GE234 กระถางขัดเกลาตัดวิญญาณ [ฟรี]
“3.5 ล้าน”
“4 ล้าน”
“5 ล้าน”
หญ้าหมื่นกระบี่เป็นประโยชน์กับผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนกระบี่ แม้ผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนกระบี่จะมีอยู่ไม่มาก แต่ผู้ที่มาเข้าร่วมงานประมูลก็มีผู้ที่ฝึกฝนกระบี่อยู่หลายคน
แต่เมื่อหนิงฝานเสนอราคา 5 ล้านหยกสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆไม่กล้าประชันราคาต่อ
หนิงฝานเหยียบย่างนภาลงมา จ่ายหยกสวรรค์ให้กับเหยียนซ่งสื่อแล้วนำหญ้าหมื่นกระบี่จากไป
ในอดีต หญ้าหมื่นกระบี่เคยประมูลได้ราคาถึง 7 ล้านหยกสวรรค์ แต่เมื่อหนิงฝานเสนอราคา คนอื่นๆก็ไม่กล้าประชัน
กวนซ่ง มือกระบี่ในขอบเขตตัดวิญญาณสนใจหญ้าหมื่นกระบี่เป็นอย่างมาก
แต่ด้วยเพราะมันไม่อยากผิดใจกับหนิงฝาน จึงปล่อยหญ้าหมื่นกระบี่ไป
นอกจากหญ้าหมื่นกระบี่ ยังมีสมุนไพรหมื่นปีอีกหลายชนิด หากสมุนไพรใดที่หนิงฝานไม่จำเป็นต้องใช้ เขาจะไม่ประชันราคา แต่เมื่อตำรับโอสถผันแปรที่ 5 เข้าประมูล หนิงฝานประมูลเอามาทั้งหมด
หยกสวรรค์ที่ได้จากงานประมูลจะถูกส่งให้กับเผ่าปีศาจยักษ์ ดังนั้น สู่ลู่ฉานจึงไม่ได้มีส่วนลดหรือสิทธิพิเศษใดๆให้หนิงฝาน
หนิงฝานใช้หยกสวรรค์ในงานประมูลไปมากถึง 200 ล้านหยกสวรรค์ ทำให้ยามนี้เขาเหลือหยกสวรรค์อยู่ไม่มาก
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ร่วมประชันราคากับสมบัติระดับสูงที่เข้าประมูล
นั่นทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดหลายคนผ่อนคลาย
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดไม่รู้ว่าหนิงฝานคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5… ด้วยอายุกระดูกเพียง 340 ปี การที่บรรลุความแข็งแกร่งระดับนี้นับเป็นเรื่องท้าทายสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จะยังเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ด้วย
จากการใช้หยกสวรรค์ในการประมูลของหนิงฝาน ทำให้เหยียนซ่งสื่อประหลาดใจ
ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณของทะเลไร้สิ้นสุด ผู้ที่มีหยกสวรรค์ 10 ล้านนับเป็นผู้มั่งคั่ง ในเส้นทางของการฝึกตนนั้น ทั้งสมบัติ ทั้งข่ายอามคม ทั้งโอสถ ทั้งหมดนั้นล้วนต้องใช้หยกสวรรค์จำนวนมหาศาลให้ได้มา
หากเทียบผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณในแคว้นต่างๆ คนเหล่านั้นจะไม่ร่ำรวยขนาดนี้
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดจำนวนมาก ถึงกับยอมทุ่มทุกสิ่งเพื่อให้ตนได้ครอบครองสมบัติระดับสูง
แต่ช่างน่าเสียดายที่สมบัติระดับสูงเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของกวนซ่งและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั้งหมด
“ผ้าคลุมสวรรค์ม่วง... สมบัติกึ่งสวรรค์ ราคาเริ่มต้นคือ 10 ล้านหยกสวรรค์!”
“กระบี่เมฆาแดง สมบัติกึ่งสวรรค์ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านหยกสวรรค์!”
“เจดีย์เล่าเหยียน...”
“ธงวิญญาณ ราคาเริ่มต้น 10 ล้าน...”
สมบัติหลากหลายชนิดเข้าสู่การประมูล ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากประชันราคากันอย่างดุเดือด แต่หนิงฝานกลับไม่สนใจ
หนิงฝานมีสมบัติกึ่งสวรรค์อยู่ 3 ชิ้น แค่นั้นก็พอแล้ว
หลังจากการประมูลสมบัติ ก็เป็นการประมูลโลหะวิญญาณ
เกาะปีศาจสำราญแห่งนี้เต็มไปด้วยแร่ จึงมีแร่วิญญาณที่ไม่ธรรมดาอยู่ด้วย
ดังนั้น แร่วิญญาณในระดับตัดวิญญาณจึงมีให้เห็นในงานประมูลครั้งนี้ด้วย
เมื่อแร่วิญญาณในระดับไร้แบ่งแยกอย่าง ‘ดูดซับปราณ’ เข้าประมูล ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงให้ความสนใจ โดยเฉพาะซัวฉิง
ตระกูลซัวมีวิชาลับที่สามารถจู่โจมดวงจิตโดยตรง ทั้งยังมีสมบัติที่มีความสามารถคล้ายแส้อัสนีของหนิงฝานอยู่ แม้จะไม่ได้ทรงพลังเท่าก็ตาม
แต่หากอาวุธของมันมีแร่วิญญาณที่ช่วยเสริมความสามารถพิเศษให้ อานุภาพของมันก็จะทรงพลังขึ้นหลายเท่าตัว
“ดูดซับปราณ... แร่วิญญาณระดับไร้แบ่งแยกขั้นสูงสุด หากหลอมมันเสริมให้กับอาวุธ หากจู่โจมถูกศัตรู มันจะดูดซับเอาปราณจากศัตรูมาเสริมพลังให้ตน… ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20 ล้านหยกสวรรค์...”
“21 ล้าน!” หนิงฝานเสนอราคา
ซัวฉิงขมวดคิ้วและไม่ได้ประชันราคา
“นายน้อยประชันราคาเถอะ” ซัวสื่อกล่าว
“ปล่อยให้มันเอาไปเถอะ...” ซัวฉิงกล่าวอย่างเรียบเฉย
แร่วิญญาณระดับไร้แบ่งแยกนั้น เป็นที่ต้องการของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แม้ราคาจะสูงแต่ซัวฉิงยังซื้อหาได้ เพียงแต่ยามนี้มันไม่อยากผิดใจกับหนิงฝาน
หลังจากแร่วิญญาณผ่านไป ก็เป็นคราวของการประมูลโอสถผันแปรที่ 4 และ 5 หนิงฝานประชันราคาเฉพาะโอสถพิภพ และโอสถปฐมสวรรค์เท่านั้น
เมื่อกระประมูลโอสถจบลง ของประมูลระดับสูงสุดอีกชิ้นก็ถูกนำสู่การประมูล… ศิลาเทพ!
เหยียนซ่งสื่อถือกล่องใบหนึ่งที่มีลวดลายสลักสีโลหิตมา ทำให้กล่องใบนั้นกลายเป็นจุดสนใจของผู้เชี่ยวชาญแทบทั้งหมด
ศิลาเทพแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ สวรรค์ พิภพ ดำ และเหลือง หากเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของวิหารพิรุณ จะได้ศิลาเทพเหลือง ซึ่งผู้ที่มอบให้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ทรงพลังมาก ราคาเริ่มต้นในงานประมูลของมันจึงสูงถึง 30 ล้านหยกสวรรค์
แม้มันจะได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่เหล่าผู้ที่ยังไม่บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ ก็ไม่กล้าใช้จ่ายหยกสวรรค์จำนวนมหาศาลเพื่อซื้อมัน
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่อยู่ชั้น 4 ก็ไม่มีผู้ใดสนใจประชันราคา
ดังนั้น ศิลาเทพจึงตกเป็นของซัวฉิง
หนิงฝานเองก็ไม่สนใจ เพราะตงสู่มีศิลาเทพอยู่หลายก้อน แม้หนิงฝานจะยังไม่ได้รักษาสู่ฉุ่ยหลิง แต่ชายชราก็มอบศิลาเทพให้แล้ว
เมื่อการประมูลศิลาเทพสิ้นสุด ก็เป็นการประมูลของโอสถบางชนิด กระทั่งสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดอย่างที่ 3 ของงานประมูลครั้งนี้ได้เข้าประมูล นั่นคือผลึกแห่งเต๋า!
ผลึกแห่งเต๋าคือศิลาใสสีคราม มีรูปดอกบัวประทับอยู่ ภายในนั้นอัดแน่นด้วยปราณจำนวนมหาศาล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5 ล้านหยกสวรรค์
“ผลึกแห่งเต๋าคือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณต้องการ เป็นสิ่งที่ใช้วางข่ายอาคมระดับไร้แบ่งแยก ทั้งยังเป็นเงินตราในแดนสวรรค์… ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5 ล้านหยกสวรรค์”
แม้ผลึกแห่งเต๋าจะเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา แต่มันกลับเป็นประโยชน์เพียงแค้เป็นแหล่งพลังงานให้กับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก และใช้ในการวางข่ายอาคมระดับไร้แบ่งแยก จึงไม่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดในงานสนใจมากนัก
“เงินตราในแดนสวรรค์...” หนิงฝานส่ายหน้า มันยังไม่จำเป็นสำหรับเขา หากได้ไปแดนสวรรค์ เขามีวิธีที่ทำให้ได้มา
ผลึกแห่งเต๋าหนึ่งก้อนนับเป็นสิ่งล้ำค่าในโลกพิรุณ แต่ในแคนสวรรค์ มันก็เหมือนหยกสวรรค์ของเหล่าเซียน
ผู้ที่ประมูลได้ไปคือซือกู่ ในราคา 9 ล้านหยกสวรรค์!
หนิงฝานแอบหัวเราะในใจ
หากวันหนึ่งเขาสังหารมัน ผลึกแห่งเต๋าก็จะกลายเป็นของเขา
กระถางขัดเกลาระดับดวงจิตแรกเริ่มทั้งหมดที่จะใช้ในงานประมูลได้ตกเป็นของหนิงฝานไปแล้ว จะเหลือก็เพียงสัตว์อสูร แมลงวิญญาณ และยันต์
ยันต์ที่เข้าร่วมประมูลสามารถกระตุ้นให้เกิดการจู่โจมที่รุนแรงเท่ากับสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม หนิงฝานจึงสนใจในประโยชน์ของมัน
หลังจากช่วยสู่ฉุ่ยหลิงแล้ว ตงสู่สัญญาจะให้ทาสในขอบเขตตัดวิญญาณ 17 ตน หากหนิงฝานได้สัตว์อสูรจากงานประมูลเพิ่ม เขาก็จะมีทาสมากขึ้น
การประมูลดำเนินไปถึง 3 วัน ในที่สุดก็มาถึงของประมูลชิ้นสุดท้าย
เมื่อสตรีที่ถูกตรวจล่ามไว้ มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 3 คนคุมขึ้นเวที งานประมูลก็เงียบสงัด
ซัวฉิง กวนซ่ง และซือกู่เงียบไม่ปริปาก แววตาเป็นประกายราวกับดารา
สตรีนางนั้นดูราวกับเด็กอายุ 9 ปี สวมชุดทาส ใบหน้างดงาม แต่แววตากลับว่างเปล่า
นางยังดูเด็กมาก คาดไม่ถึงว่านางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
แต่นั่นก็ไม่น่าแปลก เพราะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่น้อยที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ และเป็นเช่นนั้นจนกว่าจะตาย
แววตาเหยียนซ่งสื่อแปรเปลี่ยนจริงจัง มันเตรียมตัวพร้อมรับการจู่โจมจากผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่คิดจะช่วงชิงกระถางขัดเกลา สู่ลู่ฉานที่เฝ้าสังเกตุก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
ซัวฉิง กวนซ่ง ซือกู่ทยอยร่อนลงมาจากชั้น 4 ยังลานประมูล พลางใช้สัมผัสเทพสำรวจทะเลสติของนาง แต่กลับไร้ผลและไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
เหยียนซ่งสื่อกระแอม แรงกดดันที่ทรงพลังปรากฏ
“นี่คือกระถางขัดเกลาตัดวิญญาณ เป็นสิ่งประมูลอย่างสุดท้ายของงาน หากท่านใดไม่ประสงค์ประชันราคา เชิญจากไปก่อน”
ยังไม่มีผู้ใดได้รับนมมารดาใต้พิภพ เพราะทุกคนจะได้หลังจากจบเรื่องดินแดนโลกล่มสลาย
เหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจึงแยกย้ายจากไป
ทั้งหมดรู้ดีว่าผู้เชี่ยวชาญของทะเลส่วนในกำลังประชันราคาประมูลเพื่อช่วงชิงกระถางขัดเกลาตัดวิญญาณ พวกมันจึงต่างกระจายข่าวเรื่องนี้ไป นั่นอาจทำให้ขุมกำลังของทะเลส่วนในมีการเคลื่อนไหว
แม้เกาะมิติเทพจะไม่ปรากฏชื่อเสียงให้คนรู้จักมากนัก แต่สถานที่แห่งนั้นก็เป็นขุมกำลังที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าขุมกำลังใหญ่อื่นๆในทะเลส่วนใน หากใครก็ตามสามารถอ่านความทรงจำของผู้ที่เป็นกระถางขัดเกลาได้ และรู้ว่าเรื่องที่ท่านเยว่ตายเป็นเรื่องจริง พวกมันก็จะเข้ายึดครองเกาะมิติเทพ
นอกจากนี้หากได้ความทรงจำของวิชาที่นั่นมา ก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดของเกาะมิติเทพที่ทรงพลัง
สู่ฉุ่ยหลิงนั่งนิ่ง นางรู้ว่าหนิงฝานต้องการกระถางขัดเกลานางนี้ ตงสู่ได้บอกเล่านิสัยและการกระทำของหนิงฝานให้นางฟัง ทั้งยังได้บอกว่าอย่าได้ถือสาเรื่องกระถางขัดเกลา
หนิงฝานยังคงจับจ้องกระถางขัดเกลานางนั้นไม่วางตา
“นายน้อยซัวเราะไปกันเถอะ...” สู่ฉุ่ยหลิงกล่าว
“ข้าอยากอยู่ที่นี่ต่อ...”
หนิงฝานเหยียบย่างนภาลงไปยังเวที
การปรากฏตัวของเขาทำให้ซือกู่ ซัวฉิง และกวนซ่งประหลาดใจ
แต่ในขณะนั้น หนิงฝานกลับป้องมือกล่าว “ทุกท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้สนใจที่จะเป็นผู้สืบทอดของเกาะมิติเทพ ถ้าพวกท่านไม่สามารถใช้วิชาอ่านความทรงจำกับนางได้ เช่นนั้นข้าขอมาเป็นกระถางขัดเกลา”
“โอ้! สหายเต๋าช่างความรู้กว้างขวาง เรื่องเกาะมิติเทพมีเพียงขุมกำลังของทะเลส่วนในเท่านั้นที่รู้ สู่ลู่ฉานเองก็ไม่รู้”
กวนซ่งแววตาเป็นประกาย ความประทับใจที่มีต่อหนิงฝานเพิ่มพูน
เมื่อได้ยินว่าหนิงฝานกล่าวว่าหากไม่อาจใช้วิชาอ่านใจกับนางได้ ก็ยกนางให้หนิงฝานเพื่อเป็นกระถางขัดเกลา พวกมันจึงผ่อนคลายพยักหน้า
มีเพียงซือกู่ที่จ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาเย็นชา
เดิมทีถึงไม่อาจอ่านความทรงจำของนางได้ มันก็คิดจะนำนางไปเป็นกระถางขัดเกลา แต่คาดไม่ถึงว่าซัวหนิงจะเข้ามาขัด
แต่เมื่อหวนนึกถึงดรรชนีกระบี่ของหนิงฝาน มันก็ไม่กล้า
“ช่างเถอะ… ถึงนางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่ร่างกายของนางยังไม่โตเต็มที่ ต่อให้ดูดซับพลังไปได้ไม่เต็มที่… อีกอย่างการจะดูดซับพลังต้องใช้เวลา อีกไม่นานดินแดนโลกล่มสลายจะเปิด เด็กนี่ต้องเข้าไปภายในและไม่อาจเอาผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเข้าไปด้วยได้ เมื่อถึงยามนั้น กำลังเสริมของข้าสมควรมาถึง หากจะสังหารและช่วงชิงกระถางขัดเกลาของมันคงไม่ใช่เรื่องยาก”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น มันก็หันมองหนิงฝานพลางหยักหน้าให้เป็นเชิงว่า หากใช้วิชาอ่านความทรงจำกับนางไม่สำเร็จ จะยกให้นางเป็นกระถางขัดเกลาให้หนิงฝาน
เมื่อผู้คนจากไปจนหมด เหลือเพียงไม่กี่คน สู่ลู่ฉานก็ปรากฏตัว
ทั้งหมดพูดคุยว่าผู้ใดจะเป็นผู้ใช้วิชาอ่านความทรงจำกับนางก่อน จึงได้ผลสรุปว่า กวนซ่งเป็นคนแรก ซัวฉิงเป็นคนที่ 2 และ คนสุดท้ายคือซือกู่
กวนซ่งใช้วิชาอ่านความทรงจำลับ สร้างเป็นพลังที่มีลักษณะคล้ายปราณกระบี่
ซัวฉิงใช้วิชาอ่านวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลซัว ‘อัสนีอ่านความทรงจำ’
ซือกู่ใช้การอ่านความทรงจำด้วยแมลง
พวกมันทั้งสามทุ่มเต็มกำลังเพื่อจะอ่านความทรงจำของนาง ด้วยวิชาที่พวกมันใช้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตดวิญญาณขั้นสูงก็ไม่อาจรอดพ้น
หนิงฝานตกตะลึงกับวิชาที่พวกมันใช้… สมแล้วที่เป็นขุมกำลังใหญ่ในทะเลส่วนใน วิชาอ่านความทรงจำของพวกมันไม่ธรรมดา
วิชาที่สร้างปราณกระบี่ของกวนซ่ง แม้จะดูไม่ธรรมดาแต่ยังไม่อาจเทียบชั้นกับอีก 2 คนได้
วิชาอ่านความทรงจำของกวนซ่งด้อยกว่าซือกู่ และซือกู่ก็ด้อยกว่าซัวฉิง
ซัวฉิงโคจรปราณตามวิชา
“วิชาของมันเกี่ยวข้องกับสัตว์อสูรอัสนี… เป็นการผสานปราณเข้ากับปราณอสูร สร้างเป็นวิชาที่น่าตื่นตะลึง… ช่างเป็นผู้ที่มากพรสวรรค์นัก..”
ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย หากเขาได้วิชานั้นมา เขาจะสามารถค้นความทรงจำของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้ง่ายๆ
แต่น่าเสียดายที่พวกมันล้มเหลว ไม่มีผู้ใดค้นความทรงจำของนางได้
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตงสู่เคยแอบใช้วิชาอ่านความทรงจำของนาง แต่ก็ยังล้มเหลว
กวนซ่งถอนหายใจ สีหน้าซือกู่มืดมน แต่ซัวฉิงกลับหัวเราะ มันไม่กังวลที่วิชาอ่านความทรงจำของมันล้มเหลว
“ในเมื่อไม่สามารถอ่านความทรงจำของนางได้ นั่นหมายความว่า เกาะมิติเทพได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวขึ้น บางทีข้าคงต้องเข้าไปสำรวจเกาะมิติเทพ...”
ซัวฉิงหันมองหนิงฝานพลางยิ้มเล็กน้อย
“ดูท่าสหายเต๋าซัวหมิงจะสนใจวิชาของข้ามาก… หากทำได้ข้าก็อยากมอบให้ เพียงแต่ข้ายังฝึกฝนวิชาได้ไม่สมบูรณ์พอ ทั้งวิชายังเป็นความลับของตระกูลข้า… หากสหายเต๋ามาเยือนตระกูลซัว บางทีท่านผู้นำตระกูลอาจถูกใจสหายเต๋าและยอมสอนวิชาให้”
“ฮ่าฮ่า แม้ข้าจะเย่อหยิ่งเพียงใด แต่ย่อมไม่ต้องการวิชาลับของตระกูลซัว” หนิงฝานรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
หนิงฝานรู้สึกราวกับซัวฉิงกำลังมีบางสิ่งแอบแฝง
เหตุใดมันต้องชักชวนเขาไปยังตระกูลซัว...
แม้วิชาของมันจะน่าสนใจ แต่มันก็ไม่ได้ดึงดูดขนาดนั้น อีกอย่าง การไปเยือนตระกูลซัวยังเป็นอันตรายร้ายแรง
หากไม่แข็งแกร่งพอเขาก็ไม่อยากเสี่ยง การที่ตระกูลซัวเทียบเชิญสมควรบางสิ่งแอบแฝง
เผ่าปีศาจยักษ์และตงสู่ หนิงฝานรู้ว่าชายชราหวังดีกับเขาจริงๆ
“เห้อ… ข้าพลาดแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางก็สมควรเป็นกระถางขัดเกลาของสหายเต๋าซัวหมิง… หากมีโอกาสขอเชิญสหายเต๋าไปเยี่ยมเยือนเกาะกระบี่ของข้าบ้าง… ข้าขอลา!”
กวงซ่งป้องมือก่อนที่เงาร่างจะกลายเป็นลำแสงพุ่งหายไป ปรากฏตัวยังสถานที่ห่างไกลหลายหมื่นลี้
วิชานี้คือวิชาของผู้เชี่ยวชาญกระบี่ ที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
ซัวฉิงเองก็พยักหน้าให้หนิงฝานเล็กน้อย จากนั้นหันหลังกลับไปกล่าวกับชายชราที่เฝ้ารอ
“คนผู้นี้ระวังตัวเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เรายังไม่ต้องสนใจ เพราะอีกนานกว่าจะถึงเวลาสุสานเปิด หากมันต้องการเข้าสู่สุสานเทพกษัตริย์อัสนี มันต้องได้รับคำยินยอมจากเจ็ดผู้เชี่ยวชาญที่ และสุดท้ายมันก็จะมาเราเอง!... ไปกันได้แล้วซัวสื่อ”
“ขอรับ!” ชายชรากล่าว มันโบกสะบัดมือก่อนที่เงาร่างจะหายไป
สุดท้ายจึงเหลือเพียง ซือกู
มันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะป้องมือแล้วจากไป
ที่มันจากไปเพื่อหาแนวร่วมมาสังหารหนิงฝาน!
ยามนี้ สีหน้าสู่ลูฉานและเหยียนซ่งสื่อดูผ่อนคลายลงมาก
ยามนี้พวกมันทั้งสองจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตากังวล
หนิงฝานสังหารเซี่ยกวงได้ในดรรชนีเดียว ต่อให้พวกมันทำได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“สหายเต๋าซัวช่างแข็งแกร่ง! ข้ารู้สึกอับอายนัก”
เดิมทีเหยียนซ่งสื่อคิดอยู่เสมอว่าที่หนิงฝานรับฝ่ามือห้าประสานของมันได้ สมควรเป็นเพราะร่างกายในขอบเขตกระดูกหยก แต่ยามนี้ดูเหมือนเขาจะซ่อนอะไรไว้
ยามนี้เหยียนซ่งสือคิดว่ามันไม่อาจเทียบเคียงหนิงฝานได้อีก มิน่าสู่ลู่ฉานถึงได้กล่าวชื่นชมหนิงฝานอยู่ไม่ขาด
สู่ลู่ฉานเองก็มองหนิงฝานด้วยสายตาประหลาด
มันคาดไม่ถึงว่ากระถางขัดเกลาตัดวิญญาณจะเกี่ยวข้องกับเกาะมิติเทพ ที่สำคัญ มันเองยังไม่รู้ แต่หนิงฝานกลับรู้
ยิ่งขบคิด มันยิ่งรู้สึกว่าไม่อาจเข้าใจหนิงฝานได้โดยสมบูรณ์
“ท่านชวี่น่าจะถูกใจซัวหมิง...”
งานประมูลในครั้งนี้จบลงอย่างงดงาม หากท่านชวี่ได้พบซัวหมิง ท่านอาจพึงพอใจ และมันก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
ที่สำคัญ บุตรสาวของมันก็ดูราวกับจะมีความสัมพันธ์อันดีกับซัวหมิง
“ซัวหมิงต้องชื่นชอบบุตรสาวของข้าไม่น้อยแน่...” ชายชราขบคิด
หนิงฝานจ้องมองสตรีที่ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน
แม้กลิ่นอายของนางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่มีบางอย่างที่ผิดปกติไป
“ราคาเริ่มต้นของนางเท่าไหร?” หนิงฝานป้องมือกล่าวถาม เขาจะซื้อตัวนาง
“ฮ่าฮ่า… ในเมื่อไม่อาจใช้วิชาอ่านความทรงจำของนางได้ นางก็เป็นได้เพียงกระถางขัดเกลา หากดูดซับ ปราณสมควรเพิ่มพูน 100 เกราะ ยิ่งหากรวมกับนมมารดาใต้พิภพ ปราณจะยิ่งเพิ่มพูน… สหายเต๋าพานางไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องจ่ายหยกสวรรค์ เพียงแต่...ข้าคาดหวังกับจำนวนสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม ด้วยระดับพลังของเจ้ายามนี้ การสังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียม 150 ตัวนับเป็นเรื่องง่าย หากเป็นไปได้ เชิญสหายเต๋าสังหารพวกมันให้หมดเลยก็ได้”
“ขอบคุณสหายเต๋าสู่ เช่นนั้นข้าขอรับตัวนาง”
หนิงฝานโบกมือ เก็บกระถางขัดเกลาคนใหญ่เข้าสู่แหวน ในทะเลส่วนนอกแห่งนี้ มีสมบัติที่อยู่อาศัยมากมาย การที่ได้ครอบครองสมบัติที่อยู่อยู่อาศัยนับเป็นเรื่องธรรมดา
เรื่องที่จะให้สังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เพียงแต่มันอาจจะเป็นจริงก็ได้
ยังคงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนที่ดินแดนโลกล่มสายจะเปิดออก...
หนิงฝานกลับที่พัก เมื่อไปถึง เห็นยู่หลงกำลังฝึกฝนอยู่ มันเร่งคารวะหนิงฝาน
หนิงฝานเองก็เร่งนำศพนางสวรรค์เข้าสู่โลกหยวนเหยา จากนั้นนำกระถางขัดเกลาคนใหม่ออกมา
การจะดูดซับพลังกระถางขัดเกลาดวงจิตแรกเริ่มไม่ใช่เรื่อง่าย จำเป็นต้องโอสถเสริมเพื่อกระตุ้นความรู้สึก
ด้วยระดับพลังของหนิงฝานยามนี้ หากจะให้ดูดซับปราณของเธอนั้นต้องใช้เวลาราวครึ่งเดือน
ดังนั้นตอนนี้หนิงฝานจึงยังไม่ดูดซับพลังนาง แต่จะหาวิธีอ่านความทรงจำของนาง
เรื่องเกาะมิติเทพ หนิงฝานไม่ได้สนใจ แต่สิ่งที่เขาสนใจจริงๆคือสตรีในเกาะแห่งนั้น
ที่สำคัญ ท่านเยว่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 และเกี่ยวข้องกับเหล่าสตรีในเกาะ
“วิธีแรก ลองใช้วิชาค้นความทรงจำนาง ถ้าไม่ได้ก็จะลองใช้วิชาคารม… จะได้รู้กันว่าข้าจะได้รู้ความลับของทะเลส่วนในหรือเปล่า!”...