ตอนที่ 25 ข้อเสนอ

นักเรียนกลุ่มนี้ยืนล้อมรอบเฟิงหลิน พวกเขายิ้มเย็นชาและมองเฟิงหลินตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นได้ชัดว่ามาด้วยเจตนาไม่ดี

"จ้าวไค แกต้องการอะไร?" เฟิงหลินจ้องมองจ้าวไคซึ่งเป็นหัวหน้า น้ำเสียงของเขาสงบเหมือนไม่กังวลอะไรเลย

"จ้าวไคนี่คืออัจฉริยะคนใหม่ 'เฟิงหลิน' จากห้อง17งั้นหรอ" เสียงหัวเราะที่เยือกเย็นดังขึ้น

จ้าวไคซึ่งเป็นหนึ่งในอัจฉริยะอันดับต้นๆของห้อง 17 มีสีหน้าประจบสอพลอในทันที เขามองเด็กผิวขาวร่างสูงที่น่าเกรงขามและพูดว่า"เขานี่แหละ นายน้อยคล็อต!"

เด็กหนุ่มจากผิวขาวสูงสองเมตร ใบหน้าของเขาโดดเด่นด้วยจมูกโด่งคล้ายนกอินทรี ออร่าที่ขับออกมานั้นร้ายกาจมาก ร่างของเขาผอมและมีกล้ามเหมือนเสือดาวในร่างมนุษย์ สถานะพลังของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

นักเรียนกว่าสิบคนที่นี่ล้วนมีสถานะพลังอย่างน้อย1.0 พวกเขาเต็มใจที่จะเป็นผู้ติดตามของชายผิวขาวคนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องได้รับประโยชน์บางอย่างจากหัวหน้าคนนี้

เฟิงหลินรู้จักชายคนนี้

ในยุคสมัยดวงดาวเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างๆของโลกได้ข้ามขีดจำกัดด้านภูมิภาคต่างๆ พวกเขาเดินทางข้ามเส้นทางและเข้ามาหากันทำให้เกิดเลือดผสมมากมาย

ถึงแม้ว่าเมืองฮั่วเซียของเฟิงหลินจะอยู่ในเขตของสาธารณรัฐจีนยุคโลกโบราณ นอกเหนือจากคนผิวเหลือง แต่ก็มีคนผิวดำและผิวขาวอยู่บ้างเล็กน้อย

สำหรับเจส คล็อต เขาเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงจากคนผิวขาว เขามีพลังสูงมากและมีชื่อเสียง ว่ากันว่าเขาเป็นนายน้อยจากกลุ่มการเงินในเมืองฮั่วเซีย และตระกูลเขาก็มีทรัพย์สินกว่า2หมื่นล้านเหรียญดารา

ด้วยภูมิหลังที่ดี กลุ่มของเขาจึงสามารถจัดหาทรัพยากรชั้นเลิศ ทำให้เจส คล็อตมีสถานะพลังถึง2.5 แต่ผลคะแนนของเฟิงหลินในหอต่อสู้ลวงตานั้นน้อยกว่าเขาเพียงสามแต้ม เพราะเหตุนี้เขาจึงสามารถรู้สึกได้ว่าเฟิงหลินเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว

เฟิงหลินไม่รู้ว่าทำไมคนคนนี้ต้องการหาเรื่องเขา แต่ก็ยังปฏิบัติตัวอย่างสุภาพ

แต่ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่คิดเหมือนเขา คล็อตมองเฟิงหลินและแสดงสีหน้าเหยียดหยาม

จ้าวไคเดินออกมาและกล่าว"แกยังงงอยู่อีก?นายน้อยคล็อตอยู่ตรงหน้า ทำไมแกยังไม่ทำความเคารพอีก?"

"พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนกัน" เฟิงหลินเกือบหัวเราะออกมาพร้อมส่ายหัว "นี่มันยุคสมัยดวงดาวแล้ว แต่แกยังทำตัวหัวโบราณ?พวกแกมาจากแก๊งค์หรอ?แกต้องการให้ฉันทำความความเคารพ?โรงเรียนมีกฎแบบนี้ตอนไหนกัน?”

"แกกล้าพูดกับนายน้อยคล็อตถึงขนาดนี้?”

"ไอ้โง่ แกเตรียมตัวตายได้เลย!"

“ช่างเจ้าเล่ห์มาก นายน้อยคล็อต ท่านจะจัดการเองหรือให้เราสั่งสอนมันก่อน?”

...

คนเหล่านั้นเบียดเข้ามาล้อมเขา และจ้องราวกับว่าเสือมองเหยื่อ แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำแบบนี้

เฟิงหลินดูไม่ใส่ใจ เขาขยับร่างกายและเตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ

"สารเลว แกช่างกล้าจริงๆ“คล็อตโบกมือ บอกให้ลิ่วล้อเขาหลบไป เขาเดินมาใกล้ หรี่ตามองเฟิงหลิน”หากแกคิดว่าแกสามารถทำตามใจชอบได้เพราะการแสดงฝีมือได้ดีครั้งเดียว แกก็คิดผิดแล้ว มีเพียงอัจฉริยะแท้จริงของโรงเรียนอย่างฉันและต้วนหยุนหลิว ไม่มีที่ให้คนอย่างแก!”

โอ้? แกคิดว่าแกเป็นพระเจ้าหรือไง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่แกพูด?

เฟินหลินไม่สนใจสุภาพกับคนหยิ่งยโสเช่นนี้ มันช่างเสียเวลาสิ้นดี

เขาถูกรายล้อมไปด้วยศัตรู ถ้านี่เป็นเมื่อก่อนเขาคงรู้สึกกดดันมาก แต่ตอนนี้ด้วยความแข็งแกร่งที่มาพร้อมความมั่นใจ เขาไม่ตีโพยตีพายและพูดตรงๆ"แล้วแกมาหาฉันทำไม?แค่บอกฉันว่าแกต้องการอะไร หยุดทำตัวเหมือนพวกโง่แต่อวดฉลาด”

ตาของคล็อตหรี่ลง ทุกครั้งที่เขาพูดไม่ว่ากับใครทุกคนจะให้ความเคารพเขาเสมอ แต่เฟิงหลินกลับไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย

เขาโมโหจนแทบคลั่ง แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์และระงับความโกรธเอาไว้

ฉันจะอดทนกับคำพูดของแกไว้ก่อน หลังจากที่ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะแสดงให้แกเห็นว่าใครใหญ่กว่า

"วันนี้ ฉันมาหาแกเพราะฉันต้องการให้แกช่วย"คล็อตพูดเบาๆ เขากล่าวต่อไปว่า"การระเบิดพรสวรรค์ทำให้แกทำผลงานได้ดีวันนี้ แกต้องพบเจอโชคฟ้าประทานมาใช่ไหม?หากแกบอกความลับฉัน ฉันจะให้แกหมื่นเหรียญดารา!พวกจนอย่างแกคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหมละ?”

"อะไรนะ?แกต้องการให้ฉันบอกความลับว่าฉันว่าฉันแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง?"เฟิงหลินงุนงง คนเหล่านี้กำลังบังคับให้เขาบอกความลับ?

สมองเป็นเครื่องมือที่ดี ฉันแค่หวังว่าคนอื่นๆจะมีสมองเหมือนกัน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเฟิงหลินเข้าใจอย่างชัดเจนมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสมการทางพันธุกรรม ตอนนี้ผู้ชายคนนี้อยากให้เขามอบมันอย่างนั้นนะหรอ? บ้าหรือเปล่า?

เรื่องนี้สำคัญต่อความแข็งแกร่งของตัวเขา เมื่อการบ่มเพาะแข็งแกร่งขึ้น จะมีอะไรที่เขาหามาไม่ได้อีก? คนโง่เท่านั้นที่จะแลกกับผู้ชายคนนี้

ไม่ว่าในกรณีใด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแลกเปลี่ยนสมการทางพันธุกรรม มันเป็นความสามารถโดยธรรมชาติที่เป็นของเขาโดยเฉพาะ แม้ว่าเขาจะทำได้เขาก็จะไม่ทำเช่นนั้น

10,000 เหรียญดารา? แกคิดว่าฉันเหมือนขอทาน?

นับประสาอะไรกับ 10,000 ต่อให้เป็นล้าน สิบล้านหรือพันล้านเขาก็จะไม่มีวันแลก

"ฮี่ฮี่ฮี่." เฟิงหลินเริ่มหัวเราะ กับความบ้าของผู้ชายคนนี้

"แกหัวเราะอะไร" หนังตาคล็อตกระตุกถี่ยิบ รู้สึกเหมือนถูกล้อเลียน สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นชั่วร้าย

"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ... ฮ่ะฮ่าฮ่า ... ฮ่าฮ่าฮ่า ... " เฟิงหลินไม่ตอบและหัวเราะต่อ แต่สีหน้ากลับเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการหัวเราะให้กับความโง่ เขาไม่ได้พูดอะไรเลย

"แกหัวเราะอะไร?" คล็อตโกรธ เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่ยอมบอกความลับ ความโกรธในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

ตั้งแต่เด็กเขาอยู่อย่างเจ้าชาย และเป็นอัจฉริยะอันดับสองในโรงเรียนนี้ ไม่มีใครเคยมองเขาด้วยสายตาดูถูกมาก่อน

คราวนี้ในหอต่อสู้ลวงตาเขาถูกต้วนหยุนหลิวนำไปอีกครั้ง ดูเหมือนว่าไม่ว่าเขาจะพยายามหนักขนาดไหน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

สิ่งที่ทำให้เขาด้อยกว่าเดิมคือมีเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าได้อันดับสาม และคะแนนยังห่างเขาแค่สามคะแนน นี่เหมือนการถูกตบหน้า

หลังจากที่จ้าว ไคเฝ้าสังเกตเฟิงหลินและบอกทุกอย่างให้กับเขา เขาจึงรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด

ก่อนหน้านี้เด็กเหลือนี่มีสถานะพลังเพียงแค่0.4 แต่ตอนนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาถึง1.5 เห็นได้ชัดว่าเขาต้องค้นพบวิธีบางอย่าง

ความโชคดีเช่นนี้จะสิ้นเปลืองถ้าอยู่กับคนๆนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับโชค เขาอาจเอาชนะ ต้วนหยุนหลิวได้ก็ครั้งนี้ และกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในโรงเรียนทันทีถ้าเขาได้รับโชคลาภจากเฟิงหลินได้

เพื่อเป็นการเอาใจเขา จ้าวไคจึงปฏิญาณตนทันทีว่าเขาจะบังคับให้เฟิงหลินบอกความลับให้ได้

และเจส คล็อตก็ถูกล่อลวงด้วยความโล�

แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้ไม่ยอมทำตาม เจส คล็อตก็มองจ้าวไคอย่างโมโห "นี่ไม่เห็นเหมือนกับที่แกพูด จัดการให้เรียบร้อยซะ!"

น้ำเสียงของเขาเย็นชา มันเหมือนกับว่าหากจ้าวไคจัดการกับสิ่งนี้ไม่ได้ เขาจะจัดการจ้าวไค

สีหน้าของจ้าวไคแข็งทื่อ เขาก้าวมาข้างหน้าและขู่"เฟิงหลินรีบบอกความลับของแกมาเร็ว แกน่าจะรู้ว่าแบบไหนดีกับตัวแกเอง นายน้อยคล็อตจะไม่ใจดีอีกต่อไป นี่เป็นทางที่ดีกับตัวแกเอง และไม่ว่ายังไงมันเป็นการสิ้นเปลืองที่ความลับนี้จะอยู่กับแก ในอนาคตหากแกติดตามนายน้อยคล็อต แกจะได้รับผลประโยชน์อีกไม่รู้เท่าไหร่ "

“ถ้าแกอยากเป็นคนโง่ แกก็อย่ามาลากฉันไปโง่ด้วย?” เฟิงหลินไม่ปกปิดบังสีหน้ารังเกียจของเขา "ถ้าแกอยากจะเป็นหมาก็เป็นไป แต่อย่าลากฉันไปด้วย"

“แก…” เนื้อตัวจ้าวไคสั่นด้วยความโกรธ

ในฐานะอัจฉริยะคนหนึ่งในห้อง17 เขาได้รับการยอมรับมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขาถูกเรียกว่าหมา เขาจะทนได้ยังไง?

เมื่อเห็นว่าจ้าวไคไม่สามารถทำอะไรเฟิงหลินได้ คล็อตก็หมดความอดทน "เร็วเข้า!"

"เฟิงหลินในเมื่อแกอยากตาย ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เมตตาก็แล้วกัน" ท่าทางของจ้าวไคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขามองเฟิงหลินเหมือนมองคนตาย

หมัดเพลิงอุกกาบาต!

หมัดของเขามีไฟลุกและโจมตีใส่เฟิงหลินอย่างไม่ลังเล

หมัดทั้งสองของเขาพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว และลูกไฟก็ยิงออกมาราวกับสายฝน ทำให้เกิดการระเบิดเล็กๆขึ้นในอากาศ การโจมตีพลันปกคลุมเฟิงหลินไว้ข้างใน...