GE232 สังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณครั้งแรก [ฟรี]
ภายในอาคารประมูล... หนิงฝานยิ้มแต่ไม่กล่าว เฝ้ามองงานประมูล
ตงสู่ยิ้มเจื่อนพลางบอกกล่าวถึงตัวตนที่แท้จริงกับสู่ฉุ่ยหลิง
นางคาดไม่ถึงว่าผู้เป็นอาจารย์สอนปลูกและดูแลบุบผาจะเป็นผู้ที่ทรงพลังขนาดนี้
นางเขินอายกับคำกล่าวของชายชรา ว่าจะยกนางให้แต่งงานกับหนิงฝาน
แม้นางไม่อยากปฏิเสธ แต่การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ สมควรไตร่ตรองให้ดี
นางถอนหายใจ แต่เมื่อหันมองหนิงฝาน เห็นรอยยิ้มของเขา ทำให้นางใจเต้นรัว
ดูเหมือนนางจะยังดูแคลนนายน้อยซัวผู้นี้ไป
การที่ทำให้บิดา ลุงเหยียน และผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลส่วนในเป็นสหายได้ นับว่าไม่ธรรมดา
เพียงแต่… นายน้อยซัวจะชี้แนะอาจารย์ตนให้ทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงได้อย่างไร… นางไม่เข้าใจ
นางขมวดคิ้ว ใบหน้าแดงระเรื่อ พลางจ้องมองหนิงฝานไม่วางตา
สีหน้าเรียบเฉยของหนิงฝานช่างน่าหลงไหล… นางชื่นชอบบุรุษเช่นนี้
นางเคยเห็นผู้เชี่ยวชาญมากมายที่ได้กระถางขัดเกลาจากบิดานางไป แต่ไม่เคยมีใครที่มีเมตตาเหมือนหนิงฝานมาก่อน
อีกไม่นานนางต้องสิ้นอายุขัย การได้เห็นบุรุษเช่นหนิงฝานก่อนตาย ช่างเป็นโชคดีของนาง
ในที่สุดนางก็ได้พบบุรุษที่นางเฝ้ารอ
ไม่ว่าเขาจะรักษาสำเร็จหรือไม่… นางจะยังคงอยู่ข้างกายไม่ห่าง
ท่องเที่ยวไปทั่วแดน ชมบุบผาเพลินใจ...
งานประมูลได้เริ่มขึ้น แม้ไร้ซึ่งกระถางขัดเกลาดวงจิตแรกเริ่ม แต่ยังมีสมบัติและโอสถมาร่วมประมูล
หากมีโอสถใดที่ใช้ยกระดับพลังได้ หนิงฝานประมูลมาทั้งหมด ต่อให้เขาใช้เองไม่ได้ แต่เหล่ากระถางขัดเกลาของเขายังใช้ได้
ด้วยความมั่งคั่งเช่นนั้น ทำให้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคนใดกล้าประชัน
แม้ไม่อยากทำตัวเด่นดัง แม้อยากอยู่อย่างสงบ แต่ชื่อเสียงของซัวหมิงก็แทบจะทำให้ทุกคนจดจำหนิงฝานได้เมื่อพบหน้า
นี่คืออำนาจของชื่อเสียง
หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพไปยังชั้นสองของอาคารประมูล แม้ที่นี่จะมีการป้องกันไม่ให้ใช้สัมผัสเทพ แต่ไม่อาจป้องกันสัมผัสเทพที่ทรงพลังของหนิงฝานได้
ที่นั่น ซูเหยานั่งขมวดคิ้ว ผลไม้แห่งเต๋าดวงจิตแรกเริ่มที่นางเฝ้ารอยังไม่ปรากฏในงานประมูล
งานประมูลสมควรมีผลไม้แห่งเต๋า 4 ผล
แต่กระทั่งยามนี้ ยังไม่มีปรากฏในงานประมูล ทำให้นางเป็นกังวล
“สิ่งประมูลสุดท้ายในงาน คือผลไม้แห่งเต๋าดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น... ผลไม้แห่งเต๋าของเราเหลือเพียงผลเดียวเพราะเหตุผลบางอย่าง ดังนั้น ข้าขอเปิดการประมูลผลไม้แห่งเต๋าด้วยราคา 5 ล้านหยกสวรรค์”
“5.5 ล้าน!”
ซูเหยาตะโกนขึ้นทันที
น้ำเสียงอันไพเราะของนาง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจดจำได้ ว่านางคือประมุขนิกายมุกหยกฟ้า
หากจะได้ผลไม้แห่งเต๋าต้องสังหารผู้เชี่ยวชาญ
ในหมู่ขุมกำลังทั้ง 10 ของทะเลส่วนนอก นิกายมุกหยกฟ้าของนางเป็นขุมกำลังฝ่ายธรรมะเพียงแห่งเดียว และศิษย์ทุกคนที่นั่นจะถูกสั่งสอนไม่ให้ปลิดชีวิตหากไม่จำเป็น
การที่ประมุขนิกายฝ่ายธรรมะมุ่งมาถึงนิกายปีศาจสำราญเพื่อประมูลผลไม้แห่งเต๋า ช่างขัดกับหลักการของนิกาย
มีบางคนแอบขบขันนาง บางคนล้อเลียน บางคนจินตนาการถึงเรือนร่างที่งดงามของนาง
แต่ทั้งหมดนั้นนางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่ายังไง นางต้องชิงผลไม้แห่งเต๋าไปให้น้องสาวของนางอย่างชู่ซวนเชียนสื่อให้ได้
แต่นางยังไม่รู้ว่าผลไม้แห่งเต๋าเป็นที่ต้องการมากขนาดไหน
มีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยที่ต้องการมัน
อีกอย่าง หากราคาพุ่งสูงเกินไป ซูเหยาก็สู้ราคาไม่ไหว หากผู้ใดมั่งคั่งพอก็ได้ไป
“6 ล้าน”
“6.2 ล้าน!”
“7 ล้าน!”
แล้วการประมูลก็ดำเนินไปอย่างดุเดือด
แต่เมื่อราคาพุ่งถึง 9 ล้าน การประมูลก็หยุดลง
เพราะผู้ที่ร่วมประมูล เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ชั้น 4!
“ข้าเสนอราคา 9 ล้าน!”
แม้เป็นน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มและต่ำกว่าสั่นสะท้าน
แม้เป็นน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ราวกับแฝงด้วยอำนาจสวรรค์
เจ้าของเสียงคือพระรูปหนึ่ง มันเดินออกมาจากห้อง จ้องมองซูเหยาพลางเลียริมฝีปาก
“เจ้าคือคนที่หมี่เหลียนเล็งไว้เป็นกระถางขัดเกลา ใบหน้าและรูปร่างงดงามในแบบที่ข้าชอบ! แต่เป็นเพราะเจ้า หมี่เหลียนจึงต้องตาย!”
ดวงตาที่ชั่วร้ายของมันแปรเปลี่ยนดำขลับ แรงกดดันที่ทรงพลังแผ่ปกคลุม ร่างกายสูงใหญ่ 6 จ้างแปรเปลี่ยนเป็นควันดำพุ่งตรงเข้าหาซูเหยา
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้นที่มองออกว่า ควันดำนั่นคือวิชาสังหารที่สร้างขึ้นจากพลังสวรรค์
แต่ในชั่วพริบตานั้น ด้านหลังของซูเหยากลับปรากฏคนผู้หนึ่ง สีหน้าเย็นชา
“ข้าคือรองประมุขนิกายพระทมิฬ ‘เซี่ยกวง’!”
“ควันดำที่เจ้าเห็นคือวิชาที่ทรงพลังที่สุดของข้า หากเจ้าสัมผัส ปราณของเจ้าจะสูญสลายและตายไป”
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนจ้องมองเซี่ยกวง พลางรู้สึกราวกับตนเป็นเพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน แม้จะหายใจยังไม่กล้า
ผู้เชี่ยวชาญทะเลส่วนในจะสังหารผู้เชี่ยวชาญของทะเลส่วนนอก ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าสอดมือ
สู่ลู่ฉานและเหยียนซ่งสื่อเองก็ไม่ลงมือ แต่พวกมันทั้งสองก็คาดไม่ถึงว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มกล้าสอดมือ
เซี่ยกวงเป็นคนมุทะลุ มันไม่ได้เกรงสู่ลู่ฉานและเหยียนซ่งสื่อ รวมไปถึงซัวหมิง!
อีกอย่าง ด้วยระยะของสู่ลู่ฉานอยู่ไกลกว่า จึงไม่อาจยื่นมือช่วยซูเหยาได้ทัน
ฟากหนึ่งของอาคารประมูล ผู้เยาว์ในอาภรณ์เงินที่สลักด้วยรูปสัตว์อสูรอัสนี ในมือถือพัด แววตาเฉียบคม นั่งอยู่
คนผู้นี้คือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด และมีปราณมากถึง 8000 เกราะ!
กลิ่นอายของมันเกือบจะเทียบเคียงเซี่ยกวง โดยที่ห่างกันไม่มากนัก
คนผู้นี้คือคนของตระกูลซัว เป็นบุตรแห่งสวรรค์แห่งตระกูลซัว เป็นผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด และเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด! การที่มันออกเดินทาง ย่อมมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณนาม ‘ซัวสื่อ’ คอยคุ้มกัน
“ได้ยินว่าซัวหมิงยั่วยุนิกายพระทมิฬเพื่อสตรีนางนี้ แต่ด้วยมันมีสู่ลู่ฉานคุ้มกัน เซี่ยกวงจึงไม่กล้าลงมือกับซัวหมิง ดังนั้นมันจึงคิดใช้สตรีนางนี้ล่อให้ซัวหมิงลงมือ… แม้เซี่ยกวงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง เพราะมันไม่มีเจตจำนงค์เทพ… หากจะให้ข้าสังหารมัน คงใช้ปราณไม่เกิน 4000 เกราะ แต่เจ้าซัวหมิง… มันไม่ใช่คนของตระกูลซัวแต่ก็นับว่ามีฝีมือ กระทั่งได้รับขนานนามเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่รู้ว่ามันจะรับข้าได้กี่กระบวนท่า… และข้าจะใช้ปราณมากขนาดไหนในการสังหารมัน”
“สามกระบวนท่า ปราณ 1000 เกราะ!” ซัวสื่อกล่าว
ซัวสื่อ เจ้าดูแคลนมันเกินไป
‘ซัวฉิง’ ยิ้มอย่างเย็นชา
“นั่นใช่ซัวหมิงหรือเปล่า?”...
อีกฟากหนึ่งของอาคารประมูล บุรุษผู้หนึ่งถือกระบี่ใหญ่สีเงิน แผ่บรรยากาศกลมกลืนราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่
เจตจำนงค์กระบี่ที่ทรงพลังแผ่พุ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญรอบข้างตื่นตะลึง
แต่คนผู้นั้นไม่ขยับ ราวกับไม่ได้ใส่สิ่งที่เกิดขึ้น
แต่เมื่อเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้น มันกลับผุดลุกจากที่นั่ง และจ้องมองไปเบื้องล่าง
“นั่นเหรอซัวหมิง? เพลงกระบี่ทรงพลังมาก ในเกาะกระบี่หาคนที่มีวิชากระบี่ที่ทรงพลังแบบนี้ได้ไม่เกิน 10 คน”...
อีกฟากฝั่งของอาคารประมูล ชายชราในอาภรณ์ม่วง ข้างกายมีสตรีที่งดงาม
ในขณะที่เซี่ยกวงลงมือ มันผู้นี้เพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเหยียดหยาม
“รองประมุขนิกายพระทมิฬ… หากเทียบกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณในนิกายผนึกอสูรของข้า ยังอ่อนกว่ามาก”
มันผู้นี้คือผู้อาวุโสสามของนิกายผนึกอสูร ‘ซือกู่’ มันไม่เห็นเซี่ยกวงในสายตา
แต่เมื่อคนผู้หนึ่งลงมือ สีหน้ามันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
มันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีปราณอสูรม่วงอยู่ในร่างของคนผู้นั้น
“ซัวหมิง! เจ้ารนหาที่ตาย!”
มันตวาดลั่น สตรีสองนางข้างกายแปรเปลี่ยนเป็นแมลงขนาดเล็กจำนวนมหาศาล
สตรีสองนางนั้นไม่ใช่คน แต่เป็นแมลง แม้จะเป็นแมลงขนาดเล็ก แต่หากพวกมันโตเต็มวัย เพียง 1 ตัวก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ หากมี 100 ตัวก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ หากมีหมื่นตัวก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้
ซือกู่มีแใลงทั้งหมด 17,000 ตัว ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั่วไปย่อมไม่กล้ารับมือ
แต่ในขณะที่มันกำลังจะทะยานเข้าไปนั้น สีหน้ามันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“ซัวหมิง เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง แต่เหตุใดถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น!”
เมื่อเซี่ยกวงอยู่ห่างจากซูเหยาไม่มาก สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง แม้จะถอยหรือเปล่าท่าก็ไม่ทันแล้ว
“นางคือกระถางขัดเกลาของข้า ใครคิดทำร้ายนาง ตาย!”
มือหนิงฝานเปล่งแสงสีเงิน ทำมือคว้าจับ เงาภาพภูเขาปีศาจปรากฏ ปราณปีศาจที่ทรงพลังสำแดงเดช เข้าทำลายหมอกดำของเซี่ยกวงจนพินาศ
“ฮึ่ม! ฬนเมื่อเจ้ากล้าลงมือ ต่อให้สู่ลู่ฉานออกหน้า ข้าก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น! ตายซะ!”
แววตามันเผยเจตนาสังหาร แต่ในขณะที่มันกำลังจะลงมือ หนิงฝานกลับลงมือได้รวดเร็วยิ่งกว่า
เขากำมือ ชี้สองนิ้วเรียงชิดไปยังเซี่ยกวง
ดรรชนีแรกทำลายภูเขา
ดรรชนีที่สองขยี้สวรรค์!
ชั่วพริบตานั้น ภูเขาจำนวนมากบนเกาะปีศาจสำราญถล่ม
พลังงานที่ทรงพลังปรากฏเหนืออาคารประมูล
ท้องนภากระจ่างใสแปรเปลี่ยนมืดสนิท
สีหน้าเซี่ยกวงแปรเปลี่ยนหวาดกลัว!
แม้มันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่อ่อนด้อยที่สุด แต่การจู่โจมของมันคือการจู่โจมที่ทรงพลังที่สุดของขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น
แต่ถึงอย่างนั้น ทหารศิลายังเกือบตายเพราะดรรชนีกระบี่ของหนิงฝาน เหตุใดเซี่ยกวงจะรอดไปได้
มันต้องหนี!
“ตายซะ!”
หนิงฝานใช้วิชาตรึงร่างกับมัน!
แสงสีเทาเส้นหนาพันธนาการ แม้จะรั้งมันให้หยุดนิ่งได้เพียงครึ่งลมหายใจ แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว!
“นี่มันวิชาอะไรกัน!”
สีหน้าเซี่ยกวงแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันไม่รู้ว่าวิชาที่หนิงฝานใช้คืออะไร แต่กลับทำให้มันไม่อาจเคลื่อนไหวได้
“เจ้าคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด ส่วนข้าคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด… ยามนี้ เจ้าตายได้แล้ว! บดขยี้!”
ปราณกระบี่สีทองคำดำปรากฏ มีลักษณะเป็นเหมือนเส้นใยบางๆ
ปลายนิ้วหนิงฝานเปล่งแสงสีดำ ผู้ใดที่จับจ้องจะรู้สึกปวดตา ราวกับถูกกระบี่ขนาดเล็กทิ่มแทง
เส้นใยสีดำที่ก่อตัวเป็นปราณกระบี่แตกกิ่งก้าน เป็นเส้นใยขนาดเล็กจำนวนมหาศาลตรงเข้าหาเซี่ยกวง
แม้มันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต่ำ แต่มันมีสมบัติคุ้มกายมากมาย
มันจึงเร่งเอาสมบัติจำนวนมากออกมาต้านรับการจู่โจม
แต่ด้วยอานุภาพที่ทรงพลังของดรรชนีกระบี่ ทำให้สมบัติคุ้มกายเซี่ยกวงถูกทำลาย
แต่เมื่อเส้นใยสีดำจำนวนมากกำลังสัมผัสกายของมัน ในช่วงที่ร่างกายของมันกำลังถูกฉีกเป็นชิ้น ดวงจิตแรกเริ่มของมันกลับทะยานออกจากร่างไป
“ปล่อยให้มันหนีไปจนได้ ข้าคงสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณไม่ได้ง่ายๆ”
อาคารประมูลเงียบสนิท เมฆสีดำเหนืออาคารประมูลหายไป
ผู้เชี่ยวชาญในงานหวาดกลัวหนิงฝาน โดยเฉพาะกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ พวกมันสั่นสะท้าน
เพราะเพียงดรรชนีเดียวก็เกือบจะทำให้เซี่ยกวงสิ้นชีวิต หากเปลี่ยนเป็นพวกมันรับดรรชนีหนิงฝาน พวกมันสมควรบาดเจ็บสาหัส
ในหมู่เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น น้อยคนจะรับดรรชนีกระบี่ของหนิงฝานได้...
ผู้เยาว์ตระกูลซัวครุ่นคิด “ดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง แต่กลับสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้...”
บุรุษที่มาจากเกาะกระบี่เองก็ครุ่นคิด เส้นใยสีดำเมื่อครู่สมควรเป็นปราณกระบี่ ทั้งยังมีจำนวนมากมายมหาศาล
“ข้าฝึกฝนกระบี่มา 3 พันปีจึงสามารถใช้วิชาที่เปลี่ยนปราณกระบี่มีขนาดเท่าเส้นด้ายได้ แต่เด็กผู้นี้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง แต่กลับทำเช่นนั้นได้ หากเขาเป็นคนของเกาะกระบี่ คงได้เป็นผู้สืบทอดของจ้าวกระบี่ไปแล้ว”
แม้ชายชราจากนิกายผนึกสูรจะสัมผัสได้ว่าหนิงฝานสังหารคนของมัน แต่เมื่อได้เห็นวิชาดรรชนีกระบี่สังหารเซี่ยกวง ต่อให้มันมีแมลงนับหมื่น หากเผชิญหน้ากับหนิงฝานยังต้องบาดเจ็บสาหัส
“ถึงเรื่องที่มันสังหารคนของนิกายจะไม่อาจปล่อยผ่าน แต่หากข้าวู่วามเข้าไป คงไม่พ้นบาดเจ็บสาหัส”
ในช่วงเวลานั้น หนิงฝานกลับกล่าวขึ้น
“ผู้อาวุโสตงสู่ ข้าอยากได้ดวงจิตของมัน!”
“ฮ่าฮ่า… ดวงจิตแค่นั้น ต่อให้มันหนีไปล้านลี้ข้าก็จะไปจับมันกลับมาให้!”
แม้หนิงฝานจะทำลายร่างของเซี่ยกวงได้ แต่เขาไม่อาจทำลายดวงจิตมันได้
หากจะฆ่าหญ้าต้องถอนรากของมัน
“นี่จะเป็นการสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณครั้งแรกของข้า!”