บทที่ 258 - ด้วยความยินดี (9) [07-01-2020]
บทที่ 258 - ด้วยความยินดี (9)”
มันคงจะเป็นการโกหกหากจะบอกว่าเขาไม่ได้ห่วงถึงความปลอดภัยของพ่อเขาเลย แต่ว่าคนที่เขาปกป้องไม่ได้จำกัดอยู่แค่พ่อเขาเท่านั้น ระหว่างการค้นหาพ่อของเขาและบันทึกต่างๆของพ่อ ยูอิลฮานได้จัดการกวาดล้างมอนสเตอร์ที่เกิดมาใหม่ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าหลังจากที่เขาไม่เจออะไรเลยเขาก็ได้แต่ยอมแพ้
"คุณพ่อน่าจะไม่เป็นไรหรอก ด้วยตัวตนของคุณพ่อที่เลือนลางทำให้ฉันมั่นใจในเรืองนี้!"
"นั่นมันทำให้ฉันเสียใจเหมือนกันนะ อย่าพูดถึงเรื่องตัวตนที่เลือนลางสิ โอเคนะ"
จุดหมายต่อไปก็คือที่ยาอุมิน ที่ที่แม่ของเขาน่าจะอยู่ เพราะแบบนี้ทำให้เขา...
"หืม?"
จู่ๆยูอิลฮานที่ตรวจสอบสกิลบันทึกอยู่ก็เอียงหัวออกมา เลียร่าก็เอียงหัวตามเช่นกัน
"มีอะไรหรออิลฮาน?"
"ไม่สิ โลกที่แม่อยู่คือที่นั่นแน่ๆ..."
โลกที่คิมเยซอลอยู่มีชื่อว่ายาอุมินแน่นอน หากว่ายูอิลฮานได้รับสิ่งของอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอ เขาก็จะสามารถแกะรอยบันทึกของเธอและมาที่ยาอุมินได้ และก่อนหน้านี้เขาก็ทำมาแล้วด้วย
"งั้นนายก็ไปเลยนะ"
"มันมีปัญหาอยู่"
ปัญหาก็คือมีบันทึกอยู่สองโลก หลังจากได้ยินแบบนี้เลียร่าได้อ้าปากกว้างถามออกมา
"สองโลก?"
"ใช่ สองโลก"
หนึ่งคือโลกที่มีชื่อว่า 'ยาอุมิน' แน่นอน เขาสามารถเจอบันทึกของคนอื่นๆบนโลกของเขาที่อยู่บนยาอุมินได้ แต่ปัญหาคือโลกอีกแห่งนั่นแหละ นี่นั่นไม่มีบันทึกของใครอีกเลยนอกจากคิมเยซอลที่อยู่ที่นั่น นี่มันแปลกมากๆ
"ทำไมครอบครัวนายถึงผิดปกติจังเลยนะ?"
"นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะถามเธอมากกว่านะ คุณอดีตทูตสวรรค์ พวกเธอทำงานกันยังไงถึงส่งแม่ฉันไปสองโลกเนี้ย?"
"มันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันเคยได้ยินเรื่องมาว่าคนๆหนึ่งจะถูกส่งไปแค่โลกเดียวเท่านั้น ถ้าเราส่งคนไปสองโลกได้ งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่นายจะต้องถูกทิ้งไว้เลยนี่"
เมื่อคิดได้แบบนี้ยูอิลฮานก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ก่อนที่ในที่สุดเราก็ได้ข้อสรุปออกมา
"งั้นพวกเราก็ไปมันทั้งสองโลกนั่นแหละ"
"งั้นเราจะไปที่ไหนกันก่อน?"
"ยาอุมิน เพราะฉันรู้สึกเหมือนว่าแม่ของฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น"
"ฉันก็คิดแบบนั้น"
ทั้งสองได้มองตากันและหยักไหล่ออกมา ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานข้ามมิติในทันทีที่เขาพร้อมแล้ว
ยาอุมินคือโลกที่มีพัฒนาการช้ามากๆ และแม้ว่าระยะเวลาที่โลกใบนี้จะได้สัมผัสมกับมานามาเป็นร้อยๆปีแล้ว แต่โลกใบนี้ก็เพิ่งจะเจอกับมหาภัยพิบัติขั้นที่ 2 เท่านั้นเอง ผู้คนสิบกว่าคนจากโลกของเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้อย่างสงบสุข
"นั่น โทรลมันกำลังไปทางเธอ"
"อย่าปล่อยมันมาสิ หยุดมันไว้! รอเดี๋ยวก่อน นายกำลังทำอะไรกับกับดักน่ะ!"
"ฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับยายแก่นั่นอยู่แล้ว ยื้อไว้ ยื้อไว้"
อารยธรรมที่นี่ใกล้เคียงกับยุคกลางและใช้ระบบการปกครองแบบมีปราสาทสาทและเมืองต่างๆ มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ต่างถูกจับอยู่ในดันเจี้ยนโดยที่ไม่อาจจะหนีออกมาได้ และมีนักผจญภัยและทหารรับจ้างไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปกวาดล้างดันเจี้ยน - นี่คือโลกที่สงบสุขอย่างแท้จริง เมื่อได้เห็นโลกแบบนี้เลียร่ารู้สึกประทับใจกับมันมาก
"ใช่เลย นี่แหละคือโลกที่ฉันฝันถึง ฉันอยากจะให้โลกของนายไปแบบนี้เหมือนกัน กองทัพสวรรค์ก็น่าจะต้องการแบบนี้แหละ!"
"หลังจากเห็นที่นี่ โลกฉันเหมือนกับสลัมไปเลยล่ะ"
เลียร่าหดหู่ใจขึ้นมาเมื่อเธอคิดย้อนกลับไปถึงในตอนเธอเป็นทูตสวรรค์ จริงๆแล้วสิ่งที่เธอได้เจอหลังจากการมาเป็นทูตสวรรค์มันไม่ได้บริสุทธิ์สวยงามเลย การต่อสู้กับกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอื่นๆเป็นเรื่องยากลำบากและน่ารำคาญมากๆ... แต่ถึงแบบนั้นกองทัพสวรรค์ที่เธอฝันถึงคือองค์กรที่สู้เพื่อสร้างโลกแบบนี้นี่แหละ
"พระเจ้ามีอยู่จริงไหมนะ? แล้วพระเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่กัน?... เขาไม่สนเลยสักนิดงั้นหรอว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมนุษย์?... ฉันเป็นคนที่ได้เลือกคำตอบออกมาในขณะที่คนอื่นๆในกองทัพสวรรค์ไม่ได้สนใจคำตอบกันใช่ไหม?"
"..."
ยูอิลฮานได้จับมือของเลียร่าเอาไว้ เลียร่าคือคนที่มีความสำคัญกับเขามากกว่าใครทำให้เขาเลือกอยู่ข้างๆเธอเงียบๆ
เลียร่าก็ได้บีบมือเขาแน่ด้วยความเข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งสองคนได้อยู่แบบนี้เฝ้ามองดูมนุษย์ร่วมมือกันฆ่าโทรลไปสักพักหนึ่ง
ยูอิลฮานได้เฝ้ามองดูปาร์ตี้ที่ล่าโทรลได้สำเร็จและเอาซากโทรลกลับมา ก่อนที่เขาจะเริ่มไปค้นหาบันทึกของแม่เขาต่อ และเขาก็ได้เจอกับบันทึกของแม่เขาอย่างง่ายดาย
"โอ้ แม่อยู่ที่นี่จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อน"
"นายบอกว่า 3 ปีก่อนสินะ"
"ใช่แล้ว"
นั่นคือช่วงเวลาที่โลกของเขาได้ขับไล่มนุษย์ทุกๆคน
"แล้วเธอรู้ไหมว่ามีอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่านี้อีก?"
"เมื่อไหร่ที่นายพูดคำว่า 'น่าสนใจ' มักจะมีเรื่องน่าปวดัวตามมาเสมอเลย... ยังไงก็ตามมันคืออะไรล่ะ?"
"ในตอนแรกที่แม่มาที่โลกใบนี้ แม่ไม่ได้มาจากโลกของฉันนะ แต่ว่าแม่มาจากโลกใบอื่น"
"แม่ของนายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงงั้นหรอ?"
"ไม่หรอก แม่น่ะเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำนั่นแหละ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำจนกระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนล่ะนะ"
ยูอิลฮานเข้าใจว่าเลียร่าอยากจะถามอะไร ยังไงก็ตามเรื่องน่าสนใจของเขาจะยังไม่หมดลง
"ดูเหมือนว่าแม่จะมาที่นี่ด้วยอาร์ติแฟค และดูเหมือนอาร์ติแฟคนั่นจะเป็นของพวกสวนอาทิตย์อัสดงด้วยนะ"
"ด้วยอาร์ติแฟคสินะ?"
"ใช่แล้ว"
ยูอิลฮานได้หยิบเอาเครื่องรับส่งสัญญาณที่เลอซิดน่าได้ทิ้งเอาไว้ออกมาและยิ้มขึ้น
"ดูเหมือนจะเป็นไอเทมที่เหมือนกับเจ้านี่ล่ะ"
"..."
ตอนนี้ยูอิลฮานกำลังยิ้มขึ้นมา เขากำลังคิดอะไรในหัวกันนะ - เลียร่าอดไม่ได้ที่จะเป็นหัวเขาและถามออกมา
"นายกำลังจะทำอะไร?"
"ฉันก็กำลังหาแม่ไง ไปหาแม่แล้วก็ถามเธอ"
"ถามคุณพ่อ... แล้วจากนั้นล่ะ?"
"...เฮ้อ มันคงจะเจ็บปวดน่าดูหากว่าแม่ร่วมมือกับสวนอาทิตย์อัสดงจริงๆ"
สวนอาทิตย์อัสดงคือกลุ่มที่น่ารำคาญจริงๆ เขาไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังจะทำอะไร ไม่รู้ว่าพวกนั้นวางแผนที่จะทำอะไรด้วย เขาไม่เคยคิดเลยว่าแม่ของเขาจะเกี่ยวข้องกับกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูง และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
"อิลฮาน แค่เพราะอยู่ในกองกำลังนั้นไม่ได้หมายความว่าทุกๆคนจะมีความคิดเหมือนกันหรอกนะ ดูฉันกับเอิลต้าเป็นตัวอย่างสิ พวกเราทั้งคู่มาจากกองทัพสวรรค์ บางทีสมาชิกของสวนอาทิตย์อัสดงที่แม่นายเจออาจจะเป็นคนดีก็ได้"
"ฉันก็หวังแบบนั้นนะ... ยังไงก็ตามฉันหวังว่าแม่จะปลอดภัย"
ยูอิลฮานได้มองดูสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและบันทึกทั้งหมดบนโลกยาอุมิน แต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะหาร่องรอยอื่นๆของสวนอาทิตย์อัสดงได้อีกเลย ถึงแบบนั้นเขาก็ได้บันทึกบางอย่างมาอยู่นั่นก็คือสมาชิกสวนอาทิตย์อัสดงที่พาคิมเยซอลมาที่โลกใบนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย เขาคนนั้นแค่จากไปเฉยๆ มันดูเหมือนว่าเป้าหมายของคนๆนั้นมีแค่พาแม่เขามาที่นี่
"โอเค ถ้างั้นก็ไปโลกที่สองกัน"
"โอเค"
ยูอิลฮานได้ตั้งสติกลับมาและเปิดใช้งานสกิลข้ามมิติอีกครั้งหนึ่ง สกิลนี้ได้ถูกเปิดใช้งานสำเร็จและนำเขาไปที่โลกใบใหม่
ที่นี่ในโลกนี้คือ 'ความโกลาหล'
[มีคนเร่ร่อนมาใหม่ล่ะ]
[โอ้ จริงด้วย เจ้าพวกนี้หลงทางอยู่เหมือนกันสินะ]
[เดี๋ยวสิ ฉันรู้สึกได้ถึงออร่าคุ้นๆจากเด็กนี่]
โลกใบนี้ไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่าท้องฟ้ากับพื้นดิน ทะเลกับผืนดิน และระหว่างชีวิตและความตาย
นี่คือโลกที่ไม่มีความก้าวหน้าและไม่มีความถดถอย ที่นี่เป็นแค่โลกที่หมุนวนไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบเท่านั้น
[นายมาจากไหนกันนะ?]
[มาจากไหนหรอๆ?]
พวกนี้คือสิ่งที่มีร่างกายกึ่งโปร่งแสงที่เรืองแสงออกมาออกมา ตามมาตราฐานของชาวโลกแล้วสิ่งพวกนี้จะถูกเรียกว่า 'จิตวิญญาณ' หรือ 'ภูติ' - เจ้าพวกนี้ได้บินวนไปมาพร้อมถามยูอิลฮานขึ้น
ยูอิลฮานได้แต่มองไปที่โลกที่มีแสงสีนับไม่ถ้วนและพูดออกมาเบาๆ
"ฉันยูอิลฮาน ฉันมาจากโลก ที่นี่มีคนชื่อ 'คิมเยซอล' ไหม?"
[แบบนี้นี่เอง เขาคือลูกของเยซอลล่ะ]
[เขาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย โอ้ เขามีเลือดของสวนอาทิตย์อัสดงบนตัวเขาด้วยล่ะ]
[นอกไปจากนี้เขายังเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำด้วยนะ]
[น่าสนใจจังเลย ฉันจะตอบนายนะ เยซอลอยู่ที่นี่แหละ]
ได้มีภูติจำนวนมากขึ้นบินมาวนรอบตัวยูอิลฮานกับเลียร่า อย่างแรกยูอิลฮานได้เปิดใช้งานบันทึกดูดเอาข้อมูลทั้งหมดจากสิ่งรอบตัวเขาเข้ามา และเนื่องจากว่าทุกๆอย่างรอบตัวในตอนนี้คือสิ่งใหม่ๆทั้งนั้นทำให้เลเวลของสกิลบันทึกของเขาเพิ่มขึ้น 5 เลเวลในทันที
[เขากำลังอ่านพวกเราล่ะ]
[เขาคือคนที่ 5]
[เขาคือคนที่น่าจะกลายเป็นเทพองค์ที่ 5]
ยูอิลฮานอดไม่ได้แล้วที่จะถามออกมา
"ฉันคิดว่าพวกนายกำลังจะบอกว่าฉันจะสร้างกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกองกำลังที่ 5 สินะ แต่ว่าทำไมพวกนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ?"
[ซัคคิวบัสนั่นไง ถ้านายถามเธอ เธอก็น่าจะใจดีตอบนายนะ]
"อะไรนะ!? โอ้ พวกนายมีจิตวิญญาณของเธองั้นหรอ!"
"อ่า จริงด้วย ฉันเข้าใจแล้ว แต่ว่านะ..."
ความจริงคือยูอิลฮานมีจิตวิญญาณของซัคคิวบัสอยู่ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาเชี่ยวชาญสกิลผู้สะสมความตายแล้วทำให้เขามีสัดส่วนได้รับจิตวิญญาณมาค่อนข้างมาก ยังไงก็ตามเขาได้เก็บจิตวิญญาณของเธอไว้ในส่วนลึกในใจเขาเพราะเขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอ
[สวนอาทิตย์อัสดง กองทัพสวรรค์ กองทัพจรัสแสง กองทัพปีศาจวิบัติ]
[ทั้งสี่กองกำลังนี้ได้สร้างสมดุลขึ้นมา แต่ว่านายจะกลายเป็นคนที่ห้า]
[นายคือคนที่จะเติมเต็มทุกๆเงื่อนไข]
[สมดุลจะพังทลายลง และเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น]
"ฉันอยากจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนะ แต่ว่า... สงครามที่พวกนายพูดถึงนี่"
ยูอิลฮานได้หยักไหล่ออกมา เขาแค่อยากที่จะมีชีวิตสงบก็เท่านั้นแหละ ในก่อนหน้านี้เขาพอใจกับการใช้ชีวิตคนเดียวอย่างสงบสุข แต่ในตอนนี้เขามีคนจำนวนเพิ่มมากขึ้นที่มาอยู่ในรั้วบ้านของเขา
"นั่นมันไม่ได้หมายความว่ามีการรับประกันมากๆเลยหรอว่ายูอิลฮานจะได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง? ตอนนี้มั่นใจขึ้นมาอีกนิดแล้ว"
"เยี่ยม เลียร่า ฉันจะเรียนรู้ความคิดแง่บวกจากเธอนะ แล้วก็นับจากนี้จะปล่อยความกังวลทิ้งไป"
เขาไม่ใช่คนที่จะลังเลที่จะก้าวต่อเพราะแค่กลัวอุปสรรค ไม่ว่ามันจะเป็นสงครามห้าฝ่ายหรืออะไรก็ตาม เขาไว้ค่อยคิดถึงมันเมื่อถึงเวลาก็พอแล้ว ยูอิลฮานได้ตัดสินใจที่จะหยุดคิดเอาไว้แค่นี้
ในตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการไปหาแม่ของเขา
[สกิลบันทึกได้กลายเป็นเลเวล 62]
"เจอแล้ว ไปกันเถอะ"
"อ่า โอเค"
[ขอให้พรแห่งความโกลาหลอยู่กับนาย]
[เยซอลได้หยุดอยู่กับโลกใบนี้ ช่วยพาเธอไปกับนายด้วยนะ]
ภูติไม่ได้ตามเขามา พวกภูติเอาแต่โยนคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นทั้งคำอวยพรและคำสาปออกมา ยูอิลฮานได้รีบไปตามทางของเขาโดยที่ไม่สนใจตอบกลับไป
ขนาดของโลกใบนี้ยากที่จะทำความเข้าใจมาก และที่นี่ก็ยังยากที่จะแยกแยะความต่างของระยะทาง ทั้งคู่ได้เดินผ่านท้องฟ้าเหมือนกับเดินบนพื้นและเมื่อตามรอยมาเรื่อยๆ พวกเขาก็ได้มาถึงสถานที่ที่มีความแตกต่างระหว่างรูปธรรมกับนามธรรมอยู่
"อ่า ที่นี่แหละ"
แม่ของยูอิลฮาน คิมเยซอลได้นั่งอยู่บนก้อนหินมองลงไปที่ผิวน้ำในระหว่างที่เธอควบคุมมานาอยู่ ได้มีฟองน้ำลอยขึ้นมาจากผิวน้ำตามมานาของเธอด้วยความเร็วที่ต่างกัน
"โอ้"
ยังไงก็ตามเมื่อคิมเยซอลรู้ถึงการมาของยูอิลฮานกับเลียร่า ฟองน้ำก็ได้หมดแรงและหล่นลงไปบนผิวน้ำ
"ถูกเจอตัวแล้วสิ"
"ผมดีใจนะครับที่แม่ปลอดภัย"
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาแห้งๆเมื่อเขาได้เห็นแม่ของเขาดูเด็กกว่าเดิมประมาณ 5 ปีหรือมากกว่านั้น ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าแม่ของเขายังไม่ถึงคลาส 4 แต่ว่าเมื่อเห็นสิ่งต่างๆในตอนนี้เขาคิดว่าความคิดนั่นเหลวไหลมาก
"ลูกแม่ ลูกแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนะ"
"แม่อยู่ในสภาพแบบนี้ตลอดเวลาเลยหรอครับ?"
"อืมม ชัดเจนว่า... การเจริญเติบโตของแม่ได้หยุดลงไปนานแล้ว หลังจากนั้นแม่ก็ได้อยู่ในสภาพวนลูปไม่รู้จบแบบนี้"
คิมเยซอลได้ยิ้มขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วนและหยักไหล่ขึ้นมา ยูอิลฮานก็ทำได้แต่ยิ้มกลับคืนไป
เธอในตอนนี้คือคลาส 4 ที่มี่เลเวลอยู่ที่ 299