ตอนที่ 160 ฝึกฝน
ปล. ระดับพลังจากแรกเริ่ม,ลึกซึ้ง,สูงและสูงสุด ขอเปลี่ยนเป็น ขั้นต้น,กลาง,สูง,สูงสุดนะครับ
หลังจากที่หลินเสวี่ยเอ๋อจากไป ผู้เชี่ยวชาญที่เหลือสองคนมองหน้ากันและเดินออกไปเช่นกัน
ไม่มีใครมีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับพยัคฆ์เมฆาครามสามแถบในขั้นระเบิดหยินหยาง
บนยอดเขา เจียงวู่เฉิงเป็นเพียงคนเดียวที่ยังคงต่อสู้กับพยัคฆ์เมฆาคราม
"ในช่วงเวลาสองปีของการฝึกฝนในสุสานดาบ ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามข้ายังไม่เคยใช้ความแข็งแกร่งเต็มที่ตั้งแต่ออกมาจากสุสานดาบ แต่สำหรับพยัคฆ์เมฆาครามตัวนี้..."เมื่อมองไปที่อสูรร้ายตรงหน้า ดวงตาของเจียงวู่เฉิงเปล่งประกายด้วยความต้องการสู้
อันที่จริงแล้วตั้งแต่เขาออกมาจากสุสาน เขาได้ต่อสู้ไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งใดที่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด ฝ่ายตรงข้ามนั้นอ่อนแอเกินไปที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
การฆ่าล้างบางในป้อมปราการสายน้ำเป็นตัวอย่างที่ดี ในขณะที่เผชิญหน้ากับนักฆ่าหน้ากากม่วงทั้งสอง เขาสามารถฆ่าหนึ่งในนั้นได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเขาทดสอบในวังสวรรค์ เขาพยายามอย่างเต็มที่ แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นเพียงหุ่นมนุษย์ ความแข็งแกร่งของพวกมันเพียงพอที่จะรั้งเขาไว้แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตแก่เขา
จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างแท้จริง!
การต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาขัดเกลาความสามารถของเขาที่สุสานดาบในช่วงสองปีที่ผ่านมา
พยัคฆ์เมฆาครามสามแถบนี้มีพลังใกล้เคียงกับระเบิดหยินหยางขั้นกลาง มันสามารถจะต่อสู้กับเขาได้อย่างแท้จริง
"มา"ความต้องการต่อสู้แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเจียงวู่เฉิง มันเปล่งประกายแสงจ้าและพุ่งไปข้างหน้าราวกับคมดาบ
"มนุษย์!"ดวงตาของพยัคฆ์เมฆาครามมีสีแดงและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ด้วยความที่เป็นสัตว์ลมปราณในขั้นระเบิดหยินหยาง จิตสำนึกของมันนั้นเหมือนกับมนุษย์ เมื่อมันถูกจับด้วยมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์คนนั้นได้บอกกับมันว่าจะปล่อยมันไปหากมันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงเจ็ดวัน
ในฐานะอสูรลมปราณมันมีสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดที่แข็งแกร่งอย่างมาก
"ไปตายซะ!"
ด้วยเสียงคำราม ทันใดนั้นพยัคฆ์เมฆาครามพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเจียงวู่เฉิงเล็กน้อย มันปรากฏตัวต่อหน้าเจียงวู่เฉิงในทันทีและโบกกรงเล็บแหลมเข้าหาเขา
กรงเล็บเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะสามารถทำลายโลกได้
เจียงวู่เฉิงปลดปล่อยแก่นแท้แห่งวายุคลั่ง ทันใดนั้นดาบสะบั้นชีพก็พุ่งไปข้างหน้าราวกับมังกรเพลิงที่ยิ่งใหญ่
กระบวนท่าที่แปดของเพลงดาบไร้ลักษณ์!
เจียงวู่เฉิงใช้กระบวนท่านี้อย่างเต็มกำลัง
ปัง!
ไม่นานหลังจากได้ยินเสียงปะทะ พยัคฆ์เมฆาครามก็ถูกทำให้ล่าถอยกลับทันที
"ในแง่ของความบริสุทธิ์ของลมปราณ ข้าแข็งแกร่งกว่า!"เจียงวู่เฉิงยิ้มและพึมพำ
เขาครอบครองแก่นแท้ทองคำ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในอาณาแก่นทองคำขั้นกลาง พลังของเขาก็ได้ก้าวไปถึงระดับใหม่ แต่เหตุผสำคัญคือเพลงดาบของเขา การใช้แก่นแท้วายุคลั่งผสานเข้ากับเพลงดาบไร้ลักษณ์ช่วยเพิ่มพลังอย่างมาก ความแข็งแกร่งของนั้นยิ่งใหญ่กว่าพยัคฆ์เมฆาคราม
หวืด!
เจียงวู่เฉิงแสดงการเคลื่อนไหวครั้งที่สองด้วยดาบสะบั้นชีพของเขาอีกครั้ง เขาใช้กระบวนท่าที่แปดของเพลงดาบไร้ลักษณ์อีกครั้ง
แต่พยัคฆ์เมฆาครามนั้นไม่ได้โง่ มันรู้ตัวว่าไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยพลัง ดังนั้นมันจึงมุ่งไปที่ความเร็ว ด้วยการพุ่งอสูรร้ายนั้นหลบการโจมตีของเจียงวู่เฉิงได้ ขาทั้งสี่แตะกับพื้นขณะที่มันเปิดปากขึ้นเผยให้เห็นฟันแหลมคมของมันพุ่งไปที่หัวของเจียงวู่เฉิง
นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำเนียบมังกรปฐพีคนก่อนหน้าพลาดท่าให้แก่มัน
เจียงวู่เฉิงไม่ได้ตกใจ เขาได้เปลี่ยนแก่นแท้แห่งวายุคลั่งเป็นแก่นแท้แห่งปฐพี แสดงให้เห็นถึงเพลงดาบก่อเกิด ดาบยาวของเขาปิดกั้นทางหนีของพยัค์เมฆาคราม
ปัง
เมื่อเกิดการปะทะกัน ทั้งเจียงวู่เฉิงและพยัคฆ์เมฆาคราก็ถอยไปด้านหลัง
"พยัคฆ์ตัวนี้เคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมากแถมยังมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างดี"เจียงวู่เฉิงพึมพำ
"มนุษย์คนนี้..."เห็นได้ว่าพยัคฆ์เมฆาครามนั้นสังเกตได้ว่าเจียงวู่เฉิงนั้นแข็งแกร่งกว่าคนที่มันเพิ่งฆ่าไปมาก
หลังจากหยุดเพียงชั่วคราว พวกเขาก็เริ่มโจมตีใส่กันอีกครั้ง
เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ทุกอย่างก็ถูกผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเฝ้ามองจากบนอากาศเหนือเทือกเขาเมฆาคราม
"เด็กหนุ่มคนนั้นมันยังไงกัน เจียงวู่เฉิง เขาทำอะไร?เขาต่อสู้กับพยัคฆ์เมฆาครามจริงหรือ?"
"โง่ โง่จริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าพยัคฆ์เมฆาครามสามแถบ!เขาควรจะออกจากภูเขานั้นและไปสู้กับอสูรร้ายตัวอื่นๆแทนที่จะเสียเวลาต่อสู้กับพยัคฆ์เมฆาคราม อสูรตัวอื่นย่อมฆ่ามันง่ายกว่า"
"แน่นอน มันเป็นการโง่ที่จะสู้กับพยัคฆ์เมฆาคราม เสวี่ยเอ๋อนั้นฉลาด นางเลือกที่จะจากไปภูเขาเลือกอื่นทันที นางเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับพยัคฆ์เมฆาคราม อสูรในภูเขาลูกอื่นนั้นมีความแข็งแกร่งทั่วๆไป ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งของนาง นางจะมีโอกาสที่ดีที่จะได้รับแก่นพลังอสูรมา"
"ฮ่าฮ่า เขาไม่กลัวแม้แต่เสวี่ยหยุนอย่าว่าแต่พยัคฆ์เมฆาครามเลย!"
"เด็กโง่!"
"เขาใจร้อนจริงๆ!"
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จ้าววังทั้งสองที่อยู๋ในหมู่พวกเขาต่างสีหน้าบูดบึ้งหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด
"เขากำลังทำอะไร?ทำไมเขาถึงไม่หนีและไปฆ่าอสูรตนอื่น"จ้าววังขาวพูดและขมวดคิ้ว
ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสูงมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเจียงวู่เฉิง
เขาคือต้าซือ
"เจ้าตัวเล็กนี่กำลังฝึกฝนตัวเอง?เขาใช้พยัคฆ์เมฆาครามสามแถบเพื่อการฝึก?"
การฝึกฝน!
ใช่ เขากำลังฝึกฝน!
เป็นเวลามากกว่าสองปีแล้วที่เจียงวู่เฉิงไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ที่ดุเดือด
เหตุผลที่เขาต่อสู้กับพยัคฆ์เมฆาครามสามแถบไม่ใช่เพราะเขาโง่หรือหุนหันพลันแล่นแต่อย่างใด
เขามีจุดประสงค์ของตัวเองที่ต้องการพบกับการต่อสู้ที่ดุเดือด!
เขากระตือรือร้นที่จะพบกับการต่อสู้เช่นนี้!
ในเวลาเดียวกันระหว่างการต่อสู้นี้ เจียงวู่เฉิงก็ค่อยๆขัดเกลาความแข็งแกร่งที่ก้าวหน้าของเขาในช่วงสองปีที่ผ่านมา
เจียงวู่เฉิงและพยัคฆ์เมฆาครามต่อสู้กันอย่างยาวนานบนยอดเขา
"ดี!เป็นความรู้สึกที่ดีมาก!"
เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเจียงวู่เฉิง แต่เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
"ข้าไม่ได้รับความพึงพอใจเช่นนี้มานานแล้ว ฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงอสูรลมปราณ แต่แค่ร่างกายของข้าปลอดโปร่งขึ้นแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"เจียงวู่เฉิงเงยหน้าและมองดูพยัคฆ์เมฆาคราม
พยัคฆ์เมฆาครามได้ใช้ความแข็งแกร่งออกมาอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ครั้งนี้
เจียงวู่เฉิงได้ใช้แก่นแท้แห่งวายุคลั่งและแก่นแท้แห่งปฐพีเท่านั้น มีเพียงใช้เพื่อการโจมตีและป้องกันเท่านั้น ทั้งสองอย่างไม่มีข้อบกพร่องใดๆ อย่างไรก็ตาม...เขาไม่เคยใช้แก่นแท้แห่งน้ำในการต่อสู้เลย
"ถึงเวลาที่จะจบเรื่องนี้"
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ เจียงวู่เฉิงแทงดาบยาวในมือของเขาอย่างรุนแรงอีกครั้ง
แต่เมื่อแสงดาบพุ่งไปข้างหน้า ในคราวนี้สิ่งที่ผสานไปกับดาบไม่ใช่แก่นแท้แห่งวายุคลั่งแต่เป็นแก่นแท้แห่งสายน้ำ
ทันใดนั้นแสงดาบก็พุ่งผ่านอากาศทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมในอากาศ
พยัคฆ์เมฆาครามรู้สึกได้ทันทีว่าแก่นแท้แห่งดาบนั้นพุ่งเข้ามาหามันจากทุกทิศทาง
มันพยายามที่จะหลุดออกมาด้วยการกวัดแกว่งกรงเล็บและพยายามที่จะหลบหนีออกจากแก่นแท้แห่งน้ำที่ลื่นไหลนี้ อย่างไรก็ตามยิ่งดื้นรนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจมลงไปเท่านั้น
...