บทที่ 503 - ร่วมมือ
บทที่ 503 - ร่วมมือ
เทพผู้มีพลังระดับ 9 ที่อยู่บนท้องฟ้าเขาเป็นนักรบ เขาสวมเสื้อสีดำของนักรบ และมีดาบยาวที่หลังของเขา ดาบนั้นยาวมากมันจะดีกว่าถ้าเรียกมันว่าหอก
ชายคนนี้มีผิวคล้ำเขาดูเหมือนชายผิวดำ แต่เขาผมสีทองชายคนนี้มีแผลเป็นอยู่ที่ตาขวาของเขาไปจนถึงมุมของปากซ้าย ดูเหมือนว่าตาของเขาข้างขวาจะไม่สามารถใช้ได้ เขาจึงปิดตาข้างนั้นเอาไว้
เจ่าไห่รู้ดีว่าชายคนนี้ต้องไม่มีดีแน่นอน เขามองแล้วหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและยิ้มในขณะที่พูดว่า “เจ้าอยากเข้าร่วมงานแต่งงานของข้าไหม?”
เทพผู้มีพลังระดับ 9 ไม่ได้คิดว่าเจ่าไห่จะนิ่งกับสถานการณ์นี้ เขามองครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงพูดกับข้าเช่นนี้ เอาคาเรทและลอร่ามาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นก็จะไม่มีใครสามารถหยุดข้าได้”
เจ่าไห่มองไปที่ชายคนนั้นและยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ข้าคนนี้คือเจ่าไห่แห่งตระกูลบูดา ลอร่าเป็นภรรยาของข้าและคาเรทก็เป็นพ่อตาของข้า เจ้าไม่เพียงแต่จะบุกรุกมาเท่านั้น เจ้ายังต้องการภรรยาและพ่อตาของข้า เจ้ากล้าทำเช่นนี้ เจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าทำข้าจะยอมรับมันไหม?”
เทพผู้มีพลังระดับ 9 เริ่มโกรธแล้วเขาตะโกนว่า “เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมาพูดกับข้าเด็กน้อย ข้าไม่ทนที่จะต้องมาพูดคุยกับเจ้า ส่งลอร่าและคาเรทมาไม่งั้นเจ้าก็ตาย!!”
เจ่าไห่ยังคงมองเทพผู้มีพลังระดับ 9 อย่างใจเย็นและพูดว่า “ท่านอย่าพึ่งโมโหเลย เจ้าจงส่งเทพผู้มีพลังระดับ 8 ออกไปก่อน”
เมื่อเจ่าไห่พูด คำพูดของเจ่าไห่ทำให้ขุนนางประหลาดใจมาก เทพผู้มีพลังระดับ 9 ไม่คิดว่าเจ่าไห่จะรู้ที่เขาไม่ได้มาคนเดียวในตอนนี้ ในขณะเดียวกันขุนนางก็ไม่ได้คิดว่าเจ่าไห่จะรู้เกี่ยวเรื่องนี้จริงๆ
เทพผู้มีพลังระดับ 9 มองไปที่เจ่าไห่ด้วยเสียงหัวเราะและพูดว่า “ดีจริงๆ เด็กน้อย เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถทำได้ เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่เจ้าต้องตายในวันนี้!!”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “ใครจะตายก็ยังไม่มีใครรู้” จากนั้นเขาก็โบกมือขณะที่ร่างสิบร่างปรากฏขึ้นที่เกาะทองคำ คนที่อยู่ในคฤหาสน์ไม่สามารถมองเห็นจำนวนได้อย่างชัดเจน แต่เทพผู้มีพลังระดับ 9 สามารถทำได้ และจากสิ่งที่เขาเห็นมันดูเหมือนว่าสิบคนนั้นอยู่ในระดับ 9 ทั้งหมด นักเวทย์ระดับ 9
นักรบระดับ 9 มองก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป เขามองไปที่เจ่าไห่จากนั้นก็เอาดาบฉีไปที่เจ่าไห่
เจ่าไห่ไม่ได้เคลื่อนไหวเลย จากนั้นเสียงดาบดังขึ้น เมื่อแสงสีทองปะทะกับดาบที่เกิดจากพลังฉี การโจมตีหายไปทันที และใบหน้าของชายตาเดียวเปลี่ยนไปทันที ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเขาก็หันหลังกลับทันทีเพื่อหนี ในเวลาเดียวกันเทพผู้มีพลังระดับ 8 อีก 8 คนก็ออกมาและเริ่มบินออกไปจากเกาะ
เจ่าไห่มองไปที่พวกเขาที่กำลังบินออกไปก่อนที่เขาจะหันหน้าไปหาแขกของเขาด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ทุกคนไม่ต้องตกใจ มาดื่มกันเถอะ!!” จากนั้นเขาก็เริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับแขก พร้อมกับลอร่าและคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามขุนนางไม่ได้ลืมได้เร็วขนาดนั้น พวกเขายังคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น พวกเขารู้ว่าเทพผู้มีพลังระดับ 9 เหล่านั้นจะไม่ถอยไปโดยไม่มีเหตุผลมันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลัวแสงสีทอง สำหรับแสงสีทองนั้นเพื่อจัดการกับการโจมตีของเทพผู้มีพลังระดับ 9 นั่นหมายความว่าแสงสีทองนั้นมาจากเทพผู้มีพลังระดับที่ 9 ยิ่งไปกว่านั้นเทพผู้มีพลังระดับ 9 เหล่านั้นน่าจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของเจ่าไห่ สิ่งนี้ทำให้ขุนนางคิดถึงความแข็งแกร่งของตระกูลบูดาใหม่
ขุนนางยังคงกินอาหารบนโต๊ะอย่างต่อเนื่องขณะที่เจ่าไห่เสนอขนมปังให้พวกเขา มันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ไม่นานหลังจากที่เจ่าไห่เสนอขนมปังให้กับทุกคนในตอนนี้ เขายืนอยู่บนเวทีและมองไปที่แขกและพูดว่า “สำหรับทุกคนข้าอยากให้ทุกคนรู้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงกับเรื่องที่เกิดขึ้น” จากนั้นเขาก็โบกมือก็มีซอมบี้ปรากฏออกมาซึ่งซอมบี้เหล่านั้นเป็นเทพผู้มีพลังระดับ 9 ที่เป็นชายตาเดียวที่มีดาบอยู่ที่หลังของเขา
เมื่อขุนนางเห็นซอมบี้พวกเขาก็มั่นใจว่าชายคนนี้เป็นเทพผู้มีพลังระดับ 9 ที่มาหาเรื่องเจ่าไห่เมื่อกี้ นี่เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาไม่ได้เปลี่ยน แม้ว่าเขาจะกลายเป็นซอมบี้
อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ไม่เชื่อเจ่าไห่ ในขณะที่เขามองไปที่แขกเจ่าไห่ก็ยิ้มและพูดว่า “เจ้าจงบอกทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น”
ซอมบี้ธงกับเจ่าไห่ทันทีก่อนที่จะพูดว่า “นายน้อยข้าเป็นคนจากตระกูลมาร์กี้ ครั้งนี้ข้าได้รับคำสั่งจากตระกูลเพื่อล่อให้เทพผู้มีพลังระดับ 9 ของตระกูลบูดาออกไป เพื่อที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และเทพผู้มีพลังระดับ 9 จะมาที่นี่เพื่อฆ่าทุกคนเมื่อถึงเวลานั้นจักรวรรดิโรเซ่นจะไม่มีคนที่อยู่ในระดับสูงมากพอและนั่นก็จะเป็นโอกาสที่จะยึกเอาจักรวรรดิโรเซ่น”
เจ่าไห่ขมวดคิ้มและถามว่า “ตระกูลมาร์กี้มีอำนาจในการยึกครองจักรวรรดิโรเซ่นหรือไม่? เทพผู้มีพลังระดับ 9 ทั้งหมดนี้มาจากตระกูลมาร์กี้ใช่ไหม?”
กาโยกิ (เทพผู้มีพลังระดับ 9 ตระกูลมาร์กี้) พูดว่า “พวกเขาไม่ใช่นายน้อยพวกเขาไม่ได้มาจากตระกูลมาร์กี้ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่มาจากตระกูล อีกหกคนนั้นมาจากที่อื่นๆ เช่นจักรวรรดิอาร์ซู และกิลแห่งความสว่าง ทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือการยึกครองจักรวรรดิโรเซ่น”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้จากกาโยกิทุกๆ คนในตอนนี้ก็ตกอยู่ในความสับสน พวกเขาไม่เชื่อคำพูดของกาโยกิในตอนแรก มันก็เหมือนกับที่เจ่าไห่พูดด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลมาร์กี้มันตงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะครอบครองจักรวรรดิโรเซ่น
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าจักรวรรดิอาร์ซูและกิลแห่งความสว่างเกี่ยวข้อง พวกเขาก็เชื่อในทันที พวกเขาทุกคนรู้ว่าจักรวรรดิอาร์ซู มีความคิดที่น่ากลัวต่อจักรวรรดิโรเซ่น ซึ่งพวกเขาก็น่าจะร่วมมือกันเพื่อจัดการกับจักรวรรดิโรเซ่น ด้วยความร่วมมือกัน
ยิ่งไปกว่านั้นขุนนางเหล่านี้ยังรู้ว่าผู้ที่เข้าร่วมในวันนี้ประกอบด้วยประมาณ 80% ของขุนนางของจักรวรรดิโรเซ่น พวกเขาทั้งหมดเป็นขุนนางระดับสูง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาจักรวรรดิโรเซ่นจะต้องจบลงแน่นอน
เจ่าไห่พูดขึ้นมาว่า “พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ข้าเพียงคนเดียวสามารถจัดการได้ เรามามีความสุขกับงานเลื้ยงในวันนี้ดีกว่า”
ตอนนี้พวกเขาดื่มกันจนมืด ตอนนี้ทุกคนเมามากๆ เจ่าไห่พาคนเหล่านี้ออกมาและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาไปถึงที่เต๊นท์ของพวกเขาอย่างปลอดภัย
ในท้ายที่สุดเจ่าไห่ได้ให้ทุกคนออกจากเมืองดอกไม้ คนเดียวที่เหลืออยู่คือตัวเขาและเจ้าสาวทั้งห้าคนของเขา
เจ่าไห่ไปที่ห้องของเม็กก่อนลอร่าและคนอื่นๆ ต้องยอมรับเช่นกัน นี่เป็นเพราะเม็กเป็นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เจ่าไห่นานที่สุด ผู้หญิงคนอื่นให้โอกาสเธอเป็นคนแรกในครั้งนี้
เจ่าไห่เมามาก แต่เขาก็ดื่มน้ำจากมิติเข้าไปด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่เมา ในตอนนี้เม็กกำลังนั่งอยู่ในห้อง ที่อยู่ในชุดแต่งงานของเธอ หัวใจของเธอกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง เธอรอวันนี้มานานและในที่สุดก็มาถึง
เจ่าไห่เปิดประตูเบาๆ แล้วเดินเข้ามาเม็กมองที่เจ่าไห่จากนั้นก็ก้มหน้าของเธอลงทันที เจ่าไห่มองไปที่รูปร่างของเม็กและยิ้มในขณะที่เขาเดินไปหาเธออย่างช้าๆ เมื่อเจ่าไห่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเม็กกลายเป็นสีแดง
เมื่อเจ่าไห่จับมือเม็กเบาๆ ร่างกายของเธอสั่น เจ่าไห่มองไปที่เม็กแล้วกระซิบว่า "เม็กในที่สุดเธอก็กลายเป็นภรรยาของพี่ เธอมีความสุขไหม?"
เม็กพยักหน้าเบาๆ จากนั้นเจ่าไห่ก็ยิ้มขณะที่กอดเม็กที่ใบหน้ายังแดงอยู่ เธอไม่ได้ดิ้นและโน้มตัวไปที่เจ่าไห่
เจ่าไห่มองที่ใบหน้าของเม็กในขณะที่เขาค่อยๆก้มหน้าลงเพื่อจูบหน้าผากเม็ก จากนั้นจมูกของเธอ จากนั้นหูของเธอ จากนั้นแก้มของเธอ จากนั้นก็ปากของเธอ……
ในขณะที่ทำเช่นนั้น เจ่าไห่ค่อยๆ ถอดชุดของเม็กออกอย่างช้าๆ อุณหภูมิของห้องเพิ่มขึ้นไม่กี่องศาเนื่องจากบรรยากาศโรแมนติกแทรกซึม
อีกไม่นานตะเกียงของเม็กก็ดับลง ได้ยินเสียงชายและหญิงอยู่ข้างใน และในไม่ช้าเสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้นเมื่อทุกอย่างเงียบลง จากนั้นก็ได้ยินพูดกัน
"พี่ไห่ควรไปที่ห้องของลอร่า"
"ไม่ฉันจะอยู่กับเธอคืนนี้"
"พี่ไห่ยังไม่ได้ ... พี่ควรไปที่ลอร่ากับคนอื่นๆ ค่ำนี้เป็นคืนแต่งงานของพวกเขาด้วย ถ้าพี่ไม่ไปพวกเขาจะไม่เสียใจเลยเหรอ?"
"แต่ถ้าพี่ไป แล้วเธอล่ะพี่แน่ใจว่าพวกเขาจะเข้าใจ"
"พี่ไห่ถ้าไม่ไปฉันจะโกรธ"
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ บ๊าย...บาย
https://www.facebook.com/ไปสร้างฟาร์มที่ต่างโลกกันเถอะ-589977038117446
ฝากเพจด้วยนะครับ กดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ มีอะไรก็บอกกันได้เลย อย่าด่ากันแรงนะครับ บอกได้ครับ ผมจะได้นำเอาไปพัฒนาตัวเองครับ