ตอนที่แล้วGE243 แผ่นหลังของบรรพบุรุษอสูร [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE245 มือสังหารลู่เป่ย [ฟรี]

GE244 ครองทะเลตะวันออก เอาชัยทะเลเหนือ [ฟรี]


หนิงฝานก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น แต่ละขั้นทำให้ร้านสั่นสะเทือน

ความองอาจและกลิ่นอายที่ทรงพลัง ทำให้ไม่มีอสูรตนใดกล้ายั่วยุ

สิ่งที่เกิดขึ้นช่วยให้หนิงฝานไม่ต้องบาดหมางกับฮั่วเฉิน เพราะมันเองก็นับถือในตัวหนิงฝาน

“ลู่เป่ย… คนผู้นี้ไม่อาจยั่วยุ”

หนิงฝานไม่ได้ใสใจกับอสูรตนอื่น หลังจากก้าวขึ้นบันได เรารู้สึกราวกับถูกตัดขาดจากภายนอก ไม่ได้ยินกระทั่งเสียงของสายลม

ระฆังทะเลตะวันออกยังคงดังกังวาลอยู่ในห้วงความคิดของหนิงฝาน และมันก็เปล่งแสงสีทอง

เสียงระฆังของมันแฝงด้วยพลังตรึงร่าง จนแทบจะทำให้หนิงฝานไม่อาจก้าวเดินได้ต่อ

“ระฆังทะเลตะวันออก”

หนิงฝานพยายามก้าวเดินไม่หยุด

ระฆังทะเลตะวันออก สมบัติแห่งทะเลตะวันออกบนแดนสวรรค์ ดูราวกับมีปฏิกริยากับสถานที่แห่งนี้

มันเกี่ยวข้องอะไรกับเผ่าอสูร...

ร้านอาหารแห่งนี้ได้รับการสร้างและออกแบบมาเป็นอย่างดี ข่าวลือว่า ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป ข่ายอาคมสร้างแรงกดดันเป็นฝีมือของบรรพบุรุษอสูร ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรู

และข่ายอาคมนี้ เกี่ยวข้องกับระฆังทะเลตะวันออก

เดิมทีหนิงฝานตั้งใจจะมุ่งไปยังชั้น 10 เพื่อชิง 5 หมื่นแต้ม แต่ดูเหมือนยามนี้ เขาต้องหาความเกี่ยวโยงระหว่างข่ายอาคมกับระฆังทะเลตะวันออกก่อน

หนิงฝานมุ่งขึ้นไปชั้น 6 เมื่อไปถึง เขายืนนิ่งเล็กน้อย ยามนี้เสียงระฆังได้เงียบไปแล้ว

เขาหันมองมู่เซียวหวนพลางพานางขึ้นไปบนชั้น 7 ที่ชั้นนี้ เสียงระฆังดังขึ้น

เสียงระฆังดังกังวลาไม่หยุด เสียงนั้นราวกับกระตุ้นจิตใจของหนิงฝาน เจตนาสังหารที่สั่งสมในร่างทั้งหมดถูกปลดปล่อยราวกับเสียการควบคุม

เจตนาสังหารที่แผ่ออกจากร่างแปรเปลี่ยนเป็นแรงกดดัน

เขาพยายามประครองสติเฝ้าสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้ดูเหมือนแรงกดดันจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปราณอสูรหนิงฝานเทียบได้กับอสูรดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แรงกดดันในยามนี้ อยู่ในระดับเดียวกับปราณ

แรงกดดันยังคงยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งบรรลุระดับกึ่งตัดวิญญาณ

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง กลายเป็นว่าระฆังทะเลตะวันออกทำให้แรงกดดันของเขายกระดับได้

“ถ้าระฆังทะเลตะวันออกสามารถเปลี่ยนเจตนาสังหารให้กลายเป็นแรงกดดันได้ บางทีหากแรงกดดันยกระดับเพิ่มพูน อาจทำให้ข้ามีแรงกดดันเทียบเท่าเซียน!”

“แต่ทำไมคราวนี้ระฆังทะเลตะวันออกถึงเปลี่ยนไป เสียงของมันคล้ายกับเวลาเคล็ดความของวิชาอสูรที่ช่วยยกระดับแรงกดดัน… แรงกดดันที่ข่ายอาคมของร้านอาหารก็มีแบบแผนมาจากวิชาอสูร… บางทีมันอาจเป็นตัวกระตุ้นความสามารถของระฆังทะเลตะวันออกก็ได้”

“ยามนี้มันมีความสามารถ ต้านพลังมิติ ตรึงร่าง และยกระดับแรงกดดัน… ระฆังทะเลตะวันออกไม่ธรรมดาจริงๆ สมควรเป็นสมบัติของอสูรโบราณ!”

หากเป็นในอดีต หนิงฝานจะไม่กล้าแสดงระฆังทะเลตะวันออกต่อหน้าผู้ใด แต่เมื่อได้ทราบความลับของมัน เขายิ่งรู้ว่าไม่ควรจะนำมันออกมาแสดงต่อหน้าเผ่าอสูร

“ถ้าเสร็จเรื่องนี้ ข้าต้องเร่งไปหอคอยอสูรเพื่อศึกษาอักษรของเผ่าอสูร ช่วยยกระดับและกระตุ้นระฆังทะเลตะวันออกอย่างถูกวิธี….”

เมื่อได้ข้อสรุป หนิงฝานก็เร่งก้าวเดินต่อไป

ระฆังยังคงเพิ่มพูนแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงระฆังที่ยังดังไม่หยุด

เมื่อหนิงฝานขึ้นไปถึงชั้น 8 แรงกดดันที่รุนแรงของเขาผสานกับเจตนาสังหาร แผ่กระจายไปทั่วทั้งตึกจนทำให้ผู้ที่อสูรชั้น 5 ต้องทรุดเข่าลงกับพื้น ไม่อาจเคลื่อนไหว

“นี่มันแรงกดดันขอบเขตตัดวิญญาณ” ลู่เฉิงตกตะลึง

มันรู้ว่าระดับพลังหนิงฝานอยู่เพียงดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่ปราณทรงพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด

ยามนี้แรงกดดันของหนิงฝานเพิ่มพูนจนถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น และดูเหมือนจะทรงพลังยิ่งกว่าของลู่เฉิง

“ช่างเป็นเด็กที่ไม่ธรรมดา หากไม่ได้เย่าหยวนรายงานข้า ข้าเองก็คงไม่ทราบถึงการคงอยู่ของเด็กคนนี้… แรงกดดันของเด็กนั่นกำลังเพิ่มพูน แต่ชั้น 9 สมควรเป็นขีดจำกัดแล้ว”

ลู่เฉิงไม่อยากเสียผู้ที่มีพรสวรรค์เหมือนหนิงฝานไป ยามนี้ยังไม่สมควรขึ้นไปถึง 10 แต่หากปลุกโลหิตได้สำเร็จ สมควรขึ้นไปชั้น 10 ได้ไม่ยาก

“ลงมาได้แล้ว ถึงเจ้าจะขึ้นไปไม่ถึงชั้น 10 ก็ไม่เป็นไร ข้าจะให้แต้มเจ้า 5 หมื่น!”

มันต้องการเพียงทดสอบพลังของหนิงฝาน และยามนี้มันก็ทำได้สำเร็จแล้ว

ต่อให้ไปไม่ถึงชั้น 10 มันก็ยังให้ 5 หมื่นแต้ม ถือเป็นสิ่งล่อใจผู้มีพรสวรรค์อย่างหนิงฝาน

นายกองอสูรคือผู้ที่ปกครองดินแดน พวกมันย่อมต้องการทหารที่มีฝีมือ และลู่เป่ยในยามนี้ คือยอดทหารที่เหนือกว่าทหารทุกคนของมัน และคู่ควรให้มันคบหาเป็นสหาย

คำกล่าวของมัน ทำให้อสูรตนอื่นๆที่อยู่ในร้านตกตะลึง

เพราะนอกจากใจกว้างกับลู่เป่ยแล้ว ยังบอกเป็นนัยว่ามันให้ความสำคัญกับลู่เป่ยมาก หากใครกล้ายั่วยุ ก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน!

หนิงฝานที่อยู่ชั้น 8 ได้ยินเสียงของลู่เฉิง แต่เขาไม่สนใจ

เขายืนนิ่ง กุมมือน้อยๆของเซียวหวน หลับตาปิดประสาทสัมผัสทั้งหมด

เจตนาสังหารผสานกับความสามารถระฆังทะเลตะวันออก ทำให้แรงกดดันของหนิงฝานเพิ่มพูนไปจนถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น แต่การจะให้แรงกดดันบรรลุระดับต่อไปนั้น เจตนาสังหารในยามนี้ยังไม่พอ

สังหารผู้เชี่ยวชาญวงจิตแรกเริ่ม สังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ

“ปราณปีศาจ! มีเพียงปราณปีศาจที่จะช่วยเรายกระดับ ! ข้าต้องสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณสักคน เพื่อยกระดับปราณปีศาจ”

หนิงฝานนำขวดหยกออกมาจากระเป๋าแล้วบีบจนแตก เขาเร่งเอื้อมมือไปคว้าดวงจิตไว้แล้วกินเข้าไป

ดวงจิตที่หนิงฝานกินเข้าไปคือรองประมุขแห่งนิกายพระทมิฬ

เมื่อดวงจิตถูกดูดกลืน ปราณปีศาจจำนวนมากในดวงจิตของมันก็ถูกดูดซับ

หนิงฝานเริ่มก้าวเดินต่อไปยังชั้น 9 ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหนิงฝานกินอะไรเข้าไป แต่ปราณปีศาจที่รุนแรงกลับแผ่ออกจากทั่วร่างหนิงฝาน

ปราณปีศาจที่ทรงพลังทำให้ลู่เฉิงสั่นสะท้าน

“ปราณปีศาจ? เด็กนี่เป็นเพียงอสูรดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น เป็นไปไม่ได้ที่มันจะสังหารอสูรตัดวิญญาณ… แต่มันมีปราณปีศาจมากขนาดนั้นยังไง”

ลู่เฉิงเชื่อว่าลู่เป่ยจะขึ้นไม่ถึงชั้น 10 แต่ยามนี้หนิงฝานยังก้าวไปยังชั้น 9 อย่างต่อเนื่อง!

เสียงระฆังดังแรงขึ้น

เมื่อขึ้นไปเกือบจะถึงชั้น 9 แรงกดดันที่รุนแรงเทียบเท่าขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางกดทับใส่ร่างหนิงฝาน จนทำให้ทะเลสติได้รับความเสียหาย โลหิตไหลรินที่มุมปาก

ยามนี้ จะก้าวเดินต่อไปช่างยากเย็นราวกับปีนป่ายขึ้นสวรรค์

แรงกดดันระดับนี้ หากเป็นลู่เฉิงคงไม่อาจต้านทาน แรงกดดันคงกระแทกร่างของมันจนปลิว แต่หนิงฝานในยามนี้ เพียงมีโลหิตไหลรินที่มุมปากเท่านั้น

ลู่เฉิงขมวดคิ้วแน่น ยิ่งเห็นลู่เป่ยยามนี้ มันก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ที่ชั้น 5 บรรยากาศเงียบสงัด ไม่มีผู้ดใกล้าส่งเสียง เพราะกลัวจะรบกวนลู่เป่ย

ยามนี้ หนิงฝานรู้สึกราวกับแบกบางสิ่งที่หนักมากเอาไว้ ยากจะก้าวเดิน แต่เหล่าอสูรที่มองแผ่นหลังหนิงฝาน กลับรู้สึกราวกับเขาเป็นขุนเขาตระหง่าน โดยที่พวกมันเป็นเพียงมดที่แหงน ไม่อาจบรรลุถึงจุดนั้นได้

อีกเพียงก้าวเดียว หนิงฝานจะขึ้นถึงชั้น 9

แววตาหนิงฝานหนักแน่นเด็ดเดี่ยว เขาฝืนก้าวเท้าเหยียบชั้น 9 ร้านอาหารเกิดเสียงปริแตกราวกับกำลังจะถล่ม

ปราณปีศาจภายในร่างกำลังถูกดูดซับและแปรเปลี่ยนเป็นแรงกดดันอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก แรงกดดันที่รุนแรงกว่าครั้งก่อน ได้ปะทุออกจากร่างหนิงฝาน ลู่เฉิงเร่งเข้าป้องกันบุตรสาว รับมือกับแรงกดดันจนต้องล่าถอยไปหลายก้าว เมื่อหยัดยืนมั่นคง สีหน้าของมันก็แปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง! เด็กนี่...ปราณอยู่เพียงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่แรงกดดันกลับบรรลุถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง!”

แรงกดดันระดับนี้ มีเพียงนายกองใหญ่ของเผ่าลั่วหยุน ลู่ตู้เฉิน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางเท่านั้นที่มี!

“เด็กนี่คือผู้มีพรสวรรค์ที่หมื่นปีจะปรากฏ สมบัติวิเศษมาเยือนเผ่าเราแล้ว! ข้าจะไม่ให้ใครทำร้ายเขาเด็ดขาด! หากยามปลุกโลหิตอสูร ลู่ซ่งหยุนกล้าทำอันตรายเขาแม้แต่นิดเดียว ข้าจะฆ่ามันยกครัว!”

เมื่อได้แรงกดดันในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางมาครอง หากไม่นำเซียวหวนมาด้วย หนิงฝานย่อมสามารถขึ้นไปยังชั้น 10 ได้

แม้ปากจะกล่าวว่าชั้น 9 ก็พอ แต่ลู่เฉิงก็ภาวนาให้หนิงฝานขึ้นไปถึง 10 ได้สำเร็จ

แต่ยามนี้ ปราณปีศาจในร่างหนิงฝานได้ถูกดูดซับจนหมด แรงกดดันของเขาไม่ยกระดับขึ้นอีก

ด้วยที่หนิงฝานทำในสิ่งที่มันคาดไม่ถึงหลายครั้ง ทำให้ลู่เฉิงคิดว่าหนิงฝานคงมีทางออกสักทางที่จะไปให้ถึงชั้น 10

“เด็กนั่นกำลังจะขึ้นต่อ...”

ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของหนิงฝาน คือการนำเซียวหวนมาด้วย

หนิงฝานยังคงยืนนิ่ง เสียงระฆังดังกังวาล ราวกับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงของคนผู้หนึ่งที่กำลังกล่าวบางสิ่ง

“นั่นใคร?” หนิงฝานไม่รู้ว่ามีใครอยู่ที่นี่ แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาจะใช้สร้อยหยินหยางป้องกัน

“แค่ชั้น 9 ก็ได้ 5 หมื่นแต้ม แต่ข้าจะไปให้ถึงชั้น 10 โดยไม่พึ่งพาสร้อยหยินหยาง!”

หนิงฝานจำต้องให้เซียวหวนถอยห่างไปก่อน

เมื่อนางออกห่างกายหนิงฝาน จู่ๆเสียงระฆังก็ดังขึ้นกว่าเดิม และมีเสียงของคนแทรกมา

“ข้าคือบรรพบุรุษอสูร… เจ้าได้วิชาตรึงสวรรค์ไปแล้ว ได้วิชาป้องกันไปแล้ว… ยามนี้ ข้าจะถ่ายทอดวิชาลับดวงจใจให้ ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดความเพียงครั้งเดียว หากเสียงระฆังหยุดลง วิชาก็จะหายไปทันที!”

หนิงฝานตกตะลึง!

บรรพบุรุษอสูร?

ดูเหมือนระฆังทะเลตะวันออกนี้ จะเป็นสมบัติของอสูรโบราณ โดยที่มีวิชาของบรรพบุรุษอสูรอยู่ในนั้น

หนิงฝานไม่รู้ว่าวิชาลับดวงใจแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขารู้ว่าไม่ธรรมดา จึงตั้งใจรอฟังเคล็ดความ

“ข้าจะถอยไม่ได้! ก่อนระฆังจะหยุด ข้าจะต้องเอาวิชาลับดวงใจมาให้ได้ ข้ามีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น”

หนิงฝานสงบใจ กุมมือเซียวหวนอีกครั้ง และเริ่มพานางเดินขึ้นไปยังชั้น 10

“เขาจะไปชั้น 10 แล้ว!” ลู่เฉิงดวงตาเบิกกว้าง มันเดาไม่ออกว่าหนิงฝานใช้วิธีการอะไร

บันไดแต่ละขั้นที่นำไปยังชั้น 10 แฝงด้วยแรงกดดันในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง จนทำให้หนิงฝานยากจะป้องกัน

แต่หากเผยหน้ากับอสูรตัดวิญญาณขั้นสูง หนิงฝานไม่มีทางรอด

กระตุ้นสร้อยหยินหยาง? ไม่ หนิงฝานอยากทนด้วยตัวเอง จึงตั้งใจฟังเคล็ดความเป็นอย่างดี

ไม่นานหนิงฝานก็เริ่มเดินต่อ

ก้าวแรกเขารู้สึกราวกับเส้นลมปราณกำลังจะฉีกขาด

ผ่านไป 10 ก้าว เขารู้สึกราวกับกระดูกกำลังจะหัก

ผ่านไป 100 ก้าว เขารู้สึกราวกับดวงจิตแรกเริ่มกำลังจะแตก

สีหน้าหนิงฝานซีดขาว แต่เขาจะไม่หันหลังกลับ

ยามนี้ เสียงเคล็ดความค่อยๆเบาลง

หนิงฝานรู้สึกราวกับตนเองอยู่ในห้วงมิติ มีผู้เยาว์ในชุดคลุมทองยืนตระหง่าน

แววตาหนักแน่นราวกับเป็นเซียน

จู่ๆหนิงฝานก็ตระหนักว่า วิชาตรึงร่างที่ตนเองนำมาจากระฆังนั้น มีบางสิ่งที่ตนเองยังไม่อาจเข้าใจ

แต่ในชั่วลมหายใจนั้นหนิงฝานกลับคิดบางอย่างออก

เมื่อยามที่ใช้วิชาตรึงร่าง หนิงฝานใช้ปราณบีบอัดในกลายเป็นเส้นใยขนาดเล็ก มัดร่างของศัตรูไว้ นั่นคือวิธีที่ผิด

หนิงฝานย้อนนึกถึงยามที่ตนยังเป็นเด็ก เข้าไปหาสมุนไพรในป่า และยามนั้น เขาก็เห็นหมาป่าตัวหนึ่ง

ดวงตาของมันเป็นสีเขียวเข้มราวกับเต็มไปด้วย ‘เว่ย’ และเว่ยนั้นทำให้หนิงฝานหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ

ซึ่งนั่นคืออีกส่วนของวิชาตรึงสวรรค์

นั่นหมายความว่า การจะตรึงร่างศัตรูไม่ได้ใช้แค่ปราณ แต่ต้องทำให้จิตใจของอีกฝ่ายหวาดกลัวด้วย

“วิชาเว่ยฉือ...”

เมื่อหนิงฝานเข้าใจอย่างถ่องแท้ แรงกดดันที่เข้าห้อมล้อมตัวหนิงฝานได้ถูกผลักออกไป

ดวงตาหนิงฝานเปล่งแสงสีทอง ปากขมุบขมิบราวกับกำลังร่ายเคล็ดความ...วิชาดวงใจ!

ยามนี้ หนิงฝานเห็นผู้เยาว์ในอาภรณ์ทองคำที่ตนเห็นเมื่อครู่

มันยิ้มอย่างภาคภูมิ ราวกับครอบครองพลังที่บดขยี้โลกพิรุณได้ง่ายๆ

“ครองทะเลตะวันออก เอาชัยทะเลเหนือ!”

เจตนาสังหารที่น่าสะพรึงกลัวของผู้เยาว์คนนั้นประทุ ปราณอสูรที่ทรงพลังเปลี่ยนให้จันทรากลายเป็นสีโลหิต

พลังแห่งจันทราถูกดึงดูดเข้าสู่ร่างผู้เยาว์อาภรณ์ทอง หากปลดปล่อยมันออกมา สมควรเป็นพลังที่ไร้ผู้ต้าน

“สวรรค์ พิภพ จันทรา… สายลม และ พิรุณล่อง!”

ดวงตาที่เปล่งแสงสีทองของหนิงฝานค่อยๆสู่ปกติ

ยามนี้ หนิงฝานพบว่าตนเองอยู่ห่างจากชั้น 10 เพียงก้าวเดียวเท่านั้น!

หนิงฝานยังไม่ได้ก้าวเดินต่อ เขากำลังขบคิดบางสิ่ง

ผุ้เยาว์ในอาภรณ์ทองคำสมควรเป็นบรรพบุรุษอสูร… แรงกดดันของอีกฝ่ายช่างทรงพลังนัก

วิชาดวงใจแบ่งออกเป็น 4 วิชาย่อย ‘ทำลายทะเลตะวันออก’ ‘ช่วงชิงสวรรค์’ ‘ครองจันทรา’ และ ‘ย่างไปในมิติ’

“บรรพบุรุษอสูร...”

หนิงฝานก้มมองมือของตนที่เปล่งแสงสีทอง

แสงสีทองนี้คือตัวแทน ‘เว่ย’ ของบรรพบุรุษอสูร!

แสงสีทองนี้เป็นสิ่งที่สามารถหล่อเลี้ยงแรงกดดัน ทำให้มันยกระดับได้รวดเร็วยิ่งกว่าปราณปีศาจอยู่หลายเท่า

ดวงตาหนิงฝานเปล่งประกาย ดูดซับเอาแสงสีทองและก้าวขึ้นสู่ชั้นที่ 10

ชั่วพริบตาที่เท้าสัมผัสพื้นชั้น 10 แรงกดดันของเขาก็บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงพอดี!

หนิงฝานสามารถต้านแรงกดดันจากร้านได้โดยไม่ต้องใช้สร้อยหยินหยาง

ด้านหลังหนิงฝานปรากฏเงาร่างสีทอง ใบหน้าพร่ามัวมองไม่ชัด พร้อมกับร้านอาหารที่เริ่มพังทะลาย

“ลู่เป่ยขึ้นไปถึงชั้น 10 ได้สำเร็จ! เด็กนี่เป็นปีศาจชัดๆ หากข้ามองไม่ผิด แรงกดดันของมันบรรลุตัดวิญญาณขั้นสูง แต่ที่ไม่น่าเชื่อกว่านั้น คือเงาร่างสีทอง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แย่งแยกที่ 3 เทพกษัตริย์เงา!”

“แม้จะเป็นเพียงอสูรดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่กลับบรรลุวิชาของเทพกษัตริย์เงาได้… ในอนาคตเด็กนั่นต้องบรรลุไร้แบ่งแยกแน่นอน… เมืองลั่วหยุนกำลังจะมีอสูรที่โดดเด่นแล้ว!”

การได้เปิดหูเปิดตาเช่นนี้ แม้ต้องแลกด้วยร้านอาหารที่พังทะลายก็ไม่นับเป็นอันใด

เพราะผู้ที่ทำให้ร้านอาหารพังได้ คือผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

“ข้าขอประกาศ… จากนี้ไป ลู่เป่ยคือทหารอันดับหนึ่งของเมืองทะเลทรายทางเหนือ มีกองทหารใต้บังคับบัญชาหมื่นตน สามารถสั่งเปิดฉากทำสงครามได้ นอกจากนี้ ยังได้แต้ม 5 หมื่นจากข้า!”

ลู่เฉิงประกาศลั่น

ในอนาคต เมืองทะเลทรายแห่งนี้ต้องยิ่งใหญ่

เรื่องที่น่ายินดีเช่นนี้ต้องประกาศให้ทั้งเผ่าได้รับรู้!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด