ตอนที่ 14 ความเร็วคือที่สุด
หอต่อสู้ลวงตาชั้น 13
มันคือลานประลองที่มีขนาดสิบเมตรหรือกว้างกว่านั้น ชายรูปร่างใหญ่มีกล้ามยืนอยู่ตรงกลางแล้วยังเต็มไปด้วยความดุดัน
คู่ต่อสู้คนนี้สูงสองเมตรราวกับยักษ์ เฟิง หลินรู้สึกกดดันเมื่อยืนอยู่หน้าเขา
"ไอหนุ่ม นายคือคู่ต่อสู้ฉันบนเวทีUFCนี้งั้นหรอ?”ชายกล้ามโตมองเฟิงหลินพลางลดหัวลง
UFC?
UFC?
Ultimate Fighting Championship!(สุดยอดการต่อสู้)
มันคือการต่อสู้รอบด้านซึ่งมีต้นกำเนิดจากยุคโลกโบราณ กฎของมันคือมันไม่มีกฎ ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือห้ามใช้อาวุธ คุณสามารถใช้เทคนิคประเภทใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสม มวยไทย คาราเต้หรือวิชายุทธ์ยีน...
นี่เป็นการต่อสู้แบบไม่มีข้อจำกัด มันได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากแฟน ๆ ที่ต่อสู้ในยุคสใยดวงดาว
หอต่อสู้ลวงตาไม่ตลกเลย!
เฟิง หลินพึมพำกับตัวเองเงียบ ๆ ในขณะเดียวกันเขาก็วิเคราะห์เหตุผลของมัน หอต่อสู้ลวงตานี้มีระดับการต่อสู้ที่แตกต่างกันมากมายซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการสร้างสิ่งทั้งหมดนี้ มันมีไว้เพื่ออะไร?
เป็นเพียงการให้ผู้คนได้สัมผัสกับสไตล์การต่อสู้และศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างอย่างงั้นหรอ? จะต้องมีเหตุผลที่ลึกล้ำกว่านั้น
ความคิดจางๆในใจของเขาเริ่มชัดเจนขึ้น แต่พวกมันก็ยังไม่แจ่มแจ้ง เขาไม่สามารถหาคำตอบได้
เขาไม่รู้เรื่องอะไรแม้จะครุ่นคิดเป็นเวลานาน เขาจึงตัดสินใจเลิกคิดมัน
งั้นก็มุ่งเน้นที่การต่อสู้!
ต้องเป็นเพราะว่าเขายังต่อสู้ไม่มากพอที่จะไม่ได้รับคำตอบ
การต่อสู้ของเฟิง หลิน จะเป็นตัวจุดประกายไฟ!
หมัดราชสีห์!
คู่ต่อสู้เป็นนักสู้ UFC เขามีร่างกายที่แข็งแรงและผมยุ่งเหยิง เขาเป็นคนที่คล้ายกับสิงโตดุร้าย เทคนิคหมัดของเขาก็ดุร้ายเช่นกันทำให้เกิดกลิ่นอายที่ดุร้ายและน่าสะพรึงกลัว
เฟิง หลินไม่เคยได้ยินเรื่องของเทคนิคนี้มาก่อน แต่เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนราวกับว่าเขากำลังต่อสู้กับราชาแห่งป่า แรงกดดันเช่นนี้ทำให้เขาไม่อาจสำแดงวิชายุทธ์ออกมาได้เต็มที่
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเฟิง หลินไม่สามารถแสดงพลังของเขาได้เนื่องจากความกลัวที่จำกัดเขา
การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามมาพร้อมกับคลื่นที่อันตรายและแข็งกร้าว
หลังจากการเคลื่อนไหวไม่กี่ครั้ง เฟิน หลินก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเสียเปรียบ จากนั้นเขาก็ขยายระยะห่างอย่างรวดเร็ว
ใช้ประโยชน์จากความเร็ว!
เฟิง หลินคิดในใจ ด้วยการใช้เทคนิคการต่อสู้ของเขา เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดภาพติดตา
ฝ่ามือ8เหลี่ยม!
แปดฝ่ามือยังเป็นที่รู้กันกันนามแปดฝ่ามือพันธนาการ การต่อสู้ฮั่วเซียโบราณที่มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนเทคนิคฝ่ามือและการหมุน มันต้องใช้คนที่เร็วดั่งมังกรและมีความแน่วแน่ ไม่มองไปข้างหลัง หลีกเลี่ยงการโจมตีที่หนักหน่วง ในขณะที่จะใช้การโจมตีเบาๆเพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้าม
เฟิงหลินขยับโดยใช้ท่าเท้า8เหลี่ยม และทั่วร่างเขาก็หมุนวนไม่หยุด เหมือนพายุ เขาหมุนวนรอบศัตรู
แม้ว่าการโจมตีของศัตรูจะดุดัน แต่เขาก็ค่อนข้างช้า เฟิง หลินหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดายในขณะที่ฝ่ามือของเขาก็เหมือนใบมีด โจมตีใส่ส่วนสำคัญของศัตรู
กำลังกายเดิมของเฟิง หลินนั้นสูงกว่าศัตรูอยู่แล้ว ตอนนี้เขาพบวิธีที่ถูกต้องแล้ว และเขาก็แก้ไขสถานการณ์ได้ในทันที
เขาเป็นเหมือนผู้ฝึกสอนสัตว์ร้ายอย่างสิงโต
ราชาแห่งป่าดุร้ายและต้องการจะกินมนุษย์ อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญกับเทคนิคที่มีความชำนาญ มันจะทำได้เพียงแค่ใช้เขี้ยวและกรงเล็บของมันอย่างไร้ประโยชน์ มันไม่มีการคุกคามเลย
"ขี้ขลาด รู้แต่วิธีหนีรึไง?หากกล้าพอก็มาสู้กันซึ่งๆหน้า!" ชายร่างำดยำส่งเสียงคำรามเหมือนสิงโต
สู้ต่อหน้า?
นั่นไร้สาระ!
ดวงตาของเฟิง หลินสงบนิ่งเหมือนปกติ เขาไม่ได้ถูกกระตุ้นอะไรจากคำพูดเหล่านั้นเลย
เขาเคยได้เปรียบเพราะอย่างนั้นมาแล้ว เขาคงเหมือนคนโง่หากไปเล่นกับพละกำลังขนาดนั้น?
เห็นได้ชัดว่าเฟิง หลินไม่ใช่คนโง่ ด้วยความได้เปรียบด้านความเร็ว เขายังคงต่อสู้ได้อย่างมั่นคงภายใต้การควบคุมของเขา ในที่สุดเขาก็พบกับโอกาสที่สมบูรณ์แบบและสังหารศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมอย่าง’ดอกไม้ภายใต้ใบไม้’
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 20%
คราวนี้เขาต่อสู้ขณะหลบเลี่ยงแทนที่จะต่อสู้โดยตรง มันค่อนข้างง่ายและไม่ค่อยได้ศักยภาพทางพันธุกรรมมากนัก
เฟิง หลินรู้สึกว่าเขาได้พบรูปแบบการต่อสู้ที่เหมาะสมกับเขา ทำให้เขาสามารถต่อสู้ได้ราบรื่นขึ้น
ผู้พิทักษ์ชั้น14เป็นหญิงงามในชุดดำ เธอซ่อนตัวเองในความมืด และมันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันการโจมตีเธอ เธอคือผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์อาวุธลับของตระกูลถังและยังคงลอบโจมตีจากระยะไกล
จำนวนอาวุธลับที่เปิดตัวออกมานั้นนับไม่ถ้วนและก็ไม่ควรมีที่ว่างให้หลบหลีกเลย
แต่เฟิง หลินก็ยังพยายามหลบพวกมันด้วยความเร็วที่เหนือล้ำและพบทางออก
ต่อมาเขาก็ฆ่าศัตรูอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่ได้แสดงความเมตตาอย่างโง่เขลาเพียงเพราะคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้หญิง
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 18%
รางวัลของชั้นนี้เป็นวิชายุทธ์ยีน หัตถ์ผีเสื้อเด็ดดอกไม้ ‘ยีนแม่นยำ’ต้องปลุกให้ตื่นก่อนจะควบคุมความแม่นยำของอาวุธแต่ละชนิดได้
เห็นได้ชัดว่าเฟิง หลินไม่มียีนนี้และไม่สามารถเรียนรู้ได้
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างวิชายุทธ์ยีนและศิลปะการต่อสู้โบราณคือเรื่องนี้
เฟิง หลินทำได้แค่กล้ำกลืนความเสียหาย และมุ่งหน้าสู่ชั้นต่อไป
ชั้น15ของหอต่อสู้ลวงตา ผู้พิทักษ์ในครั้งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหอก
มีคนเคยบอกว่า "ใครบางคนใช้เวลาหลายปีในการควบคุมดาบ ใช้เวลาหลายเดือนเพื่อฝึกฝนพลองและใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเขาเพื่อฝึกฝนหอก"
หอกเป็นราชาแห่งอาวุธที่ยากต่อการเรียนรู้ อย่างไรก็ตามมันจะทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อเชี่ยวชาญมัน
ทุกๆการโจมตีจากผู้พิทักษ์นี้เป็นอันตรายถึงชีวิต มันเป็นเหมือนการรั่วไหลของสารปรอท ที่ผ่านมาและหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเคลื่อนที่และหมุนหอกด้วยความเร็วที่ยอดเยี่ยมจนมีลมกรรโชกขึ้นมา มันเหมือนกับดอกแพร์ที่ลอยอยู่ในพายุอย่างแรงและอันตรายถึงตาย
คมหอกทะลุผ่านอากาศทิ้งร่องรอยไว้บนผนังโดยรอบ
มันยากสำหรับเฟิง หลินที่จะต่อสู้กับหอกด้วยมือเปล่า เขาใช้ท่าเท้าของเขาจนถึงขีดจำกัด และในที่สุดก็พบช่องโหว่หลังจากผ่านไปหลายร้อยกระบวนท่า เขากระแทกหอกออกจากมือของฝ่ายตรงข้ามและในที่สุดก็ฆ่าคู่ต่อสู้ได้
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 21%
คราวนี้วิชายุทธ์ยีนสำหรับชั้นนี้คือหอกพายุดอกแพร์ มันต้องกระตุ้น "ยีนพายุ" เพื่อควบคุมลม เห็นได้ชัดว่าเฟิง หลินไม่มี เขาทำได้แค่ยอมแพ้มัน
ชั้น14 ... ชั้น15 …. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสถานะพลังของฝ่ายตรงข้ามใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ที่คิดไว้ว่าจะยากกลับไม่เกิดขึ้น และเฟิงหลินก็เอาชนะง่ายๆ
หลังจากต่อสู้หลายครั้งในที่สุดเขาก็ค้นพบรูปแบบการต่อสู้ของเขา
สำหรับการต่อสู้ มันไม่มีเทคนิคมากมายนอกเหนือจากการเพิ่มความแข็งแกร่งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน
ด้วยการใช้ความแข็งแกร่งและโจมตีจุดอ่อนของผู้อื่นเขาจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนในทุกการต่อสู้
เฟิง หลินรู้ว่าเพราะเขาไม่ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้อย่างเป็นระบบมาก่อน ความชำนาญในศิลปะการต่อสู้เป็นจึงจุดอ่อนของเขาในขณะที่ความเร็วเป็นจุดแข็งของเขา
ใช่แล้ว ความเร็ว!
กวาดตามองทั่วทั้งวิชายุทธ์ในโลกนี้ ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์ต่อหน้าความเร็ว ความเร็วคือที่สุด!
วิธีของเขาคือการเพิ่มความเร็วให้ถึงขีดจำกัดสูงสุด
บางทีนี่อาจเป็นเป้าหมายสูงสุดของหอต่อสู้ลวงตา ตลอดการต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับผู้พิทักษ์ของหอต่อสู้ลวงตานี้เราจะสามารถค้นหาวิธีการต่อสู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคน
หลังจากการต่อสู้หลายครั้ง เฟิง หลินก็ได้เปลี่ยนประสบการณ์มาเป็นความเข้าใจในแบบตนเอง ตอนนี้เขามีมุมมองใหม่
มนุษย์มีสามมุมมอง: มันเป็นมุมมองต่อโลก ต่อคุณค่าและชีวิต
ผู้บ่มเพาะมีมุมมองการต่อสู้ของตัวเองเช่นกัน นี่คือความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับพละกำลังทั้งหมดและทุกส่วนของร่างกาย พวกเขาต้องใช้หัวใจเพื่อทำความเข้าใจและมีศัพท์พิเศษสำหรับมันที่รู้จักกันว่าเป็นหัวใจยุทธ์
ถ้าไม่มีหัวใจยุทธ์ ผู้บ่มเพาะก็ไม่มีอะไรนอกจากหัวหอกที่ทำจากขี้ผึ้งดูให้ดี แต่ไร้ประโยชน์ในความเป็นจริง
ผู้บ่มเพาะประเภทนั้นอาจมีพลังสูงมาก แต่มีความสามารถในการต่อสู้ไม่เพียงพอ
เฟิง หลินยิ้มอย่างมั่นใจมากขึ้น เขามีศักยภาพทางพันธุกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาสูงถึง 192% ดูเหมือนว่าเขาจะมีแต้มพันธุกรรมเพิ่มอีกสองหน่วย
เฟิง หลินเข้าสู่ชั้นต่อไป ครั้งนี้เป็นชั้น16
สถานะพลังชีวิตเขาที่โรงเรียนระบุไว้คือ1.5 ที่ชั้น16ของหอต่อสู้ลวงตา ศัตรูของเขาจะมีค่าพลังถึง1.6 นี่นับเป็นการต่อสู้กับคนที่เหนือกว่า
ความสำเร็จของเขาในความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เป็นจุดอ่อนของเขาอีกต่อไป!
เฟิง หลินพลันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าการข้ามขั้นเพื่อมาต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าในพื้นที่เสมือนจริงของหอต่อสู้ลวงตามันจะถูกเอไอบันทึกไว้ และจะทำให้อาจารย์ใหญ่และครูคนอื่น ๆ สนใจเขา