ตอนที่ 120 : แก้ปัญหา(อ่านฟรี)
“ฟู่ว ..” ฟางฉีถอนหายใจออกมา เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมากที่ได้ระบายความหงุดหงิดภายในใจที่สะสมมาตลอดระหว่างการฝึกซ้อมในห้องเกม
ตอนนี้เขารู้สึกดีมาก! แน่นอนเขาไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า
โจวไคเป่ยและหลี่หยางหนีเตลิดไปอย่างสิ้นหวัง หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว ฟางฉีเก็บดาบของเขาและหันไปทางผู้ชมทุกคน
“นาย! นายดูเชี่ยวชาญและชำนาญการต่อสู้มาก!”
“นี่นายยังเป็นเจ้าของร้านคนเดิมหรือเปล่า!?” เหลียงชีและคนอื่นๆ ถาม พวกเขารู้สึกทึ่งในตัวฟางฉีอย่างมาก
ใบลังและคนอื่นๆ หายใจเข้าพร้อมหันไปมองที่ฟางฉีตาเขม็ง พวกเขาพยยามที่จะเรียนรู้วิธีการใช้เทคนิคการควบคุมดาบในโลกแห่งความเป็นจริงหลายครั้งซึ่งวันนี้ได้เห็นเต็มตาแล้ว
เจ้าเด็กคนนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ
สิ่งที่น่าตกใจกว่าการใช้เทคนิคคือสำหรับฟางฉีหรือคนธรรมดาทั่วไปแล้วมันไม่ง่ายเลยที่จะรับมือกับอาจารย์ทั้งสอง หากเขาไม่มีทักษะที่ดีและจิตใจที่ไม่หนักแน่นป่านนี้เขาคงจะนอนแอ้งแม้งไปแล้ว
ในขณะเดียวกันฟางฉีสำรวจเห็นพื้นขรุขระและรอยขีดข่วนบนถนนหน้าร้านของเขา เขาทบทวนว่าการฝึกฝนควบคุมของเขายังไม่ดีพอที่จะรับมือเท่าไรนัก เขาควรจะใช้เวลาให้มากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
ในเวลาเดียวกันเขาก็พึงพอใจกับการต่อสู้ครั้งนี้ไม่น้อยมีผู้ชื่นชมเขามันก็เพียงพอแล้ว เจียงเสี่ยวหยูเดินเข้าไปหาและเงยหน้ามองฟางฉีอย่างสงสัย
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอ?” ฟางฉียืนมือออกไปบีบแก้มเล็กๆ ของเธอ
“ฉันต้องตรวจดูให้แน่นใจว่านี่คือเจ้านายตัวจริงเสียงจริงของฉันหรือเปล่า?” เจียงเสี่ยวหยูพูดพลางทำหน้ามุ่ยตุ้ย
“ฉันรู้สึกได้ว่าเขานี่ละ เจ้าของร้านตัวจริงเสียงจริง!” เยเสี่ยวเย้กล่าว “ฉันแน่ใจว่าเขาได้รับบทเรียนมามากพอตัว”
เยเสี่ยวเย้ชื่นชมไม่หยุด “ฉันอยากขอสมัครเป็นรุ่นน้องของศิษย์พี่ ท่างต้องการรับพนักงานเพิ่มมั้ย?”
คนอื่นๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ต่างเอ่ยถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “ท่าน/นาย/คุณ ต้องการพนักงานเพิ่มมั้ย?”
เจียงเสี่ยวหยูเมื่อเห็นคนอื่นต่างตะโกนยืนข้อเสนอเพื่อเข้ามาทำงานในตำแหน่งเดียวกับเธอ เธอถึงกับใจหายและตะโกนตอบโต้เหมือนเด็กขี้หวง “ไม่! ตำแหน่งเต็มหมดแล้ว!”
“แต่นั้นร้านใหม่ไง!” เยเสี่ยวเย้ชี้นิ้วไปที่ร้านใหม่ที่ยังมีที่ว่าง “มีอีกร้านหนึ่งนั้นไง”
“เธอทำความสะอาดได้มั้ย? ซักผ้ารีดผ้าและทำอาหารได้หรือเปล่า?” เจียงเสี่ยวหยูขิง
“ทำไมฉันต้องทำอะไรพวกนั้น!?” เยเสี่ยวเย้ขมวดคิ้ว
“เธออยากให้เจ้าของทำทุกอย่างด้วยตัวเองงั้นหรอ?” เจียงเสี่ยวหยูเท้าเอว
ฟางฉียืนงงกับสิ่งที่ได้ยินจากปากเจ้าตัวเล็ก เขาประหลาดใจที่เธอเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับงานของเธอแล้ว!
“เธอพูดถูก!” เยเสี่ยวเย้นิ่งยืนคิดชั่วครู่ “ฉันว่าฉันทำสิ่งที่เธอบอกไม่ได้ ..”
เจียงเสี่ยวหยูรู้สึกสบายใจที่คู่แข่งกำลังจะหายไป ..
“แต่ฉันรู้วิธีใช้คาถาทางจิตวิญญาณ!”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่! ฉันก็รู้!”
“ฉันจะแสดงให้นายเห็นถึงเทคนิคการเรียกเมฆของกลุ่มโอเซียนคลาวของเรา!”
“แย่จังที่เธอจะแสดงคาถาทางจิตวิญญาณที่ง่ายแบบนั้น”
“.. เรามีเทคนิคการเรียกเมฆหมอก!”
“ไม่เห็นหน้าดูเลย”
“...”
ฟางฉียืนดูสองสาวทะเลาะกัน ช่างน่าปวดหัว!
- อีกด้านหนึ่ง -
“เฮ้อ! ในที่สุดเราก็รอดตายแล้ว!” หลินเซียวและซูเหลียวรู้สึกได้ถึงเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งลุ้นทั้งเกร็งไปหมด “ดีใจที่สุด” พวกเขานั่งกอดคอกันพลางนึกภาพว่าตัวเองกำลังถูกคนในสถาบันพูดเยาะเย้ยเหยียดหยาม ฮือ .. แค่คิดก็อยากมุดดินหนีไปให้ไกล
ซงฉิงเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หัวใจของฉันตกไปอยู่ตาตุ่ม .. ฉันเกือบช็อกตายแล้ว”
“ขอบคุณทุกสิ่งที่นายช่วยเหลือพวกเรา” หลินเซียวและซูเหลียวประคองกันลุกขึ้นจากพื้น “เอ่อ .. นายช่วยพวกฉันอีกอย่างได้มั้ย ..”
“อะไร?” ฟางฉีเอียงคอ
“พลังของพวกเราถูกบล็อคไว้ เราทำอะไรไม่ได้เลย” หลินเซียวและซูเหลียวทำหน้าไม่สู้ดี
…
ทุกคนในคาเฟ่แยกย้ายกันกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ในขณะเดียวกันเหตุการที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถูกรายงานไปถึงหูของฉินบิง
“อะไร!? อาจารย์ทั้งสองจากสำนักของเราพ่ายแพ้ต่อเจ้าของคาเฟ่งั้นรึ!?” ฉินบิงทุบโต๊ะด้วยความโมโห “ไอ้สองตัวมันทำอะไรกัน ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉินบิงในตอนนี้คือชายวัยกลางคนมีใบหน้าที่โหดเหี้ยมผิวสีแดงและร่างกายที่กำยำ “ร้านค้านั้นคงไม่ธรรมดา ฉันเกรงว่าทั้งสองคงไม่คู่ควรกับเจ้าของร้าน”
“นั่นสินะ ..” ฉินบิงเงียบทำหน้าครุ่นคิดด้วยความชั่วร้าย
…
ณ บ้านพักอาจารย์ในรั้วเขตสำนักหลิงหยวน
แสงแดดยามเช้าส่องผ่อนกระจกเข้ามายังตัวห้องนอน มูฮงซูนั่งอ่านแผนการสอนบนโต๊ะตามปกติเหมือนในทุกวัน การสอบวัดระดับถือเป็นหน้าเป็นตาของสำนักอย่างมากส่งผลต่อชื่อเสียงต่อสำนักและสาวกทั้งหมด
เทคนิคการต่อสู้ส่วนใหญ่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบและในฐานะผู้สอนเทคนิคการต่อสู้ เธอคือคนสำคัญที่ได้รับหน้าที่และความรับผิดชอบในครั้งนี้
ในเช้านี้ ณ บ้านพักอาจารย์ดูครึกครื้นกว่าปกติ เฉพาะอาจารย์ที่คอยดูแลบ้านหวัง
“ฉันได้ยินมาว่าอาจารย์โจวและอาจารย์หลี่ไปที่ร้าน ‘ต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ต’ เพื่อจับสาวกของสำนักเรา แต่พวกเขาถูกเตะออกมาอย่างอดสู!”
“เรื่องจริงหรอ!? แต่ผู้อำนวยการฉินบิงออกคำสั่งไม่ให้สาวกลูกศิษย์ไปที่นั่น มีคนกล้าละเมิดกฏของเขาได้ยังไงกัน”
“มันเป็นความจริง! ตอนนี้ทั้งอาจารย์โจวและอาจารย์หลี่เองยังอาการไม่ดีเท่าไรนัก พวกเขาได้รับบาดเจ็บ มีข่าวแว่วมาว่า .. พวกเขาอาจถูกไล่ออกจากสำนัก!”
“แรงมาก!”
“...”
“อาจารย์ ..” เฉินจงอาจารย์ของกลุ่มเอ ในฐานะหัวหน้างานเขาเดินผ่านโต๊ะทำงานมูฮงจูจึงเอ่ยทักทายเธอ “เรื่องเมื่อเช้า อาจารย์อย่าคิดมากละ”
มูฮงจูพยักหน้า
ข่าวแพร่กระจายออกไปรวดเร็วดั่งซีเอ็นเอ็น(CNN) แม้ทางสำนักจะพยายามซ่อนเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วแต่ก็ปิดไม่มิดอยู่ดี เธอเองก็ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคาเฟ่เล็กๆ แห่งนี้เช่นกัน สงสัยมากว่าที่นั่นมีเวทย์มนตร์อะไรที่สามารถดึงสาวกของเธอให้เข้าไปมีความเสี่ยงได้ขนาดนั้น
เธอส่ายหัวพลางไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป ในตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำคือเรื่องสอบที่ยิ่งใหญ่กว่า
…
ในเวลาเดียวกัน ณ สำนักหลิงหยวน
“ฉันเห็นใครบางคนสวมหน้ากากเข้าไปในคาเฟ่และกลับออกมาอย่างปลอดภัย” ซีฉีทำหน้าทะเล้น “คืนนี้พวกเรามาลองกัน” เขาเอ่ยชวนเพื่อน
“โอเค! เอาละๆ ตอนนี้เราได้หน้ากากกันไปแล้ว คืนนี้เราจะออกไปกัน!”
นาหลันหมิงสื่อยืนฟังอยู่ใกล้ๆ
“นาหลันหมิงสื่อ” หลันยันเรียกและทำหน้าเศร้า “เมื่อวานพวกเราออกมาก่อน ถ้าเรากลับช้ากว่านี้คงได้ดูเจ้าของร้านใช้สกิลดาบที่เจ๋งมากแน่ๆ”
“และการที่เจ้าของร้านเอาชนะอาจารย์ทั้งสองคนนั้นได้ นั่นหมายความว่าเราวามารถไปเล่นเกมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับใช่มั้ย ‘-’”
นาหลันหมิงสื่อขมวดคิ้ว “คืนนี้พวกเราจะไปเล่น Counter Strike ไปฝึกฝนทักษะการยิงปืนของเรากัน!”
“เยี่ยมที่สุด!” หลันยันพูด เธอรู้สึกมีความสุข ในที่สุดก็จะได้เล่นอย่างสบายใจ “เราขอให้เจ้าของและเพื่อนๆ เข้าเล่นแมพ Dust กับเรากันเถอะ! >0<”
(ผู้แปล : Dust เป็นชื่อแมพในเกม Counter Strike)