ตอนที่ 202 ดูดซับโลหิตบริสุทธิ์ (ฟรี)
หลงเฉินคว้าศิลาขนาดเท่าไข่ห่านหอบสายลมพวยพุ่งไปที่ศีรษะขนาดใหญ่ของเสือดาวเงามายาที่กำลังหมอบใกล้กับกองศิลาขนาดใหญ่ เสือดาวตัวนั้นทอดสายตาสำรวจไปโดยรอบอย่างสงบนิ่งจึงไม่ทันที่จะมีปฏิกิริยาโต้กลับคืนมา ทันใดนั้นศิลาก็กระแทกเข้าไปที่ศีรษะของมันอย่างหนักหน่วง
“ซูม”
ด้วยพลังอันมหาศาลของหลงเฉินทำให้เสือดาวเงามายาหงายหลังไปในทันที ศีรษะลูกโตบวมเป่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พลันก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วทั้งผืนฟ้า จากนั้นเงาร่างมหึมาก็ได้กวาดสายตาเพชฌฆาตมองไปโดยรอบอย่างว้าวุ่น
“ศีรษะของเจ้าแข็งเกินไปแล้ว”
หลงเฉินแอบร่ำร้องขึ้นมาภายในจิตใจ ถึงแม้ว่าเขาจะได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดออกไปพร้อมกับก้อนศิลา ทว่ากลับไม่อาจสร้างบาดแผลให้สัตว์มายาระดับสามตัวนั้นได้เลย
เสือดาวเงามายากระโจนตัวขึ้นสู่ที่สูงอย่างรวดเร็ว พลันก็ใช้สายตาอันเฉียบแหลมของนักล่ากวาดมองไปรอบด้านอีกครั้งหนึ่งแล้วก็พบว่าบริเวณที่ห่างไกลออกไปมีสิ่งมีชีวิตผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา
“โฮก”
เสือดาวเงามายาแผดเสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด จากนั้นลำตัวยาวใหญ่กว่าเจ็ดจั่งก็ได้พุ่งเข้ามาทางหลงเฉินด้วยความเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าฟาดจนกลางอากาศถึงกับทิ้งเป็นเงาเลือนรางเป็นฉากๆ
“แย่แล้ว กะระยะห่างพลาดจนได้”
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันน่าหวาดผวาของเสือดาวเงามายาแล้วหลงเฉินก็รีบวิ่งหนีไปในทันที พลันก็ปะทุพลังของท่าร่างลี้ลมออกมาช่วยเร่งฝีเท้า ทว่ากลับไม่อาจสู้กับความรวดเร็วที่มากจนเกินไปของเสือดาวได้จนทำให้ตอนนี้มีระยะห่างกันเพียงสามลี้เท่านั้น
“มารดาเจ้าเถิด คนที่มีสองขาจะสู้กับสี่ข้างได้อย่างไรเล่า”
หลงเฉินด่าทอขึ้นมาด้วยความหวาดหวั่นพร้อมกับสะบัดมือปล่อยเพลิงโอสถสีฟ้าครามสายหนึ่งไปที่เสือดาวเงามายา
“ผึง”
เพลิงกาฬสีฟ้าครามปะทะกับร่างมหึมาจนเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งผืนป่า เสือดาวเงามายาตัวนั้นสะดุ้งตกใจจนกระโดดหลบไปอีกทางหนึ่ง ทำให้หลงเฉินสามารถออกห่างจากเสือดาวตัวนั้นไปได้เล็กน้อย
เสือดาวเงามายาส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นก็ชักนำเท้าทั้งสี่พุ่งทะยานไปหาเหยื่อด้วยความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
สัตว์มายาประเภทมีขนมักจะหวาดกลัวต่อเปลวเพลิงเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นหลงเฉินจึงตัดสินใจใช้พลังเพลิงกาฬออกไปเพื่อทำให้เสือดาวเงามายาหวาดกลัวไปชั่วครู่หนึ่ง
ดวงตาคู่คมทอดไปเห็นกับดักที่ตระเตรียมเอาไว้ยังเบื้องหน้าสายตา ภายในจิตใจจึงเกิดอาการลิงโลดเสียยกใหญ่ พลันก็เร่งฝีเท้าไปยังทิศทางนั้นอย่างร้อนรน ในขณะเดียวกันก็เบิกพลังแห่งจิตวิญญาณขึ้นมาทำการค้นหาตำแหน่งของกริชทั้งหกเล่ม
จากนั้นหลงเฉินก็ปะทุเปลวเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วสะบัดมือโยนเปลวเพลิงเหล่านั้นไปที่กับดักของตัวเองในทันที
“ตูม”
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทังผืนฟ้า เพลิงกาฬสีฟ้าครามอันน่าหวาดกลัวกวาดพื้นที่เขียวขจีกว่าสิบจั่งจนราบเป็นหน้ากลอง อีกทั้งยังเกิดไอร้อนระอุขึ้นมาเป็นสาย พลังแห่งจิตวิญญาณขุมหนึ่งถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้วกริชทั้งหกเล่มก็ตัดไปที่สายธนูอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ฉึกฉึกฉึก……”
ลูกศรทั้งหกสายทะยานสู่กลางอากาศประดุจดาวตกพุ่งเข้าไปที่เสือดาวเงามายาตัวนั้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายของเสือดาวเงามายามีขนาดใหญ่กว่าเจ็ดจั่ง ฉะนั้นมันจึงต้องกับลูกศรทั้งหกดอกไปโดยปริยาย
อีกทั้งส่วนที่เป็นจุดอ่อนของมันก็คือช่วงเอว ซึ่งหลงเฉินได้ทำการคำนวณทิศทางของลูกศรเป็นอย่างดีตั้งแต่แรกแล้วจึงทำให้คมศรทั้งหมดเสียบไปที่เอวของมันอย่างหมดจด ทว่าด้วยพลังป้องกันอันแข็งแกร่งของสัตว์มายาระกับสาม ลูกศรเหล่านั้นจึงแทงทะลุเพียงผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ไม่ได้เข้าสู่เนื้อหนังไปเลยแม้แต่น้อย
หากเป็นเพียงลูกศรธรรมดาก็คงจะไม่ทำให้สัตว์มายาระดับสามตัวนี้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทว่าในมุมมองของหลงเฉินกลับคิดว่าแค่ปักเข้าไปเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากที่คมศรอาบพิษปักเข้าไปบนเอวของของเสือดาวเงามายาทั้งหมดแล้ว หลงเฉินก็สังเกตเห็นได้ในทันทีว่าผิวหนังบริเวณนั้นเริ่มกลายเป็นสีดำ อีกทั้งยังแผ่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว นั่นคงจะเป็นฤทธิ์ของพิษที่เริ่มลุกลามขึ้นมาแล้วนั่นเอง
“กรร”
เสือดาวเงามายาคำรามขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างไม่อาจทนรับเอาไว้ได้ พลันก็พุ่งมาทางหลงเฉินอย่างรวดเร็ว
หลงเฉินจึงปะทุพลังทั้งหมดออกมาพร้อมกับวงแหวนแห่งเทพ ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นกายาศึกกักวายุออกมา อาวุธเพลิงอันน่าหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาในมือ เข้าสู่สภาวะที่พร้อมจะเข้าห้ำหั่นกับเสือดาวเงามายาตัวนั้น
“ตูม”
อาวุธเพลิงขนาดใหญ่ฟันเข้าไปที่ร่างมหึมาของเสือดาวเงามายาที่พุ่งทะยานเข้ามา พลังมหาศาลอันน่าหวาดกลัวกระจายไปทุกสารทิศ ศิลาน้อยใหญ่ที่อยู่รอบด้านต่างก็ปลิวว่อนไปทั่วทั้งผืนฟ้า ต้นหญ้าที่ปกคลุมผืนดินกว่าร้อยจั่งก็ได้กลายเป็นเชื้อเพลิงไปทั้งหมด
ทันทีที่อาวุธเพลิงปะทะเข้ากับร่างของเสือดาวเงามายา หลงเฉินเองก็ถูกซัดจนลอยกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบจั่งจึงค่อยทรงตัวอยู่ได้ สายตาจ้องมองไปยังเสือดาวเงามายาที่อยู่เบื้องหน้าก็พบว่าเงาร่างสายนั้นถูกครอบด้วยเพลิงกาฬสีฟ้าคราม ทว่ากลับไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยแม้แต่น้อย
“แข็งแกร่งมาก”
หลงเฉินทอสีหน้าแตกตื่นขึ้นมาอย่างรุนแรง เพลิงอัคคีถือได้ว่าเป็นดาวข่มของสัตว์มายาประเภทมีขน ทว่าพลังเพลิงกาฬสีฟ้าครามของเขากลับไปไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับเสือดาวเงามายาได้เลย
ไม่ใช่เพราะว่าพลังเพลิงของหลงเฉินนั้นไม่แข็งแกร่ง เพียงแต่พลังการฝึกยุทธ์ของเขานั้นยังต่ำต้อยอยู่มาก เพราะเพลิงโอสถจะแข็งแกร่งขึ้นก็ต่อเมื่อมีพลังลมปราณที่เพิ่มพูนสูงขึ้นนั่นเอง
ถึงแม้ว่าพลังลมปราณของหลงเฉินจะไม่แพ้ยอดฝีมือที่อยู่ในขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นผู้หนึ่ง หากกล่าวกันตามจริงก็ถือว่าเหนือกว่าด้วยซ้ำไป ทว่าไม่ว่าอย่างไรหลงเฉินก็ยังไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นอย่างแท้จริง จึงทำให้การนำพลังลมปราณออกมาใช้ไม่ได้ประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร
“โฮก”
จู่จู่เสือดาวเงามายาตัวนั้นก็อ้าปากกว้างขึ้นมา ก้อนกลมสีดำทมิฬลูกหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมายังใจกลางปากอันกว้างใหญ่นั้นอย่างช้าๆ พลังทำลายมหาศาลขุมหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามากดดันร่างกายของหลงเฉินจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้
“ทักษะลึกลับที่ผู้คนกล่าวขานถึง?”
หลงเฉินเกิดอาการแตกตื่นตกใจขึ้นมา ทันใดนั้นห้วงความคิดของเขาก็มีภาพของเสี่ยวเสว่ยลอยขึ้นมา ทักษะลึกลับเช่นนี้มีเพียงสัตว์มายาที่มีเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะทำได้ นั่นก็คล้ายกับเป็นการสืบทอดทักษะยุทธ์ของยอดฝีมือผู้หนึ่งนั่นเอง ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว
ก้อนกลมสีดำทมิฬถูกปล่อยออกมากลางอากาศ ทันใดนั้นก็กวาดอาณาบริเวณด้านล่างไปหลายสิบจั่ง พลังทำลายอันน่าหวาดกลัวทำให้บรรยากาศโดยรอบเกิดการสั่นไหวอย่างรุแรง สภาวะกดดันแผ่กระจายไปทั่วทุกหนแห่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้อนกลมสีดำทมิฬก็พุ่งเข้ามาที่หลงเฉินด้วยความเร็วอย่างไร้ที่เปรียบ
“เบิกสวรรค์”
หลงเฉินตะโกนขึ้นมา พร้อมกับปะทุพลังทั้งหมดโดยไม่กล้าออมแรงเลยแม้แต่น้อยจนอาวุธเพลิงที่อยู่ในมือเดือดพล่านขึ้นมาแล้วฟาดไปที่ก้อนกลมสีดำทมิฬลูกนั้นอย่างหนักหน่วง
“ตูม”
เสียงระเบิดดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั่ว อาวุธเพลิงในมือใหญ่แตกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ตลอดทั้งร่างกายคล้ายกับถูกขุนเขาลูกใหญ่ทับลงมาอย่างไรอย่างนั้น โลหิตสายหนึ่งพุ่งออกมาจากปากในขณะที่กำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
“ปึก”
หลงเฉินไปกระแทกเข้าไปศิลาก้อนใหญ่แล้วกระอักโลหิตออกมาอีกคำหนึ่ง เขารู้สึกได้ว่ากระดูกทั่วร่างกายกำลังแตกร้าวเกือบทั้งหมด เสือดาวเงามายาตัวนี้มีพลังต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว หากเป็นเช่นนี้จะมีผู้ใดต้านทานมันได้อีก? ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดสถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่าสุสานของผู้ถูกเนรเทศ
เมื่อมาคิดดูแล้วเขาเองก็เป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ ผู้หนึ่งที่อยู่ในดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลกับสัตว์มายาระดับสามขั้นกลาง ทั้งความน่าหวาดกลัว ทั้งพลังต่อสู้อันแกร่งกล้า แล้วหากเป็นสัตว์มายาระดับสามขั้นสูงจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกกี่เท่าตัวกัน? เช่นนั้นก็อย่าได้ไปกล่าวถึงสัตว์มายาระดับสี่เลย
“ฮูม”
ฝุ่นควันสายหนึ่งลอยละล่องมาจากเสือดาวเงามายาที่กำลังคำรามอย่างเกรี้ยวกราด บัดนี้เส้นขนบนลำตัวของมันได้กลายเป็นสีดำเขม่าไปทั้งหมดแล้ว บนร่างกายปรากฏบาดแผลจากการฟันเป็นทางยาวหลายสายที่ลึกจนเห็นกระดูก
เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของหลงเฉินก็รุนแรงไม่แพ้กัน ถึงกับทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังลึกไปจนถึงจุดตายเลยทีเดียว หากหลงเฉินสามารถใช้วิชาเบิกสวรรค์ขึ้นมาได้อีกครั้งย่อมสังหารสัตว์มายาระดับสามตัวนี้ไปได้อย่างแน่นอน
ทว่าน่าเสียดายที่หลงเฉินไม่สามารถใช้เบิกสวรรค์ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง เพราะวงแหวนแห่งเทพได้ถูกกายาศึกกักวายุดูดกลืนพลังไปจนหมดสิ้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เรียกได้ว่าถึงขีดจำกัดของกระบวนท่านี้แล้ว
เมื่อเห็นเสือดาวเงามายาทอแววตามาดร้ายมาที่ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย หลงเฉินเองก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พลันก็รีบขยับฝีเท้าวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะหากไม่หนีในตอนนี้ก็คงจะไม่อาจมีชีวิตรอดอีกแล้ว
เสือดาวเงามายาคำรามขึ้นมาอีกครั้งแล้วสับเท้าทั้งสี่ของมันออกไล่ตามหลงเฉินในทันที ทว่าความเร็วของมันกลับลดลงไปจากช่วงก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากฤทธิ์ของพิษที่กำลังซึมซาบไปทั่วร่างกาย และบาดแผลลึกอีกหลายสาย
หลงเฉินตะบึงหน้าตั้งไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน พลันก็เหลือบมองเสือดาวเงามายาที่ไล่ตามมาเป็นระยะ แล้วก็สังเกตได้ว่าความเร็วของมันเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ทว่าเขาก็ยังไม่กล้าได้ใจมากจนเกินไปจึงรักษาระยะห่างจากเสือดาวเงามายาตัวนั้นไปตลอดทาง
หลังจากที่วิ่งไปได้สักพักหนึ่ง ตอนนี้หลงเฉินก็ได้เข้าสู่บริเวณที่เต็มไปด้วยก้อนศิลาละลานตา เขาไม่กล้าวิ่งกลับไปที่อาณาเขตของตะขาบเงินและเสือดาวเงามายาตัวอื่น เพราะหากชักนำสัตว์มายาตัวอื่นเข้ามา แน่นอนว่าเขาคงจะต้องตายเป็นอาหารอันโอชะอย่างไม่ต้องสงสัย
การไล่ล่าดำเนินไปเกือบครึ่งชั่วยามเห็นจะได้ จนในที่สุดเสือดาวเงามายาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ฝ่าเท้าทั้งสี่ข้างเริ่มสะเปะสะปะไม่มีทิศทาง ทว่าก็ยังคงพยายามไล่ตามหลงเฉินอย่างไม่ลดละ
ภายในจิตใจแทบอยากจะร่ำร้องออกมาว่าเหนื่อยแทบตายแล้ว อีกทั้งยังรับรู้ได้ว่าลมหายใจของเขาก็กำลังโรยรินเป็นอย่างมากแล้ว ร่างกายอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดเพราะกระดูกเกือบทั้งหมดแตกหักไม่มีชิ้นดี
“ตึงตึง”
ในที่สุดเสือดาวเงามายาตัวนั้นก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ล้มลงกองอยู่กับพื้นไปในทันที หลงเฉินเองก็หย่อนบั้นท้ายลงบนพื้นอย่างอ่อนล้า พลันก็กลืนโอสถคืนลมปราณลงไปเม็ดหนึ่งเพื่อให้พลังลมปราณฟื้นคืนกลับขึ้นมาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกันก็ได้กวาดสายตามองไปรอบด้านอย่างละเอียด สถานที่แห่งนี้อันตรายยิ่งนัก การคงอยู่ในที่แห่งนี้ไม่ต่างจากการเอาชีวิตมาทิ้งอย่างไรอย่างนั้น และหากไม่ได้วางกับดักอาบพิษเอาไว้ตั้งแต่แรก เขาก็คงจะไม่โจมตีใส่เสือดาวเงามายาตัวนั้นอย่างแน่นอน
ภายในใจของหลงเฉินจึงรู้สึกขอบคุณต่อผู้อาวุโสผู้นั้นเป็นอย่างยิ่ง หากไม่ได้เขาช่วยสังหารตะขาบเงินตัวนั้น เขาก็คงจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการไปสังหารสัตว์มายาระดับสองมาสักตัวก่อน
หลงเฉินรอคอยอยู่เช่นนั้นจนเวลาล่วงเลยผ่านไปถึงหนึ่งชั่วยามกว่าที่เสือดาวเงามายาตัวนั้นจะสิ้นลมหายใจไป ทว่าหลงเฉินก็ยังไม่อยากจะลงมือในทันที จึงรอคอยไปอีกสามชั่วยามเพื่อให้พลังภายในร่างกายของตัวเองฟื้นคืนกลับขึ้นมาก่อนจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้เสือดาวตัวนั้นอย่างระมัดระวัง
เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้เบิกเพลิงสีฟ้าครามเข้าไปตรวจสอบจุดตายทั้งหมดก็พบว่าไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนองแล้ว ทันใดนั้นก็แน่ใจเป็นอย่างยิ่งแล้วว่าเสือดาวเงามายาได้ตายไปแล้ว จากนั้นหลงเฉินก็กระโดดขึ้นไปบนศีรษะขนาดใหญ่ของทันเพื่อดึงแกนผลึกออกมาก่อน
หลงเฉินเอาถังไม้ขนาดใหญ่ออกมา แล้วใส่โลหิตบริสุทธิ์ของเสือดาวเงามายาเข้าไป อีกทั้งยังเป็นหยาดโลหิตที่มากกว่าตะขาบเงินหลายส่วนนัก ถึงกับอัดแน่นอยู่ในถังขนาดใหญ่ไปถึงสามใบเต็มๆ ทว่าโลหิตบริสุทธิ์เหล่านั้นมีคราบพิษสีดำทมิฬแฝงอยู่
จากนั้นเขาก็ล้วงเอาแกนผลึกที่มีขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือออกมาจากศีรษะของมันแล้วใส่ลงไปในถัง เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยาม หยาดโลหิตที่มีสีดำก็กลายเป็นสีแดงสดอย่างหมดจด หลงเฉินจึงคว้านเอาแกนผลึกนั้นออกมาแล้วก็พบว่าแกนผลึกที่เคยโปร่งใสได้ถูกย้อมให้เป็นเส้นสีดำขึ้นมาหลายสาย
“หึหึ ผนึกใสของตะขาบเงินสามารถดูดพิษได้อย่างหมดจดดีจริงๆ”
อีกทั้งฤทธิ์ของพิษที่ออกมาจากเสือดาวเงามายาก็สามารถนำมาใช้เป็นพิษได้อีกครั้ง เพียงเท่านี้เขาก็สามารถนำกลับมาซ้ำไปมาได้เรื่อยๆ แล้ว
หลังจากที่ได้โลหิตบริสุทธิ์สีแดงสดมาแล้ว หลงเฉินก็ตรวจสอบสิ่งเจือปนอยู่ครูหนึ่ง จากนั้นก็เทโอสถผงลงไปในใจกลางของโลหิตบริสุทธิ์ถังนั้น เพียงไม่นานก็ได้โลหิตบริสุทธิ์ของหมื่นสรรพสัตว์
“ถึงเวลาที่จะกอบโกยแล้ว”
มือใหญ่ยื่นลงไปในถังขนาดใหญ่ พลันก็รีบไหลเวียนพลังลมปราณเพื่อดูดซับโลหิตบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายอย่างบ้าคลั่ง
ติดตามตอนอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : 9 ดารา <<< (ถึงตอนที่ 654 แล้วครับ)