ตอนที่แล้วGE236 สลักชื่อบนจารึก ก้าวเป็นอันดับหนึ่ง [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE238 แผนของฉู่เก้อ [ฟรี]

GE237 แดนแรก [ฟรี]


ประตูทางเข้าดินแดนโลกล่มสลายเปิดออก แสง 7 สีเปล่งประกายเจิดจ้า เหล่าผู้เชี่ยวชาญ 40 คนที่ถูกเลือก มุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดน

ดินแดนล่มสลายมีพื้นที่กว้างถึง 70 ล้านลี้ ยามนี้ หนิงฝานยืนอยู่บนเขาลูกหนึ่ง ดูแผนที่ในมือ

เมื่อแผ่สัมผัสเทพสำรวจพื้นที่โดยรอบ จึงยืนยันได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในแถบตะวันออกของดินแดน

เพียงแต่ในดินแดนแห่งนี้ มีปราณอสูรที่รุนแรงมาก

ปราณอสูรที่หนาแน่นเช่นนี้ เป็นแห่งฝึกวิชาชั้นยอดของเหล่าอสูร หากเปลี่ยนปราณอสูรเหล่านี้ให้เป็นปราณดั้งเดิม หรือพลังสวรรค์ได้ ย่อมได้แหล่งพลังงานจำนวนมหาศาล กระทั่งมากกว่าปราณบนเกาะปีศาจสำราญนับหลาย 10 เท่า

ปราณที่หนานแน่นระดับนี้ ทะเลไร้สิ้นสุดและแคว้นระดับสูงในโลกพิรุณยังไม่อาจเทียบได้ หากจะเทียบได้ก็เพียง แหล่งสถานที่อยู่ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง และไร้แบ่งแยก

ปราณอสูรระดับมากพอที่จะทำให้สัตว์อสูรพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เพียงแต่การจะให้สัตว์อสูรทั่วไปกลายเป็นสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมในเวลา 100 ปี ยังคงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ เพราะการที่สัตว์อสูรจะวิวัฒนาการหรือยกระดับได้นั้น ไม่ได้ใช้ปราณเพียงอย่างเดียว

นั่นหมายความว่า สถานที่แห่งนี้คงมีบางสิ่งที่ไม่ธรรมดา ที่ทำให้เหล่าสัตว์อสูรวิวัฒนาการ

ความที่ปราณอสูรในดินแดนหนาแน่นจนเกินไป หนิงฝานจึงต้องเปลี่ยนแผน

เดิมทีเขาตั้งใจจะสร้างถ้ำเพื่อเก็บตัวยกระดับพลังสักระยะ ก่อนจะออกล่าสังหารเหล่าสัตว์อสูร

แต่การจะดูดซับนมมารดาใต้พิภพที่ได้มา ยังไม่ปลอดภัยพอที่จะทำที่นี่

นอกจากนี้ หากจะเปลี่ยนมาดูดซับผลไม้แห่งเต๋าและดูดกลืนผสานกับเพลิงครามที่ได้มา ก็ยังไม่อาจทำได้ เพราะสถานที่แห่งนี้ มีปราณดั้งเดิมเบาบางจนเกินไป

เพียงแต่ สถานที่แห่งนี้ กลับเหมาะให้เขายกระดับปราณอสูรของตนมากที่สุด

“ปราณอสูร...” หนิงฝานกล่าวด้วยแววตาหนักแน่นมั่นคง

แต่ในชั่วพริบตานั้น เหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ภายในดินแดนกู่ร้อง วิหคน้อยใหญ่โผทะยาน ราวกับสัมผัสการมาของเขาได้

ไม่นานนัก กลุ่มของเหยี่ยวสีดำขนาดใหญ่นับ 10 ปรากฏตัวบนท้องนภา พวกมันแต่ละตัวใหญ่กว่า 100 จ้าง อยู่ในขอบเขตดวจิตแรกเริ่ม แต่มีตัวที่ดูราวกับผู้นำ ร่างกายใหญ่กว่า 1000 จ้าง

“สัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม...”

หนิงฝานใช้สัมผัสกระบี่ เส้นแสงสีดำกวาดผ่านพวกมัน เหยี่ยวในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มถูกตัดเป็นชิ้นๆ โลหิตฟุ้งกระจายเต็มท้องนภา

แม้ปราณของพวกมันจะทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม แต่แท้จริงแล้ว พวกมันอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ

สัมผัสกระบี่จึงสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย

ร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีแดง แสดงถึงความปฏิปักษ์กับพวกมันอย่างชัดเจน!

ความเป็นปฏิปักษ์ที่รุนแรงทำให้สัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับสยายปีกสีดำกว้าง ราวกับปกคลุมไปทั่วท้องนภา

มันกระพือปีก สลัดขนสีดำที่รุนแรงพอจะสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้าย ระดมเข้าใส่หนิงฝาน

เหยี่ยมตัวนี้คือเหยี่ยวดำ การจู่โจมของมันคือหนึ่งในวิชาระดับแก่นทองคำ แต่ใช้ออกด้วยปราณระดับตัดวิญญาณระดมเข้าใส่หนิงฝาน

ขนจำนวนมหาศาลของมันสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงได้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยังยากจะรับมือ

“เป็นเพียงสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม ยังไม่อาจควบคุมพลังสวรรค์ได้ จึงยังไม่สามารถบรรลุตัดวิญญาณที่แท้จริง...”

หนิงฝานไม่เห็นขนนกจำนวนมหาศาลที่กำลังตรงเข้ามา เขาก้าวไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว ขนนกทั้งหมดสลายเป็นหมอกควัน

เพียงก้าวเดียว หนิงฝานสำแดงอานุภาพราวกับขุนเขายักษ์กดทับ รอยแยกจำนวนมากปรากฏบนท้องนภา

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งในขอบเขตกระดูกหยก เพียงก้าวเดียว แรงกดดันที่รุนแรงบดขยี้ศีรษะของเหยี่ยมดำโดยที่มันไม่อาจขัดขืน

แต่ทันทีที่ศีรษะของมันถูกบดขยี้ มันกลับงอกขึ้นมาใหม่ทันที

หนิงฝานประหลาดใจ แม้วิชาของมันจะไม่ทรงพลังมากนัก แต่กลับทนทาน ยากจะปลิดชีวิต

แต่นั่นทำให้หนิงฝานรู้ว่ายากจะปลิดชีวิตสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม และไม่อาจใช้วิธีการทั่วไปในการปลิดชีวิตพวกมัน

มิน่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่น้อยถึงถูกสังหารตาย

เมื่อเหยี่ยวตัวนั้นฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ มันดิ่งเข้าหาหนิงฝานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปีกที่แหลมคมราวกับกระบี่ สะบั้นเข้าที่ศีรษะของหนิงฝาน

หนิงฝานยังคงยืนนิ่ง สองมือไพล่หลัง ทั่วร่างเปล่งแสงขาวนวลสว่างจ้า ดูราวกับดักแก้ที่ได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี

นี่คือวิชา ‘รังไหมหยก’ เป็นวิชาสำหรับผู้บรรลุขอบเขตกระดูกหยก วิชานี้จะแปรเปลี่ยนพลังธรรมชาติมาเป็นพลังคุ้มกาย แม้ถูกผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดจู่โจม ก็ใช่ว่าจะทำลายได้ง่ายๆ

เมื่อปีกที่ทรงพลังของเหยี่ยวดำปะทะเข้ากับรังไหมของหนิงฝาน ปีกของมันกลับถูกเพลิงหยกแผดเผา

ขนบนปีกของมันถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน แต่นั่นกลับทำให้เพลิงหยกคลายอานุภาพไปเพียง 3 ใน 10 ส่วน

“ไม่เห็นจะเท่าไหร่… ทำลายภูเขา!”

ภูเขาน้อยใหญ่รอบข้างถล่มลงอย่างต่อเนื่อง พลังของหนิงฝานเพิ่มพูนต่อเนื่อง พื้นดินโดยรอบปริแตก สีหน้าเหยี่ยวดำแปรเปลี่ยนหวาดกลัว แต่นั่นกลับช้าเกินไป

รังไหมหยกแปรเปลี่ยนสีแดงฉาน เจตนาสังหารที่รุนแรงปะทุ

เหยี่ยมดำพยายามระดมจู่โจมหนิงฝานสุดชีวิตเพื่อหวังจะรอดจาสถานะการณ์อันตราย แต่นั่นกลับไร้ผล

เมื่อดรรชนีกระบี่สั่งสมพลังงานจนพร้อมสรรพ หนิงฝานชี้นิ้ว ปราณกระบี่พุ่งทะลวงเข้าศีรษะของมัน จนทำให้ร่างกายที่ใหญ่โตระเบิด โลหิตสาดกระจาย ในหมู่โลหิตปรากฏเส้นใยจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน นั่นคือปราณกระบี่

โลหิตพรั่งพรมราวกับพิรุณโปรย หนิงฝานเหยียบย่างนภาเข้าหา พับแขนอาภรณ์ เก็บเอาลูกกลมสีดำขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมา ลูกกลมนี้คือโลหิตที่แข็งตัว อัดแน่นไปด้วยปราณอสูร

ดังนั้น แก่นอสูรคือส่วนที่เกิดจากโลหิตที่ค่อยๆควบแน่นและแข็งตัว

นี่คือสิ่งที่สู่ลู่ฉานต้องการ แก่นอสูรอัดแน่นไปด้วยปราณอสูรจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่หนิงฝานต้องการเช่นกัน หากเขามีแก่นอสูรมากพอ เขาก็สามารถยกระดับปราณอสูรของตนไปยังระดับที่น่าสะพรึงกลัวได้

หากจะเทียบแล้ว แก่นอสูร 1 ลูกสามารถยกระดับปราณอสูรได้ไม่น้อย

แต่ในขณะที่หนิงฝานจ้องแก่นอสูรอยู่นั้น จู่ๆเขากลับสังเกตุเห็นแสงสีทองประกายภายใน

“นี่มัน...”

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพ แสงสีทองนั้นค่อยๆเคลื่อนออกมาจากแก่นอสูร

ของเหลวสีทองนี้คือโลหิต  แม้จะเบาบางแต่ก็อัดแน่นไปด้วยปราณอสูรในปริมาณที่มากกว่าโลหิตทั่วไปถึง 2 เท่า ที่สำคัญ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากโลหิตสีทอง ทรงพลังยิ่งกว่ากลิ่นอายของสู่ลู่ฉานและเหยียนซ่งสื่อ

โลหิตสีทองนี้คือโลหิตของผู้เชี่ยวชาญเผ่าอสูร ที่ทรงพลังกว่าผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง… บางทีมันอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง!

“โลหิตของอสูรไร้ดัดแปลง? หรือจะเป็นเพราะโลหิตของมัน ทำให้สัตว์อสูรกลายเป็นสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทพ? ถึงเหยี่ยวดำจะกลัว แต่มันกลับไม่กล้าหนี!”

ด้วยที่โลหิตสีทองมีปราณอสูรมหาศาล จึงไม่อาจดูดซับได้ทันที

หนิงฝานเก็บโลหิตสีทองใส่ขวดไว้

ขวดใบนี้เขาได้มาจากลี่ป่าน ในคราวที่ยังอยู่ในแคว้นจิน ภายในขวดมีโลหิตอสูรที่เข้มข้นอยู่

ในยามนั้น หนิงฝานยังเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ จึงยังไม่อาจดูดซับโลหิตอสูรได้ แต่ยามนี้ ร่างกายของเขาทรงพลังมากพอแล้ว

หนิงฝานใช้สัมผัสเทพ ผสานโลหิตภายในขวดเข้ากับโลหิตสีทอง

“โลหิตทั้งหมดผสานเป็นโลหิตเพียงหยดเดียว”

หากดูดซับปราณอสูรจากโลหิตหยดนี้เข้าไป หนิงฝานจะเพิ่มปราณได้ถึง 200 เกราะ

“ทำไมถึงมีโลหิตของอสูรไร้ดัแปลงอยู่… หรือที่นี่จะมีอสูรไร้ดัดแปลงอยู่จริง บางทีดินแดนแห่งนี้อาจไม่ธรรมดาเหมือนที่ข้าคิด...”

หนิงฝานนำแผนที่ออกมาดูอีกครั้ง สายตาเคร่งเครียดจริงจัง

ในดินแดนโลกล่มสลายแห่งนี้ สมควรมีที่ที่ไม่อาจย่างกรายเข้าไป

บางที ดินแดนแห่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับเผ่าอสูรโบราณ

หนิงฝานนำอสูรทั้งสองนางที่เป็นกระถางขัดเกลาของตนออกมา แม้พวกนางจะถูกดูดซับพลังจนเหลือเพียงขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น แต่สีหน้าของพวกนางยามนี้กลับดูเปล่งปลั่ง

พวกนางดูราวกับกำลังพูดคุยบางสิ่ง แต่จู่ๆหนิงฝานกลับเรียกพวกนางออกมา

“บ่าวคารวะนายท่าน… ที่เรียกพวกข้าออกมา นายท่านต้องการสิ่งใด...”

พวกนางกล่าวพลางก้มหน้าด้วยความเคารพ

“ข้าต้องขอโทษพวกเจ้าจริงๆที่ยังไม่ได้ปรุงโอสถคืนโฉมให้ ข้ายังไม่มีเวลา...”

“ไม่เป็นไรนายท่าน แม้นายท่านจะไม่ได้ปรุงโอสถให้ พวกข้าก็ไม่กล้าตำหนิ...” สตรีผมม่วงกล่าว แววตาเผยความเสียใจ

นายผิดหวังที่หนิงฝานไม่ได้ปรุงโอสถให้ แต่ด้วยนางเป็นเพียงกระถางขัดเกลา หนิงฝานจะทำยังไงกับนางก็ได้

“ข้ารวบรวมสมุนไพรครบแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะทำให้พวกเจ้ากลับคืนสู่ความงามดังก่อน...” หนิงฝานยิ้มพลางลูบสัมผัสใบหน้าของพวกนางเบาๆ

โอสถคืนโฉมคือโอสถผันแปรที่ 5 ซึ่งต้องใช้สมุนไพรพันปี เขาต้องเวลานานในการปรุงกสมุนไพรเหล่านั้น

เมื่อครั้งที่พวกนางเป็นทาสของลี่ป่าน ใบหน้าที่งดงามของพวกนางถูกทำลายเสียโฉม แต่หลังจากนั้นลี่ป่านก็ถูกสังหาร กระทั่งพวกนางได้หนิงฝานเป็นนายคนใหม่

“ขอบคุณ...” พวกนางยิ้ม แม้ใบหน้าของพวกนางจะดูอัปลักษณ์ แต่รอยยิ้มของพวกนางกลับงดงามตรึงใจ

“ไว้ข้าปรุงโอสถให้พวกเจ้าเสร็จก่อนค่อยขอบคุณข้า ที่ข้าเรียกพวกเจ้าออกมาก็เพราะมีเรื่องอยากถาม พวกเจ้ารู้จักที่นี่หรือเปล่า?”

หนิงฝานเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เกี่ยวข้องกับเผ่าอสูรโบราณ และบางที พวกนางอาจจะรู้อะไรบ้าง

เมื่อพวกนางหันมองรอบๆ สีหน้าพวกนางแปรเปลี่ยนประหลาดใจทันที

“นายท่าน ท่านหาที่นี่พบได้ยังไง? ที่นี่… คือ ‘ดินแดนแห่งนิทรา’! ที่นี่มีอสูรตัดวิญญาณและอสูรไร้ดัดแปลงหลับไหลอยู่! เป็นสถานที่อันตรายอย่างที่สุด!”

เป็นครั้งแรกที่พวกนางเป็นห่วงหนิงฝาน

“ดินแดนแห่งนิทรา หากเป็นอย่างพวกเจ้าว่า ที่นี่ก็สมควรมีอสูรไร้ดัดแปลงอยู่จริง!” หนิงฝานขมวดคิ้ว

“หากข้าจำไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็น ‘แดนแรก’!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด