GE224 รับห้าฝ่ามือ [ฟรี]
“อย่าฆ่าข้า...”
เช่าสื่อชิงทรุดเข่า แข้งขาไร้เรี่ยวแรง
ผู้เยาว์เบื้องหน้ากำลังเดินเข้าหามัน ส่วนพี่น้องที่มันนับถือกลับแยกย้ายหลบหนีไม่เหลียวหลัง… วันนี้คงเป็นวันตายของมัน
ใครบอกให้มันยั่วยุปีศาจที่ทรงพลังที่สุดในทะเลส่วนนอก
เมื่อหลายปีก่อน ผู้ที่นับว่าเป็นปีศาจชั่วร้ายคือสู่ลู่ฉาน มันมีผู้เชี่ยวชาญของทะเลส่วนในหนุนหลัง ฝึกฝนวิชาแม่เหล็กที่ไม่ธรรมดา สังหารผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน แย่งชิงภรรยาและบุตรสาวนับไม่ถ้วน เพื่อนำมาเป็นกระถางขัดเกลา
แต่ปัจจุบัน ผู้ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้สู่ลู่ฉานในคราวนั้น… คือซัวหมิง!
แม้สู่ลู่ฉานจะชั่วร้าย แต่มันต้องฟังคำของผู้เชี่ยวชาญทะเลส่วนใน และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทะเลส่วนในเป็นสำคัญ ดังนั้น มันจะไม่สังหารอย่างไร้เหตุผล และคงความสมดุลอำนาจของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั้ง 12 คนที่อยู่ในทะเลส่วนนอก
แต่ซัวหมิงลงมือสังหารโดยไม่สนใจสิ่งใด!
ที่มาเป็นเช่นใดไม่มีใครทราบ ไม่มีขุมกำลังใดหนุนหลัง ไร้ซึ่งมิตรสหายและครอบครัว ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ เข่นฆ่าสังหารอย่างไร้กังวล
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้นที่รับมือได้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด ก็ไม่อาจรับมือ
ชื่อเสียงของซัวหมิงไม่ธรรมดา ยิ่งใหญ่กว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
บางทีแม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ อาจต้องไว้หน้านิกายของเช่าสื่อชิง
แต่ซัวหมิงไม่เป็นเช่นนั้น
“ข้าไม่ใช่คนเมตตาขนาดนั้น...”
เช่าสื่อชิงหวาดกลัว แม้มันร้องขอชีวิต แต่หนิงฝานยังไม่สนใจ
ยิ่งหนิงฝานเข้าใกล้ มันยิ่งสัมผัสได้ถึงความตายที่ย่างกรายเข้ามา
หลู่วู่ผิงเหลือเพียงดวงจิตแรกเริ่ม ด้านหลังเช่าสื่อชิงมีชายชราในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มคนหนึ่ง แม้มันจะหวาดกลัว แต่เมื่อหนิงฝานคิดจะสังหารนายน้อยของมัน จึงขบฟันทะยานเอาชีวิตเข้าแลก
“ข้าช่วยอีกแรง!”
หลู่วู่ผิงที่เหลือเพียงดวงจิตแรกเริ่มเลือกที่จะทะยานเข้าหาหนิงฝานเพื่อทำลายตัวเอง
ชายชราอีกคนที่ทะยานเข้าหาก็หวังระเบิดร่างตกตายไปพร้อมกับหนิงฝาน
ความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่จนไม่กลัวความตาย ชั่วชีวิตนี้เช่าสื่อชิงไม่มีทางเข้าใจ
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มสองคนผสานพลังระเบิดร่าง แสงสีแดงวาบผ่าน เสียงระเบิดดังกึกก้อง อานุภาพของระเบิดรุนแรง แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงยังต้อบาดเจ็บสาหัส
เหล่าผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 6 เฝ้ามองจากที่ไกลๆ เมื่อเห็นแสงสีแดงสว่างจ้า เสียงระเบิดดังสนั่น สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
เพราะซัวหมิงไม่เป็นอะไร! แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
เช่าสื่อชิงดีใจอย่างที่สุด “ดี! ยอดเยี่ยม! ถึงพวกเจ้าสองคนตายก็พาซัวหมิงไปตายด้วยได้! ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณของพวกเจ้า!”
ไม่นานหมอกโลหิตและปราณก็จางหาย ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของมันกลับยิ้มไม่ออก!
เพราะในขณะที่เกิดการระเบิดนั้น หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า แสงสีเงินเจิดจ้า พลังระเบิดที่รุนแรงถูกบีบอัดให้กลายเป็นลูกกลมสีแดง
หากลูกกลมนี้ระเบิด อานุภาพของมันจะทำให้พื้นที่โดยรอบ 500 ลี้พังพินาศ แต่ยามนี้ แรงระเบิดกลับถูกบีบอัดให้กลายเป็นลูกกลม
สีหน้าของเหล่าผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ไม่ผิดแน่ ซัวหมิงผู้นั้นบรรลุขอบเขตกระดูกเงินขั้นสูงสุด! เพราะมีเพียงร่างกายระดับนั้น จึงจะสามารถบีบอัดพลังที่รุนแรงขนาดนั้นได้
แต่หากไม่บีบอัดพลัง หนิงฝานจะได้รับบาดเจ็บ
เพียงแต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หนิงฝานกลืนเอาลูกกลมสีแดงนั่นเข้าไป
พลังที่รุนแรงขนาดนั้น สามารถฉีกร่างเป็นชิ้นๆได้
“พลังแห่งการเสียสละของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มถึง 2 คน จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้”
หนิงฝานเริ่มผับแขนอาภรณ์
“ผู้ติดตามของเจ้าภักดีจนตัวตาย ถึงข้าจะสังหารพวกมัน แต่ไม่ได้ทำลายจิตวิญญาณ อีกไม่นานพวกมันสมควรเกิดใหม่!”
หนิงฝานพับแขนอาภรณ์ขึ้นอีกชั้น ลำแสงทั้งสองสายปรากฏ
ซัวหมิง...มันเป็นผู้ใดกันแน่
แม้จะบีบบังคับให้ศัตรูต้องระเบิดตัวตาย แต่ยังไว้ชีวิตโดยการคงวิญญาณให้ไปเกิดใหม่
ผู้ที่ระเบิดตัวเองตายเป็นผู้ที่ภักดี ความภักดีเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนให้ความสำคัญอย่างที่สุด... เมื่อเห็นนายน้อยกำลังตกอยู่ในอันตราย สองคนนั้นถึงกับเอาชีวิตเข้าแรก นั่นทำให้หนิงฝานเมตตาพวกมัน
“ขอบคุณ… ขอบคุณมาก...” จิตวิญญาณทั้งสองดวงกล่าว
หนิงฝานยังคงสีหน้าเรียบเฉย
“ต่อไปเป็นคราวนายของพวกเจ้า!”
ศัตรูมีด้วยกัน 2 ประเภท หนึ่งคือคนที่ต้องสังหาร สองคือศัตรูที่ควรค่าให้เคารพ… แม้หนิงฝานจะสังหารศัตรูประเภทที่สอง แต่ไม่ได้จิตวิญญาณของมัน
แม้ศัตรูประเภทที่สองจะถูกสังหารจนร่างกายแหลกสลาย แต่หนิงฝานไม่ได้ทำลายจิตวิญญาณของพวกมัน...
ยามนี้ ไม่มีใครปกป้องเช่าสื่อชิงได้แล้ว
ใบหน้าที่หล่อเหล่าแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวสิ้นหวัง
“ไม่… เป็นไปไม่ได้! ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มสองคนระเบิดตัวเอง แต่เจ้ากลับต้านรับได้อย่างง่ายดาย! เป็นไปไม่ได้! อย่าฆ่าข้า… ข้าจะยอมเป็นทาสของเจ้า”
“ข้าไม่ต้องการทาสอย่างเจ้า...
หนิงฝานคว้าศีรษะของเช่าสื่อชิง
แต่ในขณะนั้นเอง เสียงของผู้เชี่ยวชาญสองคนก็ดังขึ้น
“สหายเต๋าซัวเมตตาด้วย...”
“สหายน้อยหยุดมือเถอะ...”
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ฟังจากเสียงของคนที่กล่าวแล้ว พวกมันเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
ยามนี้สัมผัสเทพของพวกมันปิดล้อมโดยรอบเอาไว้
ในทะเลส่วนนอกแห่งนี้ มีเพียงผู้เยาว์ที่จะได้เป็นผู้สืบทอดของขุมกำลังเท่านั้น ที่เหล่าผู้อาวุโสตัดวิญญาณจะใส่ใจ ผู้ที่มาคือประมุขนิกายอักขระม่วง ‘สั่วถง’
อีกคนเป็นประมุข ‘นิกายเหยียบเมฆา’ ‘เหยียนซ่งฉือ’
เหตุที่พวกมันเดินทางมายังนิกายปีศาจสำราญ หนึ่งคือมาตามคำเชิญของสู่ลู่ฉาน อีกสาเหตุคือมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูลกระถางขัดเกลาตัดวิญญาณ ในทะเลส่วนใน มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่อำพรางระดับพลังออกมาเบื้องนอก...
หากหนิงฝานสังหารเช่าสื่อชิง ประมุขนิกายของมันคงไม่พอใจ เพราะยังไงซะ ความขัดแย้งของซัวหมิงและเช่าสื่อชิงยังไม่สมควรถึงแก่ความตาย
ในอนาคตซัวหมิงจะแข็งแกร่งขึ้นมาก บางทีอาจบรรลุตัดวิญญาณได้ในเวลาไม่กี่ร้อยไป ดังนั้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณของทะเลส่วนนอกจึงไม่อยากเป็นศัตรู
แต่เมื่อเกิดเรื่องตรงหน้า ซัวหมิงกำลังจะสังหารหนึ่งในเจ็ดผู้เยาว์ที่แข็งแกร่ง แม้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกมัน แต่คงดูอยู่เฉยไม่ได้
ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆคงเอาไปบอกเล่าว่า พวกมันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่กลับกลัวซัวหมิงจนไม่กล้าช่วยหนึ่งในเจ็ดผู้เยาว์
การที่พวกมันปรากฏตัวพร้อมกันสองคน อย่างน้อยซัวหมิงควรไว้หน้าพวกหน้าพวกมันบ้าง
แต่หนิงฝานกลับไม่แสดงสีหน้าประหลาดใจ
ราวกับคาดไว้แล้วว่าต้องมีคนออกมาช่วย
เพียงแต่… หนิงฝานไม่ได้สนใจผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่พา เขาสนใจสู่ลู่ฉาน เพราะมันเองก็อยู่ที่นี่ ยังไม่ยอมเผยตัว
ด้วยที่มันต้องความช่วยเหลือจากหนิงฝาน สู่ลู่ฉานสมควรยื่นมือเข้าช่วย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
นั่นเพราะมันอยากรักษาความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนอื่นๆ
“แม้มันต้องพึ่งพาข้า แต่ข้าก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น… มันรู้ว่าข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ยังไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของข้าห่างไกลจากขอบเขตตัดวิญญาณมากขนาดไหน… ดังนั้น มันจึงต้องการพิสูจน์ฝีมือข้า… ก็ดี… ข้าจะแสดงพลังมให้มันเห็น แล้วมาดูกันว่ามันจะทำยังไง!”
หนิงฝานปล่อยมือจากศีรษะของเช่าสื่อชิง แต่กลับใช้เท้าเหยียบจนศีรษะมันเละ!
ดวงจิตแรกเริ่มที่กำลังจะหลบหนีถูกคว้ากลืนลงท้อง!
ผู้ที่พบเห็นเหตุการสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว สังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ในเท้าเดียว ทั้งยังกลืนกินดวงจิตแรกเริ่มลงไป
สิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างที่สุดคือ แม้อยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 2 คน ซัวหมิงยังกล้าสังหาร
ประมุขนิกายอักขระม่วงสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เส้นโลหิตปูนโปนด้วยโทสะ แต่สะกดความโกรธไม่ลงมือ
ประมุขนิกายเหยียบเมฆาก็เช่นกัน มันแสดงความเคารพต่อซัวหมิง แต่อีกฝ่ายกลับเพิกเฉย ทำให้โทสะของมันพุ่งพล่าน
“รนหาที่ตาย”
เหยียนซ่งฉือปะทุพลัง ร่างสลายเป็นหมอกควันก่อนปรากฏตัวเบื้องหน้า ห่างหนิงฝานเพียงไม่กี่จ้าง พร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าที่ศีรษะ
เมื่อครู่คือวิชาย่างก้าวเมฆาที่ลือชื่อของมัน
แม้ฝ่ามือที่ซัดมาจะดูไม่ได้น่ากลัว แต่กลับแฝงไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม หากเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณด้วยกันโดยเข้าไป คงหนีไม่พ้นอาการบาดเจ็บ
หนิงฝานขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่าเหยียนซ่งฉือจะบรรลุขอบเขตกระดูกหยก
ฝ่ามือนี้ของมันเพียงพอจะสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แต่หนิงฝานไม่กลัว
เขามีศพนางสวรรค์และทหารศิลาข้างกาย ทั้งยังโลกหยวนเหยา ต่อให้สู่ลู่ฉาน เหยียนซ่งฉือ และซ่งฉือลงมือพร้อมกัน หนิงฝานยังมั่นใจว่าจะเอาชีวิตรอดได้ กระทั่งอาจสังหารพวกมันได้คนหนึ่ง
ที่หนิงฝานยั่วยุพวกมัน เพราะมั่นใจว่าแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือพวกมันได้ หากไม่มั่นใจ เขาจะไม่ฝืน
เมื่อฝ่ามือเข้าประชิด หนิงฝานมองออกว่าเหยียนซ่งฉือรั้งพลังไว้ 7 ส่วน ฝ่ามือจึงมีพลังเพียง 3 ส่วนเท่านั้น
แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะกระทำเช่นนี้แสดงออกว่า มันไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับหนิงฝาน เพียงแค่ต้องการรักษาหน้าเท่านั้น
หากพวกมันอยู่เฉยไม่ลงมือ ผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุด 6 คนที่เหลือคงเอาเรื่องไปฟ้องกับบางคน และสร้างปัญหาให้พวกมันในอนาคต
ในความคิดของมันนั้น ฝ่ามือที่อานุภาพเพียง 3 ใน 10 ส่วน หนิงฝานที่บรรลุขอบเขตกึ่งกระดูกหยกน่าจะรับได้ไม่ยาก
การที่อีกคนยังไม่ลงมือ ก็แสดงว่าพวกมันไม่ได้เจตนาจะเป็นศัตรูกับหนิงฝานจริงๆ
การที่พวกมันบรรลุตัดวิญญาณ หมายความว่าพวกมันไม่โง่
นอกจากนี้ เหตุที่พวกมันลงมืออาจมีเหตุผลอื่น… อย่างเช่นสู่ลู่ฉานไหว้วานให้ช่วยทดสอบพลัง
หนิงฝาน
ศพนางสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเหยียนซ่งฉือกำลังจะจู่โจมหนิงฝาน แววตาของนางแปรเปลี่ยน แต่หนิงฝานก็ห้ามนางไว้
หนิงฝานอยากรับฝ่ามือของอีกฝ่าย!
เขาเองก็อยากรู้ว่าตนเองยังห่างจากผู้เชี่ยวตัดวิญญาณมากขนาดไหน
“หมัดทะลายน้ำแข็ง”
หมัดและฝ่ามือเข้าปะทะ หมัดของหนิงฝานราวกับจมลงสู่มหาสมุทร พลังหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหยียนซ่งฉือผิดหวัง
หนิงฝานตกตะลึง วิชาร่างกายของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณไม่ธรรมดา หมัดทะลายน้ำแข็งของเขาไม่อาจทำอันตรายผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้
เหยียนซ่งฉือแอบดูแคลน ราวกับว่าสู่ลู่ฉานอวดอ้างสรรพคุณหนิงฝานมากเกินไป
สู่ลู่ฉานบอกว่า เมื่อมันเข้าใกล้หนิงฝาน 10 จ้าง มันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง แต่เมื่อครู่ที่ประมือกัน เหยียนซ่งสือกลับไม่รู้สึกแบบนั้น
แม้หนิงฝานจะรับฝ่ามือที่มีพลังเพียง 3 ใน 10 ส่วนได้ แต่ความต่างระหว่างหนิงฝานและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็มากอยู่ดี
แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น กลับทำให้เหยียนซ่งฉือเปลี่ยนความคิด
“เป็นไปไม่ได้… นั่นมัน...”
มันเห็นดวงตาข้างขวาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นดาราพิภพ สัมผัสปีศาจถ่ายจากหมัดหนิงฝานเข้าสู่ร่างเหยียนซ่งฉือ
หนิงฝานไม่ได้คิดจะใช้โลกหยวนเหยากับมัน แต่หากใช้ เขาก็มั่นใจเพียง 3 ใน 10 ส่วนว่าจะสังหารมันได้สำเร็จ
แม้อีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่หนิงฝานก็ไม่อาจแสดงความอ่อนแอได้
“สัมผัสปีศาจ!”
หนิงฝานลอบจู่โจมเหยียนซ่งฉือด้วยสัมผัสปีศาจ ทำให้จิตใจของมันปั่นป่วน จนมันต้องเร่งถอยห่างออกไปจากหนิงฝาน จากนั้นใช้หมัดทุบอกจนกระอักโลหิตสีดำออกมา
“สัมผัสปีศาจ...หัวใจปีศาจ”
เหยียนซ่งฉือมองหนิงฝานด้วยควาระมัดระวัด สั่วถงเองก็ประหลาดใจ แม้พลังหมัดของหนิงฝานจะไม่ต่างจากหมัดธรรมดาทั่วไป แต่มันกลับแฝงด้วยสัมผัสปีศาจ มิน่าถึงได้กล้าปะทะหมัดกับมันตรงๆ
ปริมาณสัมผัสปีศาจที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างเหยียนซ่งฉือมีไม่มากนัก ราวกับไม่ได้เจตนาจู่โจม เพราะหากสัมผัสปีศาจมีปริมาณมากกว่านี้ จิตใจของมันคงเสียหายร้ายแรงไปแล้ว
เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา ถึงขนาดควบคุมสัมผัสปีศาจจู่โจมศัตรูได้
มิน่าสู่บู่ฉานถึงได้กล่าวชม และบอกว่าจะยั่วยุเด็กคนนี้ไม่ได้
เหล่าผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 6 เห็นซัวหมิงและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณประมือ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณกระอักโลหิต ช่างเป็นเรื่องที่น่าคาดไม่ถึง
นี่เหรอผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด...
ผู้ที่เฝ้ามองคิดว่า แม้ฝ่ามือของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเมื่อครู่จะรั้งพลังเพียงเหลือเพียง 3 ใน 10 ส่วน แต่มันมั่นใจ ว่าหากต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามือระดับนั้น มันบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
สู่ลู่ฉานที่กำลังซ่อนตัวอยู่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ สามารถรับฝ่ามือพลัง 3 ใน 10 ส่วนของเหยียนซ่งฉือได้ ทั้งยังใช้สัมผัสปีศาจจู่โจมสวนกลับ ซัวหมิงผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ สมแล้วที่ต้องเอาชนะใจให้ได้
“สหายน้อย เจ้ารับฝ่ามือพลัง 3 ใน 10 ส่วนของเหยียนซ่งฉือได้… ไม่ธรรมดาจริงๆ หากข้าเสริมโอสถให้เจ้า และมอบสมบัติระดับสูงให้เจ้า เจ้าสมควรสังหารสัตว์อสูรตัดวิญญาณทียมได้ไม่ยาก”
“โอสถ… สมบัติ...”
ผลจากการปะทะฝ่ามือ หนิงฝานถูกผลักถอย 7 ก้าว แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่สีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก
แม้ระดับร่างกายของเขาจะบรรลุกึ่งกระดูกหยก แต่มันยังห่างชั้นจากขอบเขตกระดูกหยกที่แท้จริงราวฟ้ากับเหว
วิชากายของหนิงฝานเป็นเพียงวิชาระดับดวงจิตแรกเริ่ม ห่างชั้นจากวิชากายระดับตัดวิญญาณอย่างเทียบไม่ติด
วิชากายของหนิงฝานต้านรับพลังของเหยียนซ่งฉือได้ 3 ใน 10 ส่วนเท่านั้น หากไม่มีสัมผัสปีศาจ คงไม่ควรค่าให้กล่าวถึง
สัมผัสปีศาจที่ได้มาจากหมี่เหลียนมีไม่มาก อย่างมากก็มีจำนวนเทียบเท่าปราณ 11 เกราะ แม้จะทำให้จิตใจของเหยียนซ่งฉือปั่นป่วนได้ แต่ยังไม่พอให้สังหารมัน
แต่หากหนิงฝานมีสัมผัสปีศาจมากกว่านี้สักหมื่นเกราะ สมควรต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้
หากมีถึง 5 หมื่นเกราะ อาจต่อกรกับผู้เชี่ยวตัดวิญญาณขั้นกลาง
หากมีถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นเกราะ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสุดท้ายก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
และหากมีมากกว่านั้นเป็นล้านเกราะ ย่อมต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้
แต่ตอนนี้หนิงฝานมีสัมผัสปีศาจเพียง 11 เกราะ อย่างมากก็ทำให้อีกฝ่ายปั่นป่วนได้เท่านั้น
ที่สำคัญ หนิงฝานยังไม่พอใจที่ตนรับฝ่ามือของเหยียนซ่งฉือที่มีพลัง 3 ใน 10 ส่วนได้
“นมมารดาใต้พิภพเป็นของล้ำค่า… ความแข็งแกร่งของสหายเต๋าในยามนี้ยังไม่พอให้รับภารกิจข้า” สู่ลู่ฉานขมวดคิ้วพลางกล่าว แม้ก่อนหน้านี้มันจะดูพึงพอใจ
“ต้องทำยังไง!”
“รับฝ่ามือเต็มกำลังของเหยียนซ่งฉือให้ได้ 5 ฝ่ามือ หากเจ้ารับได้ ข้าจะยอมรับเจ้า… แต่นั่นอาจจะยากเกินไปสำหรับเจ้า”
“ได้… 5 ฝ่ามือ!”
สู่ลู่ฉานกล่าวกับหนิงฝานด้วยสัมผัสเทพ แต่เขาจงใจทำให้สั่วถงและเหยียนซ่งฉือได้ยินด้วย
เหยียนซ่งฉือขมวดคิ้วมองหนิงฝาน
“สหายน้อยซัว แม้เจ้าจะไม่หวาดกลัว แต่เส้นทางการฝึกฝนยังอีกยาวไกล เจ้าไม่จำเป็นด่วนใจร้อน… ตอนนี้เจ้ายังไม่บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ การจะรับ 5 ฝ่ามือของข้าถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง!” หนิงฝานแหงนมองนภา ผมดำยาวพลิ้วไสว เจตนาต่อสู้ลุกโชน
หมัดหนิงฝานไม่อาจเทียบชั้นได้กับเหยียนซ่งฉือ แต่เหตุที่รับหมัดอีกฝ่ายไม่ได้...อาจเพราะไม่เสริมเจตจำนงเทพเข้าไป
ร่างกายของหนิงฝานยกระดับมาถึงขั้นนี้ เหลืออีกเพียงครึ่งก้าวจะบรรลุกระดูกหยก ขอบเขตกระดูกเงินนั้นก็เหมือนพลังในขอบเขตตัดวิญญาณ ซึ่งขอบเขตตัดวิญญาณที่แท้จริงต้องมีเจตจำนงค์เทพ!
หนิงฝานมีเจตจำนงค์เทพแล้ว แต่มันยังไม่ทรงพลังมากพอที่จะผสานกับพลังหมัดจู่โจม
ฝนมาจากเมฆ เจตจำนงค์เทพของเหยียนซ่งฉือคือเมฆ ซึ่งเมฆต้องจะต้องพึ่งพาฝนเพื่อถือกำเนิด
ดวงตาขวาหนิงฝานเปล่งประกาย
รอยสักเปล่งแสง พลังธรรมชาติหลั่งไหลเข้าสู่กาย
“ชีวิตข้าจะไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ต่อให้เป็นเทพกษัตริย์เนี่ย จักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ หรือแท้กระทั่งเซียน… หากข้ามีเจตจำนงค์เทพสองชนิด ผสานมันเข้ากับการจู่โจม ข้าต้องสู้เหยียนซ่งฉือได้แน่ ยิ่งหากข้าบรรลุขอบเขตกระดูกหยก ข้ายิ่งไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด”
เจตนาต่อสู้ของหนิงฝานเพิ่มพูน
แววตาที่เปลี่ยนไปทำให้เหยียนซ่งฉือตกตะลึง
“เด็กนี่อยากประมือกับข้าเพื่อทะลวงขอบเขตกระดูกหยก! ภายในร่างกำลังมีเจตจำนงค์เทพก่อตัว เป็นเจตจำนงค์เทพที่ไม่ธรรมดา...”
แววตาหนิงฝานหนักแน่นมั่นคง แขนเหวี่ยงปัด เมฆที่ลอยอยู่บนนภาในรัศมีพันลี้หายไป
แววตาเหยียนซ่งฉือแปรเปลี่ยน
เจตจำนงค์เทพคือสิ่งที่ไม่อาจลอกเลียนแบบ คนผู้นั้นต้องค้นหา ทำความเข้าใจด้วยตนเอง แล้วผสานมันเข้ากับจิตใจ ก่อเกิดเป็นเจตจำนงค์เทพที่ทรงพลัง
เหมือนกับเหยียนซ่งฉือที่มีความเข้าใจในเมฆเป็นอย่างดี
เมฆเป็นสิ่งไม่อาจคาดเดา
เมฆดูอ่อนนุ่มแต่ทรงอานุภาพ
ก่อนหน้านี้ หนิงฝานจึงเหมือนกับหลงอยู่ในเมฆหมอกของเหยียนซ่งฉือ แต่ยามนี้ หนิงฝานกลับกลายเป็นเหมือนภูเขาปีศาจที่สูงเสียดฟ้า ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใด!
เจตจำนงค์ของหนิงฝานคือการไม่ยอมแพ้ แม้เป็นสวรรค์ก็ไม่ยอมก้มหัว!
การถือกำเนิดของเจตจำนงค์เทพอีกชนิดของหนิงฝาน ทำให้เหยียนซ่งฉือกดดัน หากหนิงฝานทำสำเร็จ คงทะยานเข้าเหยียนซ่งฉือทันที
สู่ลู่ฉานปรากฏตัวข้างกายสั่วถง พวกมันผสานพลังสร้างผนึกกั้นเป็นสนามการต่อสู้ของหนิงฝานและเหยียนซ่งฉือ
สู่ลู่ฉานอยากเห็นด้วยตาของตัวเองว่า หนิงฝานจะรับฝ่ามือของเยียนซ่งสื่อได้ครบ 5 ฝ่ามือหรือเปล่า!
“หากเจ้าทำได้ แม้เป็น ‘หัวใจแห่งมารดาพิภพ’ ข้าก็จะยอมมอบให้!”
เหยียนซ่งฉือเข้าสู่สนามประลอง หนิงฝานลูบสัมผัสศีรษะศนางสวรรค์พลางบอกให้นางเฝ้าดู แล้วทะยานเข้าสู่สนามประลอง
สนามประลองที่สู่ลู่ฉานและสั่วถงสร้างขึ้นนั้น มีขนาดความกว้างพันจ้าง
“ในเมื่อเจ้าอยากใช้เจตจำนงค์เทพเมฆาของข้า สร้างเจตจำนงเทพของเจ้า! ข้าจะช่วยเจ้าเอง! เจ้านับเป็นผู้มีความกล้าหาญน่านับถือ แม้เจ้ารับฝ่ามือข้าได้ไม่ถึง 5 ฝ่ามือ แต่หากเจ้ารับข้าได้ 3 ฝ่ามือ ข้าจะช่วยพูดกับตาเฒ่านั่น ให้มอบหัวใจแห่งมารดาพิภพให้เจ้า… รับฝ่ามือ!!”
เหยียนซ่งฉือเคลื่อนฝ่ามืออย่างแผ่วเบา หมู่เมฆก่อตัวเหนือท้องนภา ก่อตัวเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่พันจ้าง เปล่งสีแสงสีทองอร่าม เปล่งอานุภาพราวกับจะฉีกกระชากท้องนภาให้เป็นชิ้นๆ
นี่คือฝ่ามือเต็มกำลัง!
หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ เพียงชั่วอึดใจที่สัมผัสฝ่ามือนี้ จะตกตายในทันที!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามือเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม หนิงฝานรู้สึกไร้กำลัง แรงกดดันทำให้เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่
มิน่าเหยียนซ่งฉือถึงไม่อยากจู่โจมเต็มกำลัง เพราะกลัวจะสังหารหนิงฝาน
แรงกดดันจากฝ่ามือกดทับร่างหนิงฝานราวกับพยายามทำให้เขาคุกเข่า แต่หนิงฝานขัดขืนไม่ยอม จนทำให้รู้สึกราวกับกระดูกขาของตนกำลังจะหัก
“ข้าจะไม่ยอมคุกเข่าให้ผู้ใด! ข้าจะเป็นที่พึ่งให้กับผู้ที่ติดตามข้า!”
แม้กระดูกจะหัก แต่หนิงฝานยังไม่ยอมคุกเข่า
“กระดูกหยก… กระดูกหยก… หากไม่อาจบรรลุข้าก็ต้องตาย หากข้าลังเลข้าก็ต้องตาย... แต่ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็ไม่มีวันยอมแพ้!”
หนิงฝานลืมเลือนความเจ็บปวด ลืมเลือนทุกสิ่งรอบกาย แววตาจับจ้องเพียงฝ่ามือที่อยู่เหนือศีรษะ
“หมัดทะลายน้ำแข็ง!”
หนิงฝานชกหมัดเต็มกำลัง เพียงแต่น้ำแข็งที่เคยเป็นสีขาว กลับกลายเป็นสีดำ!
ซึ่งสีดำนั้น คือเจตจำนงค์ปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว
ลั่งถง เหยียนซ่งฉือ และสู่ลู่ฉานคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ พวกมันมีเจตจำนงค์เทพเป็นของตน
ส่วนหนิงฝานในยามนี้กำลังก่อสัมผัสเทพเป็นของตน
แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ระดับของมันกลับก้าวล้ำเหนือเจตจำนงค์เทพพิรุณ...