากเท่าไหร่พวกวู่หยานก็ยิ่งกังวลมากขึ้น แต่กลับผู้คนในสนามรบก็มีบางส่วนที่เริ่มหวาดกลัวแล้ว บรรยากาศแปลกๆ ออร่าแปลกๆ และเสียงแปลกๆนี้ทำให้พวกอดรู้สึกกลัวไม่ได้
เสียงยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำใหบางคนที่ใจเสาะเริ่มตัวสั่น ส่วนทางแรงค์7เองก็หันมามองหน้ากันและกัน ก่อนจะพร้อมใจกันหยิบยุทธภัณฑ์หลักออกมา แล้วมองไปรอบๆด้วยท่าทางตื่นตัวกับหัวใจที่เริ่มเต้นเร็วขึ้น
ในหมู่ทีมล่าสมบัติ มีนักรบคนหนึ่งมองไปข้างหน้าแล้วเมื่อเห็นสิ่งๆหนึ่ง เขาก็เบิกตากว้างก่อนจะก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“นะ..นะ..นั่น..ตรงนั้น...” นักรบยกนิ้วที่กำลังสั่นชี้ไปด้านหน้าตน แล้วพูดเสียงที่เต็มไปด้วยความกลัว
เสียงพูดของนักรบทุกคนได้ยินหมด เพราะตอนนี้ที่นี่เงียบสนิท เสียงของเขาทำให้บรรยากาศแปลกยกระดับไปจนจุดสูงสุดทันที! และเมื่อพวกเขาหันไปตามเสียง สิ่งที่เห็นได้บดทำลายความหวังเส้นสุดท้ายของพวกเขาจนเป็นเสี่ยงๆ.....
แมงมุมตัวใหญ่สองตัวค่อยๆปรากฏขึ้นมาในสายตาของผู้คน พวกมันสูงถึงสิบเมตร เทียบกับแมงมุมศิลาทมิฬเมื่อกี้แล้ว มันดูเหมือนเด็กไปเลย!
แน่นอนว่าถ้ามันเป็นแค่แมงมุมศิลา พวกเขาคงไม่กลัวกันขนาดนี้ แมงมุมทั้งสองตัวไม่ได้มีร่างกายเป็นหิน แต่มันเป็นแมงมุมของแท้!
ทั่วทั้งตัวมันเต็มไปด้วยแท่งหินสีดำสนิท ขาที่ยาวมาก กับดวงตาที่ปูดบวมอย่างแปลกประหลาด และฟันที่ยาวดุจเสาหิน ทำให้คนที่เห็นรู้สึกขนลุก!
มองดูแมงมุมน่าสะพรึงกลัว ทำให้พวกเขาก้าวถอยหลังอย่างอดไม่ได้ พยายามส้รางระยะห่างจากพวกมันที่ดูราวกับเป็นเทพแห่งความตาย ตอนนี้ความหวาดกลัวได้แพร่กระจายไปทั่วหัวใจแทบทุกคน
“กี๊สสส!!!”
เมื่อมาโผล่ขึ้นมาจากพื้นเต็มตัว พวกมันสองตัวก็เงยหน้าขึ้น แล้วกรีดร้องเสียงแหลมออกมา! ก่อเป็นคลื่นพายุกวาดใส่พวกเขา!
แมงมุมองครักษ์ : เลเวล70
แม้ว่าผู้คนในสนามรบจะไม่มีฟังก์ชั่นตรวจสอบของระบบอย่างพวกวู่หยาน แต่ทว่าแค่เห็นรูปลักษณ์และออร่าน่าสะพรึงกลัวที่มันปล่อยออกมา พวกเขาก็ตระหนักรู้ทันทีว่า แมงมุมสองตัวตรงหน้า เป็นตัวตนที่ตนเองไม่สามารถจัดการได้อย่างเด็ดขาด! ตอนนี้เองออร่าแห่งความตายก็ได้ปกคลุมพวกเขาทั้งหมด!
...ตกตะลึง....กลัว....และตื่นตระหนก....
ไม่มีคำพูดได้หรือสีหน้าแบบไหนที่จะสามารถอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ของพวกเขาได้ นั่นรวมถึงแรงค์7ที่ก่อนหน้านี้ยังคงทำท่าทางไม่แยแสด้วย!
แรงค์7ทั้งสิบห้าคนเองก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน ยิ่งการที่พวกตนแข็งแกร่งด้วยแล้ว ยิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงระดับพลังที่มันปล่อยออกมาได้อย่างชัดเจน นี่ทำให้ความรู้สึกสิ้นหวังเริ่มกลืนกินพวกเขา
ในหมู่พวกเขา ไม่ว่าใครต่างก็มีความมั่นใจในตัวเอง ต่อให้ต้องเจอกับแรงค์7ระดับสูงสุดคนอื่นที่มียุทธภัณฑ์ดิน พวกเขาก็ยังสามารถต้านรับเอาไว้ได้อย่างน้อยที่สุดก็สองสามกระบวนท่า แต่พอเจอแมงมุมสองตัวตรงหน้ากลับทำให้พวกเขารู้สึกกลัวได้ นั้นมันก็หมายความว่า....
แรงค์8!!
“วิ่ง!!!!”
ไม่มีใครรู้ความน่าสะพรึงกลัวของแรงค์8ดีไปกว่าพวกเขา(แรงค์7)อีกแล้ว เพราะพวกตนแรงค์ต่ำกว่าแค่แรงค์เดียว ดังนั้นพวกเขาถึงรู้ว่าต่อให้พยายามมากขนาดไหนสุดท้ายจุดจบก็คือตาย! อย่างดีสุดก็แค่เลื่อนเวลาตายออกไปเล็กน้อยเท่านั้น! ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงหันหลังวิ่งหนีเต็มสปีดทันที
แน่นอนว่า มันเปล่าประโยชน์......
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่พวกเขาหันหลังวิ่ง ก็มีแท่งหินนับสิบพุ่งมาด้วยความเร็วที่มากเกินว่าที่ใครในที่นี้จะตอบสนองทัน ไปที่แรงค์7ทั้งสิบห้าคน.....
“ไม่นะ!” “อย่า!!” “อ้าก!!....”
แท่งหินได้ทะลุผิวหันเจาะเข้าไปในร่างกาย ทะลวงผ่านอวัยวะภายใน แค่พริบตาเดียว.....แรงค์7ทั้งสิบห้าคนก็ตายหมด!!!
จะด่ามันว่าโง่ดีมั้ยเนี่ย? ถ้าเลือกที่ป้องหัน บางทีคงยืดเวลาตายออกไปได้บ้างอีกสักนิด...ล่ะมั้ง? และบางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์ทำให้รอดชีวิตก็เป็นไปได้ แต่ดันไปเลือกอะไรที่โง่ที่สุดอย่างหันหลังวิ่งหนีแบบนั้น
ทีมล่าสมบัติทุกคนพร้อมใจกันกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว ไม่มีใครสักคนที่คิดจับอาวุธสู้ เพราะแม้แต่แรงค์7ตั้งสิบห้าคนยังตายเรียบ แล้วพวกตนจะเอาอะไรไปสู้ล่ะ?
ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงที่โล่งต่างก็เลือกตัวเลือกที่โง่ที่สุดเหมือนพวกแรงค์7เมื่อกี้คือ หนี!!
นี่ทำให้แมงมุมทั้งสองตัวปล่อยแท่งหินออกมาเป็นห่าฝน ใครที่วิ่งช้าก็จะตายเป็นคนแรก!
เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทางเดินหินนี่.....
เมื่อการล่าสังหารเริ่มต้นขึ้น ฮินางิคุกับมิโคโตะก็พร้อมใจกันหลับตายังนัดกันมาก่อน แม้แต่พวกเธอที่มีหัวใจกล้าหาษ ในตอนนี้ยังอดที่จะรู้สึกเศร้าไม่ได้ สองสาวไม่ใจแข็งพอที่จะลืมตาดู ดังนั้นจึงหันไปหาวู่หยาน แล้วก้มหน้าซบเข้าไปที่อกเขา ส่วนวู่หยานก็ยกยิ้มอย่างขมขื่น
ทั้งที่เมื่อกี้ลงทุนสละชีวิตพวกพ้องของตนเพื่อชัยชนะ แถมยังมีหน้ามีส่งเสียงโห่ร้องดีใจ แต่ตอนนี้กลับตายอนาถ....เรียกว่ากรรมตามสนองแบบติดจรวดคง...ได้สินะ?
แต่วู่หยานก็รู้ดีว่านี่...มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น.....
กับแมงมุมหน้าตาอัปลักษณ์สองตัวนั้น ด้วยพลังของอิคารอส วู่หยานจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกมันมากเท่าไหร่ แต่ที่เขาแคร์จริงๆก็คือสิ่งมีชีวิตระดับSที่อิคารอสบอก!
แมงมุมทั้งสองยังคงปล่อยแท่งหินออกมาไม่หยุด ในเวลาเดียวกันศพก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนมันยังคงไม่พอใจ จึงเล็งยิงไปจุดที่มีคนกระจุกตัวมากที่สุด
เวลาผ่านไป ณ ตอนนี้ทีมสมบัติก็ได้ตายไปมากกว่า90%แล้ว! ก่อเกิดเป็นแอ่งน้ำเลือดทั่วทุกที่.....
บางทีอาจจะเป็นเพราะคนมันมากเกิน ดังนั้นจึงมีคนส่วนหนึ่งที่วิ่งเร็วที่สุด หนีออกไปจากระยะยิงของแมงมุมทั้งสอง จนสุดท้ายก็สามารถหนีไปได้
เสียงแหวกอากาศของแท่งหินเงียบไป คนที่กำลังวิ่งอยู่ก็รู้สึกมีความสุข คิดว่าตนเองหนีรอดแล้ว แต่ถึงยังงั้นก็ยังพยายามเร่งฝีเท้าวิ่งไปทิศทางตรงกันข้ามกับพวกแมงมุมอย่างไม่หยุด
ขณะที่แมงมุมองครักษ์ทั้งสองคิดจะไล่ตามไป วู่หยานก็เห็นว่า จู่ๆพวกมันก็หยุดไป......