ตอนที่ 19 ยักษ์ซิลิกอน
20 Silicon-based Gian
ในสมัยโบราณ ก่อนที่มนุษยชาติจะก้าวออกมาจากโลก พวกเขาจินตนาการการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตหลากหลายนอกเหนือจากมนุษย์ในอวกาศ คิดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะเป็นเหมือนมนุษย์แน่นอน ต้องมีสติปัญญาที่ยอดเยี่ยมและอารยธรรมชั้นเยี่ยม ดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่ามนุษย์ต่างดาว
พวกเขาไร้เดียงสาและโง่เขลาแค่ไหน?
จักรวาลนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งพิเศษและสิ่งมีชีวิตแปลกๆมากมาย มีอารยธรรมวิญญาณที่เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ อารยธรรมหุ่นยนต์ที่ใช้ไฟเป็นแกนหลักของชีวิต และแม้กระทั่งอารยธรรมซิลิกอนที่มีอายุขัยยาวนาน ...
มนุษย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งในอารยธรรมคาร์บอนที่อ่อนแอที่สุด
เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันมีความสำนึกในอารยธรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปแบบชีวิตและความคิด เมื่อเข้ามาติดต่อกัน พวกเขาจะพยายามทำลายศัตรู และไม่มีทางที่ความสัมพันธ์จะบรรเทาลงได้ ยกตัวอย่างมังกรกับมด พวกเขาไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้
ยิ่งไปกว่านั้น ความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตในเอกภพยังยิ่งใหญ่กว่านี้
เมื่อก้าวเข้าสู่อวกาศ บรรพบุรุษของมนุษยชาติก็มีจิตใจที่เป็นมิตร เมื่อพวกเขาติดต่อกับเผ่าพันธุ์ต่างดาว สิ่งที่พวกเขาได้รับคือการสังหารหมู่และการล้างบางอย่างไร้ความปราณี
หลังจากการสูญเสียมหาศาล คำว่าไร้เดียงสาของ 'มนุษย์ต่างดาว' ก็ถูกแทนที่ด้วย 'เผ่าพันธุ์ต่างดาว'
มนุษย์สูญเสียก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจความมืดมนที่สุดในจักรวาล
จักรวาลเปรียบเสมือนป่าดงดิบแห่งความมืดที่อารยธรรมแต่ละคนเปรียบเสมือนพรานป่าพร้อมปืน เมื่อถูกพบเจอ มีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะอยู่รอด
...
เมื่อเข้าสู่ชั้น 20 ดวงตาของเฟิง หลินก็หรี่ตาลงเมื่อลมร้อนพัดเข้าหาเขา ไม่มีไอน้ำเลยและแห้งเหมือนมีดตัดผ่านผิวหนัง
แวบแรก สถานที่นี้เป็นดาวเคราะห์ทะเลทรายร้าง เต็มไปด้วยทรายที่รกร้างและเงียบสงบ ไม่มีร่องรอยของชีวิต
"อืมม?คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ที่ไหน" เฟิง หลินเหลือบมองไปรอบๆ และไม่เห็นใครเลย ทันใดนั้น พื้นใต้เท้าเขาก็เกิดการระเบิด
ร่างสูงกำยำกว่า5เมตรยืนตรงนั้นเขา ผิวของมันเป็นสีขาวอมเทาเหมือนหินอ่อนราวกับถูกแกะสลักมาจากหินยักษ์ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของมันไม่มีอวัยวะอะไรเลยไม่ว่าจะเป็นปากหรือจมูก มันช่างเหมือนหน้ากากโลหะ ที่ด้านบนมีรูสองรู ปล่อยแสงสีน้ำเงินออกมา มันมีสายตาเย็นชาและไร้มนุษยธรรม
แสงสีฟ้ากระพริบเมื่อมันสแกนร่างกายของเฟิง หลิน
เฟิง หลินสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความเย็นกระจายไปทั่วร่างกายของเขา ขนลุกไปทั้งตัว เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกมองทะลุทั้งภายในและภายนอก
"สิ่งมีชีวิตฐานคาร์บอน – เผ่าพันธ์ : มนุษย์; ความสามารถในการสืบพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ระดับอารยธรรม: 2 วิธีการ: ฆ่า!" ยักษ์ซิลิกอนที่มีความสูงมากกว่าห้าเมตรจ้องมองที่เฟิง หลินราวกับว่ากำลังมองดูแมลงต่ำต้อยและไม่มีความหมายอะไร คำพูดที่พ่นออกมาฟังดูเย็นชาและโหดร้ายทำให้เราลุกลี้ลุกลน
“ นี่คือมนุษย์ต่างดาว?หรือเผ่าพันธุ์ต่างดาว! มันบอกว่าฉันเป็นมนุษย์คาร์บอน แล้วมันละมาจากอะไร? ความแตกต่างในรูปแบบชีวิตที่แตกต่างกันทำให้เฟิง หลินรู้สึกว่ากำลังจะเกิดปัญหา
บูม!
เท้าของยักษ์ซิลิกอนกระทืบพื้นอย่างแรงและร่างใหญ่โตมันก็ดีดขึ้นฟ้าเหมือนจรวด จากนั้นมันก็ทิ้งดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูง
เฟิง หลินกำลังสู้กับมันซึ่งๆหน้า แต่เขาเห็นว่าร่างมันถล่มลงมาเหมือนภูเขาลูกเล็ก ปล่อยเสียงหวือดังขณะที่มันลอยขึ้นไป
เปลือกตาของเขากระตุกเพราะเขารู้ว่าไม่สามารถต้านทานสัตว์ประหลาดตนนี้ได้
เขาหลบตามสัญชาตญาณ
บูม!
พื้นดินสั่นสะเทือนและร่างมหึมาก็ลงมาเหมือนดาวตก เปลือกโลกแตกและเกิดรอยร้าวเหมือนใยแมงมุมแผ่ออกไปทุกทิศทาง ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ปรากฏตัวพร้อมควันและฝุ่นละอองก็ลอยอยู่ในอากาศเป็นเวลานานมาก
เปลือกตาของเฟิง หลินยังคงกระตุกไม่หยุด ตัวของมันหนักแค่ไหนกัน?
สองตัน สามตัน ... อย่างน้อยต้องห้าตันแน่ๆ!
พลังหมัดของเขาหนักแค่0.8ตัน และแม้หลังจากยีนของเขาแข็งแกร่งขึ้นพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเพียง0.4จากระดับก่อนที่เขาจะทำการทดสอบ ดังนั้นแรงหมัดของเขาจะต้องไม่เกินหนึ่งตัน
การมีน้ำหนักขนาดนั้นพุ่งลงมาไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับได้ หากเขาหลบไม่ทัน เขาคงแหลกเละ
"มดปลวก!" เมื่อคิดว่าการโจมตีมันถูกสิ่งมีชีวิตคาร์บอนชั้นต่ำหลบได้ ยักษ์ซิลิกอนก็โมโห
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ
มันพุ่งเข้ามาและมีเสียงกระหึ่มตอนมันเดิน ฟังดูเหมือนเสียงรัวกลอง ทิ้งรอยเท้าลึกไว้มากมาย
"ช้าเกินไป! หมัดวัชระ!" ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด แต่ไม่เร็ว เฟิง หลินหลบและโผล่ข้างมันอย่างรวดดเร็ว ปล่อยหมัดคู่ไปราวกับพวกมันคือกระบองเหล็ก
หมัดทั้งสองของเขาน่าเกรงขามและเกิดเสียงดังขึ้นในอากาศ
การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้อาจทำให้หินก้อนใหญ่แตกได้
รังสีความเย็นชาพุ่งออกมาจากดวงตาของเฟิง หลินราวกับว่าเขากำลังเห็นภาพคู่ต่อสู้เขาตายคาที่ด้วยหมัด
ปัง!
เสียงดังเหมือนเอาค้อนไปทุบกับแผ่นเหล็ก ภาพที่คาดคิดกลับไม่ปรากฏ มันกลับเกินพลังรุนแรงที่ทำให้มือของเฟิงหลินต้องสั่นสะท้าน
ยักษ์ซิลิกอนยิ้มและเหวี่ยงแขนอย่างรุนแรง
เฟิง หลินไม่สามารถหลบได้ทัน เขาใช้แขนป้องกันเอาไว้ตรงหน้าอก พลังที่ท่วมท้นทำให้เขายุบลงไปกับพื้นเหมือนวิถีกระสุนที่จมลงไปลึกจนเขามองไม่เห็น
ยักษ์ซิลิกอนยืนอยู่ตรงหน้าละหัวเราะอย่างเหยียดหยาม "โง่!ข้าคือสิ่งมีชีวิตฐานซิลิกอน แต่สิ่งมีชีวิตคาร์บอนชั้นต่ำอย่างเจ้ากลับกล้าคิดใช้หมัดแสนบอบบางนั่นมาทุบตีข้า!ฮืม แม้ว่าข้าจะยืนเฉยๆและไม่ขยับ เจ้าก็ไม่อาจทำร้ายข้าได้!ตอนนี้ จงตายซะ!”
มันยกแขนทั้งสองข้างขึ้น และพื้นก็สั่นสะเทือน
ก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปในอากาศโดยไม่สนใจแรงโน้มถ่วงและตกลงมาทันที
เฟิง หลินพยายามหลบอย่างเร็ว ก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมา สร้างเป็นหลุมลึกจำนวนมาก
หินที่ตกลงมาเหมือนฝนและเขาไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้
"ไร้ความหวัง! ยักษ์ซิลิกอนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพื้นฐานมาจากซิลิกอนและเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมหิน!"
“ก้อนหินจำนวนมหาศาลแถมยังหนักขนาดนี้ แม้แต่ช้างก็อาจจะจมลงไปได้!”
“นี่ไง! เขาควรภูมิใจที่ต่อสู้มาได้จนถึงตอนนี้ ความแตกต่างด้านพลังมากถึง0.5เลยนะ!”
...
เหล่าหัวหน้าอาจารย์แสดงความคิดเห็นราวกับพวกเขาเห็นทุกอย่างมานานแล้ว พวกเขาส่ายหัวและถอนหายใจ รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ไม่อาจเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าได้
อาจารย์ใหญ่ก็พยักหน้าเห็นด้วย รู้สึกว่าเฟิง หลินไม่มีโอกาสชนะได้ในครั้งนี้
มนุษย์คาร์บอนเผชิญหน้ากับยักษ์ซิลิกอน ... ความแตกต่างในระดับของสิ่งมีชีวิตสองสิ่งนี้ต่างกันเกินไป!
เฟิง หลินรับรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ไม่เหมือนกับการต่อสู้ก่อนหน้านี้ คราวนี้เขาไม่สามารถหาโอกาสชนะได้
รูปแบบชีวิตของคู่ต่อสู้แข็งแกร่ง ร่างอายอึดทน ... ทุกอย่างเหนือกว่าเขา ในแง่ของลักษณะทางเผ่าพันธุ์ คู่ต่อสู้สามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้จะยาก แต่คู่ต่อสู้ทั้งหมดเป็นมนุษย์และเขาไม่เคยรู้สึกหมดหนทางเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่ว่าเขาพยายามมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถชนะได้
ทุกอย่างจะจบลงแค่นี้งั้นหรอ?
เขาไม่สามารถยอมรับมันได้
มันเป็นเรื่องปกติที่จะแพ้ให้มนุษย์คนอื่น แต่มันรู้สึกเจ็บปวดกว่ามากที่เขาจะแพ้ให้กับเผ่าพันธุ์นอกโลก
แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี่เป็นพลังงานเอกลักษณ์ของหอต่อสู้ แต่มันก็มีความสามารถจริงของเผ่าพันธุ์ต่างดาว นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้จำลอง แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์ที่ต่างกัน!
ความรู้สึกทะเยอทะยานลุกฮือขึ้นในหัวใจของเฟิง หลิน
เขาไม่อยากแพ้!