GE225 ขอบเขตกระดูกหยก [ฟรี]

น้ำแข็งดำ!

เหยียนซ่งฉือขมวดคิ้ว น้ำแข็งของหนิงฝานให้ความรู้สึกที่น่าสะอิดสะเอียน ชั่วพริบตานั้น หนิงฝานระดมหมัดเข้าใส่ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์ราวกับห่าฝน กระทั่งปรากฏ 27 หมัดกระหน่ำใส่ฝ่ามือยักษ์

*ตูม ตูม ตูม*

หมัดกระหน่ำเข้าใส่ฝ่ามือจนเกิดเสียงดังสนั่น

แต่ละหมัดที่หนิงฝานชก ผลักให้ตัวเราถอยหลัง 1 ก้าว ราวกับร่างกายของเขาไม่อาจต้านรับผลกระทบจากหมัดได้

ทุกก้าวที่ถอยไป ทิ้งรอยเท้าประทับไว้บนพื้นดิน

เมื่อกระหน่ำครบ 27 หมัด หนิงฝานเงยหน้าหัวเราะลั่น

“ฮ่าฮ่า! เป็นเมฆที่นุ่มดีจริงๆ! หากจะให้ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ ฝ่ามือแค่นี้ยังด้อยเกินไป!”

อานุภาพของหมัดทั้ง 27 หมัดปะทุ แตกซ่านเป็นฝอยน้ำแข็งสีดำ ผสานอานุภาพรวมเป็นหนึ่งราวกับพายุ ทะลวงฝ่ามือเมฆทองคำ!

หนิงฝานรับได้หนึ่งฝ่ามือแล้ว!

ผลจากการปะทะของฝ่ามือและหมัด ทำให้พื้นดินแดนปริแตกอย่างรุนแรง

“คาดไม่ถึงว่ามันจะรับฝ่ามือเหยียนซ่งฉือได้!”

สั่วถง ประมุขนิกายอักขระม่วงตกตะลึง

ในหมู่เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณของทะเลส่วนนอก มีเพียงเหยียนซ่งฉือและสู่ลู่ฉานเท่านั้นที่บรรลุขอบเขตกระดูกหยก หากจะให้รับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือซึ่งหน้า ต่อให้เป็นมันก็ทำไม่ได้ ผู้ที่จะรับได้มีเพียงสู่ลู่ฉานเท่านั้น

ผู้เยาว์คนนี้สามารถทำในสิ่งที่สั่วถงทำไม่ได้ ช่างยอดเยี่ยม

แม้ระดับพลังยังไม่บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ แต่ด้วยความสามารถและกลอุบาย แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็ไม่สามารถจัดการผู้เยาว์คนนี้ได้ง่ายๆ แม้เป็นมันก็ใช่ว่าจะสังหารผู้เยาว์คนนี้ได้ง่ายๆ

เหยียนซ่งฉือขมวดคิ้วพลางหัวเราะ

“ดี! ข้าชอบคนเย่อหยิ่งเช่นเจ้า!”

มันรู้ว่าแม้ระดับร่างกายของหนิงฝานจะบรรลุกึ่งกระดูกหยก แต่ปราณยังอยู่เพียงดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง แต่ถึงอย่างนั้น กลับกล้าสู้กับมันซึ่งหน้า

หากวันหนึ่งผู้เยาว์คนนี้บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ ต่อให้เป็นทะเลส่วนใน ผู้เยาว์คนนี้อาจหาญกล้าต่อกรกับทุกคน

สู่ลู่ฉานมีความสุข แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า

หมัดที่หนิงฝานใช้ออกมาแต่ละหมัด เพียงพอให้สังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมในพริบตา

ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ หากได้รับการหนุนเสริม หนิงฝานย่อมสังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณเทียมได้ง่ายๆ

ที่สำคัญ สู่ลู่ฉานยังสัมผัสได้อีกว่า พลังที่หนิงฝานมียังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ยังเหลือมากขนาดไหนนั้น มันเองก็ไม่อาจจินตนาการ

หนิงฝานในยามนี้เหมือนกับหนิงฝานในวันก่อน เมื่อยามที่มันอยู่ห่างหนิงฝานเพียง 10 จ้าง มันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง

“ซัวหมิง ขนาดเจ้าเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ เจ้ายังกล้าเก็บซ่อนพลังอีกเหรอ?”

“ข้าไม่อยากใช้พลังแม่เหล็ก จึงขอให้รับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือแทน หากรับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือได้ครบ 5 ฝ่ามือ เด็กนั่นก็แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณแล้ว!”

หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจ เขาหลับตาพลางขบคิดถึงหมัดที่ชกออกไปเมื่อครู่

ไม่ใช่… นี่มันไม่ถูก

มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้!

แม้จะรับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือได้ แต่นั่นเป็นการผสานอานุภาพของหมัดทั้งหมด 27 หมัด หากปะทะกับหมัดต่อหมัด หนิงฝานยังไม่อาจสู้ได้

ความไม่ยอมแพ้ของหนิงฝาน คือการที่สามารถปะทะกับเหยียนซ่งฉือได้หมัดต่อหมัด

แม้ยามนี้จะต้านรับฝ่ามือได้ แต่ไม่ถือว่าเป็นชัยชนะ

“ยังไม่พอ!”

หนิงฝานแหงนมองไปยังเหยียนซ่งฉือ ตาขวาของเขาดูราวกับวังวนทมิฬที่พร้อมดูดกลืนทุกสิ่ง

“ดี! ยอดเยี่ยม! ข้าชอบความกระหายใคร่อยากของเจ้า! ข้ามองเจ้าผิดไป… จากนี้ไป ข้าจะให้เข้าได้ชมวิชาฝ่ามือที่ข้าคิดค้นขึ้นเอง!”

กลิ่นอายของเหยียนซ่งสือแปรเปลี่ยนเย็นชา สองมือผสานเข้าหากัน

มันประสานสองมือเป็นท่าทาง แรงกดดันเพิ่มพูนจนถึงขีดสุด ฝ่ามือขนาดยักษ์สีทองปรากฏบนท้องนภาสองฝ่ามือ สองฝ่ามือนั้นผสานรวมเป็นหนึ่ง อานุภาพเพิ่มพูนเป็น 4 เท่า!

“ข้าผสานสองฝ่ามือเป็นหนึ่ง จนมีอานุภาพมากพอให้สังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดถึง 3 คน… ข้าได้ยินว่าเจ้าสังหารจ้าวหอคอยโอสถทั้ง 3 ของวิหารสาบสูญได้ ดังนั้น ฝ่ามือนี้เจ้าน่าจะรับได้!”

“เข้ามา!”

จิตใจหนิงฝานไม่สั่นไหว มันมั่นคง เติบใหญ่ราวกับขุนเขาทมิฬสูงเสียดฟ้า แม้เหยียนซ่งฉือจะกล่าวอย่างไร ก็ไม่อาจทำให้หนิงฝานสั่นไหว

ไม่ยอม… ไม่ยอม… ไม่ยอม...

ยามนี้จิตใจของหนิงฝานราวกับมีกำแพงขนาดยักษ์ ที่ไม่ว่าสิ่งใดก็เข้ามาไม่ได้

แม้กระดูกจะบรรลุถึงจุดสูงสุดของขอบเขตกระดูกเงิน แต่กลับยังไม่อาจบรรลุขอบเขตกระดูกหยก

ชั่วพริบตานั้น ฝ่ามือสีทองขนาดประทับเข้าใส่หนิงฝาน

หนิงฝานชกหมัดทั้งหมด 21 หมัดออกไปแทบจะในเวลาเดียวกัน

หมัดทั้งหมดผสานอานุภาพเป็นหนึ่ง แม้จะมีจำนวนน้อยกว่าหมัดชุดก่อน 27 หมัด แต่อานุภาพของมันกลับรุนแรงยิ่งกว่าหลายเท่า

เมื่อหมัดและฝ่ามือปะทะ อานุภาพของหมัดระเบิดทำลายฝ่ามือ ผลักให้หนิงฝานถอย 10 ก้าว แววตาเปล่งประกาย

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

ดวงจิตของหนิงฝานเริ่มเปลี่ยนเป็นหยก

กระดูกในร่างค่อยๆเปลี่ยนเป็นเป็นหยกอย่างช้าๆ

เหยียนซ่งฉือและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนอื่นเสียวสันหลัง

สองฝ่ามือผสานเป็นหนึ่ง อานุภาพเพิ่มพูนเป็น  4 เท่า หากเทียบกับเมื่อครู่ หนิงฝานต้องชกหมัด 108 หมัดถึงจะรับฝ่ามือได้

แต่ผลที่ได้กลับต่างไปจากที่คนอื่นๆคาด

แม้เผชิญหน้ากับฝ่ามืออานุภาพ 4 เท่า แต่หนิงฝานกลับชกหมัดเพียง 21 หมัด ซึ่งหักล้างฝ่ามือของมันได้โดยสมบูรณ์

เป็นไปได้ยังไง

เหยียนซ่งฉือขมวดคิ้ว ฝ่ามือแรกหนิงฝานรับได้ด้วย 27 หมัด ฝ่ามือที่สองรับได้ด้วย 21 หมัด มันคิดไม่ออกว่าหนิงฝานทำได้ยังไง

“น่าสนใจจริงๆ! วิชาฝ่ามือข้ามีชื่อว่า ฝ่ามือ 7 ผสาน! หากเจ้ารับฝ่ามือสามผสานที่ 3 ได้ ข้าจะช่วยเจ้าอ้อนวอนตาเฒ่าสู่ลู่ฉาน ให้ยอมมอบหัวใจแห่งมารดาพิภพให้เจ้า!”

“ได้!” สู่ลู่ฉานรับคำ แม้รับไม่ได้ถึง 5 ฝ่ามือ แค่ 3 ฝ่ามือก็เยี่ยมยอดมากแล้ว

ยิ่งได้เห็นพลังของซัวหมิง สู่ลู่ฉานยิ่งไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่มันแน่ใจ คือหากหนิงฝานแข็งแกร่งขึ้น มันอาจรับมือหนิงฝานไม่ได้

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะกล่าวอะไร หนิงฝานยังคงยืนรออย่างสงบ

เหยียนซ่งฉือผสานมืออีกครั้ง แต่ยามนี้ มันโคจรวิชาลับ ร่างแปรเปลี่ยนเป็นยักษ์สูง 500 จ้าง!

“ฝ่ามือสามผสาน... ข้าต้องแปลงร่างเป็นยักษ์เพื่อสำแดงอานุภาพของฝ่ามือ ไม่อย่างนั้น ร่างกายของข้าจะทนอานุภาพฝ่ามือของตัวเองไม่ไหว… สหายน้อย! รับฝ่ามือ!”

เหยียนซ่งสื่อเปล่งเสียงคำรามราวกับอัสนีฟาดฝ่า

มันซักฝ่ามือขึ้นท้องนภาพ อัสนีสามเส้นประกายเจิดจ้า ผสานรวมเป็นฝ่ามืออัสนีขนาดยักษ์!

ฝ่ามือสามผสาน มีอานุภาพรุนแรงกว่าฝ่ามือแรกถึง 9 เท่า ครั้งหนึ่งมันเคยใช้ฝ่ามือนี้กับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณไร้สังกัดคนหนึ่ง จนผู้เชี่ยวชาญคนนั้นต้องพักรักษาตัวเป็น 10 ปี!

หากหนิงฝานรับฝ่ามือของมันได้ หนิงฝานก็จะแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนนั้น

ยามนี้ เหยียนซ่งสื่อเกิดคำถามในใจ คือหนิงฝานจะใช้กี่หมัดในการรับฝ่ามือของมัน

แม้มันคาดหวังให้หนิงฝานใช้น้อยกว่า 21 หมัด แต่หนิงฝานจะทำได้ยังไง

หากถูกฝ่ามือนี้จู่โจมเต็มๆ ดวงจิตแรกเริ่มของหนิงฝานคงแหลกสลาย ร่างกายคงถูกฉีกเป็นชิ้น แต่เขาไม่ยอม!

ดวงตาขวาของหนิงฝานดำมากกว่าเดิม เขาถอยหลังไป 7 ก้าวพร้อมมกับชกหมัดออกไปทั้งหมด 7 หมัด

อานุภาพของหมัดทั้ง 7 แม้จะเล็กจ้อยราวกับขุนเขาที่ไม่อาจเทียบเคียงผืนฟ้า แต่เมื่อพวกมันหลอมรวมกัน จู่ๆขุนเขานั้นกลับขยาดใหญ่ขึ้นราวกับไร้ที่สิ้นสุด

แม้จะใช้ออกเป็น 7 หมัด แต่มันผลาญกำลังกายของหนิงฝานไปเกือบหมด

พวกมันเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับดารา ทะลวงผ่านฝ่ามืออัสนีของเหยียนซ่งฉือไป

หนิงฝานรับฝ่ามือได้!

เขากระอักโลหิต ราวกับการใช้ 7 หมัดเมื่อครู่ทำให้ตันเถียนบาดเจ็บ แต่ดวงตายังกระจ่างใส่ไม่หมองหม่น

หมัดชุด 27 หมัดแรก แฝงด้วยเจตจำนงค์ที่ยอมพ่ายแพ้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังทรงอานุภาพ

หมัดชุด 21 หมัดที่สอง แม้จำนวนหมัดลดลง แต่อานุภาพกลับเพิ่มพูน

หมัดชุดที่ 3 7 หมัด อานุภาพของพวกมันเกินจินตนาการ!

หากหนิงฝานต้านรับฝ่ามือแรกด้วย 7 หมัด เขาคงต้านรับไม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจะทำความเข้าใจพลัง เพื่อสร้างเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เมื่อบรรลุถึงจุดสูงสุด ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นจะบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ เพื่อสร้างเจตจำนงค์เทพขึ้นมา

เจตจำนงค์เทพถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมพลังอันยิ่งใหญ่นั้น หรือหากกล่าวอีกนัย มันคือสิ่งที่สามารถสร้างกฏให้เป็นของตน

แม้จำนวนหมัดที่ชกออกไปเมื่อครู่จะไม่มาก แต่เจตจำนงค์เทพที่ผสานเข้าไปนั้นกลับมีปริมาณที่มากขึ้น ทำให้มันทรงอานุภาพขึ้นมาก

ยามนี้ หนิงฝานมั่นใจ ว่าหากรับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือต่อไป เมื่อถึงจุดที่เหมาะสม เขาจะสร้างเจตจำนงค์เทพที่สองได้สำเร็จ และเมื่อถึงยามนั้น เขาจะบรรลุขอบเขตกระดูกหยก!

“ข้าจะบรรลุขอบเขตกระดูกหยกให้ได้!”

หนิงฝานตัดสินใจแน่วแน่ เหมือนครั้งที่เขาตั้งมั่นที่จะบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เหยียนซ่งฉือ สู่ลู่ฉาน และสั่วถงตกตะลึง

เพราะยามนี้ พวกมันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เจตจำนงค์เทพของหนิงฝานกำลังก่อตัวอย่างช้าๆ

แม้เจตจำนงค์เทพยังไม่แน่ชัด แต่บอกเพียงว่ามันไม่ธรรมดาและเย่อหยิ่งอย่างที่สุด แต่จากกลิ่นอายที่มันออกมาแล้ว หากจะกล่าวว่าเจตจำนงค์เทพคงไม่ถูก ต้องกล่าวว่าเป็นเจตจำนงค์ปีศาจเสียมากกว่า

เจตจำนงค์ปีศาจจะเป็นของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเผ่าปีศาจ

ยามนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั้ง 3 รู้แล้วว่า เหตุใดอานุภาพหมัดของหนิงฝานจึงเพิ่มพูน นั่นเพราะในหมัดมีเจตจำนงค์ปีศาจ

“เจตจำนงค์ปีศาจ… ไม่ผิดแน่… ผู้ที่จะสร้างเจตจำนงค์ปีศาจได้นั้น อย่างแรกต้องมีเส้นลมปราณปีศาจโบราณ อย่างที่สองต้องฝึกฝนในเส้นทางของปีศาจโดยสมบูรณ์ คาดไม่ถึงว่าเด็กนี่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมโดยสมบูรณ์ ในทะเลส่วนใน ข้าได้ยินว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ครอบครองเจตจำนงค์ปีศาจ” สั่วถงถอนหายใจ เจตจำนงค์ปีศาจปรากฏขึ้นในดวงตาหนิงฝาน ทั้งมันยังสัมผัสได้ถึงอันตรายจากหนิงฝาน

“แต่ที่แน่ๆต้องไม่ใช่เจตจำนงค์ปีศาจระดับต่ำ แม้ตอนนี้จะดูเหมือนเจตจำนงค์ปีสาจระดับ 7 แต่มันกำลังก้าวเข้าสู่ระดับ 6… เจตจำนงค์ระดับนี้ในโลกพิรุณก็เป็นได้เพียงตำนาน ขนาดในแดนสวรรค์ยังไม่มีผู้ใครครอบครอง”

“แต่นั่นก็ดีแล้ว เพราะในสนามประลองไม่มีผู้ใดเห็นการต่อสู้ของซัวหมิง จึงน่าจะยังไม่มีใครรู้ว่าซัวหมิงกำลังสร้างเจตจำนงค์ปีศาจ… คงไม่ถึง 5 ฝ่ามือแล้ว แค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าซัวหมิงคู่ควร อนาคตของมันจะมีไม่จำกัด บางทีอาจบรรลุถึงขอบเขตไร้แบ่งแยก และขึ้นเป็นใหญ่ในโลกพิรุณ หรือกระทั่งโลกใบอื่น… เป็นเทพกษัตริย์อัสนีคนที่สอง!”

สู่ลู่ฉานกล่าว มันตัดสินใจแล้วว่า หากหนิงฝานสัมผัสปีศาจได้สำเร็จ มันจะทุ่มทรัพยากรของนิกายปีศาจสำราญให้ เพื่อช่วยเหลือหนิงฝาน

แต่เมื่อชายชรากล่าวจบ หนิงฝานที่อยู่บนฟ้ากลับส่ายหน้า

ดาราทั้งสามของหนิงฝานปรากฏ ตาขวาดาราพิภพแห่งปีศาจ ตาซ้ายดาราไม้แห่งอสูร และที่กลางหน้าผาก ดาราอัสนีแห่งเทพ!

“ข้าจะรับฝ่ามือห้าผสาน!”

เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ ดาราทั้ง 3 ดวงเปล่งแสงเจิดจ้า ทำให้สู่ลู่ฉานและคนอื่นๆสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ดาราทั้ง 3 ชนิดอยู่ในคนๆเดียว เป็นไปไม่ได้!

ยิ่งดาราทั้งสามมีความต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกมันยิ่งไม่เข้าใจ

ต่อให้เป็นสู่ลู่ฉานที่สร้างดาราขึ้นมาได้เพียงครึ่งดวง ยังไม่เข้าใจ

ในโลกมนุษย์ทั้ง 9 ใบนี้ คนเหมือนหนิงฝานหาได้ยากมาก!

แม้เป็นเซียนยังหาได้ยากไม่แพ้กัน

“ข้าจะรับฝ่ามือห้าผสาน”

คำกล่าวของหนิงฝานกลายเป็นเหมือนคำสั่งที่เหยียนซ่งฉือไม่กล้าขัด

มันแอบกลืนน้ำลาย นี่เป็นครั้งแรกที่มันเคยเห็นหนิงฝานกล่าวเช่นนี้

มันไม่รู้ว่าผู้ที่สร้างดาราทั้ง 3 ดวงผสานเป็นรวมเป็นหนึ่งได้เช่นนี้จะเรียกขานว่าอะไร อาจเป็นจักรพรรดิสวรรค์!

เพราะจักรพรรดิสวรรค์คือผู้ที่ไม่อาจวัดได้ด้วยระดับทั่วไป แม้เป็นเซียนที่แท้จริง ก็ยังไม่อาจบรรลุระดับนั้นได้

เหยียนซ่งฉือไม่กล้าขัด มันขบฟัน กลืนโอสถเสริมพลังจนทำให้ร่างยักษ์ของมันปูดโปนด้วยเส้นโลหิต

“สหายน้อยซัวหมิง ฝ่ามือห้าผสานของข้าไม่ใช่การจู่โจมที่ทรงพลังที่สุดของข้า แต่หากเจ้ารับได้ เจ้าก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอันดับ 10 ในหมู่พวกเราทันที!”

ฝ่ามือขนาดยักษ์เคลื่อนไหว เมฆสีทองขนาดยักษ์ปรากฏ ก่อตัวเป็นฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยเจตจำนงค์เมฆา ฝ่ามือนี้ สามารถลายเมืองเมืองหนึ่งได้ง่ายๆ

อานุาภาพและแรงกดดันที่ฝ่ามือเปล่งออกมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั่วไปหวาดกลัว แต่หนิงฝานยังสงบนิ่งราวกับสายน้ำ

“แม้เมฆจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่เมฆ!”

หนิงฝานกล่าวในใจ ฝ่ามือแค่นี้ยังไม่ทำให้เขากลัว

ถึงเมฆจะทรงอานุภาพ แต่สุดท้ายมันยังเป็นเพียงเมฆ ไม่อาจสั่นคลอนขุนเขาได้

รอยสักหนิงฝานเปล่งแสง อำนาจอันร้อนแรงแผดเผาจนทำให้เจ็บ

ตาขวาเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับลุกเป็นไฟ

โลหิตในร่างระเหย ผิวหนังหลุดลอก

แต่แววตาหนิงฝานยังไม่เปลี่ยน

ปราณปีศาจภายในร่างเพิ่มพูน

หากปราณปีศาจในร่างหนิงฝานบรรลุถึงจุดสูงสุด เจตนาปีศาจของหนิงฝานจะปรากฏ

ท้องฟ้าเริ่มถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำสนิท ก่อตัวเป็นภูเขาขนาดยักษ์ราวกับสูงไปถึงสวรรค์

ปราณปีศาจของหนิงฝานที่เกิดขึ้นจากเจตจำนงค์ปีศาจ ทำให้จิตใจของสู่ลู่ฉานและคนอื่นๆสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ซัวหมิงสร้างเจตจำนงค์ปีศาจได้สำเร็จ!

มันดูราวกับขุนเขา

แต่เป็นขุนเขาชนิดใดกัน เพราะเจตจำนงค์ปีศาจขุนเขาเป็นได้เพียงเจตจำนงค์ระดับ 8 แต่เจตจำนงค์ปีศาจนี้ เป็นเจตจำนงค์ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใด

เจตจำนงค์ระดับนี้ เหยียนซ่งฉือไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต เพราะเพียงแค่คิด เงาของขุนเขาใหญ่ยักษ์ก็ปรากฏ

มันไม่รู้ว่าเป็นเจตจำนงค์ชนิดใด แต่บอกได้เพียงว่าเป็นเจตจำนงค์ระดับ 6 แน่นอน!

เพราะหากเจอกับเจตจำนงค์ที่สูงชั้นกว่า เจตจำนงค์เมฆาของมันจะยอมรับความพ่ายแพ้

“ข้าคือขุนเขา!”

หนิงฝานกล่าวพลางชกหมัดออกไปเต็มกำลัง ทำลายฝ่ามือขนาดยักษ์ของเหยียนซ่งฉือ

แสงหยกเปล่งประกายเจิดจ้า จิตวิญญาณของหนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นหยก

หนิงฝานได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตกระดูกหยกแล้ว

กำแพงถูกทำลาย

ฝ่ามือห้าผสานที่รุนแรงเป็น 25 เท่าของฝ่ามือแรกถูกทำลาย

ผลกระทบจากการปะทะ ไม่ได้ทำให้หนิงฝานถอยแม้แต่ก้าวเดียว

ฝ่ามือถูกทำลาย เหยียนซ่งฉือในร่างยักษ์กระอักโลหิต

มันตกตะลึงอย่างที่สุด มันไม่สามารถรับหมัดของหนิงฝานได้ เว้นแต่จะทุ่มสุดตัว

สู่ลู่ฉานประหลาดใจยิ่งกว่า

เพราะดูเหมือนมันจะสังเกตุเห็นบางสิ่งบนเงาภูเขาของหนิงฝาน

หากมันมองไม่ผิด สิ่งที่มันเห็นคือสัญลักษณ์ของ ‘ท่านชวี่’ ผู้เป็นนายของมัน

“หรือเด็กนี่จะเป็น...”