เล่ม 1 ตอนที่ 61 ออกบิน
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ริชาร์ดไม่รู้เลยว่ามูลค่าของรูนในตลาดภายนอกดีพบลูเป็นอย่างไร และถึงจะรู้เขาก็ไม่ได้สนใจ ในตอนนี้เขามีแต่ความตื่นเต้นอย่างท่วมท้น เพราะแม้ว่าเงินไม่กี่หมื่นที่ได้รับจะเทียบไม่ได้เลยกับเงินทุนของทรัพยากรที่เขาใช้ไป แต่นี่คือเงินก้อนแรกที่เขาหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง !
อย่างไรก็ตาม เขาดื่มด่ำกับความสุขจากการได้รับรายได้เพิ่มเติมอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็กลับไปหมกมุ่นกับการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบตามเดิม ในทางกลับกันแบล็คโกลด์กำลังสวมแว่นขยายกำลังแรงสูงที่ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์และฝังตัวอยู่กับโต๊ะทำงานของเขาเพื่อศึกษารูปแบบรูนที่ริชาร์ดส่งให้ทีละบรรทัดอย่างพิถีพิถันโดยไม่คำนึงถึงเวลาที่ผ่านไป
แบล็คโกลด์รู้ตัวว่าท้องฟ้ามืดแล้วก็ตอนที่เขาพบว่าทั่วทั้งห้องได้มืดสลัวลงอย่างสมบูรณ์ เขารีบจัดการจุดตะเกียงเวทมนตร์ 7-8 อันทันทีเพื่อเพิ่มแสงสว่างจนเสมือนกับเวลากลางวันก่อนรีบกระโดดกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อตรวจสอบรูนที่เขาใช้เงินซื้อไปเพียง 30,000 เหรียญต่อ
และกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลารุ่งสาง แบล็คโกลด์ถอนหายใจยาวและยืนขึ้น เสียงคำรามในกระเพาะทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเพราะเขากำลังค้นไปทั่วเพื่อหากระเป๋าเวทมนตร์ที่มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อเก็บรูนของริชาร์ดไว้ด้านใน และรีบร้อนออกจากดีพบลูไป
เมื่อถึงเวลาสิ้นเดือน ริชาร์ดกวาดสายตาไปทั่วใบเรียกเก็บเงินเหมือนทุกที ทว่าก็ต้องสะดุดที่รายการหนึ่งซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก เขาพบว่าตัวเขามีรายได้เพิ่มขึ้นก้อนใหญ่โดยเป็นจำนวนกว่า 800,000 เหรียญ โดยชื่อรายการที่ระบุรายได้นั้นคือ ‘เงินปันผลจากการประมูลรูน’ รายการนี้อยู่ด้านบนของ 30,000 เหรียญที่เขาได้มาจากการขายรูนให้กับแบล็คโกลด์ และไหนจะเงินจากความสุขของชารอน ทั้งหมดนี้เมื่อรวมกันแล้วเป็นจำนวนที่น่าประหลาดใจมากทีเดียว
ริชาร์ดพยายามนึกว่าเงินปันผลจากการประมูลรูนนั้นมาจากไหน แต่เขาก็นึกได้แค่ว่ามีเพียงแค่แบล็คโกลด์คนเดียวที่เขาให้[อจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน]ไป และจากความรู้ของเขาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร รูนแบบนั้นที่เขาทำ มันยังไม่น่าจะมีมูลค่าเกินกว่า 200,000 เหรียญไปได้ ถึงแม้เขาจะเพิ่มอัตราการเสริมพลังของรูนให้มากกว่า 50% อย่างมากก็คงแค่ 200,000 เหรียญเท่านั้นอยู่ดี แล้วมันจะถูกประมูลได้ราคาสูงมากซะจนจ่ายเงินปันผลถึง 800,000 เหรียญได้อย่างไรกัน ? ยิ่งไปกว่านั้น เงินจำนวนนี้ไม่ได้มาจากชารอนทว่าเป็นแบล็คโกลด์ จากที่ริชาร์ดรู้จักแบล็คโกลด์ แบล็คโกลด์ก็ไม่น่าจะให้เงินทั้งหมดที่ได้จากจากการประมูลแก่เขา อันที่จริง เขาคงจะไม่ให้แม้แต่ครึ่งหรือ 1 ใน 4 ของเงินที่ได้มาด้วยซ้ำ ! แต่นี่มันแค่[อจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน]เท่านั้น เหตุใดมันจึงมอบเงินมากมายได้เช่นนี้ !
เขาเฝ้าครุ่นคิดแต่มันก็ไม่นานนัก เมื่อเขาพบปัญหาใหม่ที่ยุ่งยากในการวิจัยของเขาเกี่ยวกับการออกแบบรูน เขาก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องการประมูลนี้อีก ในทางตรงกันข้ามแบล็คโกลด์ให้ความสนใจในตัวเขาอย่างมาก โดยคอยมาหาเขาเป็นครั้งคราวและมักถามไถ่อย่างใจดีหากว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติม พฤติกรรมของแบล็คโกลด์นั้นผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดทว่าความสนใจของเขามุ่งอยู่กับปัญหาของเขาเองที่ดูเหมือนจะไม่มีทางเอาชนะได้เท่านั้น ซึ่งผลก็คือเขาไม่สงสัยเลยว่าการกระทำของแบล็คโกลด์นั้นหมายถึงอะไร
ริชาร์ดยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า[อจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน]ของเขาถูกประมูลที่สหพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ในราคาสูงเสียดฟ้าถึง -- 5,000,000 เหรียญ ! -- นี่เป็นเพราะการดัดแปลงอเนกประสงค์ที่น่าเหลือเชื่อของมัน และยังมีอัตราเสริมพลังที่มากกว่ารูนมาตรฐานทั่วไปในประเภทเดียวกัน นั่นทำให้มันสามารถติดเข้ากับช่องรูนระดับ 4 ได้มากมาย และแม้แต่กับช่องรูนระดับ 3 เพื่อรวมเป็นรูนผสม ซึ่งรูนผสมนั้นจะใช้พื้นที่น้อยลงในการติดเข้ากับร่างกายของรูนไนท์
ยิ่งเป็นรูนที่ผ่านการดัดแปลงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้พื้นที่ความจุรูนน้อยลงเท่านั้น ไม่มีรูนอันใดที่จะสามารถติดเกินขีดความจุสูงสุดของไนท์คนนั้นๆได้ และขนาดที่แน่นอนของรูนจะต้องถูกกำหนดตั้งแต่ขั้นตอนการร่างรูนขึ้นมาแล้ว ดังนั้น ปัญหาที่เกิดจึงมักจะเป็นปัญหาการเสียพื้นที่ในช่องไปโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่กับรูนที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะก็ตาม นอกจากนั้น ยิ่งรูนมีระดับที่มากขึ้น พื้นที่ที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย และพื้นที่ว่างที่เหลือจากการติดรูนระดับสี่ 2-3 อัน จะมากพอที่จะนำไปติดรูนขั้นพื้นฐานได้ ความคิดดั้งเดิมของรูนผสมก็คือการใช้พื้นที่ในช่องรูนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนั่นจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การดัดแปลงและประสิทธิภาพของรูนนั้นไม่สามารถไปด้วยกันได้ รูนที่ดัดแปลงได้ดีจะใช้พื้นที่ในช่องน้อยลง แต่ก็ต้องแลกกับอัตราการเสริมพลังที่จะด้อยลงไปเช่นกัน ขณะที่รูนในท้องตลาดที่สามารถเทียบกับมาตรฐานของริชาร์ดในด้านการดัดแปลงนั้น ส่วนใหญ่จะมีอัตราการเสริมพลังแค่ประมาณ 20% ซึ่งน้อยกว่า 30% ที่เป็นอัตรามาตรฐานอย่างมาก -- รูนของริชาร์ดมีมูลค่าก็ตรงที่แท้จริงแล้วมันมีอัตราเสริมพลังถึง 41% -- ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มเป็น 2 เท่าจากรูนที่คล้ายคลึงกันนี้ ผู้คนจึงเต็มใจจ่ายในราคาที่สูงกว่าปกติถึง 50 เท่า
รูนไนท์ที่มีทักษะอย่างแท้จริงจะใช้ประโยชน์จากความสามารถของรูนดัดแปลงได้อย่างเต็มที่ หากริชาร์ดสามารถสร้างรูนที่มีอัตราเพิ่ม 42% ได้ ราคาก็อาจจะสูงขึ้นเป็น 6,000,000 เหรียญเลยก็ได้ เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นไปตามความหายากของวัตถุและโอกาสความสำเร็จคือหลักการของตลาดภายนอกนั่นเอง
ริชาร์ดยังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดของเรื่องพวกนี้ แต่ถึงจะรู้เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขามองการณ์ไกลกว่านั้นมาก และจะไม่สะดุดกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันแบล็คโกลด์เป็นคนแคระเกรย์ที่มีเหตุผลและยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนเอง ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งหน้าตั้งตารอให้ได้รูนมามากขึ้น ทว่าเขาก็ไม่เคยกดดันหรือเร่งริชาร์ดเพื่อให้ได้มาเร็ว ๆ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ดูเหมือนว่าดีพบลูจะยังคงอยู่ในสภาพปกติ เว้นแต่ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ย่อมจะมีอายุเพิ่มขึ้นในทุกปีที่ผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้วก็ผ่านไปอีกครั้ง ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิถัดไป ริชาร์ดก็จะอายุ 15 ปีแล้ว
ในทวีปนัวแลนด์ ความเป็นผู้ใหญ่จะเริ่มต้นเมื่ออายุ 15 ปี ตอนนี้ริชาร์ดเป็นเมจระดับ 8 และเขาเพิ่งจะสร้างรูนขั้นพื้นฐานอันสุดท้ายได้สำเร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา ในตอนนี้เขาเข้าใจรูนขั้นพื้นฐานทั้งหมดแล้ว เหลือก็แต่เพียงสร้างรูนระดับ 2 ให้ได้อีกแค่อันเดียว เขาก็จะเรียกตัวเองว่าเป็นรูนมาสเตอร์ได้อย่างเต็มตัว มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นและมันคงจะไม่นานนัก ในความเป็นจริง หากไม่ใช่เพราะริชาร์ดยืนยันที่จะเรียนรู้รูนขั้นพื้นฐานทั้งหมดก่อน ตอนนี้เขาก็คงจะสร้างรูนระดับ 2 ได้สำเร็จไปนานแล้ว
......
ในตอนนี้เลเจนดารี่เมจชารอนหายตัวไปเช่นเคย ช่วงนี้นางมักจะไม่อยู่ให้เห็นหน้าบ่อยกว่าการอยู่เสียอีก ตั้งแต่นางได้พบกับเม้าเทนซี นางก็ใช้เวลาในดีพบลูน้อยลงเรื่อย ๆ เพื่อเดินทางไปยังเพลนต่าง ๆ และถึงแม้ไม่มีใครล่วงรู้ว่านางใช้เวลาไปกับการทำอะไร แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการหาเงินอย่างแน่นอน
เมื่อเวลาผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิก็วนมาถึงอีกครั้ง วันเกิดของริชาร์ดก็ใกล้จะมาถึงอีกเช่นเคย และวันแห่งโชคชะตาก็ใกล้จะวนเข้ามาถึงแล้วด้วยเช่นกัน วันที่ของมันไม่เคยตรงกัน ทว่ามันอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันเสมอ พลังของโชคชะตาจะถูกกระตุ้นโดยดวงจันทร์ทั้ง 7 ดวงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าพร้อม ๆ กัน
คืนก่อนถึงวันแห่งโชคชะตา จู่ ๆ ริชาร์ดก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องออกจากดีพบลู ชารอนยังคงไม่กลับมา และเขามีความรู้สึกเล็ก ๆ ว่านางจะไม่กลับมาจนกว่าเขาจะออกไปแล้ว
เขาเริ่มลงมือจัดกระเป๋าสัมภาระในตอนกลางคืนและบอกกับแบล็คโกลด์ว่าเขาจะจากไป แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจุดหมายปลายทางที่เขาต้องการจะไปคือที่ไหน ทว่าเขาเชื่อว่าเมื่อวันแห่งโชคชะตาได้ผ่านพ้นไป เขาจะได้รับคำตอบ สัญชาตญาณของเขาเฉียบแหลมขึ้นมาก ซึ่งนี่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ามานาที่เขาเก็บสะสมไว้กำลังงอกงาม
ค่ำคืนนั้น เขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขาเพียงชงกาแฟและนั่งดื่มมันราวกับว่าเขาเป็นชายแก่ที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ริมหน้าต่างแบบฝรั่งเศส สายตาของเขาทอดมองออกไปยังอ่าวโฟลที่สว่างไสวภายใต้แสงจากดวงจันทร์ทั้ง 7 ดวงและรำลึกถึงช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมาในชีวิตของเขา
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เขามีความสุขและความเศร้าโศกคละเคล้ากันไป เขาไม่ได้ตัดสินอะไรและแค่เพียงนึกถึงช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาเท่านั้น ริชาร์ดในอายุ 15 ปีนี้มีสติปัญญาเหมือนคนที่อาวุโสกว่าเขา10 ปี ส่วนความรู้สึกที่เขามีนั้นก็เปรียบได้กับคนแก่ที่มีอายุมากขึ้นไปอีก 10 ปี
เมื่อแสงแรกของเช้าวันใหม่ส่องลงบนพื้นผิวของน้ำทะเล ดวงจันทร์ทั้ง 7 ดวงก็ค่อย ๆ เคลื่อนลับไปหลังภูเขาไปตาม ๆ กัน วันแห่งโชคชะตาได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทว่าไม่มีใครล่วงรู้ว่ามีกี่คนที่โชคชะตาได้เปลี่ยนบ้างไปในคืนนั้น
......
จู่ ๆ นกอินทรีก็กางปีกทั้งสองและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าจากภูเขาเอฟเวอร์วินเทอร์ พวกมันบินข้ามอ่าวโฟลอันกว้างใหญ่ก่อนหายลับไปตรงเส้นขอบฟ้า ดวงตาลึกคู่หนึ่งจับจ้องไปที่รูปร่างของนกอินทรี ก่อนจะเกิดคลื่นแห่งอารมณ์มากมายหมุนวนอยู่ในน้ำสีแดงที่เข้มข้นจนดูเหมือนเลือด
นี่คือไนท์สูงตระหง่านที่มีรูปร่างกำยำเทียบเท่ากับบาร์บาเรียนวอริเออร์ เขาสวมชุดเกราะสีดำหนา ๆ ที่ดูทรุดโทรมและมีรอยจุดสีแดงเข้มจาง ๆ มากมายอยู่บนร่างกาย นอกจากนี้ หมวกของเขาก็ยังเต็มไปด้วยร่องรอยการฟันและแทงซึ่งดูเป็นภาพน่ากลัวที่ทำให้ผู้คนแทบไม่กล้าจินตนาการเลยว่ามีการต่อสู้ระหว่างความเป็นความตายกี่ครั้งที่ชุดเกราะนี้มีส่วนร่วมด้วย มีหนามหนา ๆ หลายอันบนไหล่โดยที่แขนและหัวเข่าของหนามนั้นทู่หมดแล้วแต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีการขัดหรือซ่อมแซมมันเลย ชุดเกราะเต็มชุดชุดนี้ออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมผู้สวมใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และจากขอบที่ยื่นออกมานั้นดูเหมือนว่ามันจะหนาถึง 5 มิลลิเมตร ทั้งชุดของชุดนี้มีน้ำหนักมากอย่างน่าอัศจรรย์
แต่ถึงอย่างนั้น การเคลื่อนไหวของไนท์ก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากน้ำหนักของมัน การเคลื่อนไหวของเขาดูคล่องแคล่วราวกับว่าชุดเกราะหนักนี้ไม่ได้มีน้ำหนักมากมายอะไร ตรงกันข้าม ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูเหมือนจะเปล่งประกายความมีชีวิตชีวาของเลือดสีแดงดำที่เห็นได้จากช่องว่างในการเคลื่อนไหวและมันก็ดูจะปกคลุมไปรอบ ๆ เหมือนหมอกซึ่งทำให้ไนท์ผู้นี้ดูเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีแดงอยู่ตลอดเวลา ม้าที่เขาขี่อยู่นั้นมีความสูงมากเช่นกัน มันสูงกว่าม้าธรรมดาทั่วไปประมาณครึ่งหนึ่งของม้าขนาดปกติ ร่างใหญ่ของมันถูกคลุมด้วยชุดเกราะหนาสีดำ และมีกระโปรงห้อยลงมาที่หัวเข่าของมัน เมื่อมันขยับกีบเท้าที่เป็นเหล็กไปมาก็จะเห็นแสงสีทองของสัญลักษณ์เวทมนตร์จาง ๆ อยู่บนนั้น
ม้าศึกถูกเจ้านายของมันตีบังเหียนเพื่อให้หยุดเดิน มันกำลังขุดอยู่รอบ ๆ พื้นดินโดยใช้กีบเท้าเหล็กของมันอย่างหงุดหงิด การเตะทุกครั้งของม้านั้นสามารถที่จะทำลายก้อนหินสีเขียวที่อยู่ใกล้ ๆ ออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้เลย
ไนท์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองนกอินทรีที่กำลังบินไกลออกไป เขายิ้มออกมาพลางครุ่นคิดขณะยกหมวกเหล็กขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอันชั่วร้าย ผมสีแดงเข้ม และหนวดที่แข็งด้าน หากไม่ใช่เพราะเครื่องประดับเดวิลตรงหน้าอกของชุดเกราะได้ถูกทำลายไปโดยการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน หลายคนอาจจะจดจำตัวตนของเขาได้จากศีรษะที่สลักอยู่บนนั้น นี่คือผู้นำของไนท์ทั้ง 13 คนที่ติดตามกาตอน อาเครอนเข้าสู่เฟาสต์ --- มอร์เดร็ด
มอเดร็ดตบแผงคอของม้าศึกเบา ๆ ราวกับว่าเขารู้สึกถึงความร้อนรนของมันได้ สัตว์ดุร้ายส่งเสียงร้องคร่ำครวญยาวเหยียดก่อนวิ่งเหยาะ ๆ และเดินหน้าต่อไปอย่างคล่องแคล่วมั่นคงด้วยกีบเท้าของมัน
เบื้องหน้าของมอร์เดร็ดนั่นก็คือดีพบลูซึ่งปรากฏให้เห็นตรงเส้นขอบฟ้า
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**