ตอนที่แล้วGE239 พังทะลาย [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE241 ลู่เป่ยหรือ? [ฟรี]

GE240 ลู่เป่ยแห่งตระกูลลู่ [ฟรี]


1 เดือน!

เพียงช่วงเวลา 1 เดือน ชื่อซัวหมิงได้กลายเป็นตำนาน!

บนจารึกสังหาร ชื่อซัวหมิงถูกสลักไว้เป็นอันดับหนึ่ง และตอนนี้ ตัวอักษรที่สลักได้กลายเป็นสีแดงฉาน

ชื่อสีแดง! นั่นหมายความว่าเขาสังหารอสูรตัดวิญญาณเทียมไปมากกว่า 100 ตัว แต่หากเทียบกับชื่อของชวี่หยานแล้ว สีบนชื่อของหนิงฝานแดงเข้มกว่า

สู่ลู่ฉานผ่อนคลาย ยิ่งชื่อเปลี่ยนเป็นสีแดงมากเท่าไหร่ จำนวนสัตว์อสูรตัดวิญญาณที่ถูกสังหารก็ยิ่งมากขึ้น สมควรมากกว่า 150 ตัว หรืออาจจะมากกว่า 200 ตัว

ในอดีต ชวี่หยานสังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมไป 274 ตัว การที่ชื่อของหนิงฝานมีสีแดงเข้มกว่า แสดงว่าหนิงฝานสังหารไปมากกว่า

“ได้แก่นอสูรครบจำนวนแล้ว ข้ามีแก่นอสูรให้ท่านชวี่แล้ว! อีกอย่าง ดูเหมือนซัวหมิงจะเป็นผู้ที่ท่านชวี่ตามหามานาน”

สู่ลู่ฉานตกตะลึง

เพียงเดือนเดียว หนิงฝานสังหารอสูรตัดวิญญาณเทียมไปมากกว่า 274 ตัว นั่นแสดงให้เห็นว่า หนิงฝานแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ

ยามนี้ หนิงฝานได้ทำภารกิจของสู่ลู่ฉานแล้ว

นอกจากสู่ลู่ฉานจะตกตะลึงแล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่คอยสังเกตุการณ์เองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

เพียงหนึ่งเดือนชื่อกลายเป็นสีแดงเข้ม แม้เจ้าของชื่อจะเย่อหยิ่งอวดดี แต่อีกฝ่ายก็ทำเช่นนั้นได้จริง

เรื่องราวของหนิงฝานได้แพร่ไปทั่วทั้งทะเลส่วนนอกและส่วนใน ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณไม่อาจอยู่เฉย

แต่ข่าวคราวที่น่าตื่นตะลึงนี้ก็ดำเนินไปได้ไม่นานนัก อีกข่าวที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าได้มาแทนที่

ดินแดนโลกล่มสลาย...พังทะลาย!

ดินแดนโลกล่มสลายได้พังทะลายจากส่วนเล็กๆ และลุกลามไปยังทั้งหมด!

“เป็นไปไม่ได้! ถ้าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเพียงคนเดียวลุกล้ำดินแดน มันจะไม่พังทะลายมากขนาดนี้ เว้นแต่จะมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณหลายคนล้ำเข้าไป… เป็นไปไม่ได้! ข้าเฝ้าคุ้มกันทางเข้ามาตลอด ไม่มีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนใดเข้าไปได้!”

สีหน้าสู่ลู่ฉานแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันคาดไม่ถึงว่าดินแดนโลกล่มสลายจะพังทะลาย

การที่ดินแดนพังทะลายไม่ใช่เรื่องเล็ก ดังนั้นเหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงของเผ่าปีศาจยักษ์ต้องตำหนิมันแน่

ไม่รู้ว่าซัวหมิงจะออกมาได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับแก่นอสูรหรือเปล่า?

สู่ลู่ฉานสนใจแค่เพียงแก่นอสูร เพราะในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน จำนวนที่หนิงฝานหามาได้นั้น มากกว่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆทั้งหมดเอามารวมกัน หากมันไม่ได้แก่นอสูรไปให้ท่านชวี่ มันเดือดร้อนแน่

แต่ผู้เป็นบุตรสาวอย่างสู่ฉุ่ยหลิงกลับต่างออกไป เพราะนาง...เป็นห่วงความปลอดภัยของหนิงฝาน

หนิงฝานเป็นบุรุษที่ควรค่าแก่การนับถือ และแข็งแกร่งกว่าคนรุ่นเดียวมาก

ลักษณะนิสัยของหนิงฝานก็คล้ายสู่ลู่ฉาน เพียงแต่น่ายกย่องยิ่งกว่า ที่สำคัญ ยังเป็นบุรุษที่สู่ฉุ่ยหลิงหลงรัก

“เขยข้า! เจ้าจะตายอยู่ในนั้นหรือไง! ออกมาได้แล้ว!”

การล่วงล้ำของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณนับ 10 ทำให้ดินแดนพังทะลายอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยาม ส่วนที่พังทะลายไป กินพื้นที่ไปกว่า 10 ล้านลี้แล้ว!

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่อยู่ในดินแดน เร่งใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายแบบพกพา นำตนเองออกมาได้อย่างหวุดหวิด พวกมันเหงื่อไหลโทรมกาย ใบหน้าซีดขาวด้วยความหวาดกลัว

เพราะทุกหายใจนั้น พื้นที่กว่าหลายลี้ได้พังทะลายไป

นอกจากผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญที่ระดับต่ำกว่านั้นล้วนแตกตื่นหวาดกลัว หากหลบหนีไม่ทัน พวกมันย่อมไม่รอดพ้นความตาย

แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่หากไม่มีสิ่งที่ต้านพลังมิติได้นั้น พวกมันก็ต้องตายเหมือนกัน

ในระหว่างที่เหล่าอสูรจากโลกอสูรเดินทางมา อสูรดวงจิตแรกเริ่มและอสูรตัดวิญญาณหลายตนตกตาย ส่วนผู้ที่เหลือรอด หากไม่เพราะมีผู้ที่ต้านพลังมิติได้ พวกมันคงไม่รอด

ขนาดผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณยังตาย นับประสาอะไรกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

นอกจากหนิงฝานและฉู่เก้อ ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 38 คนรอดออกมาได้ 25 คน ตายไป 13 คน

ยามนี้ ดินแดนโลกล่มสลายได้พังทะลายโดนสมบูรณ์ แต่หนิงฝานและฉู่เก้อยังไม่ปรากฏตัว

สู่ฉุ่ยหลิงไม่อาจสงบใจ แม้นางจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหนิงฝาน แต่เมื่อเขายังไม่ปรากฏตัว นางก็เป็นกังวล

“นายน้อยซัว… นายน้อยซัว...”

นางร่ำไห้ ยิ่งเห็นชื่อของฉู่เก้อกลายเป็นสีเทา เหลือเพียงชื่อหนิงฝานเพียงคนเดียว นางยิ่งใจคอไม่ดี

ดินแดนล่มสลายพังทะลาย พื้นที่ภายในนั้นถูกแทนที่ด้วยมิติ แม้หนิงฝานไม่ตาย แต่นั่นหมายความว่าเขากำลังดิ้นนรนเอาตัวรอดในมิติอยู่

“นายน้อยซัว… ท่านจะเป็นยังไงบ้าง...”

“น่าจะเป็นอันตราย แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางยังไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทานพลังมิติ… หรือบางที เขาอาจกำลังซ่อนตัวอยู่ในโลกสมบัติ?” ตงสู่ถอนหายใจ มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้นที่ข้ามมิติได้”

ไม่! เขาต้องไม่เป็นอะไร“

สู่ฉุ่ยหลิงขบฟัน สะกดความกังวลในใจ

แต่ในขณะนั้นเอง ประตูมิติได้เปล่งแสงเจิดจ้า แผ่นหยกและกระเป๋าลอยออกมาจากประตู

เมื่อแผ่นหยกพ้นประตูมิติ มันสลายตัวและกลายเป็นเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้น

“สหายเต่าสู่ ดินแดนพังทะลายแล้ว ในกระเป๋าใบใบนี้มีแก่นอสูรตัดวิญญาณเทียมทั้งหมด 200 ดวง… ข้าได้ทำตามสัญญาแล้ว สหายเต๋าไม่ต้องกังวล และไม่ต้องรอข้าถึง 5 เดือน... หากข้ากลับมาข้าจะรีบไปหา อีกเรื่อง ถึงชื่อของข้าบนจารึกจะเป็นสีแดงเข้มก็ไม่ต้องตกใจไป ข้าปลอดภัยดี...”

สู่ลู่ฉานคว้ากระเป๋าที่หนิงฝานส่งมา ภายในนั้นมีแก่นอสูร 200 แก่น

แม้ดินแดนโลกล่มสลายจะพังทะลาย แต่หนิงฝานกลับปลอดภัย ทั้งยังส่งกระเป๋าและข้อความมาให้ได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตกตะลึง

เพราะไม่มีผู้ใดที่ติดอยู่ในมิติแล้วรอดกลับมา

แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงยังข้ามมิติได้อย่างยากลำบาก ทั้งยังอยู่ภายในนั้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ผู้ที่อยู่ในมิติได้มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้น!

และมีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้นที่ข้ามมิติกลับออกมาได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกนั้นคือผู้เข้าถึงเต๋าแห่งสวรรค์

“มันทำได้ยังไง… จากน้ำเสียงมันน่าจะไม่ได้อยู่ในโลกสมบัติ หรือว่ามันจะอีกที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับดินแดนโลกล่มสลาย… แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงข้าก็ทำแบบนั้นไม่ได้!”

ตงสู่ยังคงอยู่ ชายชรานั่งนิ่งไม่จากไป

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าจะรอนายน้อยซัวอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”

“อืม… ข้าจะรอ… ไม่ว่านานขนาดไหนข้าก็จะรอ เขาบอกว่าปลอดภัยดี ก็สมควรเป็นเช่นนั้น!”

“ดี! งั้นเจ้าก็อยู่กับข้าซะที่นี่!”

ดินแดนล่มสลาย สัตว์อสูรทั้งหมดตกเข้าสู่มิติอละตายอยู่ภายในนั้น...

แม้ชื่อของฉู่เก้อบนจารึกกลายเป็นสีเทา แต่มันยังไม่ตาย

มันเข้าสู่แดนสองไปพร้อมกับคนของโลกอสูร เหตุที่มันยังรอดอยู่ก็เพราะมันยังจำเป็นต้องใช้งาน

มันหันมองมิติที่ล่มสลายผ่านประตูมิติด้วยความกลัว

“ตอนนี้ซัวหมิงคงตายอยู่ในนั้นแล้ว ฮ่าฮ่า...”

แต่น่าเสียดายที่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น

หนิงฝานอยู่ลอยตัวอยู่ท่ามกลางมิติ ในมือถือระฆังทองขนาดเล็ก

ระฆังทองเปล่งสองสร้างม่านพลังคุ้มกายหนิงฝาน

ระฆังทะเลตะวันออก!

“มีระฆังนี้อยู่ข้าก็ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะไปที่ใดในมิติก็ไม่ใช่ปัญหา ดีเสียอีกที่ดินแดนพังทะลาย ข้าจะไม่ต้องถ่อไปทั่วแดนแรก สังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม เพื่อเก็บแก่นอสูรของพวกมัน… ฮ่าฮ่า อยู่เฉยๆพวกมันก็มาประเคนให้ถึงที่”

ในมิติมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ลมมิติ’ มันมีลักษณะเป็นเส้นแสงสีดำคล้ายปราณกระบี่ แม้ร่างกายจะบรรลุขอบเขตกระดูกหยก แต่หากต้องสัมผัสลมมิติ คนผู้นั้นย่อมไม่รอด

แต่เมื่อลมมิติพัดกระทบกับม่านพลังสีทอง ม่านพลังสั่นเล็กน้อยก่อนที่ลมมิติจะพัดผ่านไป

ซากร่างสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมจำนวนมากถูกพัดพาไปตามลมมิติ โลหิต และแก่นอสูรจำนวนมากกระจัดกระจาย

เมื่อลมมิติพัดผ่านมาพร้อมกับซากร่าง โลหิต และแก่นอสูร หนิงฝานกระตุ้นระฆัง สร้างแรงดึงดูดคล้ายหลุมดำ ดูดเอาแก่นอสูรและโลหิตของพวกมันเป็นจำนวนมาก

โลหิตที่ได้มา หนิงฝานนำเพียงโลหิตสีทองอันเบาบางออกมา ส่วนที่เหลือก็ทิ้งไป

หากรวมกับแก่นอสูร 300 แก่นที่ได้ก่อนดินแดนโลกล่มสลายพังทะลาย ยามนี้หนิงฝานแก่นอสูรทั้งหมด 1284 แก่น และโลหิตทองคำที่รวบรวมได้อีก 13 หยด

หากเขาดูดซับพวกมันทั้งหมด ปราณอสูรของเขาจะเพิ่มขึ้นมากถึง 5 พันเกราะ!

ซึ่งเป็นครึ่งทางของขอบเขตตัดวิญญาณ!

“พอเข้าไปในแดนสอง ข้าต้องหาที่ดูดซับแก่นและโลหิตอสูร ให้ปราณอสูรบรรลุเหนือ 5000 เกราะ… หากข้าสังหารอสูรไร้แบ่งแยกที่หลับไหลได้ ปราณอสูรของข้าก็มีโอกาสบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ”

แววตาหนิงฝานเป็นประกาย มุ่งหน้าเข้าสู่ประตูมิติที่เปิดอยู่

ปลายทางของประตูมิติคือแดนสอง

การที่ดินแดนแห่งนิทราอยู่ในพิรุณ แสดงว่าโลกพิรุณอาจมีความเกี่ยวข้องกับโลกอสูร

“คาดไม่ถึงว่าสหายเต๋าจะกลายเป็นสภาพแบบนี้ สหายเต๋าคงเศร้าน่าดู...” ลู่เป่ยแสร้งกล่าว

“เจ้าพอเลย… ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะซัวหมิง! แต่ตอนนี้มันคงตายไม่เหลือซากในมิติไปแล้ว...”

“ใช่… ดีแล้วที่มันตาย!” ลู่เป่ยไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าซัวหมิงจะเป็นหรือตาย

แต่ในขณะที่พวกมันกล่าวขึ้น ประตูมิติก็เปล่งแสง ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวดำก้าวพ้นประตูออกมา

ลู่เป่ย ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นที่เหล่าคนจากโลกอสูรทิ้งไว้ กับฉู่เก้อที่เหลือเพียงดวงจิต สั่นสะท้าน!

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! เจ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรอดจากมิติออกมาได้!”

“เมื่อครู่พวกเจ้าบอกว่าข้าตายแล้ว?”

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา

พลังที่มองไม่เห็นตรึงร่างของลู่เป่ยและดวงจิตของฉู่เก้อ

ด้วยพลังร่างกายในขอบเขตกระดูกหยกของหนิงฝาน พวกมันไม่อาจดิ้นพ้น

“อ่านวิญญาณ!”

หนิงฝานกล่าวอย่างแผ่วเบา พวกมันทั้งสองสิ้นสติก่อนจะเสียสติไป

ความทรงจำของฉู่เก้อเหมือนกับหยิงเก้อ พวกมันถูกซื่อกู่ลงผนึกเอาไว้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของหนิงฝานยามนี้ การจะปลดผนึกไม่ใช่เรื่องยาก

“ที่นี่คือดินแดนแห่งนิทรา มีอสูรไร้ดัดแปลงนาม ‘ลู่หวู่’ หลับไหลอยู่...”

หนิงฝานดูดกลืนจิตวิญญาณของฉู่เก้อเข้าไป แล้วทำร่างของลู่เป่ยพร้อมกับดูดกลืนดวงจิตของมัน

“เจ้าลู่เป่ยคือคนของตระกูลลู่ เป็นเผ่าลำดับที่ 7 ของเหล่าอสูรปีก... เป็นผู้น่ารังเกียจ ไร้สหายคบหา ครั้งหนึ่งมันเคยแหกกฏของเผ่าจนถูกขับออกจากเผ่า… น่าสนใจจริงๆ ถึงข้าจะฆ่ามันก็ไม่มีใครรู้ หากข้าปลอมตัวเป็นมันก็ไม่มีใครรู้… อสูรปีกขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น ปราณอสูรของข้าก็อยู่ในระดับเดียวกันกับมัน”

หลังจากดูดกลืนดวงจิตของลู่เป่ยเข้าไป หนิงฝานใช้วิชาแปลงกาย แปลงเป็นลู่เป่ยราวกับเป็นคนคนเดียวกัน

“นับจากวันนี้ไป ในแดนที่สองแห่งนี้ ข้าคือลู่เป่ยแห่งตระกูลลู่”

“ข้าได้ส่งแก่นอสูรไปให้สู่ลู่ฉานแล้ว ยามนี้มันสมควรสบายใจ และไม่ต้องรอถึง 5 เดือน… ต่อให้ข้าอยู่ในนี้อีก 10 ปีก็คงไม่เป็นปัญหา ส่วนสู่ฉุ่ยหลิง แผ่นหยกที่ข้าให้ไปน่าสะทำให้นางสบายใจขึ้น”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด