บทที่ 16 นัดเจอกันแล้วหรอ?
ตอนที่16 นัดเจอกันแล้วหรอ?
ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนตรงๆ เพียงแค้พูดคำๆหนึ่งที่ทำให้เขาถึงกับอึ้ง โทรศัพท์ในมือของเจียงป๋ายร่วงลงกลางพื้น ทำให้คนรอบข้างต้องจ้องเขา ทุกคนทำหน้าแปลกใจ เมื่อกี้เป็นหนุ่มหล่อที่ดูเงียบสุขุม แต่ทำไมตอนนี้กลับดูตกตะลึงแบบนี้
"อยากมีเซ็กงั้นหรอ?"
ในหัวสมองของเจียงป๋ายคิดถึงคำๆหนึ่ง ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาเพิ่มเพื่อน หลังจาก รู้จักกันไม่ถึง 1 ชั่วโมง เธอยังกล้าส่งรูปถ่ายเซ็กซี่ของเธอ ยังเป็นฝ่ายขอมีเซ็ก ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ปกติแน่ๆ
"หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแค่ผู้หญิงเสริมกำลังใจในระบบ? หรือว่าฉันเจอคนโกหก?"
เจียงป๋ายทนไม่ไหวรู้สึกโหวงเหมือนผีเสื้อบนอยู่ในท้อง แต่ยังไงเขาก็ต้องซ่อนความคิด บนโลกนี้จะมีอะไรที่บังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง ฉันกำลังจะเจอ 18 มงกุฎ หลอกเหรอเนี่ย?
"อันนี้ ไม่ดีมั้ง" เขาหยุดชะงักไป เจียงป๋ายตอบกลับ
"ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก คุณไว้วางใจได้เลย ฉันสวย"
เจียงป๋ายยังพูดไม่จบเลย วินาทีต่อไป เธอส่งรูปมาอีกรูป เป็นรูปที่ผู้หญิงผมยาวสวมใส่กระโปรงสีขาว ดูๆแล้วเหมือนเป็นผู้หญิงอายุราว 27-28 หุ่นผอมสูง หน้าตาสวยงาม ทรงหน้าเรียวเป็นตัววี เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดี มีสง่าอย่างแน่นอน เธอยืนนิ่งๆอยู่ตรงมุมห้อง มุมปากของเธอกระตุกขึ้นเล็กน้อย ทำให้คนดูรู้สึกถึงความอบอุ่นของรอยยิ้ม
โดยเฉพาะจมูกโด่งๆของเธอทำให้เธอยิ่งดูมีเสน่ห์ มันแตกต่างจากรูปอื่นๆที่เธอส่งมา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไฝตรงคอของเธอ ไม่มีใครเชื่อแน่นอนว่าผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ จะถ่ายรูปเซ็กซี่ได้ ส่งให้คนแปลกหน้าดู
"ไม่เลวจริงๆ" รูปนี้ก็รูปจริง ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวจริงๆ
"งั้นคุณตกลงแล้วใช่ไหม? แต่ว่าฉันมีเงื่อนไข"
"คุณว่ามา"
"ทำกันแค่ครั้งเดียว ไม่ให้ใส่ถุงนะ"
คำๆเดียวของเธอทำให้เจียงป๋ายรู้สึกเซอร์ไพรส์จนหยุดชะงักไป ทีแรกคุยกับผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้สมองของเขาปั่นป่วนแล้ว เรายังมาเจอเงื่อนไขแปลกๆอย่างนี้อีก
คำพูดของคุณหมายความว่าอะไร?
ไม่ให้ใส่ถุงงั้นเหรอ?
เธอกำลังจะวางแผนอะไรอยู่
ถ้าหากเจียงป๋ายไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ และมีความมั่นใจมาก ตอนนี้คงจะกลัวและหนีไปแล้วหล่ะ
"วางใจเถอะ ฉันไม่ได้หลอกคุณ ฉันไม่ได้บ้าด้วย นี่ก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกัน ฉันมีเหตุผลของฉัน ตกลงไหม?" ตอนที่เขากำลังคิด เธอก็รีบตอบกลับคำพูดนี้ทันที
"ตกลง"
ถ้าไม่ตกลงก็น่าจะเป็นคนโง่แล้ว
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดหลักแหลม แล้วเหมือนเป็นคนมีการศึกษา ทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว นี่เธอถวายตัวมาถึงหน้าห้องแล้ว ไม่เอาก็โง่สิ
" งั้นดี เจอกันตอนกลางคืนที่โรงแรมเหินเซิน ห้อง 6602" เธอตอบกลับแค่นี้และไม่ได้ส่งอะไรมาอีกเลย เหมือนเธอไม่เคยปรากฏ ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเพ้อฝัน
ช่วงเวลาตอนเที่ยง เมื่อกี้เค้ากำลังคิดจะออกไปกินข้าวข้างนอก หลินหวานหยูก็มาหาเขาและยังเอากับข้าวมาด้วย เธอเอาข้าวและกับข้าวสองอย่าง แล้ววางไว้ตรงหน้าเขา ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ตอนที่เธอกำลังจะไป เธอพูดออกมาคำๆนึง"ฉันกลัวว่านายเพิ่งมาที่นี่ ไม่รู้ว่าจะไปกินข้าวที่ไหน ฉันเลยซื้อมาให้นาย"
พูดจบเธอก็กลับเลย
เธอรู้ว่าฉันไม่รู้ว่าร้านอาหารอยู่ไหน? เธอก็พาฉันไปสิ ซื้อมาที่นี่ ครั้งหน้าฉันจะทำยังไง?
และตอนที่เธอเดินออกไป เขารู้สึกได้ว่าตอนเที่ยงห้องสมุดคนไม่เยอะ แต่มีบางคนที่กำลังใช้สายตาอาฆาตมองเขาอยู่ และดูออกว่าเธอเป็นคนสำคัญในที่นี้
"โอ้โห พี่เจียง! พี่เก่งมากๆ มาทำงานวันแรก หลินหว่านหยูก็ส่งข้าวให้กินแล้วหรอ? พวกพี่เป็นอะไรกัน? เธอเป็นแฟนของพี่หรอ? เธอมาอยู่โรงเรียนนี้ได้ปีกว่าๆแล้ว ยังไม่เคยได้ยินว่าเธอเคยคบกับผู้ชายคนไหนเลย ดาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนนี้ มีเจ้าของแล้วหรอเนี่ย?"
หลินหวานหยู เพิ่งเดินออกไป ข้างๆที่เป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ชื่อหวังหยางเดินเข้ามา กำลังมองหลินหวานหยูที่ค่อยๆเดินจากไป แล้วเขาทำหน้าประหลาดใจถามเจียงป๋าย
พอเขาพูดจบ เหมือนเค้าคิดอะไรออก และใช้เสียงต่ำคุยกับเจียงป๋าย "พี่จีเยง ถ้าพี่มีอะไรกับเธอพี่ต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะผมได้ยินมาว่าคุณชายสี่ในโรงเรียนแห่งนี้ ที่ชื่อจังเทียนอั๋ง พูดออกมาแล้วว่าเธอเป็นของเขา ถ้าใครกล้าแตะต้องเธอคนคนนั้นเจอดีแน่ ครอบครัวของจังเทียนอั๋ง ทำธุรกิจใหญ่โต แม่ของเขามีตำแหน่งสูงที่ทำงานเกี่ยวกับรัฐ และพ่อของเขาเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน พวกเขาเป็นคนมีอำนาจ ถ้าพี่ยุ่งกับเธอ......"
" คิดอะไรอยู่? เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่!" หวังหยางหน้าแตก เมื่อเจียงป๋ายพูดถึง
อีกอย่างคุณชายสี่บ้าสี่บอที่พูดถึง เจียงป๋ายไม่ได้ใส่ใจเลย ก็แค่เด็กอมมือที่ที่บ้านมีฐานะนิดหน่อย ใครที่ไหนจะกลัว
กินข้าวเสร็จ ช่วงบ่ายก็งีบหลับไปสักพัก เขาตื่นขึ้นมาเตรียมตัวอ่านหนังสือที่ยืมมาเป็นกอง เขาเหมือนหุ่นยนต์ที่กำลังป้อนข้อมูลใส่หัว อ่านไปๆ อ่านจนฟ้ามืดไปโดยไม่รู้ตัว
ส่งข้อความให้หลินหวานหยูว่าตัวเองจะกลับก่อนเสร็จ เจียงป๋ายก็ออกจากโรงเรียน เดินออกไปจากประตู เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งในรถที่จอดรอเขานาน เขาบอกที่อยู่ในคนขับ ก็รีบไปถึงโรงแรมเหินเซินที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ดูว่าเวลายังพอมี เขาเลยนั่งกินข้าวกับเสี่ยวเทียน ในระหว่างกินข้าวคุยเรื่องที่บ้านกันเยอะ พอกินข้าวเสร็จ เขาจัดเสื้อของตัวเองเรียบร้อย และเตรียมตัวขึ้นลิฟต์ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"ไม่งั้น เรื่องคืนนี้ก็ช่างมันเถอะ" คนพูดเหมือนกำลังอยู่ในค่ำคืนที่แสนเหงา น้ำเสียงของเธอฟังดูแล้วเหมือนกำลังลังเล และเหมือนกำลังจะคืนคำพูด
"ได้!"
เจียงป๋ายหยุดชะงักไปสักพัก และตอบกลับไป เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจเลย เรื่องแบบนี้ทุกฝ่ายต้องยอม ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมก็บังคับกันไม่ได้ว่าไหม?
แม้กระทั่ง...
เจียงป๋ายก็รู้สึกว่าเธอเป็นถึงผู้หญิง ถ้าจะมีอะไรกันก็ทำให้เขาตื่นเต้นเบาๆ ตอนนี้เธอตอบกลับมาแบบนี้ ก็ทำให้เขาโล่งอกเบาๆ
"คือว่า คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? อีกอย่างฉันไม่ชอบคนอ้วน" ทีแรกนึกว่าคงจบแล้ว กำลังจะจากไป แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับส่งข้อความกลับมา
"อายุ 23 สูง 178 เซนติเมตร ไม่อ้วนไม่ผอม" เขายิ้มเบาๆและตอบกลับ
"งั้นคุณมาหรือยัง? ฉันถึงแล้ว มาคนเดียวเหรอ?"
"อืม คนเดียว ผมก็ถึงแล้ว"
ตอนที่กำลังพูดเค้าเดินผ่านล็อบบี้ที่หรูหรา เขากำลังขึ้นลิฟต์และกำลังพุ่งหน้าไปยังชั้น 6 ห้อง 6602 และกดกริ่งหน้าห้อง ระหว่างทางที่ไป เขารู้สึกเหมือนใจหายเบาๆ นี่เรานัดเจอกันจริงๆเหรอ?
เสียงกริ่งดังขึ้น
เขารู้สึกตื่นเต้นมาก และเขาก็กดกริ่ง
ประมาณ 1 นาทีประตูหน้าห้องก็เปิดขึ้น ผู้หญิงที่สวมใส่ชุดกระโปรงสีขาวเดินมาเปิดห้อง แล้วเธอสวมใส่แว่นดำ เห็นหน้าตาของเธอแล้ว ตัวจริงสวยกว่าในรูป เธอมองมาที่เขา แก้มของเธอดูแดงๆเหมือนกำลังเขิน และเธอหลีกทางให้เขาเดินเข้าไป