ตอนที่ 26 อันดับหนึ่งของห้อง
เปลวไฟมากมายพุ่งมาราวกับฝน และรวดเร็วเหมือนดาวตก
เฟิงหลินไม่ขยับแม้แต่นิด ราวกับว่าเขากลัวการโจมตีจนไม่อาจขยับตัว
เปลวไฟนั้นล้อมรอบเฟิงหลินอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็นเงา
"ฮ่าฮ่า เด็กเหลือขออย่างแกจะต้องถูกเผาจนตาย!"
"ในฐานะลูกน้องอันดับหนึ่งของนายน้อยคล็อต หมัดเพลิงอุกกาบาตรของจ้าวไคนั้นดุร้ายเหมือนเดิมเลย!"
“เด็กเหลือขอนั่นเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้ว ใครจะคิดว่าเขาอ่อนแอมากขนาดนี้!”
...
คนอื่นๆพากันส่งเสียงเชียร์ ราวกับพวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ดูคนถูกเผาทั้งเป็น
คล็อตจ้องมองภาพตรงหน้าและขมวดคิ้ว
เด็กนั่นจู่ๆก็ดีดตัวขึ้นมาและได้อันดับสามในหอต่อสู้ลวงตา เขาจะอ่อนแอขนาดนั้นเลย?
แต่เขาจะได้ที่สามได้ยังไงถ้าเขาอ่อนแอขนาดนี้?
เป็นไปได้ไหมว่าA.I.ผิดพลาด?
"จ้าวไค จำไว้ อย่าเผามันจนตาย" เขาขมวดคิ้วและเตือน
"นายน้อยคล็อตไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ความรุนแรงของเปลวไฟเหล่านี้แค่ทำให้ผิวของเขาไหม้เกรียม ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นเพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรามีอยู่ทุกวันนี้จัดการได้ หากเราไม่ทำให้มันกลัว มันจะไม่เชื่อฟัง! " จ้าวไคหัวเราะเยาะเย้ย
คล็อตพยักหน้าหลังจากได้ยินอย่างนั้น
ยังไงเขาก็รวยอยู่แล้ว ตราบใดที่เฟิงหลินไม่ตายจากการถูกไฟไหม้ เขาก็สามารถรักษาได้ มันเป็นการดีที่จะสั่งสอนเด็กเหลือขอนี่สักหน่อย ไม่งั้นเขาจะไม่รู้ว่าอะไรคือสวรรค์อะไรคือนรก
“แกอยากยอมแพ้ไหม? หมัดของแกเล็กแค่นี้ มันจะเป็นภาพที่สวยงามเกินจินตนาการเลยล่ะ” เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นดังขึ้น
"อะไรกัน?" ทุกคนอุทานด้วยความตกใจ
เปรี้ยง!
เกิดการระเบิดขึ้นในเปลวไฟ เฟิงหลินเดินออกมาช้าๆ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยไหม้บนผิวหนังเขา
"เป็นไปได้ยังไง?ทำไมแกไม่เป็นอะไรเลย?" จ้าวไคตะลึง เขาโจมตี้วยพลังทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังทำให้เฟิงหลินบาดเจ็บไม่ได้เลย?เขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง?
"แกพูดมากไป" เฟิงหลินส่ายหัว
ตั้งแต่อีกฝ่ายทำอย่างนี้กับเขา เขาจะสุภาพต่อไปเพื่ออะไร?
มันต้องหยาบคายตอบ!
นับเป็นเรื่องบังเอิญ เขาเพิ่งกินเสริมยาธาตุอาหารไป และเขาก็มีพลังเอ่อล้นพร้อมปลดปล่อย เขาอาจใช้โอกาสนี้เพื่อย่อยสารอาหาร
เฟิงหลินเคลื่อนไหวตามกระบวนท่าฝ่ามือ8เหลี่ยม ทำให้เกิดภาพติดตา
ในเวลาเดียวกันเขาก็ปล่อยหมัดออกมาดั่งสายน้ำ
จ้าวไครีบพุ่งไปข้างหน้า และใช้เทคนิคใหม่
หมัดเพลิงคลั่ง!
ร่างกายของเขาพลันติดไฟ กลายเป็นมนุษย์เพลิง
หากคู่ต่อสู้ของเขาเป็นคนธรรมดา พวกเขาจะสั่นและรู้สึกกลัวอย่างแน่นอน
แต่เฟิงหลินไม่ใช่คนธรรมดา ผิวด้านนอกของเขาส่องประกายแวววาวกันความร้อนที่น่าสยองออกจากตัวเขา
หมัดของเขาเหมือนสายฟ้าที่เข้าห้ำหันไม่หยุดหย่อน
"เป็นไปได้ยังไง?" ทันทีที่หมัดของพวกเขาปะทะกัน สีหน้าของจ้าวไคก็พลันเปลี่ยนไป เขารู้สึกเหมือนชกใส่เสาหินและรู้สึกเจ็บปวดจากการปะทะ
ฟู้ว!
เปลวไฟที่เกิดขึ้นนั้นดับลงเพราะลมที่เกิดจากหมัดของเฟิงหลิน พลังมหาศาลทำให้จ้าวไคถอยไปด้านหลังอย่างน้อยสามเมตร
ภายใต้กระบวนท่าเดียว ความแข็งแกร่งก็ถูกเปิดเผย
"อ่อนแอเกินไป!" เฟิงหลินส่ายหัว เขาไม่ได้แสดงความเมตตาและโจมตีต่อ
หมัด8เหลี่ยม!
ไทชิถูกเก็บซ่อนไว้หลายสิบปี และนี่ก็ถึงเวลาประกาศศักดาของมัน!
เฟิงหลินปลดปล่อยศิลปะการต่อสู้โบราณที่โด่งดังอย่างรวดเร็วและดุร้าย หมัดและขาของเขาเหมือนอาวุธที่น่ากลัว ไม่เพียงเท่านั้น…ศอก หัวเข่า หัวและทุกส่วนของร่างกายเขายังนับเป็นอาวุธ การโจมตีของเขาก็เหมือนสายน้ำที่ไม่หยุด สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่งอย่าง
จ้าวไคไม่มีทางที่จะหยุดการโจมตีนี้ได้ ร่างกายของเขาสั่นเทาและล้มลง
เปลวไฟที่เขาภูมิใจมากไม่สามารถทำลายผิวที่เหมือนหินของเฟิง หลินได้ เปลวไฟทั้งหมดของเขาดับไปง่ายๆ
"อะไรกัน? จ้าวไคโดนจัดการแล้ว?"
"สถานะพลังของไอเด็กนี่ไม่ใช่1.5งั้นหรอ?เขาจะเอาชนะได้ยังไงกัน?”
"เหลือเชื่อ!"
...
ทุกคนพากันตกใจ ไม่ใช่เพียงจ้าวไคที่ตกใจแม้แต่เจส คล็อตและคนอื่นๆก็ไม่อย่างเชื่อสายตา
จ้าวไคไม่ใช่ไก่อ่อน สถานะพลังของเขาอยู่ที่2.2 และเขาได้ปลุกทั้งยีนไฟและยีนโลหะขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาน่าประทับใจและเขาก็มีความสามารถที่แข็งแกร่ง
จ้าวไคถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในโรงเรียน หมัดเพลิงคลั่งของเขาโด่งดังมาก การโจมตีแต่ละครั้งของเขานั้นแข็งแกร่งดุจโลหะ ดุจไฟ แม้แต่คนที่มีพลัง2.0ก็ยังไม่อาจหยุดยั้งเขาได้
แต่ตอนนี้เขากลับถูกทุบตีเหมือนสุนัข
"ไปตายซะ!" จ้าวไคพลาดการโจมตีของเขาอีกครั้ง แต่คู่ต่อสู้กลับโจมตีโดนเขา ใบหน้าเขาบิเบี้ยวอย่างเจ็บปวด จิตสังหารพลันระเบิดจากเขาเมื่อเขาเริ่มปลดปล่อยพลังทั้งหมด เตรียมฆ่าเฟิงหลิน
แม้เขาจะไม่ได้รับการยอมรับว่าโดดเด่นที่สุดในโรงเรียน แต่เขาก็เป็นที่หนึ่งในห้อง17เสมอ ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของเขาได้
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปหลังจากการทดสอบในหอต่อสู้ลวงตา
เฟิงหลินคนนี้จู่ๆก็โผล่ออกมาพร้อมกับศักยภาพที่เต็มเปี่ยมและกลายเป็นนักเรียนอันดับสาม ไม่เพียงแต่เขาจะกำจัดอัจฉริยะส่วนใหญ่ของโรงเรียนได้ แต่ยังถึงกับทิ้งห่าง
เขาจะทนได้ยังไง?
เขายังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของอาจารย์หญิงที่เปลี่ยนไป?
หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ตำแหน่งของเขาย่อมสั่นคลอน อันดับหนึ่งในห้อง 17 จะเป็นของเฟิงหลินแทน
เขาจะให้คนอย่างเฟิงหลินขึ้นไปอยู่เหนือหัวได้ยังไง? ดังนั้นเขาจึงรายงานข้อมูลของเฟิงหลินให้นายน้อยคล็อตฟัง เพราะอยากหยิบยืมอำนาจของเขามาบังคับเอาความลับของเฟิงหลิน
อย่างไรก็ตามจริงๆแล้วคนที่ถูกจัดการกลับเป็นเขา
"สมควรตาย!" จ้าวไคหงุดหงิดและโกรธมาก ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนท่าทาง
ชุดเหล็กระฆังทอง!
เขาลุกขึ้นยืนพร้อมปล่อยกลิ่นอายก้าวร้าว ทั่วร่างจ้าวไคพลันเปลี่ยนเป็นสีดำน้ำตาล เหมือนคนที่ทำจากโลหะสัมฤทธิ์
"ยีนโลหะ!" เฟิงหลินใคร่ครวญ
ยีนนี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมโลหะได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมจ้าวไคถึงหยิ่งมาก เขารู้สึกว่าไม่มีใครในชั้นเรียนของเขาสามารถคุกคามตำแหน่งของเขาได้
กระบวนท่านี้ ชุดเหล็กระฆังทองเป็นสิ่งที่เฟิงหลินเคยได้ยินมาก่อน เทคนิคนี้ต้องมียีนโลหะก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ เมื่อมีใครสามารถควบคุมโลหะในร่างกายได้ คนๆนั้นก็จะรวบรวมพวกมันและชักนำให้มาปกคลุมร่างกาย
วัชระแบกหม้อ!
เฟิงหลินไม่ยอมถอย เขาเปลี่ยนเทคนิคของเขาเป็นหมัดวัชระสะกดอสูรและปะทะกับจ้าวไค
ปัง ปัง ปัง!
หมัดของพวกเขาปะทะกันเกิดเสียงดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง คล้ายหินกระทบโลหะ
คนหนึ่งมียีนโลหะและอีกคนมียีนหิน
ยีนที่แตกต่างกันสองประเภท เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายแตกต่างกัน การปะทะกันของทั้งสองทำให้หัวใจของทุกคนเต้นแรง
เฟิงหลินห้าวหาญ เขาเดินหน้าไปทีละก้าว
จ้าวไคค่อยๆถอยหลัง
ที่จริงแล้วทั้งยีนไฟและยีนโลหะนั้นถือเป็นยีนระดับสูงในบรรดายีนพื้นฐาน เกรดของพวกมันสูงกว่ายีนหิน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการต่อสู้ก่อนหน้านี้ไฟที่เกิดขึ้นพลันมอดับง่ายๆ และชุดเหล็กระฆังทองจากยีนโลหะก็เป็นส่วนเดียว รวมแล้ว จ้าวไคเสียเปรียบมาก
เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ ไม่มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากจ้าวไคอ่อนแอเกินไป
เพียงแค่สถานะพลังสูงเท่านั้น สถานะพลังสามารถเพิ่มขึ้นโดยการบริโภคสารอาหารจำนวนมาก แต่เนื่องจากจ้าวไคไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับยีนของเขาอย่างเหมาะสม เขาจึงอ่อนแอมาก
หมัดวัชระ!
หมัดของเฟิงหลินระเบิดออกมา ก่อให้เกิดลมร้อนแรง ซัดใส่ร่างของจ้าวไคส่งเขาลอยไปในอากาศ
อ่อนแอเกินไป!
แม้ว่าเฟิงหลินจะเป็นผู้ชนะและได้ขึ้นอันดับหนึ่งในห้อง17 แต่เขาก็ไม่รู้สึกพึงพอใจหลังจากเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอเช่นนี้
เฟิงหลินต้องการสู้ต่อ เขาส่ายหัวและเหลือบมองไปที่คนที่เหลือ และพูดอย่างเย็นชา "เข้ามา พร้อมกันเลย!"
"อวดดี!"
"แกคิดว่าแกแน่มากหรอหลังจัดการจ้าวไคได้ แกคิดว่าแกไร้เทียมทาน?”
"รนหาที่ตาย!"
.....
คนพวกนี้ทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองในโรงเรียน พวกเขาจะไปเคยเจอเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?ทั้งหมดเต็มไปด้วยความโกรธ
"มีดีแค่พูดกันรึไง!" เฟิงหลินยืนนิ่งและทนไม่ไหว เขามีความคิดที่จะสู้กับคนทั้งหมดจริงๆ
ในเมื่อเข้ามาด้วยเจตนาไม่ดี เขาก็จะไม่ไว้หน้าเหมือนกัน!
คนเหล่านี้ล้วนมีกลิ่นอายชั่วร้าย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดปล่อยเขาไป
ในเมื่อเป็นเช่นีน้ เขาก็ต้องถอนวัชพืชให้หมด!
เฟิงหลินหมดความอดทนที่จะเสียเวลา
สำหรับการต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะ ความแข็งแกร่งยังคงอยู่เหนือทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะปากดีแค่ไหนมันก็ทำร้ายใครไม่ได้
เฟิงหลินพลันถีบตัวทะยานออกไป ตั้งใจบดขยี้คนพวกนี้ให้หมด!