บทที่ 237 - ฉันได้ยินเสียงเธอ (5) [26-11-2019]
บทที่ 237 - ฉันได้ยินเสียงเธอ (5)”
ยูอิลฮานได้ถอนหายใจออกมา
"สเปียร่าสินะ"
สเปียร่าน่ะภักดีกับสวรรค์แบบไม่สนอะไร ไม่ว่าจะเป็นในด้านที่ดีหรือแย่ก็ตาม เอิลต้า... มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับสเปียรางั้นสินะ?"
[...นั่นมันเป็นความลับ]
"..."
ในระหว่างเลียร่ากับเอิลต้ากำลังจ้องตากันอีกครั้งหนึ่ง ยูอิลฮานก็คิดไปถึงโอกาสที่เขาจะชนะในการสู้แบบตัวต่อตัวกับสเปียร่า ยังไงก็ตามไม่ว่าเขาจะคิดคำนวนยังไง ความหวังของเขาก็มีไม่มากนัก
"สิ่งมีชีวิตชั้นสูงส่วนใหญ่ที่ฉันได้สู้มาตลอดส่วนมากจะใช้เวทย์เป็นหลัก แต่สำหรับสเปียร่ากลับไม่ใช่ เธอเป็นคนที่มีศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมากๆ แค่คิดถึงหอกสะบั้นจักรวาลที่เธอแทงออกมาฉันก็กลัวแล้ว"
"แต่ว่าฉันก็คิดว่าเทคนิคหอกของนายก็ทรงพลังมากเหมือนกันนะ"
"ฉันก็ไม่คิดว่าหอกไร้วิถีของฉันจะด้อยกว่าหรอกนะ แต่ว่า..."
มันก็ยังอันตรายอยู่ดี ยูอิลฮานคิดว่าหากสเปียร่าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ต้องจำกัดพลัง เธอก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าเจตจำนงแห่งความโกลาหลอย่างน้อยก็สองเท่า
แม้ว่าเจตจำนงแห่งความโกลาหลจะไปถึงขั้นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ด้วยตัวมันเอง แต่ว่ามันก็ยังด้อยกว่าสเปียร่าในด้านประสบการณ์ พลังเวทย์ ที่เธอได้มีมาหลายต่อหลายปี ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ยังมีศิลปะการต่อสู้ที่สูงมากๆอีกด้วย
"โอเค ถ้างั้นก็"
ยูอิลฮานได้ตัดสินใจแล้ว
"มาลองดูกันว่าเราจะใช้เทคนิคสกปรกชนะได้ไหม"
"นายกำลังพูดเรื่องเลวร้ายอยู่นะ!"
นี่มันเป็นคำพูดที่หากเป็นตัวเอกจะไม่มีวันพูดออกมาเด็ดขาด ยังไงก็ตามยูอิลฮานไม่มีความลังเลใดๆแล้วในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว
"แต่ว่ามันก็ไม่มีทางที่สเปียร่าจะยอมเชื่อตัดพันธสัญญาแต่โดยดีแน่"
"นายไม่รู้สึกอะไรกับการที่จะต้องฆ่าสเปียร่าทั้งๆที่เธอเคยเป็นทูตสวรรค์ที่ติดต่อกับนายเลยหรอ?"
"ก็นั่นแหละนะ นอกจากนี้ฉันก็มีแผน..."
ดวงตาของยูอิลฮานได้เป็นประกายออกมา สีหน้าของเขาในตอนนี้มันเหมือนกับในตอนที่เขาจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
"มันมีวิธีที่ตัดพันธสัญญาได้โดยไม่ต้องฆ่าเธอ มันก็จะปลอดภัยกับฉันเหมือนกัน"
"เพราะอะไรกันนะฉันถึงได้รู้สึกกังวลมากขึ้นพอนายพูดคำว่าปลอดภัยออกมา"
ยูอิลฮานไม่สนใจคำพูดของเลียร่าแล้ว ถ้าการต่อสู้มันมีแค่ตัวเลือกเดียว เขาก็จะไม่ลังเลที่จะเลือกทำมัน แต่ว่าถ้ายังมีทางเลือกอื่นอยู่อีก นั่นมันก็ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องไปเสี่ยง
[...แล้วนายก็ตั้งใจที่จะไม่บอกเราก่อนใช่ไหม?]
"ฉันยังจัดระเบียบความคิดได้ไม่มากพอที่จะอธิบายออกมาน่ะ"
แน่นอนว่าแผนของเขายังคงหยาบๆและไม่สมบูรณ์ดีนัก ยังไงก็ตามหากเป็นความสามารถของยูอิลฮานที่ได้พลังต่างๆของเอิลต้าแสดงออกมาในวันนี้เสริมเข้าไปด้วย ถ้างั้นบางทีมันก็เป็นไปได้ที่จะจัดการกับสเปียร่าได้
ในตอนนี้เขาจะต้องทำให้แผนการนี้ของเขาสมบูรณ์ในระหว่าที่เขากำลังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่นี่
[ถ้าเป็นนาย สุดท้ายนายก็ทำเหมือนปกติสินะ ฉันก็คงไม่ต้องห่วงมากนัก แต่ว่า... เราไม่น่าจะมีเวลาให้เตรียมตัวมากนัก สเปียร่าก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะสำรวจดาเรย์เหมือนกัน]
"โอเค ขอบคุณที่บอกฉันนะ.... แล้วก็นี่แหละเป็นสิ่งที่ฉันอยากจะถามเธอ แต่ว่านะเอิลต้า"
ยูอิลฮานสัมผัสได้ว่าคำพูดต่อไปนี้จะเป็นหัวข้อที่สำคัญที่สุด
"ทำไมเธอถึงได้ทรยศกองทัพสวรรค์ล่ะ?"
[...]
"ฉันได้ยินถึงสิ่งที่เธอทำแล้ว แต่ยังไงก็ตามฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงทอดทิ้งกองทัพสวรรค์เพื่อกลับลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ถึงแม้ว่าเธอจะยังมีพันธสัญญาคู่หูกับฉันอยู่ในตอนนี้ก็ตาม เธอกลับเคลื่อนไหวทุกเพื่อฉันอย่างเดียวเลย... นี่คือสิ่งที่เธออยากจะทำจริงๆน่ะหรอ?"
เธอสามารถจะเมินเฉยคำถามของเขาไปก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ทำแบบนั้น พอคิดจากบุคคลิกของยูอิลฮานแล้ว นี่คือคำถามที่เขาต้องการคำตอบมากที่สุด
[หืมมม นั่นมัน...]
เอิลต้าได้ลังเลที่จะแสดงความรู้สึกของเธอออกมายังไง และในท้ายที่สุดเธอก็พูดออกมาแค่ความจริงส่วนหนึ่งเท่านั้น
[นายไม่ได้เชื่อในกองทัพสวรรค์อีกต่อไปแล้วใช่ไหมล่ะ? มันก็แค่ฉันรู้สึกไม่ชอบกองทัพสวรรค์เหมือนนายเท่านั้นเอง ฉันคิดว่านายน่าจะรู้ตัวนิดๆแล้วนะว่ามีการเจรจาของกองทัพสวรรค์กับกลุ่มฝ่ายต่างๆ... ฉันก็ได้รู้เรื่องนี้เข้าเหมือนกัน และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉันไม่ยอมเลื่อนไปสู่คลาส 6 ด้วยเหมือนกัน]
"มีแค่นี้จริงๆงั้นหรอ?"
[มันก็เพราะตัวนายอีกด้วย นายเป็นพันธมิตรที่น่าไว้ใจและยังช่วยสนับสนุนในการกระทำของฉันได้อีกด้วย ฉันเป็นคนที่จะไม่ยอมทำอะไรโดยประมาท]
"...อ่า"
ในด้านหนึ่งเขาก็ตกใจอยู่ และอีกด้านหนึ่งเขาก็รู้สึกประทับใจนิดๆหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ แถมนี่ก็เป็นเหตุผลให้เขารู้สึกผิดนิดๆเหมือนกัน
แน่นอนถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อใจเอิลต้าเหมือนกัน แต่ว่าเขาก็ยังคิดไปในมุมมองที่ต่างกับเธอ เขาได้พยายามที่จะไม่เผยทุกๆอย่างให้กับเธอรู้
การไม่เชื่อใจคนอื่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดของคนแบบยูอิลฮานที่จะปกป้องหัวใจของเขาเอง และข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวของกฏนี้ก็มีแค่เลียร่าเท่านั้น นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าก่อนหน้านี้เขายังจะเอาหอกมาสู้กับเอิลต้าอีก
แต่ในตอนนี้พอเขามาได้ยินแผนทั้งหมดของเอิลต้าที่ไว้ใจเขามากสุดๆมันทำให้เขารู้สึกแปลกมากๆ
"...แบบนี้นี่เอง ขอบใจมากนะที่เธอไว้ใจฉันมากขนาดนี้"
[...ฟู่]
สำหรับเอิลต้าที่อยากจะให้ยูอิลฮานสังเกตเห็นถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในระหว่างที่เธออธิบายออกไปแล้ว เธอรู้สึกซับซ้อนเอามากๆ ยังไงก็ตามเลียร่าที่รู้สึกว่านี่มันถึงขอบเขตที่เธอจะทนได้แล้ว เธอก็ได้รีบเปลื่ยนหัวข้อในทันที
"แต่ว่าอิลฮาน ทำไมนายไม่ทำให้เอิลต้ามาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแบบที่ฉันทำล่ะ? นั่นมันจะช่วยแก้ปัญหาได้โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับสวนอาทิตย์อัสดงได้เลยนะ"
[ฉะ... ฉันก็สงสัยเหมือนกัน ทำไมเลียร่ายังอยู่ได้โดยไม่โดนผลสะท้อนกลับเลยล่ะ? อิลฮานนายทำอะไรไปงั้นหรอ?]
"นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก มันอันตรายเกินไป มันจะเต็มไปทั้งแรงกดดันและความเจ็บปวด ในเมื่อเราก็กำลังจะสู้กับสวนอาทิตย์อัสดงแบบที่เอิลต้าพูดก็ดีอยู่แล้ว"
มันไม่มีเหตุผลให้ยูอิลฮานต้องลังเล
[งั้นหรอ? เข้าใจแล้ว งั้นเอาตามนั้นแล้วกัน]
เอิลต้าก็หยักหน้าโดยไม่ลังเล แต่ว่าในสายตาของยูอิลฮานแล้วมันดูเหมือนเธอจะผิดหวัง เธอผิดหวังเรื่องอะไรกัน? ยูอิลฮานได้แต่สับสนแต่เอิลต้าก็กางปีกขึ้นมาโดยไม่ให้คำตอบเขา
[ถ้างั้นฉันกลับไปก่อนนะ อีกเดี๋ยวหลังจากนี้กองทัพสวรรค์ก็จะส่งทูตมาขอพันธมิตรกับนาย]
"โอเค ถ้างั้นฉันจะเป็นพันธมิตรกับพวกนั้นชั่วคราวแล้วกัน"
[เลียร่า]
เอิลต้าได้พูดกับเลียร่า เมื่อเลียร่าได้หันไปมอง เอิลต้าก็ดูเหมือนปีศาจร้ายและเธอได้พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเหี้ยมๆ
[ถึงเธอจะดูเหมือนไม่คิดอะไรนะ แต่ฉันต่างจากเธอ ฉันจะทำให้ยูอิลฮานเป็น 'เทพเจ้า' องค์ใหม่]
"ถ้านี่เป็นข้างนอกนี่เธอได้เป็นเทวดาตกสวรรค์ไปแล้วนะ"
[เพราะแบบนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดี]
"หา? ... โอ้ โอ้!"
เลียร่าที่ในที่สุดแล้วก็รู้ว่าเอิลต้าสื่ออะไรทำให้เธอหยิบเอาหอกออกมากำแน่น แต่เอิลต้าได้ลอยหายไปบนท้องฟ้าแล้ว จากนั้นในที่สุดลูกน้องและกองทัพของยูอิลฮานก็เข้ามาหาเขา
"เอิลต้าาาาา!"
ทุกๆคนต่างก็ระวังเอิลต้า จะมีก็แต่นายูนาที่โบกมือให้กับเธอ เอิลต้าก็ยังโบกมือกลับมาให้นายูนาด้วยรอยยิ้มกว้าง
[เรามาพยายามด้วยกันดีกว่านะนายูนา]
"ได้เลย เราจะพยายามด้วยกัน!"
"หืมมมมมมม?"
"โอ้ยยยย"
ทำให้เขาเป็นเทพเจ้างั้นหรอ? นั่นมันหมายความว่ายังไงแล้วทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นกับเลียร่าล่ะ? ยูอิลฮานสงสัยมาก แต่ยังไงก็ตามพอเขาเงยหน้าจะถามกลับไป เอิลต้าก็หายไปแล้วทำให้เขาได้แต่พึมพัมออกมา
"เลียร่า ทำให้กลายเป็นเทพเจ้านี่มันหมายความว่ายังไงกัน?"
"ฉันไม่รู้ ฉันไม่เคยเป็นซะหน่อยนี่ แต่ฉันคิดว่านายทำได้"
"ความเชื่อมั่นของเธอนี่นะ..."
นี่คือคำพูดของเอิลต้าที่ปล่อยไว้ในใจของเขา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เธอต้องการจะบอกเลยซักนิด
ตอนนี้แผนการของเขาสมบูรณ์แล้ว และเขาก็เตรียมพร้อมไว้แล้วด้วย สิ่งที่เหลืออยู่ก็แค่ทำมันเท่านั้นเอง!
"อีกไม่นานกองทัพสวรรค์จะส่งทูตมาเป็นพันธมิตรกับเรา พวกเราจะต้องร่วมมือกับพวกสวรรค์ แต่ว่านั่นมันไม่ได้ตลอดไป"
"ครับ เข้าใจแล้ว"
"เยี่ยม ถ้างั้นก็เดินทางได้"
สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นพันธมิตรคืออะไรกันล่ะ? จุดยืนของแต่ล่ะฝ่าายไง กองทัพสวรรค์เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ด้อยกว่ากองทพสวรรค์ สิ่งสำคัญก็คือผลงานความสำเร็จ
ความสำเร็จอย่างเช่นหัวของกองทัพปีศาจแห่งการทำลายหรือหัวของสวนอาทิตย์อัสดง
"ฉันกำลังจะเปิดใช้งานวงเวทย์แล้วนะ จำนวนของศัตรูคือ..."
ยูอิลฮานได้วางมือลงไปบนวงเวทย์และสัมผัสถึงจำนวนสิ่งมีชีวิตชั้นสูงรวมไปถึงพลังของพวกมันที่กระจายตัวอยู่ทั่วทวีป แม้ว่าสำหรับยูอิลฮานการซุ่มโจมตีจะเกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน แต่สำหรับศัตรูเขาเรื่องการซุ่มโจมตีเพิ่งจะเกิดไม่นานมานี้เอง พวกนั้นได้พบการตายของพรรคพวกและรวมตัวกันในมุมหนึ่งของโลกหลังจากที่ยกเลิกการสอดแนมและเปลื่ยนมาตั้งรับ
"อยากแรกเลยเราจะไปทำลายกลุ่มที่มีคลาส 6 หนึ่งคนกับคลาส 5 อีกสามร้อยคนกัน"
"นั่นมันทั้งกองทัพเลยนะ!?"
"ถูกแล้ว พวกนั้นจะไม่กังวลเรื่องการถูกโจมตีแล้วลดการระวังตัวลงจริงไหมล่ะ?"
"นั่นก็จริงแหละ แต่ว่านายจะไปทำบ้าอะไรที่นั่นกัน!"
ความสามารถในการตอบโต้ของเลียร่าได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเอิลต้าไม่ได้อยู่นี่ - ยูอิลฮานได้หยักหน้าอย่างพอใจและเปิดใช้งานวงเวทย์ในทันที
"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเราไม่ทำขนาดนี้ พวกเราก็จะไม่มีโอกาสเอาชนะในสงครามครั้งนี้ได้ เราต้องทำแบบนี้แหละ"
"อ๊ากกก เป็นแบบนี้เสมอเลย"
วงเวทย์ได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว ในที่สุดยูอิลฮาน เลียร่า ป้อมปราการลอยฟ้า และป้อมปราการผู้พิทักษ์ที่พึ่งจะได้ลอยขึ้นมาก็ถูกส่งกันมาถึงที่หน้าค่ายของกองทัพปีศาจแห่งการทำลายแล้ว
[ถ้างั้นกลุ่มนั้นก็ไม่ได้ถูกพวกสวนอาทิตย์อัสดงฆ่างั้นสิ]
[ที่นั่นฉันไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอื่นอยู่เลย มีใครที่เป็นคนของกองทัพสวรรค์หรือกองทัพจรัสแสงที่เคลื่อนไหวได้มิดชิดแบบนี้กันนะ?]
[พวกเราจำเป็นต้องระวังตัวเอาไว้ ในเมื่อเราไม่รู้ก็ช่วยไม่ได้แล้ว แต่ในตอนนี้ดาเรย์นี่สำคัญกว่าโลกนั่นอีก พวกเราจะไม่ยอมยกโลกใบนี้ให้กับใคร]
ยูอิลฮานได้ยินเสียงของพวกฝั่งกองทัพปีศาจแห่งการทำลาย และหนึ่งในพวกมันมีเสียงที่คุ้นเคยมากๆ
[ถ้าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชั้นสูง งั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำงั้นหรอ? เจ้านั่นจะทำให้ฉันแกร่งขึ้นสักนิดไหมนะ?]
ยูอิลฮานได้มองผ่านข้ามป้อมปราการผู้พิทักษ์ ที่ที่เขาได้มองไปมีมังกรระดับสูงจำนวนมากอยู่บนพื้น มันมากจนย่าตกใจ แต่ที่น่าตกใจมากกวานั้นก็คือคลาส 6 ที่เป็นผู้นำมังกรทั้งหมด
[อย่าได้มั่นใจเกินไปนักเทลาก้า ความสำเร็จของนายน่ะสูงก็จริง แต่ถ้านั่นมันยังไม่ใช่สูงที่สุดก็ไม่มีความหมายใดๆนะ]
[ก็เพราะว่ายังไม่สูงที่สุดไงล่ะถึงทำให้ฉันยิ่งต้องการแกร่งขึ้นมากกว่านี้ สงครามครั้งล่าสุดที่กำแพงแห่งความโกลาหลนั้นมันสั้นเกินไป...!]
ยูอิลฮานมั่นใจมากว่าเขานั้นพัฒนาเร็วยิ่งกว่าใครๆ แต่พอได้เห็นเจ้านี่แล้ว เขาก็ได้รู้ว่าเขาคิดผิด
มันไม่ใช่แบบกองทัพมังกรของยูมิลที่มีแต่เด็ก แต่กองทัพนี้มีมังกรเพียยงอย่างเดียวและถูกเจ้านั่นเป็นหัวหน้านำทัพ เจ้านี่คือคนที่ได้เชิญชวนให้ยูอิลฮานเข้าเป็นพวกเดียวกับกองทัพปีศาจแห่งการทำลาย - เทลาก้า
คนที่ก่อนหน้านี้ยังอยู่คลาส 5 แต่ในตอนนี้มันได้กลายยมาเป็นคลาส 6 และเป็นคนนำทัพเองแล้ว