ตอนที่แล้วบทที่ 3 อีกนิดก็จะเกิดเรื่องแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 สาวงามเป็นเหตุ

บทที่ 4 ปรมาจารย์ขั้นแปด


ตอนที่ 4 ปรมาจารย์ขั้นแปด

เขาไม่รู้ว่าการอ่านในโลกออนไลน์นั้นพัฒนาขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ตระหนักถึงลิขสิทธิ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างจริงจัง แต่เจียงป๋ายเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นใหม่ อาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นการบุกเบิกความสำเร็จตามธรรมชาตินั้นดีกว่าสิ่งที่เขาคิดโดยไม่รู้ตัวหลายครั้ง

"ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย ได้รับชื่อเสียงเป็นครั้งแรก ได้รับคะแนนเกียรติยศไป12คะแนน"

ในขณะที่เจียงป๋ายถอนหายใจถึง จูเซียน อย่างหนัก เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเจียงป๋าย

"คะแนนเกียรติยศ 12 คะแนนอย่างนั้นเหรอ? ฉันทำอะไร?"

เจียงป๋ายงงๆ มีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ เขาแค่หลับไปเท่านั้นไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วทำไมถึงได้รับตั้ง 12 คะแนน"

อยากรู้ว่าเมื่อวานเขาได้รวบรวมความกล้าตีหัวหลิวปินไปเจ็ดทีและได้รับห้าคะแนน หรือแค่นอนหลับก็ได้รับสิบสองคะแนนแล้วเหรอ?

"ชื่อเสียงก็เป็นเกียรติยศประเภทหนึ่งนะ พ่อหนุ่มน้อย ชื่อเล่นของคุณที่ชื่อเจียงป๋ายในตอนนี้ฮอตมาก เป็นที่รู้จักกันดีในคนหมู่มาก ดังนั้นคุณก็สามารถที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศไง"

แต่น่าเสียดาย ....... ชื่อเสียงของคุณนั้นมีเวลาจำกัดและวิธีการนี้ทำให้ชื่อเสียงค่อนข้างต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก การมีหนึ่งร้อยคลิกจากการสร้างคำสั่งของคุณก็สามารถสร้างความสนใจได้สูงมากและหนึ่งคนที่มีความสนใจ อย่างมากก็จะทำคะแนนเกียรติยศให้คุณได้หนึ่งเปอร์เซ็นต์ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับคะแนนเกียรติยศเล็กๆน้อยๆจากการคลิก หนึ่งแสนสองหมื่นคลิกนั้นเพียงแค่สิบสองคะแนนเท่านั้นเอง!

ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย คุณยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศ เส้นทางของคุณที่จะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น"

ระบบตอบคำถามของเจียงป๋ายอย่างรวดเร็วทำให้เจียงป๋ายนั้นรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ตอนแรกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับวิธีที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศอยู่ และในตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองนั้นจะได้พบกับหนทางในการได้รับคะแนนเกียรติยศแล้ว

หนึ่งแสนสองหมื่นคลิกในหนึ่งคืนอย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นอย่างไรถ้ารอให้เขียนหนังสือเล่มนี้จบ?

ถ้าตามผลตอบรับที่เห็นในวันนี้ อย่างน้อยๆต้องมีหนึ่งพันล้านคลิกเลย!

ถ้ารู้ว่าในชั่วชีวิตนี้ จูเซียน จะมีสามล้านคลิกแล้วล่ะก็ ซึ่งมันจะต้องสูงกว่านี้แน่นอน หากมีมากกว่าร้อยล้านคนจะมีคะแนนเกียรติยศนับหมื่น เมื่อคิดคิดดูแล้วมันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อย

"แต่น่าเสียดาย น่าเสียดายที่ฉันจำได้แค่หนังสือสองเล่มนี้ได้ จูเซียน นั้นยังสั้นไปหน่อย เฮ้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับอนุญาตสำหรับวิธีการในการขโมยวรรณกรรมนี้นะ หรือควรจะคิดให้ดีถึงสิ่งที่ควรจะทำและเรื่องที่สำคัญที่สุด กินข้าวก่อนคอยแก้ปัญหานี้ละกัน"

เฮ้อ เสียงถอนหายใจดังออกมา เจียงป๋ายโยนเรื่องนี้ทิ้งไว้ข้างหลัง 17 คะแนนเกียรติยศที่อยู่ในมือ แม้ว่าเจียงป๋ายจะบอกว่าต้องแก้ปัญหาเรื่องอาหารการกินก่อน แต่เขากลับไม่รีบร้อน

จัดการสิ่งที่อยู่ในมือให้เสร็จก่อนมันถึงจะเป็นหลักการที่ถูกต้อง

"เพี๊ยะ เพี๊ยะ" เจียงป๋ายเริ่มต้นชีวิตของเขาด้วยการทำงานหนักอีกครั้ง

ผ่านไปหนึ่งเดือนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำหนังสือออกมาหนึ่งร้อยยี่สิบสองล้าน เจียงป๋ายเขียนถึงชีวิตของเขาได้อย่างสมบูรณ์

อัพเดตสองแสนบทฟรี หนังสือของเจียงป๋ายถูกวางไว้บนชั้นวางอย่างน่าอัศจรรย์ภายในระยะเวลา 20 วัน อีกทั้งยังได้รับการสั่งจองตีพิมพ์และได้รับรางวัลจำนวนมาก รวมๆแล้ว เก้าร้อยแปดสิบเอ็ดล้านคลิก ชุดแรกได้หนึ่งเจ็ดหมื่นแสนคลิก เฉลี่ยทั้งหมดแล้วหนึ่งแสนคลิก นั่นทำให้เจียงป๋ายมีรายได้มหาศาล

บนชั้นวางในวันเดียวกันนั้นเองเขายังส่งบทความไปอีกกว่าแสนตัวอักษร จึงทำให้เกิดกระแสตอบรับต่างๆมากมาย

จูเซียน เหมือนกับพายุที่ถาโถมมาอย่างรุนแรงส่งผ่านไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ เกือบทุกคนที่ได้เห็นและล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องของชิงยวิ๋นเหมิน จางเสี่ยวฟ๋าน เป็นต้น ซึ่งเป็นคำที่ถูกพูดถึงกันอย่างยาวนานมาก

ผลประโยชน์ที่ได้รับค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ บวกกับรางวัลจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด นอกเหนือจากเว็บไซต์แล้วเจียงป๋ายก็ตาลุกวาว แปลกใจที่พบว่าตัวเองจะสามารถได้รับมากกว่าสามล้านแปดแสนคลิก แน่นอนว่าราคาของหนังสือเล่มนี้ได้รับการปรับใหม่เกือบครึ่งหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเจียงป๋ายเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะลุกขึ้นกระโดดไปมา

"ตั้งสามล้านแปดแสนกว่าเลยอ่ะ เมื่อเดือนที่แล้วยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินอยู่เลย ตอนนี้แค่ตดก็ออกมาเป็นเงินแล้ว ต่อไปกินมาม่าก็สามารถเพิ่มไส้กรอกแฮมสักสองสามอันได้เลย ... เฮ้!ฉันจะไม่กินมาม่าอีกต่อไป!"

"มีเงินแล้วจะทำอะไรเหรอ?"

เจียงป๋ายเริ่มครุ่นคิดอย่างใจเย็น เมื่อพูดถึงความรู้สึกพิเศษเกี่ยวกับเอ้อร์พ่างเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่ได้รับมาในวันนี้ ส่วนที่เหลือจะได้รับในวันที่สิบเดือนหน้า ดังนั้นปัญหาก็คือวิธีการใช้เงินยังไงล่ะ

อย่างแรกจะต้องซื้อบ้าน

เอ่อ ได้รับแล้วนะ ห้องนี้ของเทียนตู้ราคามากกว่าสามล้าน เป็นแบบสองห้องนอน เจียงป๋ายไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหมและแน่นอนว่าเงินนี้ก็ถูกใช้ไปแล้ว

มันเป็นความจริงที่จะได้รับรางวัลสำหรับอาหารที่ดีเมื่อคุณได้รับเงินสำหรับส่วนที่เหลือ เอาไว้ค่อยคุยกันอีกที

คิดมาถึงตรงนี้เจียงป๋ายก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป

หนังสือก็เขียนเสร็จแล้ว เขาเลยไม่มีอะไรที่ต้องทำ ใช้เวลาว่างสองวันอย่างสบายๆ ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นไว้ค่อยคุยกันอีกที

"ติ๊ง ต่อง! ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย ชื่อเสียงเพิ่มขึ้นแล้ว การติดตั้งBครั้งแรกนั้นประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่จะสร้างเงินให้แล้วแต่ยังได้รับคะแนนกียรติยศอีกด้วย

ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อยที่คุณสะสมได้ครบหนึ่งพันคะแนนแล้ว ได้รับโอกาสสุ่มสลากฟรีหนึ่งครั้ง

การจับสลากรางวัลฟรีในครั้งต่อไปก็เมื่อได้รับครบ 10,000 คะแนนความนิยม หรือใช้คะแนนพันคะแนนสำหรับการจับรางวัลหลักหรือ 10,000 คะแนนสำหรับการจับระดับกลาง"

แค่เก็บของนิดหน่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดๆก็พร้อมจะออกไปแล้ว เจียงป๋ายก็ได้ยินเสียงนี้กังขึ้นจึงทำให้เขาต้องหยุดเดิน

วินาทีต่อมาเครื่องสล๊อตก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าเจียงป๋าย มันยังคงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเก้าช่อง แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอะไรเอาไว้เลย ทั้งหมดเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ มีเพียงแค่สีที่แตกต่างกันเล็กน้อย และไม่มีสีเหลี่ยมสีดำเลย

มีเพียงสีขาวสามช่อง สีฟ้าสามช่อง สีม่วงสามช่อง ในช่องรายการที่ถัดจากสล๊อตไป เห็นได้ชัดว่าคุณภาพของการจับสลากได้เพิ่มขึ้นมากแต่น่าเสียดายที่เจียงป๋ายไม่เคยเห็นสิ่งที่อยู่ตรงกลาง

ไม่มีอะไรที่ต้องลังเลเมื่อมองไม่เห็นมัน แค่หลับตาและหันหลังกลับ

เครื่องสล๊อตเริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง "ซัว ซัว ซัว" เสียงหมุนเร็วมาก ผ่านไปสักพักก็หยุดอยู่เหนือช่องสี่เหลี่ยมสีม่วง

"ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย ได้รับรางวัลสีม่วง เป็นปรมาจารย์ขั้นแปด

ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเจียงป๋ายเริ่มสั่นเทา พลังงานที่เพิ่มขึ้นจากที่ว่างเปล่า ถูกเติมลงไปร่างของเจียงป๋ายทั้งหมด เขาดูเหมือนจะอยู่ในเมทริกซ์ เกิดความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่สามารถบรรยายได้

ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เมื่อเจียงป๋ายตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุที่ขึ้นตระหง่านตอนกลางวันได้หายไปแล้วและแทนที่ด้วยแสงจันทร์ที่สดใส

เขาบิดขี้เกียจไปมา เจียงป๋ายพบว่าตัวเองมีอะไรสีดำบางอย่างเหนียวๆติดอยู่และมีกลิ่นเหม็นมาก ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว

ในขณะเดียวกันนั้น ท่าหมัดทั้งแปดของเจียงป๋ายนั้นเขารับรู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นทักษะในการฝึกฝนมานานหลายทศวรรษ เพียงแค่ปล่อยหมัดเดียวในมือก็มีเสียงคำรวมของที่เสือดาวและเสียงฟ้าร้อง เสียงลมก็ดังต่อเนื่องออกมา

เจียงป๋ายรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังราวกับว่าเขาสามารถฆ่าวัวด้วยมือเปล่าได้

ที่จริงแล้วเขาเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริงของท่ามวยทั้งแปด มันไม่ยากที่จะฆ่าวัวด้วยหมัดเดียว แต่เจียงป๋ายแค่ไม่รู้อย่างแน่นอน

ในโลกนี้มีทั้งไทเก๊ก การต่อสู้ด้วยหมัดมวยทั้งแปดท่า หรืออาจจะพูดได้ว่า หมัดทั้งแปดท่านั้นมีความรุนแรง

อาบน้ำแล้ว เจียงไป๋ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างกระตือรือร้น เพราะทนต่อเสียงกรีดร้องของท้องไม่ไหวออกไปหาอะไรกินทันที

เขาที่เพิ่งจะออกมาข้างนอกก็ได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่ง สวมชุดเดรสสีชมพูพอดีตัว ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเจียป๋าย

สาวสวยมากๆคนนี้น่าจะอายุประมาณยี่สิบ ริมฝีปากรูปเชอร์รี่ นัยน์ตาลูกพีช จมูกโด่ง ผิวขาวใสดั่งน้ำ ช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดเท่าที่เจียงป๋าบเคยพบมา นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่สวยน่ามองที่สุดในสายตาและนี่คือดาราหญิงที่สง่างามที่เจียงป๋ายมักเห็นในทีวี

เจียงป๋ายไม่ใช่ภูตผีปีศาจ แต่ว่า.......แต่ก็ไม่สามารถที่จะละสายตาจากคนตรงหน้าไปได้ อดไม่ได้ที่จะมองอีกครั้ง

แต่น่าเสียดายที่คนตรงหน้านั้นกำลังเมาอยู่ จึงได้ยืนพิงกำแพงและมองมาที่เจียงป๋าย ยิ้มเยาะเย้ยออกมา ตรงมุมปาก : "มองอะไร ไม่เคยเห็นผู้หญิงเมาเหรอ?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด